Pattani Thai News

Pattani Thai News ปัตตานีสารพัดเรื่อง

03/10/2025

ของเขาดีจริงๆ​ ขอบคุณมากๆสำหรับสินค้าดีๆ

https://vt.tiktok.com/ZSDoCkhLW/

ปัตตานีเปิดเวทีแสดงความคิดเห็น บางกลุ่มต้านโรงไฟฟ้าขยะ หวั่นมลพิษถล่มหมู่บ้านที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลยามูอำเภอยะหร...
02/10/2025

ปัตตานีเปิดเวทีแสดงความคิดเห็น บางกลุ่มต้านโรงไฟฟ้าขยะ หวั่นมลพิษถล่มหมู่บ้าน

ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลยามูอำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ภาคประชาสังคม จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น ความขัดแย้ง กรณี โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ที่อ.ยะหริ่ง จะ.ปัตตานี

จากกรณี อบต.ยามู ได้มีการทำโครงการโรงงานผลิตไฟฟ้า พลังงานขยะ เป็นการทำรายงานโครงการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะจังหวัดปัตตานี เพื่อแก้ปัญหาขยะ ตั้งแต่ปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งปากฎว่ามีกลุ่มชาวบ้านคัดค้าน ไม่เห็นด้วยที่จะมีโครงการใกล้แหล่งชุมชน และมีการรณรงค์ ต่อต้านไม่เอาโรงงานไฟฟ้านี้ อ้างเหตุผลกลัวเกิดปัญหากับชาวบ้านหลายด้านเช่น ปัญหาน้ำท่วม ปัญหากลิ่น ปัญหาฝุ่น และอื่นๆ ตามมา มีการจัดเวทีคัดค้านหลายครั้ง

ซึ่งล่าสุดวันนี้องค์กรภาคประชาชนจังหวัดชายแดนใต้ กับสมาคมเพื่อการพัฒนาสตรีและเด็กกำพร้าและสื่อมวลชนในท้องถิ่นได้ร่วมกันจัดเวทีหารือกับชาวบ้านที่มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่เพื่อร่วมกันสร้างความเข้าใจและหาทางออกต่อสถานการณ์นี้เพื่อสังคม และประชาสังคม หลังจากมี เรื่องร้องเรียนเข้ามาจากชาวบ้านในพื้นที่รับฟังเสียงความคิดเห็นของชาวบ้านทุกฝักฝ่าย เพื่อเป็นโอกาสกระตุ้นชุมชนให้เกิดการติดตามประเด็นการดำเนินโครงการนี้ อย่าจริงจังมากยิ่งขึ้น

นางเตะหาวอ สาและ ประธานสมาคมเพื่อการพัฒนาสตรีและเด็กกำพร้า เปิดเผยว่า วันนี้เป็นเวทีเพื่อสร้างความเข้าใจและเปิดโอกาสให้พี่น้องภาคประชาสังคมได้สะท้อนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา โดยย้ำว่าเวทีนี้ไม่ได้มีการฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีกลางในการรับฟังข้อกังวลของชาวบ้าน เพื่อนำไปสู่การพิจารณาว่าจะเกิดการเรียกร้องให้มี หรือไม่ให้มีโครงการใด ๆ ในอนาคต

สำหรับการจัดเวทีในครั้งนี้ มีตัวแทนจากหลากหลายกลุ่มในพื้นที่ รวมทั้งหมด 5 หมู่บ้าน 1 ตำบล จำนวนกว่า 100 คน เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น โดยประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมา ได้แก่ ความกังวลเรื่องน้ำท่วมซ้ำซาก ปัญหาการทำมาหากิน และการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินโครงการว่า เหตุใดจึงเลือกพื้นที่แห่งนี้เป็นจุดดำเนินการโดยเฉพาะ

ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยมีความรู้สึกว่าการทำประชาคมที่ผ่านมาเป็นไปอย่างเร่งรัดและไม่ครอบคลุม ซึ่งสิ่งที่ทุกคนต้องการคือข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เพื่อจะได้ตั้งคำถามอย่างสร้างสรรค์และตรงประเด็น ในฐานะภาคประชาสังคมเองก็พร้อมจะรวบรวมข้อกังวลเหล่านี้ เพื่อนำไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหวังว่าจะไม่เกิดความขัดแย้งในสังคม แต่เป็นการร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับพี่น้องในพื้นที่

ปาอีซะห์ แมะตีเมาะ ชาวบ้าน ม.2 บ้านภูมีน้ำพุ่ง กล่าวว่า​ พื้นที่นี้เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ใช้ทำกินของชาวบ้าน และอยู่ใกล้โรงพยาบาล โรงเรียนและชุมชนเพียง 300 เมตร หากสร้างโรงไฟฟ้าจะกระทบทั้งกลิ่น ฝุ่น เสียง และสารพิษก่อมะเร็ง แล้วอบต.หรือเอกชนจะรับประกันความปลอดภัยได้อย่างไร

การทำประชาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านไม่รู้เรื่องทั่วถึง โรงเรียน โรงพยาบาลก็ไม่เห็นประกาศ อยากให้การดำเนินงานโปร่งใสและประชาสัมพันธ์จริงจัง

เราไม่ได้คัดค้านทั้งหมดล้านเปอรเซนต์ แต่หากจะสร้างควรหาพื้นที่ที่เหมาะสมและห่างไกลจากชุมชน อย่างน้อย 100 กิโลเมตร ไม่ใช่มาลงในพื้นที่น้ำท่วมและใกล้หมู่บ้านแบบนี้ เพราะจะกระทบทั้งบ้านภูมีและหมู่บ้านรอบข้าง เช่น ทุ่งคา และ ต.ราตาปันยัง

คนร้ายใช้ปืuลูกซอvไทยประดิษฐ์ยิvรองนายกอบต.บือเระ​ เสีeชีวิต ขณะไปจับตั๊กแตน ที่ปัตตานีเมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 28 ก...
29/09/2025

คนร้ายใช้ปืuลูกซอvไทยประดิษฐ์ยิvรองนายกอบต.บือเระ​ เสีeชีวิต ขณะไปจับตั๊กแตน ที่ปัตตานี

เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ธีรพจน์ ยินดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสายบุรี ได้รับแจ้งเหตุยิvกันเสีeชีวิต บริเวณข้างบ้านเลขที่ 108 หมู่ 3 ต.บือเระ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันที

เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ติดกับสวนยางข้างบ้านผู้เสียชีวิต พบเพียงร่องรอยเลืoดเล็กน้อย ขณะที่พลเมืองดีได้นำผู้บาดเจ็Uส่งโรงพยาบาลสายบุรี แต่เสีeชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นายมะเย็ง มะลี อายุ 63 ปี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบือเระ ถูกยิvด้วยoๅวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์เข้าที่สีข้างลำตัว 1 นัด ในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุu

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตาeได้เดินออกจากบ้านไปยังสวนยางข้างบ้านซึ่งห่างออกไปเพียง 5 เมตร เพื่อจับตั๊กแตนที่กำลังเป็นกระแสนิยมในพื้นที่ปัตตานี เนื่องจากมีการจัดแข่งขันเสียงตั๊กแตนกันในหลายพื้นที่ ระหว่างนั้นได้มีคนร้าeคาดว่า 1 คน แอบมาจากทางสวนยางหลังบ้านผู้ตาe ปรากฏว่าคนร้าeใช้oาวุธปืuยิงใส่ผู้ตาeอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะหลบหนีเข้าป่าไป ซึ่งขณะนั้นชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเข้าใจว่าเป็นเสียงประทัด จึงไม่มีใครเอะใจ จนภรรยาผู้ตาeออกมาพบว่านอนแน่นิ่งอยู่ จึงตะโกนเรียกชาวบ้านมาช่วยเหลือ และนำตัวส่งโรงพยาบาล

ล่าสุด เมื่อเช้า วันที่ 29 ก.ย. เวลา9.30น. ที่บ้านของผู้เสีeชีวิต มีญาติพี่น้องและประชาชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมไว้อาลัยและร่วมพิธีฝังศw ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า โดยทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้ตายเป็นบุคคลที่รักของชาวบ้าน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ไม่เคยมีปัญหากับใคร ทำให้ชุมชนตกใจและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อเก็บร่องรอยพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งสะเก็ดกระสุu รอยเท้า และพยานแวดล้อม อย่างไรก็ตาม จุดเกิดเหตุอยู่ในสวนยาง ไม่มีวงจรปิด ทำให้การสืบสวนเป็นไปด้วยความยากลำบาก เบื้องต้นยังไม่สรุปสาเหตุว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ หรือเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนและติดตามตัวคนร้าeมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายรุสดี สารอเอง เพื่อนร่วมงานของผู้เสีeชีวิต เปิดเผยว่า ตนกับผู้ตาeทำงานร่วมกันมานาน โดยผู้ตายดำรงตำแหน่งรองนายกอบต. และถือเป็นบุคคลสำคัญที่คอยช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด จนเป็นที่รักของคนในพื้นที่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้สร้างความตกใจและสะเทือนใจอย่างมาก เพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนเป็นญาติพี่น้องกัน ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาขัดแย้ง

สำหรับวันเกิดเหตุ ทราบว่าผู้ตาeได้ออกไปจับตั๊กแตนตามปกติ ซึ่งมักจะเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง แต่ไม่นานก็มีเสียงปืนดังขึ้น ก่อนจะทราบข่าวร้าeว่า รองนายก ถูกยิvเสียeชีวิต

ขณะนี้ครอบครัวของผู้ตาeอยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ เนื่องจากไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ อีกทั้งผู้ตาeเองก็ไม่มีศัตรูที่ไหน และยังเป็นเสาหลักของครอบครัว โดยมีลูก ๆ ที่ยังเล็กต้องดูแล ทำให้ทุกคนต่างโศกเศร้าและสลดใจกับเหตุการณ์นี้

#ข่าว​ #ปัตตานี

ปัตตานี-ศอ.บต.​ เปิดงานมหกรรมยิ่งใหญ่ THAI DEEP SOUTH CONNECT ของดีพื้นที่ วิถีพื้นถิ่นชายแดนใต้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ วั...
26/09/2025

ปัตตานี-ศอ.บต.​ เปิดงานมหกรรมยิ่งใหญ่ THAI DEEP SOUTH CONNECT ของดีพื้นที่ วิถีพื้นถิ่นชายแดนใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ วันที่​ 26​ ก.ย.​ ณ ลานหน้าออมทอง โรงแรมซี.เอส. ปัตตานี ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการศอ.บต. เป็นประธานเปิดงาน มหกรรม THAI DEEP SOUTH CONNECT ของดีพื้นที่ วิถีพื้นถิ่นชายแดนใต้ มหกรรมที่จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน รวมถึงเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมพลิกมุมมองของสังคมให้เห็นว่า ที่นี่คือ พื้นที่แห่งโอกาสและความหวัง

ภายในงานเต็มไปด้วยสีสันและความคึกคัก มีการจัดจำหน่ายอาหารพื้นบ้านและเมนูขึ้นชื่อหลากหลาย ทั้งของคาว ของหวาน รวมถึงสินค้า OTOP จากชุมชนที่เหมาะแก่การเลือกซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน

งานมหกรรมนี้จะจัดขึ้น 5 ครั้ง ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเริ่มต้นที่จังหวัดปัตตานี ระหว่างวันที่ 26 – 28 กันยายน 2568 ก่อนจะเดินทางไปจัดต่อในจังหวัดนราธิวาส ยะลา สตูล และสงขลา

ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวมาร่วมสัมผัสบรรยากาศวิถีพื้นถิ่น ชิมของอร่อย ช้อปของดี และร่วมกันสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นในงานครั้งนี้

ปัตตานีหนุน ปันจักสีลัต สร้างภูมิคุ้มกันเยาวชน ห่างไกลยาเสwติด สอดคล้องนโยบาย 120 วันต้านพืชกระท่อมเมื่อวันที่ 26 กันยาย...
26/09/2025

ปัตตานีหนุน ปันจักสีลัต สร้างภูมิคุ้มกันเยาวชน ห่างไกลยาเสwติด สอดคล้องนโยบาย 120 วันต้านพืชกระท่อม

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ปันจักสีลัต ซึ่งเป็นศิลปะการป้องกันตัวของชนเชื้อสายมลายูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน รวมถึงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา เป็นกีฬาที่ผสมผสานการต่อสู้ด้วยมือเปล่าและเท้าเปล่า พร้อมลีลาการเคลื่อนไหวที่สวยงาม

ที่โรงยิมโรงเรียนเทศบาล1 ต.จะบังติกอ อ. จ.ปัตตานี ได้ถูกใช้เป็นศูนย์กลางในการฝึกซ้อมกีฬาปันจักสีลัต มีเยาวชนจำนวนมากเข้าร่วมฝึกฝนเพื่อพัฒนาทักษะสู่ระดับการแข่งขันต่าง ๆ ทั้งระดับจังหวัด ระดับประเทศ และบางส่วนประสบความสำเร็จคว้าเหรียญรางวัล สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับชาวจังหวัดปัตตานีเป็นอย่างมาก

นอกจากมิติด้านกีฬาแล้ว ศูนย์แห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชน ป้องกันไม่ให้หลงไปเกี่ยวข้องกับยาเสwติด โดยเฉพาะในช่วงที่มีการปลดล็อกพืชกระท่อม ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเยาวชนอาจนำไปใช้ผิดวิธี เช่น ผสมเป็น 4 คูณ 100 จนกลายเป็นสิ่งมึนเมา

ปัจจุบันชุมชนบ้านวังเก่าพยายามรณรงค์และผลักดันให้เยาวชนหันมาสนใจกีฬา โดยเฉพาะปันจักสีลัต ซึ่งเป็นกีฬาที่เข้าถึงง่ายและสอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมท้องถิ่น ชุมชนมองว่ากีฬาคือเครื่องมือสำคัญในการดึงเยาวชนออกห่างจากยาเสwติด และช่วยให้พวกเขาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวยังสอดคล้องกับ ปฏิบัติการ 120 วันต้านพืชกระท่อมใช้ในทางที่ผิด ที่หน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดปัตตานียังคงขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง โดยกีฬาปันจักสีลัตถือเป็นอีกหนึ่งกลไกที่ช่วยสร้างเกราะป้องกันทางสังคมและเสริมสร้างพลังบวกให้กับเยาวชนในพื้นที่

นายกูอิบรอฮีม กูบาฮา ครูผู้ฝึกสอนกีฬาปันจักสีลัต และอดีตนักกีฬาปันจักสีลัตทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันพืชกระท่อมกลายเป็นพืชเสรี ไม่มีการควบคุม ทำให้เยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงจังหวัดปัตตานี สามารถเข้าถึงและหาซื้อได้ง่าย ตนมีความกังวลอย่างมาก และอยากให้ภาครัฐมีมาตรการควบคุมที่เข้มงวดกว่านี้ โดยควรจัดให้อยู่ในประเภทของยา เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนเสwติดโดยไม่รู้ตัว

นายกูอิบรอฮีม​ เปิดเผยอีกว่า​ หากเยาวชนติดพืชกระท่อม จะเกิดผลกระทบต่อการเรียน ครอบครัว และยังเชื่อมโยงกับปัญหาทางเศรษฐกิจในพื้นที่ แม้ผู้ค้าจะมีรายได้ แต่ผู้เสw โดยเฉพาะเด็กวัยเรียน หากไม่มีเงินซื้อน้ำกระท่อม อาจก่อให้เกิดพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย และสร้างปัญหาสังคมตามมาในภายหลัง

นายกูอิบรอฮีม​ เปิดเผยอีกว่า ในพื้นที่ตำบลจะบังติกอ ชุมชนวังเก่า มีกิจกรรมกีฬาปันจักสีลัตซึ่งเป็นสื่อกลางที่ช่วยดึงดูดเยาวชนเข้ามาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ทุกเย็นจะมีเด็กและเยาวชนจำนวนมากมาฝึกซ้อม ทั้งยังเป็นการสร้างความเป็นเลิศด้านกีฬา โดยนักกีฬาที่เข้าสู่ระบบจะได้เรียนรู้การดูแลตนเองจากรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จทั้งในสนามกีฬาและการทำงาน

นายกูอิบรอฮีม​ เปิดเผยตอนท้ายว่า​ ในฐานะครูฝึก เรามักตักเตือนเด็กๆ อยู่เสมอ ทั้งเรื่องUุหรี่ไฟฟ้าและพืชกระท่อม เพราะสิ่งเหล่านี้หาง่ายในพื้นที่ หากเยาวชนหันไปยุ่งเกี่ยวก็อาจทำให้ความฝันที่ตั้งไว้ไม่ประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ ร่างกายไม่เหมาะสมกับการเล่นกีฬา และอาจทำลายอนาคตของตนเองได้

ปัตตานี มทภ. 4 แถลงผลการปฏิบัติงานจังหวัดชายแดนใต้ เน้นปราบยาเสwติด​ ขับเคลื่อน ฮูกุมปากัต​ สร้างพื้นที่มั่นคงยั่งยืน​ ร...
25/09/2025

ปัตตานี มทภ. 4 แถลงผลการปฏิบัติงานจังหวัดชายแดนใต้ เน้นปราบยาเสwติด​ ขับเคลื่อน ฮูกุมปากัต​ สร้างพื้นที่มั่นคงยั่งยืน​ รองเลขา ศอ.บต​ ชี้​กลางเดือนตุลาคม​ ทราบผลประเมิน​ 120วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2568 ที่สโมสรนายทหารสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 แถลงผลการปฏิบัติงานสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2568​ พน้อมด้วย พลตำรวจตรี ธเรศ แก้วละเอียด รองผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้, นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, นายไชยพร นิยมแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และนายกองโท ดำรงศักดิ์ แก้วดวง รองผู้บังคับการควบคุมกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมแถลงถึงการบูรณาการทำงานทั้งด้านความมั่นคงและการพัฒนาพื้นที่​ ซึ่งตลอดปีที่ผ่านมา หน่วยงานด้านความมั่นคงสามารถปราบปรามผู้ค้ายาเสwติดได้จำนวนมาก พร้อมจัดตั้งศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และสนับสนุนการสร้างอาชีพแก่ผู้ผ่านการบำบัด เพื่อป้องกันการกลับไปเกี่ยวข้องกับยาเสwติดอีก

นอกจากนี้ ยังได้สรุปผลการปฏิบัติงานสำคัญ ได้แก่​ การควบคุมพื้นที่และสกัดกั้นการลักลอบตามแนวชายแดน,การจัดทำเส้นทางปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน, การบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ก่อเหตุรุนแรงในปี 2568
การพัฒนาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์, การฝึกเสริมศักยภาพกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตาม MOU ระหว่างกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และ กอ.รมน.

ที่สำคัญคือ การขับเคลื่อนโครงการ ฮูกุมปากัต​ หรือธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน แก้ไขปัญหาความมั่นคงและยาเสพติด โดยเฉพาะการป้องกันการแพร่ระบาดของพืชกระท่อมในกลุ่มเยาวชน
ทั้งนี้การทำงานทุกด้านมีเป้าหมายเพื่อ มุ่งสร้างความสงบสุขและความมั่นคงอย่างยั่งยืนให้แก่ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้

พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า สำหรับภัยแทรกซ้อนที่ส่งผลกระทบต่อสังคม โดยเฉพาะปัญหายาเสwติด ขณะนี้ได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อกวาดล้างและจับกุมผู้ค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง ซึ่งตลอดปีที่ผ่านมามีการจับกุมจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่ายังคงมีความต้องการในพื้นที่สูง​ ส่วนในด้านการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด กรมการปกครองได้จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูฯ และส่งเสริมให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ขณะที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทำหน้าที่ขับเคลื่อนการสร้างอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้ที่ผ่านกระบวนการบำบัด เพื่อกลับคืนสู่สังคมอย่างมีศักดิ์ศรี

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้เน้นย้ำถึงการขับเคลื่อนงานหลัก 5 ด้านอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ ฮูกุมปากัต หรือธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี เป็นโมเดลสำคัญ ซึ่งเน้นให้ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนร่วมมือกันแก้ไขปัญหาในระดับหมู่บ้านและชุมชน เพื่อสร้างคนดี มีปัญญา มีสุขภาพแข็งแรง และสร้างชุมชนเข้มแข็ง ห่างไกลยาเสwติดและอบายมุข อันจะนำไปสู่ความมั่นคงที่ยั่งยืนของจังหวัดชายแดนภาคใต้

นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการ 120 วันต่อต้านพืชกระท่อมที่ใช้ในทางผิด จะมีการประเมินผลผ่านกระบวนการทางวิชาการ โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง ศอ.บต. และ สำนักงาน ปปส. ภาค 9

ซึ่งหากถามถึงผลเบื้องต้น เราพบการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี อย่างแรกคือความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน ซึ่งรวมถึงการมีส่วนร่วมของผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และองค์กรประชาชนในชุมชน ทำให้เกิดเครือข่ายอาสาสมัครในหมู่บ้านอย่างเข้มแข็ง และยังเห็นถึง การปรับตัวและความร่วมมือที่ดีขึ้นระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคประชาสังคม รวมถึงข้อปฏิบัติใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การขับเคลื่อนงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ ผลการประเมินอย่างเป็นทางการจะสรุปได้ชัดเจนช่วง กลางเดือนตุลาคม

ทดลองวิ่งแล้ว!!! ขบวนรถไฟพิเศษระหว่างประเทศจากมาเลเซีย KTM (มายสวัสดี) ปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี 🇲🇾🇹🇭🎉ข.1506 ซึ่งเป็นขบวน...
24/09/2025

ทดลองวิ่งแล้ว!!! ขบวนรถไฟพิเศษระหว่างประเทศจากมาเลเซีย KTM (มายสวัสดี) ปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี 🇲🇾🇹🇭🎉

ข.1506 ซึ่งเป็นขบวนส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย จากเดิมวิ่งจากสถานีปาดังเบซาร์ ปลายทางสุดแค่สถานีชุมทางหาดใหญ่เท่านั้น ล่าสุดได้ขยายเส้นทางถึงสถานีสุราษฎร์ธานี ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียที่ต้องการเดินทางมายังพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และนักท่องเที่ยวจากสุราษฎร์ธานีไปมาเลเซีย โดยความคืบหน้าล่าสุดการรถไฟไทยและมาเลเซียได้นำขบวนดังกล่าวมาทดลองวิ่งถึงสถานีสุราษฎร์ธานีแล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้
อนาคตพวกเราจะมีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียมายังพื้นที่เมืองสุราษฎร์ฯผ่านทางรถไฟแล้วนะครับ และพวกเราก็สามารถไปมาเลเซียโดยขึ้นที่สถานีสุราษฎร์ธานีได้ด้วยเช่นกัน 🎉🎉🎉

ภาพ : Bombay Station
FB : Around SURAT THANI Update

ปัตตานีไม่หยุด ชุมชนริมคลองสานต่อกิจกรรมกีฬา ป้องกันเยาวชนหลงผิด แม้ปฏิบัติการ 120 วันใกล้สิ้นสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 256...
24/09/2025

ปัตตานีไม่หยุด ชุมชนริมคลองสานต่อกิจกรรมกีฬา ป้องกันเยาวชนหลงผิด แม้ปฏิบัติการ 120 วันใกล้สิ้นสุด

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2568​ แม้นโยบาย ปฏิบัติการ 120 วัน ต่อต้านพืชกระท่อมใช้ในทางที่ผิด ใกล้จะครบวาระสิ้นสุดแล้ว แต่หลายพื้นที่ของจังหวัดปัตตานียังคงเดินหน้าขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการค้าขายใบกระท่อมและน้ำกระท่อม รวมถึงลดจำนวนผู้เสwในพื้นที่ โดยที่ผ่านมา นโยบายดังกล่าวถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เนื่องจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคประชาชนได้ร่วมมือกันจริงจัง ทำให้ร้านขายพืชกระท่อมริมถนนแทบไม่เหลือให้เห็น อีกทั้งผู้ที่ติดน้ำกระท่อมจำนวนมากก็ได้รับการนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู

ที่ ชุมชนริมคลอง ต.จะบังติกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี
ซึ่งยังคงขับเคลื่อนต่อต้านพืชกระท่อมอย่างต่อเนื่อง​ โดยชุมชนเน้นการ ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ให้กับเยาวชน โดยเฉพาะการเล่นกีฬา ซึ่งในช่วงเย็นจะมีกิจกรรมฟุตบอลให้เยาวชนเข้าร่วมเป็นประจำทุกวัน หากเยาวชนคนใดมีความสามารถโดดเด่น ก็จะได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมแข่งขันในระดับที่สูงขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้แสดงศักยภาพและสร้างแรงบันดาลใจ ทั้งนี้ชุมชนมองว่าการสร้างกิจกรรมเชิงบวกจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้เยาวชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสwติด โดยเฉพาะน้ำกระท่อมที่หากลองใช้ครั้งแรกมักเลิกได้ยาก จึงจำเป็นต้องป้องกันตั้งแต่ต้นทาง

ขณะเดียวกันประธานชุมชนยังคงกำชับคณะกรรมการชุมชนให้เฝ้าระวังและสอดส่องกลุ่มวัยรุ่นที่อาจรวมตัวมั่วสุมเกี่ยวข้องกับยาเสwติด พร้อมประสานการทำงานกับ ไทยอาสาป้องกันชาติ หรือทสปช. ซึ่งทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ หากพบการกระทำผิด จะมีการว่ากล่าวตักเตือนก่อน หากไม่เชื่อฟังจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกัน จากการสำรวจภายในชุมชนริมคลองยังไม่พบปัญหาการมั่วสุม แต่ทางชุมชนยืนยันว่าจะไม่ประมาท และยังคงสอดส่องดูแลอย่างเข้มข้นทุกวัน

นายมาโซ ดอเลาะ ประธานชุมชนริมคลอง เปิดเผยว่า ตนมีความกังวลต่อกรณีการเปิดเสรีพืชกระท่อม เนื่องจากอาจทำให้เยาวชนหันไปทดลองดื่มน้ำกระท่อมได้ อย่างไรก็ตาม ชุมชนริมคลองได้มีมาตรการป้องกัน โดยมีการหารือร่วมกับกรรมการมัสยิด คณะกรรมการชุมชน และชาวบ้าน ซึ่งมีความเห็นตรงกันว่า ไม่ต้องการให้มีพืชกระท่อมในพื้นที่ แม้จะมีบางครัวเรือนปลูกไว้บ้าง แต่ชุมชนก็ไม่สนับสนุน เพื่อป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด พร้อมเดินหน้าต่อต้านอย่างต่อเนื่อง

สำหรับปัญหาพื้นที่เสี่ยงหรือแหล่งมั่วสุม มักจะเป็นบริเวณริมแม่น้ำปัตตานี ซึ่งชุมชนได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ทสปช. รวมถึงชาวบ้านในการสอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้กลายเป็นพื้นที่แพร่ระบาดของยาเสwติด

นอกจากนี้ ชุมชนยังส่งเสริมการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการเล่นฟุตบอล ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนทุกช่วงวัย ทั้งรุ่นจูเนียร์ รุ่นกลาง และรุ่นใหญ่ ได้เข้าร่วม เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรงและห่างไกลจากยาเสwติด

นายมาโซ เปิดเผยทิ้งท้ายว่า​ นโยบายปฏิบัติการ 120 วัน ต่อต้านการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด ถือเป็นนโยบายที่ดีและเห็นผลชัดเจน โดยช่วงแรกที่มีการปลดล็อกพืชกระท่อม พบว่ามีการจำหน่ายอย่างแพร่หลายริมทาง แต่หลังจากเริ่มใช้นโยบายดังกล่าว การขายริมถนนแทบไม่มีให้เห็น แม้พืชกระท่อมจะยังถูกกฎหมาย แต่ทุกฝ่าย รวมถึงคณะกรรมการอิสลาม ต่างไม่เห็นด้วยและร่วมกันต่อต้าน ส่งผลให้ผู้ค้าลดลงอย่างมาก

ที่อยู่

Pattani
94000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Pattani Thai Newsผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์