Pattani Thai News

Pattani Thai News ปัตตานีสารพัดเรื่อง

19/07/2025

อำเภอไม้แก่น เดินหน้าปฏิบัติการ 120 วัน สกัดปัญหาใช้พืชกระท่อมผิดวิธี มุ่งป้องกันกลุ่มเยาวชน ป้องกันการแพร่ระบาด

สำหรับพื้นที่อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อน ปฏิบัติการ 120 วัน​ อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพและสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่ต้องได้รับการป้องกันอย่างเร่งด่วน

จากการที่เจ้าหน้าที่ปกครองได้สำรวจและลงพื้นที่​ พบว่าในเขตพื้นที่อำเภอไม้แก่น ยังไม่มีการจำหน่ายใบกระท่อมหรือน้ำกระท่อมบริเวณริมถนนสายหลัก ถนนสาย 42 รวมถึงตามชุมชนต่าง ๆ ก็ยังไม่พบพฤติกรรมการค้าหรือใช้ในลักษณะที่ผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวก และสะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ที่ร่วมกันควบคุมและป้องกันปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ

แม้สถานการณ์ในพื้นที่นี้ยังไม่พบการแพร่ระบาดอย่างชัดเจน แต่อำเภอไม้แก่นยังคงไม่ปล่อยปะละเลยหรือประมาทแต่อย่างใด ซึ่งได้มีการดำเนินการเชิงรุกผ่านการบูรณาการร่วมกับผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา​ และประชาชน เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโทษของการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด โดยเฉพาะในกรณีที่มีการต้มดื่มน้ำกระท่อมผสมกับยาแก้ไอ ซึ่งเป็นพฤติกรรมต่อสุขภาพที่รุนแรง รวมถึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นของพฤติกรรมใช้สารเสพติดอื่นๆตามมาอีกด้วย

หนึ่งในมาตรการที่อำเภอให้ความสำคัญ คือ การเข้าถึงกลุ่มเยาวชนผ่านกิจกรรมระดับหมู่บ้าน โดยการจัดเวทีพูดคุย มุ่งให้ประชาชนและผู้ปกครองมีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูล สื่อสาร และปลูกฝังแนวคิดเชิงป้องกันให้แก่บุตรหลาน ไม่ให้เยาวชนตกเป็นเหยื่อของกระแสการบริโภคพืชกระท่อมและน้ำกระท่อมที่ถูกชักจูงจากเพื่อนฝูง​ โดยพบว่าประชาชนให้การร่วมมือเป็นอย่างดี​ และพร้อมที่จะต่อต้านพืชกระท่อมไม่ให้มีอยู่ในพื้นที่ต่อไป

นางยูลีฮา​ สือรีซอ​ ปลัดปกครองอำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่พบการจำหน่ายพืชกระท่อมหรือน้ำกระท่อมในพื้นที่ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนา โดยได้สุ่มตรวจร้านค้าและร้านของชำในหลายหมู่บ้าน ซึ่งผลการตรวจอย่างต่อเนื่องไม่พบการจำหน่ายแต่อย่างใด พร้อมย้ำว่าเจ้าหน้าที่จะยังคงลงพื้นที่ตรวจสอบเป็นประจำทุกวัน

ทั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชนช่วยกันตักเตือนเยาวชนให้ตระหนักถึงโทษของการดื่มน้ำกระท่อม ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยง เช่น การใช้สารเสพติด การกระทำผิดกฎหมาย และการก่ออาชญากรรมในระยะยาว

ปลัดอำเภอ กล่าวทิ้งท้าย​ว่า​ อยากให้ทั้งผู้ค้าและประชาชนคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับลูกหลานของเรา เพราะปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก อาจลุกลามจากบ้านหนึ่งไปสู่ทั้งหมู่บ้าน และกลายเป็นปัญหาระดับประเทศได้

#ข่าวด่วน​ #ต่อต้าน​ #กวาดล้าง​ #ปัตตานี

อำเภอไม้แก่น เดินหน้าปฏิบัติการ 120 วัน สกัดปัญหาใช้พืชกระท่อมผิดวิธี มุ่งป้องกันกลุ่มเยาวชน ป้องกันการแพร่ระบาดวันที่ 1...
18/07/2025

อำเภอไม้แก่น เดินหน้าปฏิบัติการ 120 วัน สกัดปัญหาใช้พืชกระท่อมผิดวิธี มุ่งป้องกันกลุ่มเยาวชน ป้องกันการแพร่ระบาด

วันที่ 18 กค. 2568 สำหรับพื้นที่อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อน ปฏิบัติการ 120 วัน​ อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพและสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่ต้องได้รับการป้องกันอย่างเร่งด่วน

จากการที่เจ้าหน้าที่ปกครองได้สำรวจและลงพื้นที่​ พบว่าในเขตพื้นที่อำเภอไม้แก่น ยังไม่มีการจำหน่ายใบกระท่อมหรือน้ำกระท่อมบริเวณริมถนนสายหลัก ถนนสาย 42 รวมถึงตามชุมชนต่าง ๆ ก็ยังไม่พบพฤติกรรมการค้าหรือใช้ในลักษณะที่ผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวก และสะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ที่ร่วมกันควบคุมและป้องกันปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ

แม้สถานการณ์ในพื้นที่นี้ยังไม่พบการแพร่ระบาดอย่างชัดเจน แต่อำเภอไม้แก่นยังคงไม่ปล่อยปะละเลยหรือประมาทแต่อย่างใด ซึ่งได้มีการดำเนินการเชิงรุกผ่านการบูรณาการร่วมกับผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา​ และประชาชน เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโทษของการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด โดยเฉพาะในกรณีที่มีการต้มดื่มน้ำกระท่อมผสมกับยาแก้ไอ ซึ่งเป็นพฤติกรรมต่อสุขภาพที่รุนแรง รวมถึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นของพฤติกรรมใช้สารเสพติดอื่นๆตามมาอีกด้วย

หนึ่งในมาตรการที่อำเภอให้ความสำคัญ คือ การเข้าถึงกลุ่มเยาวชนผ่านกิจกรรมระดับหมู่บ้าน โดยการจัดเวทีพูดคุย มุ่งให้ประชาชนและผู้ปกครองมีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูล สื่อสาร และปลูกฝังแนวคิดเชิงป้องกันให้แก่บุตรหลาน ไม่ให้เยาวชนตกเป็นเหยื่อของกระแสการบริโภคพืชกระท่อมและน้ำกระท่อมที่ถูกชักจูงจากเพื่อนฝูง​ โดยพบว่าประชาชนให้การร่วมมือเป็นอย่างดี​ และพร้อมที่จะต่อต้านพืชกระท่อมไม่ให้มีอยู่ในพื้นที่ต่อไป

นางยูลีฮา​ สือรีซอ​ ปลัดปกครองอำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่พบการจำหน่ายพืชกระท่อมหรือน้ำกระท่อมในพื้นที่ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนา โดยได้สุ่มตรวจร้านค้าและร้านของชำในหลายหมู่บ้าน ซึ่งผลการตรวจอย่างต่อเนื่องไม่พบการจำหน่ายแต่อย่างใด พร้อมย้ำว่าเจ้าหน้าที่จะยังคงลงพื้นที่ตรวจสอบเป็นประจำทุกวัน

ทั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชนช่วยกันตักเตือนเยาวชนให้ตระหนักถึงโทษของการดื่มน้ำกระท่อม ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยง เช่น การใช้สารเสพติด การกระทำผิดกฎหมาย และการก่ออาชญากรรมในระยะยาว

ปลัดอำเภอ กล่าวทิ้งท้าย​ว่า​ อยากให้ทั้งผู้ค้าและประชาชนคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับลูกหลานของเรา เพราะปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก อาจลุกลามจากบ้านหนึ่งไปสู่ทั้งหมู่บ้าน และกลายเป็นปัญหาระดับประเทศได้

#ปัตตานี​ #ข่าว​ #พื้นที่​ #สะอาด​ #ต่อต้าน

บังดุลนักวิ่งตีนดุ​ ทำสำเร็จวิ่งจากปัตตานี-บุรีรัมย์​ ระยะทาง1500 กม. เร่งมอบข้าวของช่วยเหลือทหารนายอับดุล สารีเต๊ะ อายุ...
16/07/2025

บังดุลนักวิ่งตีนดุ​ ทำสำเร็จวิ่งจากปัตตานี-บุรีรัมย์​ ระยะทาง1500 กม. เร่งมอบข้าวของช่วยเหลือทหาร

นายอับดุล สารีเต๊ะ อายุ 52 ปี หรือที่รู้จักกันในฉายา “อับดุลนักวิ่ง 999” ชายชาว อ.มายอ จ.ปัตตานี ผู้เปี่ยมด้วยพลังใจเกินร้อย ได้เริ่มต้นปัตตานี​-บุรีรัมย์​ เมื่อวันที่​22 มิ.ย.​ ล่าสุดเจ้าตัววิ่งถึงจ.บุรีรัมย์​เป็นที่เรียบร้อย​ เมื่อวันที่​ 15​ ก.ค.​ พร้อมนำเงินที่ประชาชนช่วยเหลือซื้ออาหาร​เครื่อง​ดื่ม​ ของใข้จำเป็นมอบให้กับเจ้าหน้าที่ทหารที่กองบังคับการ​ กองพันทหารราบ​ที่4​ กรมทหารราบ​ที่23
#ปัตตานี​ #บุรีรัมย์​ #วิ่ง

ปัตตานี​ อำเภอมายอ จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ตัดเผาต้นกระท่อม แสดงพลังต่อต้านการใช้ในทางที่ผิด ตามแผนปฏิบัติการ 120 วัน เม...
14/07/2025

ปัตตานี​ อำเภอมายอ จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ตัดเผาต้นกระท่อม แสดงพลังต่อต้านการใช้ในทางที่ผิด ตามแผนปฏิบัติการ 120 วัน

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.30 น. ที่บ้านม่วงหวาน ม.2 ต.สาคอบน อ.มายอ จ.ปัตตานี นายกองตรี ดนุช นาคสง่า นายอำเภอมายอ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการอำเภอมายอ พร้อมด้วย นายพิศิษฐ์ มีบุญ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง, นายอิสกันดาร์ อาบู ปลัดอำเภอ หัวหน้าชุดปฏิบัติการตำบลสาคอบน , นายรุสดัน ตาฮา ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันจัดกิจกรรมขับเคลื่อน ปฏิบัติการ 120 วัน เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด

กิจกรรมในครั้งนี้ ได้มีการนำเครื่องตัดไม้เข้าดำเนินการตัดโค่นต้นพืชกระท่อมที่มีการลักลอบปลูกในพื้นที่หมู่บ้าน​ ม.2​ ต.สาคอบน​ อ.มายอ จำนวนกว่า 20 ต้น ก่อนทำการราดน้ำมันและเผาทำลาย เพื่อแสดงออกถึงการไม่ยอมรับการใช้พืชกระท่อมในลักษณะของยาเสwติด หรือในรูปแบบที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคม

การดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านการบริโภคน้ำกระท่อมและใบกระท่อม ซึ่งเป็นปัญหาที่มีแนวโน้มขยายตัวในกลุ่มเยาวชน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิดยังถือว่าขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม และส่งผลเสียต่อสุขภาพและพฤติกรรมของเยาวชนในระยะยาว

สำหรับภารกิจในครั้งนี้ยังสอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อน ฮูกุมปากัต​ หรือธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี ที่มุ่งเน้นการสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง ปลอดยาเสพติด และส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม พร้อมผลักดันให้เกิดสันติสุขที่ยั่งยืนในพื้นที่

นายกองตรี ดนุช นาคสง่า นายอำเภอมายอ ได้กล่าวขอบคุณประชาชนในพื้นที่ ที่ให้ความร่วมมือและแสดงพลังร่วมกันอย่างแข็งขัน พร้อมย้ำว่า ทางอำเภอจะเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการดำเนินมาตรการควบคุมและป้องกันการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด และผลักดันให้พืชชนิดนี้ไม่เป็นภัยต่อเยาวชนและชุมชนอีกต่อไป

14/07/2025

ปัตตานี​ อำเภอมายอ จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ตัดเผาต้นกระท่อม แสดงพลังต่อต้านการใช้ในทางที่ผิด ตามแผนปฏิบัติการ 120 วัน

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.30 น. ที่บ้านม่วงหวาน ม.2 ต.สาคอบน อ.มายอ จ.ปัตตานี นายกองตรี ดนุช นาคสง่า นายอำเภอมายอ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการอำเภอมายอ พร้อมด้วย นายพิศิษฐ์ มีบุญ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง, นายอิสกันดาร์ อาบู ปลัดอำเภอ หัวหน้าชุดปฏิบัติการตำบลสาคอบน , นายรุสดัน ตาฮา ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันจัดกิจกรรมขับเคลื่อน ปฏิบัติการ 120 วัน เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด

กิจกรรมในครั้งนี้ ได้มีการนำเครื่องตัดไม้เข้าดำเนินการตัดโค่นต้นพืชกระท่อมที่มีการลักลอบปลูกในพื้นที่หมู่บ้าน​ ม.2​ ต.สาคอบน​ อ.มายอ จำนวนกว่า 20 ต้น ก่อนทำการราดน้ำมันและเผาทำลาย เพื่อแสดงออกถึงการไม่ยอมรับการใช้พืชกระท่อมในลักษณะของยาเสwติด หรือในรูปแบบที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคม

การดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านการบริโภคน้ำกระท่อมและใบกระท่อม ซึ่งเป็นปัญหาที่มีแนวโน้มขยายตัวในกลุ่มเยาวชน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิดยังถือว่าขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม และส่งผลเสียต่อสุขภาพและพฤติกรรมของเยาวชนในระยะยาว

สำหรับภารกิจในครั้งนี้ยังสอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อน ฮูกุมปากัต​ หรือธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี ที่มุ่งเน้นการสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง ปลอดยาเสพติด และส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม พร้อมผลักดันให้เกิดสันติสุขที่ยั่งยืนในพื้นที่

นายกองตรี ดนุช นาคสง่า นายอำเภอมายอ ได้กล่าวขอบคุณประชาชนในพื้นที่ ที่ให้ความร่วมมือและแสดงพลังร่วมกันอย่างแข็งขัน พร้อมย้ำว่า ทางอำเภอจะเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการดำเนินมาตรการควบคุมและป้องกันการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด และผลักดันให้พืชชนิดนี้ไม่เป็นภัยต่อเยาวชนและชุมชนอีกต่อไป

#ข่าวสาร​ #เรื่องราว​ #น่าสนใจ​ #ปัตตานี

รมว.ยุติธรรมลงพื้นที่ปัตตานี ร่วมถกแก้ปัญหายาเสพติด  ดันแนวทางศาสนา ฟื้นฟูผู้หลุดพ้น พร้อมเดินหน้าปราบปรามเต็มรูปแบบผู้ส...
12/07/2025

รมว.ยุติธรรมลงพื้นที่ปัตตานี ร่วมถกแก้ปัญหายาเสพติด ดันแนวทางศาสนา ฟื้นฟูผู้หลุดพ้น พร้อมเดินหน้าปราบปรามเต็มรูปแบบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 ที่วัดควนนอก ต.ควน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี พตอ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชน ผู้นำศาสนา และผู้นำท้องถิ่น เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะประเด็นการแพร่ระบาดของ น้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอ​ และใบกระท่อม ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อเยาวชนและครอบครัวในหลายพื้นที่

การประชุมหารือในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้นำศาสนาอิสลามและพุทธ ตลอดจนประชาชนในตำบลควนที่เข้าร่วมเสนอแนะแนวทางการป้องกันและฟื้นฟูปัญหา โดยผู้นำศาสนาได้เน้นย้ำว่า การนำหลักธรรมและคำสอนทางศาสนามาใช้ในการปลูกฝังคุณธรรมแก่เยาวชน ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ที่เคยหลงผิดกลับคืนสู่สังคม และห่างไกลจากยาเสพติดได้อย่างยั่งยืน

ขณะเดียวกัน ภาคประชาชนเสนอว่า ควรมีการส่งเสริมอาชีพและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับผู้ที่ผ่านกระบวนการบำบัดยาเสพติด เพื่อไม่ให้พวกเขากลับไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกครั้ง โดยเน้นการสร้างรายได้ที่มั่นคงและเกื้อหนุนสังคม

ด้านหน่วยงานสาธารณสุข โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาในระดับครอบครัว ผ่านการให้ความรู้และปรับความเข้าใจแก่พ่อแม่ ผู้ปกครอง เพื่อให้สามารถอบรมลูกหลาน และเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงได้อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ฝ่ายความมั่นคงยังย้ำถึงความจำเป็นในการใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด ควบคู่กับการกดดันเชิงสังคม เพื่อปราบปรามและสกัดกั้นการจำหน่ายยาเสพติดทุกประเภท พร้อมยืนยันว่าจะเร่งนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจัง

สำหรับการดำเนินการในภาพรวมของแผน 120 วัน ปฏิบัติการเชิงรุก​ ภายใต้แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างบูรณาการในทุกมิติ โดยพบว่าในหลายพื้นที่มีการแสดงพลังของประชาชนอย่างชัดเจนในการต่อต้านน้ำกระท่อมและใบกระท่อม เช่น การติดป้าย หมู่บ้านนี้ไม่เอากระท่อม​ รวมถึงบางพื้นที่ได้จัดกิจกรรมเผาใบกระท่อมเชิงสัญลักษณ์ เพื่อแสดงออกถึงการไม่ยอมรับพฤติกรรมที่ขัดหลักศาสนาและทำลายเยาวชน

ผลจากการเคลื่อนไหวเชิงสังคมในลักษณะนี้ ทำให้ผู้ค้ากระท่อมและน้ำกระท่อมริมทางในหลายจุดของจังหวัดปัตตานีลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันจากภาคประชาชนที่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สร้างความพึงพอใจให้แก่ชาวบ้าน

ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันพื้นที่ปลอดยาเสพติดอย่างแท้จริงในทุกระดับ ตั้งแต่ครอบครัว สังคม ไปจนถึงระดับนโยบาย

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม​ เปิดเผยว่า ปฏิบัติการ 120 วัน เพื่อควบคุมการใช้พืชกระท่อมในพื้นที่ชายแดนใต้ เป็นความพยายามเอาชนะปัญหายาเสพติด โดยเน้นสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐและประชาชน ซึ่งที่ผ่านมา ชาวบ้านหลายพื้นที่เริ่มลุกขึ้นต่อต้านยาเสพติด ถือเป็นพลังสำคัญในการแก้ปัญหา

ในส่วนของรัฐ จะต้องเร่งปราบปรามการจำหน่ายน้ำกระท่อมที่ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.อาหารและยา และควรหารือร่วมกันระหว่างจังหวัดและตำรวจเพื่อจัดการอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกับนักค้ายาและผู้มีอิทธิพลในหมู่บ้าน ที่ไม่ควรอยู่ในชุมชน แต่ควรอยู่ในเรือนจำ เพราะเป็นต้นตอของปัญหาทั้งความไม่สงบและยาเสพติดในพื้นที่

#ปัตตานี​ #ข่าว

ชาวตำบลบุดี ยืนหยัดต่อต้านยาเสพติด  ผู้นำชุมชน-ศาสนา  ร่วมใจติดป้ายห้ามซื้อขาย "น้ำกระท่อม-ใบกระท่อม" ประกาศเจตนารมณ์ปกป...
12/07/2025

ชาวตำบลบุดี ยืนหยัดต่อต้านยาเสพติด ผู้นำชุมชน-ศาสนา ร่วมใจติดป้ายห้ามซื้อขาย "น้ำกระท่อม-ใบกระท่อม" ประกาศเจตนารมณ์ปกป้องเยาวชน
ที่ จ.ยะลา ชมรมผู้นำตำบลบุดี อ.เมือง จ.ยะลา ร่วมกับ เทศบาลและผู้นำศาสนา เดินหน้าต่อต้านยาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการติดป้ายข้อความ “ชาวตำบลบุดี ไม่อนุญาตให้ซื้อขายน้ำกระท่อม ใบกระท่อม และสิ่งเสพติดทุกชนิด” บริเวณริมถนนบ้านรายอกายู หมู่ 6 ซึ่งเคยเป็นจุดจำหน่ายใบกระท่อมมานานหลายปี ก่อนจะถูกยุติลง หลังผู้นำชุมชนเจรจาสร้างความเข้าใจกับผู้ขาย
นายอับดุลเราะห์มาน อัลอับดุสสลาม นายกเทศมนตรีตำบลบุดี เปิดเผยว่า การประกาศจุดยืนครั้งนี้เป็นผลจากกระบวนการหารือหลายเดือน เพื่อออกกฎฮูกุมปากัต หรือ “ธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ข้อ” ห้ามซื้อขายสิ่งเสพติดทุกชนิด โดยเน้นปกป้องเยาวชนและพัฒนาสังคมให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะปัญหาการจำหน่ายใบกระท่อมที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน ต.บุดี มายาวนาน
“เราได้เจรจาและทำความเข้าใจกับผู้ค้าใบกระท่อม จนปัจจุบันไม่มีผู้ใดมาวางขายในพื้นที่อีกแล้ว เหลือเพียงเศษวัสดุที่เคยใช้ขายเท่านั้น ตำบลบุดีจะเดินหน้าสร้างอนาคตที่ดีสำหรับลูกหลานต่อไป” นายกเทศมนตรีกล่าว
ผู้นำศาสนาในพื้นที่กล่าวเสริมด้วยว่า “การประกาศเจตนารมณ์ครั้งนี้ สอดคล้องกับหลักศาสนาอิสลามที่ห้ามสิ่งเสพติดทุกชนิด “ยาเสพติดเป็นฮะรอม” เพราะส่งผลเสียต่อครอบครัว ชุมชน จึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยกันสอดส่องไม่ให้มีการลักลอบขายอีก เพื่อให้ตำบลบุดีเป็นพื้นที่น่าอยู่และปลอดภัย”
การประกาศมาตรการครั้งนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นของชุมชนตำบลบุดีในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับเยาวชนและคนรุ่นต่อไป
สอดคล้องกับ “ปฏิบัติการกวาดล้างพืชกระท่อม 120 วัน” ในพื้นที่ชายแดนใต้ ของกระทรวงยุติธรรม ศอ.บต. และหน่วยงานความมั่นคง โดยตั้งเป้าครอบคลุม 688 หมู่บ้าน เพื่อยุติการจำหน่ายและใช้พืชกระท่อม
นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า ปัญหายาเสพติดเป็นวาระสำคัญของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ต้องแก้ไขด้วยพลังชุมชนและศาสนา โดยเฉพาะการใช้หลักศาสนาบำบัด ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย โดยอาศัยความร่วมมือจากผู้นำศาสนา ประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
“เราจะใช้ทั้งมาตรการทางกฎหมายและศาสนบำบัด เพราะคนในพื้นที่ให้ความสำคัญกับหลักศาสนามาก การร่วมมือของทุกฝ่ายจะช่วยขจัดยาเสพติดออกจากสังคมได้อย่างแท้จริง” นายกูเฮง กล่าวทิ้งท้าย

ผู้ว่าฯปัตตานี นั่งรถจิ๊บบุกสวนทุเรียน​ติดโบว์จอง ย้ำเอาจริงคนสวนตัดทุเรียนอ่อนขายปัตตานีร้อนระอุไม่แพ้แดด เพราะ นางพาตี...
10/07/2025

ผู้ว่าฯปัตตานี นั่งรถจิ๊บบุกสวนทุเรียน​ติดโบว์จอง ย้ำเอาจริงคนสวนตัดทุเรียนอ่อนขาย

ปัตตานีร้อนระอุไม่แพ้แดด เพราะ นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นั่งรถจิ๊บสายลุย บุกถึงตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ เพื่อลงพื้นที่เปิดงาน “วันรณรงค์ป้องกันกำจัดทุเรียนอ่อน” ตามโครงการพัฒนาไม้ผลภาคใต้ชายแดนสู่เกษตรมูลค่าสูง ที่บอกเลยว่าไม่ใช่งานเบาๆ เพราะเกี่ยวข้องกับ “ศักดิ์ศรีทุเรียน” แห่งแดนใต้เลยทีเดียว!

บรรยากาศภายในงานคึกคักราวกับเปิดฤดูกาลศึกผลไม้แห่งปี มีทั้งหน่วยงานราชการ เกษตรกร และผู้ประกอบการสวนทุเรียนต่างตั้งแถวต้อนรับท่านผู้ว่าฯ อย่างอบอุ่น บ้างก็มายืนรอเพราะอยากเห็น ทุเรียนที่ผู้ว่าฯ จองไว้กับตา! ซึ่งไม่ธรรมดา เพราะท่านเดินตรงเข้าไปติดโบว์ที่สีแดงแรงฤทธิ์​ที่ลูกทุเรียน พร้อมประกาศว่า “ลูกนี้...ของฉันนะคะ! เจอกันวันที่ 23” เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ร่วมงานเหมือนเปิดตัวแชมป์มวยโลกยังไงยังงั้น!

ยังไม่จบ! ระหว่างเดินชมสวนจู่ๆ ท่านผู้ว่าฯ ก็หยุดดมกลิ่นลมตามสไตล์นักสืบทุเรียน… ก่อนจะเดินปรี่เข้าไปยังต้นหนึ่งแล้วพูดว่า "กลิ่นนี้มันใช่เลย!" และทันใดนั้นเอง ท่านคว้ามีดแบบไม่รีรอ ตัดทุเรียนลูกเดียวที่สุกอยู่ใน2ไร่ งานนี้ทั้งสวนถึงกับอึ้ง เพราะมันคือลูกเดียวที่สุกจริงๆ!

ด้านสำนักงานเกษตรจังหวัดปัตตานี ขอใช้โอกาสนี้แจ้งเตือนเสียงดังฟังชัดว่า “ห้ามตัดทุเรียนอ่อนเด็ดขาด!” เพราะนอกจากจะผิดหลักคุณธรรมทางเกษตรแล้ว ยังผิดกฎหมายอีกด้วยงานนี้จึงเน้นย้ำให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกทุเรียนแบบสุกพอดี ไม่ฝืนดวงไม่ฝืนฤดูกาล

ทุเรียนทรายขาว หนึ่งในผลผลิตทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อของอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ได้รับการยอมรับว่าเป็นทุเรียนคุณภาพเยี่ยมระดับแนวหน้าของประเทศ โดดเด่นด้วยรูปทรงที่สวยงาม เนื้อแน่น สีเหลืองทองสวย รสชาติหอม หวาน มัน กลมกล่อมอย่างเป็นเอกลักษณ์ จนกลายเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและนอกพื้นที่

ด้วยสภาพภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์และระบบการดูแลรักษาแบบวิถีเกษตรอินทรีย์ ทำให้ทุเรียนทรายขาวเติบโตได้ดีและมีคุณภาพสม่ำเสมอ โดยปัจจุบันจำหน่ายในราคาประมาณกิโลกรัมละ 250 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สะท้อนถึงคุณค่าของผลผลิตที่มีทั้งความพิถีพิถันและความภูมิใจของเกษตรกรในท้องถิ่น​ และทุเรียนทรายขาวบ้านแปรรูปเป็นทุเรียนเชื่อมซึ่งเป็นที่นิยมของคนในพื้นที่​ ต่างติดอกติดใจรสชาติทุเรียนที่บงตัวพอดี​ หอมหวาน​ กลมกล่อม​ ละมุน​

นอกจากนี้ ชุมชนในตำบลทรายขาวยังได้รวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อยกระดับการผลิตและการตลาดให้มีความมั่นคง และสามารถแข่งขันในตลาดระดับประเทศได้อย่างยั่งยืน

#ข่าว​ #ทุเรียน​ #ปัตตานี

10/07/2025

พืชกระท่oมมาแรง​ พลังชุมชน​ หมู่บ้านออกมาต่อต้าน

วันนี้ 9 ก.ค. 2568  เวลา 10.30 น.        อาสาสมัครมูลนิธิเป็นหนึ่งพร้อมด้วยหน่วยงานดังต่อไปนี้.. - เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็...
10/07/2025

วันนี้ 9 ก.ค. 2568 เวลา 10.30 น.
อาสาสมัครมูลนิธิเป็นหนึ่งพร้อมด้วยหน่วยงานดังต่อไปนี้..
- เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส
- เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนราธิวาส
- เจ้าหน้าที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส
-เจ้าหน้าที่สำนักงานศึกษาเอกชนจังหวัดนราธิวาส
- นิติกรและฝ่ายกฎหมายสำนักงานศึกษาเอกชนจังหวัดนราธิวาส
ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น กรณีเด็กหญิงอายุ 12 ปี ได้ถูกเด็กชายอายุ 15 ปีทำร้าeร่างกาe โดยใช้ของแข็ง(ท่อนไม้) ทุUตีบริเวณศรีษะจากทางด้านหลัง เป็นบาดแผลฉกรรจ์ ตามข้อเท็จจริงที่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นที่วิพากวิจารย์อยู่ในสื่อโซเชียลมีเดียในวงกว้าง
ซึ่งรายละเอียดการประชุมในวันนี้ (โดยสรุป)
ทางผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุดังกล่าวมิได้นิ่งนอนใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด เร่งหาแนวทางการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ที่ทราบเรื่องในห้วงวันแรกๆที่เกิดเหตุขึ้น พร้อมทั้งยังได้เรียกผู้ปกครองของนักเรียนทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยเจรจาเพื่อหาข้อยุติกรณีข้อพิพาทดังกล่าวนี้แล้ว ซึ่งทางครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหายก็ได้ให้อภัยทางครอบครัวผู้ก่อเหตุแล้ว ส่วนเรื่องของคดีความก็ให้ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเจาะไอร้องดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนต่อไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ทางมูลนิธิเป็นหนึ่งขอกราบขอบพระคุณท่านผู้อำนวยการโรงเรียน และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ได้เล็งเห็นถึงสิทธิที่จะได้รับการศึกษาตามที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 43 และคำนึงถึงสวัสดิภาพ ชีวิตการเป็นอยู่ของเด็กทั้งสองฝ่ายเป็นหลัก โดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นฝั่งเด็กที่กระทำผิดหรือถูกกระทำ ซึ่งในการพูดคุยแก้ปัญหาในวันนี้นั้นสามารถตกลงกันได้และจบลงได้ด้วยดี
ณภัชอยากขอเน้นย้ำประชาชนที่ติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผ่านช่องทางสื่อโซเชียลมีเดียว่า ในการกระทำผิดต่างๆ นั้น อยากจะให้มองที่พฤติกรรมการกระทำของตัวบุคคลเป็นหลัก อย่าพาดพิงบุคคลอื่น หรือหน่วยงานใดให้เสียหาน เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งในกรณีดังกล่าวนี้นั้นทางท่านผู้อำนวยการโรงเรียนและบุคลากร ก็ได้ปฏิบัติตามนโยบายระเบียบ ข้อบังคับ ตามแบบแผนของกระทรวงศึกษาธิการอย่างเคร่งครัด ถูกต้องตรงไปตรงมา ยึดถือประโยชน์ของเด็กเป็นหลัก อีกทั้งยังแก้ไขปัญหาอย่างฉับไวซึ่งท่านผู้อำนวยการโรงเรียนและบุคลากรครูในสถานศึกษาแห่งนี้ได้ทำดีที่สุดแล้ว
#มูลนิธิเป็นหนึ่ง #ทำร้าeร่างกาย #เจาะไอีร้อง #นราธิวาส

ชาวลางารวมพลังเผาใบกระท่อม ประกาศอำเภอปลอดยาเสพติดเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ชาวบ้าน ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี รวมตัวกันนำ...
09/07/2025

ชาวลางารวมพลังเผาใบกระท่อม ประกาศอำเภอปลอดยาเสพติด

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ชาวบ้าน ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี รวมตัวกันนำใบกระท่อมที่เคยจำหน่ายในพื้นที่มาเผาทำลาย เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการต่อต้านยาเสพติดทุกรูปแบบ พร้อมส่งเสริมให้อำเภอมายอเป็นพื้นที่ปลอดการขายใบกระท่อม

นายพิสิษฐ์ มีบุญ ปลัดอำเภอมายอ ระบุว่า แนวทางนี้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ "ฮูกุมปากัต" หรือธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี ในการแก้ปัญหายาเสพติด โดยได้รับความร่วมมือจากผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน จนร้านขายใบกระท่อมทยอยปิดตัวลงทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังมีการใช้แนวทาง "มิตรภาพบำบัด" ดูแลเยาวชนที่เคยดื่มน้ำกระท่อม จนหลายรายสามารถเลิกได้สำเร็จ ขณะที่ชาวบ้านต่างรู้สึกพอใจ และยินดีที่พื้นที่ของตนกลายเป็นต้นแบบในการสร้างสังคมปลอดยาเสพติด

#ข่าวสาร​ #ปัตตานี​ #ชาวบ้าน

ที่อยู่

Pattani

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Pattani Thai Newsผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์