30/09/2025
[ 4 เดือนรัฐบาลอนุทิน ต้องสะสาง 4 เรื่องในประกันสังคม ]
รักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ (จอมทอง หนองแขม บางบอน) พรรคประชาชน อภิปรายในการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ว่าแม้รัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล จะเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ อยู่ไม่นานแค่ 4 เดือน แต่นานพอที่จะสะสางเรื่องต่างๆ ในสำนักงานประกันสังคม
🟠เรื่องแรก คือการเร่งกระบวนการสอบวินัย กรณีลงทุนซื้อตึก SKYY9 ซึ่งตอนนี้มีบางคนโดนสั่งย้าย แต่บางคนยังเสพสุขได้เป็นรัฐมนตรี ไม่มีวี่แววจะได้ชดใช้ความผิด
ความกังวลของตนคือรัฐบาลนี้มีคนเกี่ยวข้องกับตึก SKYY9 อยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น พัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เคยเป็นเจ้าของตึก SKYY9 ที่เดิมชื่อตึก Cas Capital หรือตึก I.C.E. ซื้อมาตั้งแต่ปี 2560 แม้ไม่บอกว่าซื้อมาราคาเท่าไหร่ แต่คนในวงการรู้กันว่าต่ำกว่าพันล้านบาท ผ่านการปรับปรุงซ่อมแซม ผ่านไปไม่กี่ปีขายให้ประกันสังคมถึง 7,000 กว่าล้าน
เรื่องนี้ชัดเจนว่าส่อเป็นการทุจริตคอร์รัปชัน หลังจากเรื่องถูกเปิดเผย สุชาติ ชมกลิ่น ก็ออกมาบอกว่าไม่ได้รู้เห็น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลงทุนในตึก SKYY9 ทั้งที่เป็นเรื่องภายในกระทรวงที่ตัวเองรับผิดชอบ ถ้าคุณสุชาติไม่รู้แล้วใครจะรู้ ถ้าบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง ควรมีท่าทีให้ความร่วมมือและพร้อมเข้าสู่กระบวนการสืบสวน แต่สิ่งที่เกิดขึ้น สุชาติกลับไล่ฟ้องคนไปทั่ว
ย้อนไปตอนที่อนุทินเป็นรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย สั่งสอบรอบแรก ผลปรากฏชัดว่าเรื่องนี้มีมูล การลงทุนตึก SKYY9 มีความเร่งรีบผิดปกติจริง มูลค่าอยู่ที่ 3,428-3,863 ล้านบาท แต่สำนักงานประกันสังคมลงทุนสูงเกินกว่ามูลค่าจริง เป็นเหตุให้กองทุนประกันสังคมได้รับความเสียหาย วันนี้คุณอนุทินเป็นนายกฯ แล้ว อย่าลืมคำพูดที่เคยพูดไว้ว่าจะไม่ละเว้น
ขณะนี้กระบวนการสอบสวนวินัยกำลังถูกขัดขวางอย่างหนัก พิพัฒน์ รัชกิจประการ ก่อนจะพ้นตำแหน่ง รมว.แรงงาน ได้เซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยเอาไว้ และกำหนดเวลาว่าจะจบได้ใน 3 เดือน แต่มีการล็อบบี้ให้ประธานกรรมการสอบคือปลัดกระทรวงวัฒนธรรมลาออกเพื่อถ่วงเวลา เพราะถ้าไม่มีประธานก็ดำเนินการสอบต่อไม่ได้ จนตอนนี้กระบวนการเงียบหาย ไม่รู้ว่าจะสืบสวนเสร็จภายในกี่วัน มาตอนนี้มี รมว.แรงงานคนใหม่ คือตรีนุช เทียนทอง ตนเกรงว่าจะมีคนเตะถ่วงเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือไม่ การสืบสวนสอบสวนจะเป็นไปอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่
“เรื่องนี้เรื่องใหญ่ นายกฯ ที่เห็นข้อเท็จจริงมากับตา หรือรัฐมนตรีตรีนุช รับปากประชาชนในสภาแห่งนี้ได้หรือไม่ ว่าจะเดินหน้าสอบสวนต่อเพื่อลากคนผิดมาลงโทษใน 3 เดือนเหมือนแผนตอนแรก”
🟠เรื่องใหญ่ที่สอง ขอความชัดเจนการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม
เราเพิ่งมีการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปี 2566 พอทีมประกันสังคมก้าวหน้าชนะเลือกตั้งเข้ามา ก็เกิดความเปลี่ยนแปลง มีการเปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณของประกันสังคม ไม่ว่าจะเป็นการซื้อตึก SKYY9 เอาเงินไปทำปฏิทินปีละ 50-70 ล้านบาท ที่ผ่านมา 30 ปีตั้งแต่มีประกันสังคม ผู้ประกันตนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแทบไม่เคยเห็นข้อมูล นอกจากนี้ผู้ประกันตนได้เพิ่มเบี้ยเด็กเล็ก ปรับการคำนวณบำนาญ เพิ่มค่าคลอดบุตร
แต่อาจเป็นเพราะทำงานดีเกินไป จึงมีคนอยากล้มเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม แต่เพราะรู้ว่าล้มตรงๆ ไม่ได้ จะมีแรงต้าน เลยจะเปลี่ยนจากล้มเลือกตั้งมาเป็นเปลี่ยนวิธีการเลือกตั้งจากทางตรงเป็นทางอ้อมแทน
โดยอดีตปลัดกระทรวงแรงงานก่อนถูกโยกย้าย ได้ชงเรื่องการแก้ไขระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม เข้ามาในบอร์ด และกีดกันไม่ให้มีตัวแทนจากฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง หรือแม้กระทั่งคนนอกที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเข้าร่วมในอนุกรรมการแก้ไขระเบียบดังกล่าว จึงมีแต่คนที่มาจากสำนักงานประกันสังคม
และที่น่ากังวลกว่า คือมีความพยายามจะเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้ง เปลี่ยนจากการเลือกตัวแทนบอร์ดโดยตรง มาเป็นการเลือกกันเองคล้ายรูปแบบของการคัดเลือก สว. โดยอิงข้อเสนอจากรายงานของคณะกรรมาธิการแรงงานของวุฒิสภา และยิ่งเห็นชื่อคนทำรายงานยิ่งตกใจ เพราะบังเอิญว่าอนุกรรมาธิการที่เขียนรายงานฉบับนี้ เป็นคนที่แพ้เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมครั้งก่อน แต่มาลงสมัคร สว. แล้วชนะ
รักชนกจึงตั้งข้อสงสัยว่าตกลงแล้วเราจะได้เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 หรือไม่ ระเบียบเลือกตั้งใหม่จะออกมาในรูปแบบใด หรือเรากำลังจะเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ในรูปแบบเดียวกับที่เราเลือกสว.?
ดังนั้น ตนจึงอยากเรียกร้อง รมว.แรงงานว่าต้องทำเรื่องเหล่านี้โดยเร่งด่วนคือ (1) คงระเบียบให้เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมด้วยวิธีเดิม แต่ต้องอำนวยความสะดวกให้มาใช้สิทธิได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องลงทะเบียน (2) ต้องสั่งสำนักงานประกันสังคม ให้กางไทมไลน์การเลือกตั้งบอร์ดโดยละเอียด ว่าระเบียบจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ จะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ ตั้งงบประมาณไว้หรือไม่ เท่าไหร่
🟠อีกเรื่องที่ทำได้โดยไม่ต้องรอ 4 เดือน คือผลักดันกรอบการลงทุนใหม่
ประกันสังคมเป็นกองทุนมูลค่า 2.6 ล้านล้านบาท กองทุนบำนาญอื่นในโลกที่ใหญ่ขนาดนี้จะใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญมาบริหารจัดการ แต่ประเทศไทยกลับใช้ระบบราชการบริหาร ซึ่งตนไม่ได้หมายความว่าคนที่อยู่ในระบบราชการไม่เก่ง แต่ผลลัพธ์ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าพากองทุนไปไม่ได้ไกลกว่านี้ ทั้งมีปัญหาเรื่องผลตอบแทนและธรรมาภิบาล
โดยปัจจุบันบอร์ดประกันสังคมผลักดันกรอบการลงทุนใหม่ อ้างอิงมาตรฐานที่เป็นสากลมากขึ้น เช่น ห้ามลงทุนสินทรัพย์นอกตลาดโดยตรง หมายความว่าจะตึกโดยตรงอย่างตึก SKYY9 ไม่ได้ ต้องทำผ่านกองทุนที่เป็นมืออาชีพ และมีผลตอบแทนย้อนหลังที่พิสูจน์ได้ จะเลือกลงทุนในกองใดก็ต้องประกวดผลตอบแทนอย่างน้อย 3 กอง และทุกการตัดสินใจต้องผ่านบอร์ดใหญ่ ให้โปร่งใสตรวจสอบได้
ซึ่งร่างกรอบการลงทุนนี้ทำเสร็จไปนานแล้ว แต่ผ่านออกมาไม่ได้ เพราะว่ากันว่าข้าราชการระดับบริหารที่ดูแลเรื่องการลงทุนเป็นคนสนิทเชื้อกับอดีตปลัดกระทรวงแรงงานที่โดนเด้ง ขัดขวางไม่ยอมให้เรื่องผ่าน ดังนั้น ถ้ารัฐมนตรีตรีนุชจริงใจที่จะปราบผี SKYY9 ไม่ให้มาหลอกหลอนอีก เริ่มได้จากตรงนี้ ทุบโต๊ะสั่งปลัดเลยว่าห้ามถ่วงเวลาให้ประกาศกรอบการลงทุนใหม่นี้ออกมาให้ได้
🟠สุดท้าย ทำให้ประกันสังคมโปร่งใส เปิดเผยมติและรายงานการประชุม
ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ 2540 ระบุให้เปิดเผยมติที่ประชุมและรายงานการประชุม แต่บอร์ดประกันสังคมหลายสิบปีที่ผ่านมาไม่เคยเปิด จึงไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าในที่ประชุม มีใครพูดเพื่อผลประโยชน์ของใคร ผู้ประกันตนเจ้าของเงินถูกปิดหูปิดตามาตลอด ดังนั้นรัฐมนตรีต้องสั่งการเป็นนโยบาย ให้เปิดข้อมูลการใช้งบประมาณ รายงานการประชุมบอร์ดและการประชุมอนุกรรมการที่ไม่เป็นความลับ ต้องเข้าถึงได้โดยสาธารณะ
ดังนั้นนี่คือ 4 เดือน 4 งานที่อยากได้ยินจากปากของนายกรัฐมนตรีและ รมว.แรงงาน
(1) เร่งกระบวนการสอบสวนวินัยกรณีลงทุนซื้อตึก SKYY9 และหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ภายใน 3 เดือน
(2) ไม่เปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งประกันสังคม และไม่ถ่วงเวลาจากกำหนดการเดิม
(3) ผลักดันกรอบการลงทุนใหม่ อ้างอิงมาตรฐานที่เป็นสากลมากขึ้น
(4) นโยบายโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลประกันสังคมให้ผู้ประกันตนทราบ