28/10/2025
อยากรื้อฟื้นตอนที่ไม่แบ่งเขตชายแดนไทยกัมพูชาจังแผ่นดินไทยเดิมคงกว้างขึ้น
การปักปันเขตแดนระหว่างไทยและฝรั่งเศสตามสนธิสัญญาปี 1904 และ 1907 ซึ่งได้มาซึ่งแผนที่ 1:200,000 และมีการจัดทำหลักเขตระหว่างกันมาแล้ว แต่ที่ผ่านมาหลักเขตหลายหลักถูกเคลื่อนย้ายหรือเสียหาย และแผนที่ที่แนบท้ายไม่ตรงกับภูมิประเทศจริง ซึ่งที่ผ่านมามีการสำรวจค้นพบหลักเขตที่สยามและฝรั่งเศสปักปันร่วมกันจำนวน 74 หลัก มีความเห็นตรงกัน 45 หลัก และมีความเห็นต่างกัน 29 หลัก ประกอบกับแต่ละหลักห่างกันมาก ไม่สามารถกำหนดเส้นเขตแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีการตกลงกันสำรวจเพื่อจัดทำหลักเขตใหม่ตาม ซึ่งเป็น MoU ที่ว่าด้วยการกระบวนการทางเทคนิคในการร่วมกับสำรวจและจัดทำหลักเขต
ทั้งนี้โดยทฤษฎีแล้ว เราไม่สามารถพูดได้ว่าเส้นเขตแดนในแผนที่ของไทยและกัมพูชาคือเส้นเขตแดนจริง เนื่องจากมีการใช้แผนที่ระวางต่างกันและระบบการจัดทำต่างกันอย่างที่เราจะได้ยินคำว่า 1:200,000 และ 1:50,000 ซึ่งไม่สามารถทาบกันได้สนิท จึงต้องมีการสำรวจภูมิประเทศจริงและจัดทำหลักเขตใหม่ โดยยึดถืออนุสัญญาและสนธิสัญญาเป็นหลัก ซึ่งสนธิสัญญากำหนดให้ใช้แนวสันปันน้ำ แต่ในะรหว่างที่ยังจัดทำเขตแดนไม่แล้วเสร็ย ฝ่ายไทยยึดถือเส้นเขตแดนตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งมีความละเอียดและลากเส้นตามข้อกำหนดในสนธิสัญญาระหว่างสยามและฝรั่งเศส ซึ่งก็หมายถึงเส้นเขตแดนในแผนที่นี้คือเส้นปฏิบัติการหรือ Operation Line ที่เรามักจะได้ยินกองทัพกล่าวถึงอยู่เสมอ ๆ
แต่แม้ต่อให้ใช้เส้นเขตแดนในแผนที่ 1:200,000 ซึ่งมีความละเอียดต่ำกว่า และทดลองสร้างเป็นภาพสามมิติก็ยังพบว่าปราสาททั้งสามปราสาทคือปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาเมือนโต๊ดก็ยังอยู่ในเขตไทย ตามภาพที่ปรากฎ
อย่างไรก็ตาม ในการประชุม JBC เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาที่ไทยและกัมพูชาตกลงร่วมกัน ได้มีข้อสรุปร่วมกันว่าจะมีการใช้เทคโนโลยี LiDAR เพื่อสำรวจภูมิประเทศให้รวดเร็วและแม่นยำขึ้นโดยเฉพาะบริเวณที่ต้องหาตำแหน่งสันปันน้ำเพื่อลดการเดินสำรวจ ซึ่งเป็นไปตาม TOR ของ MoU43 ซึ่งหมายถึงกระบวนการนี้จะแทบไม่มีการใช้แผนที่ 1:200,000 หรือ 1:50,000 ในการอ้างอิงเขตแดน แต่จะเป็นการสำรวจภูมิประเทศจริงตามหลักเกณฑ์ในสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส และเก็บค่าพิกัดเพื่อจัดทำเขตแดนที่ชัดเจนทุก ๆ 100 เมตร และจัดทำแผนที่ฉบับใหม่ที่ได้รับการยอมรับร่วมกันต่อไป
ภาพจากกองทัพบก
#ชายแดนไทยกัมพูชา