หนังสือพิมพ์ พิษณุโลกทูเดย์

17/10/2025

ม.นเรศวรจับมือเทศบาลนครพิษณุโลกลงนาม MOU ก้าวสู่ "เมืองแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน" (Living Learning City)
เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2568 ณ ห้องประชุม 304 อาคารสำนักงานอธิการบดี ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวร กับเทศบาลนครพิษณุโลก โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร และนายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก พร้อมด้วยผู้บริหารและบุคลากรของทั้งสองหน่วยงานเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้การขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อคนทุกช่วงวัย เป็นความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงาน ในการร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองพิษณุโลกให้ก้าวสู่ "เมืองแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน" (Living Learning City) อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนผู้ประกอบการในระดับชุมชนให้มีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้ ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความต้องการของสังคมเมือง รวมทั้งพัฒนา ทักษะและการเรียนรู้ใหม่สำหรับประชาชนทุกช่วงวัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของการบูรณาการระหว่างสถาบันการศึกษา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะร่วมกันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรมเพื่อนำไปสู่การพัฒนาเมืองพิษณุโลกให้เป็นเมืองน่าอยู่ มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคม พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต
#เทศบาลนครพิษณุโลก #มหาวิทยาลัยนเรศวร #พัฒนาเมืองพิษณุโลก

17/10/2025

สาธารณสุข Kick off สาธารณสุขยุคพัฒนา
“หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ เชื่อมต่อทุกบริการผ่านเทคโนโลยี”รมช.มอบนโยบายขับเคลื่อนระบบสุขภาพดิจิทัลให้แก่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก

วันนี้ (17 ตุลาคม 2568) ที่ห้องประชุมจำปีสิรินธร ชั้น 11 อาคารอำนวยการผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุฉุกเฉิน ศูนย์การแพทย์พุทธชินราชา โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการ Kick off สาธารณสุขยุคพัฒนา “หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ เชื่อมต่อทุกบริการผ่านเทคโนโลยี” พร้อมมอบนโยบายการขับเคลื่อนระบบสุขภาพดิจิทัลให้แก่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ซึ่งเป็น 1 ใน 4 โรงพยาบาลนำร่อง ที่ได้นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ และช่วยยกระดับการให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนให้มีประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น
นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันระบบสาธารณสุขของประเทศไทยต้องเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญหลายประการ ทั้งจากความต้องการการรักษาพยาบาลที่ซับซ้อนขึ้น ภาวะขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ และภาระงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องแบกรับความเหนื่อยล้า ขณะที่ประชาชนต้องเผชิญกับอุปสรรคในการเข้าถึงบริการ ทั้งในด้านการรอคอยที่ยาวนาน การเดินทางที่ลำบาก รวมถึงการขาดแคลนข้อมูลที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพการให้บริการและคุณภาพชีวิตของทั้ง “หมอ” และ “ประชาชน”
โดยหนึ่งในนโยบายที่สำคัญและเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว นั่นก็คือ “หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ เชื่อมต่อทุกบริการผ่านเทคโนโลยี” ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ และยกระดับการให้บริการแก่ประชาชน เช่น การพัฒนา Application หมอพร้อม+ ซึ่งถือเป็น Super Application ด้านสุขภาพ ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทุกอย่างได้ในที่เดียว การนำปัญญาประดิษฐ์ AI มาช่วยในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขยังมีนโยบายที่จะสนับสนุนการยกระดับการบริการและหน่วยบริการสุขภาพทุกระดับให้ก้าวทันด้านสุขภาพ โดยสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพตั้งแต่ฐานราก คือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ตามโนบาย “บูสต์ อสม. สู่ผู้ช่วยสาธารณสุข ยกระดับเพื่อสวัสดิการที่ยั่งยืน" โดยการพัฒนา อสม. เป็นผู้ช่วยสาธารณสุขหรือผู้เชี่ยวชาญดูแลผู้สูงวัย ผลักดันร่างพระราชบัญญัติ อสม. จำนวน 7 ฉบับ เพื่อให้มีกฎหมายคุ้มครอง และกองทุนสวัสดิการ อสม. สร้างหลักประกันรายได้และสวัสดิการ
“ในวันนี้นอกจากการ Kick off สาธารณสุขยุคพัฒนา “หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ เชื่อมต่อทุกบริการผ่านเทคโนโลยี” ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลกแห่งนี้แล้ว ยังมีการ Kick off พร้อมกันอีก 3 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี และโรงพยาบาลบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งถือเป็นการแสดงความพร้อมของระบบบริการสุขภาพดิจิทัลต้นแบบ และเป็นการสร้างความตื่นตัวและแรงผลักดันในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อปฏิรูประบบบริการสุขภาพทั่วประเทศ ทั้งนี้ มีเป้าหมายจะขยายผลดำเนินงานให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ในเดือนมกราคม 2569 นี้”

17/10/2025

ข้อมูลสภาพน้ำ เขื่อนสิริกิติ์ 💧
วันที่ 17 ตุลาคม 2568 เวลา 08:00 น.
🔖 สามารถติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำเขื่อนสิริกิติ์รายชั่วโมง
ได้ที่ https://skdam.egat.co.th/index.php/water-data

17/10/2025

🔵 โครงการคนละครึ่ง พลัส เป็นโครงการที่รัฐบาลจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 (ปี 2565)

ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 (ปี 2565) และมีปุ่ม "คนละครึ่ง พลัส" ในแอปพลิเคชันถุงเงิน สามารถเข้าร่วมโครงการใหม่ได้ทันที คือ ร้านที่ภาครัฐมีฐานข้อมูลตรวจสอบได้ชัดเจนแล้วว่าท่านมีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการได้

ร้านค้าที่ไม่พบปุ่ม "คนละครึ่ง พลัส" จำเป็นต้องสมัครเข้าร่วมโครงการใหม่

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.คนละครึ่งพลัส .com 🔵

https://www.xn--42caj4e1a2ame9b2cq0dyo.com/

#คนละครึ่งพลัส
#4เดือนทำทันที
#สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก 

17/10/2025

ขอร่วมแสดงความยินดีนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก คนใหม่

วันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ได้เห็นชอบบัญชีแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
ลำดับที่ 28.ให้นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนนทบุรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพิษณุโลก
ประวัติ นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เกิดวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2510 การศึกษาจบศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง เริ่มรับราชการครั้งแรกในตำแหน่งปลัดอำเภอ อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด วันที่ 1 ต.ค.2558 ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี 4 ต.ค.2562 ดำรงแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี 10 ส.ค.2563 ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม 1 ต.ค.2563 ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม 1 ต.ค. 2566 ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และพ.ศ.2567 ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และ พ.ศ.2568 ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก

17/10/2025

📢 ประชาสัมพันธ์
จากศูนย์สุขภาพเมืองพิษณุโลก
เรื่อง
☎️ °•☆ การโทร.เลื่อนนัด ☆•°

กรณีที่ผู้เข้ารับบริการไม่สามารถมาตามวัน และเวลาที่นัดหมายได้ ขอให้ผู้รับบริการโทร.เข้ามาเพื่อเลื่อนนัดล่วงหน้าก่อนอย่างน้อย 7 วัน ในวัน และเวลาราชการ (ยกเว้น❗️วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) สามารถโทร.มาแจ้งเลื่อนนัดได้ตั้งแต่ เวลา 13:00-16:00 น.

กรณีที่ท่านโทร.เข้ามาเลื่อนนัด ท่านจะได้รับวันนัดใหม่ พร้อมกับสามารถเข้าตรวจตามคิวได้ตั้งแต่ภาคเช้า กรณีที่มีนัดเจาะเลือดท่านก็จะได้เจาะเลือดตามที่ระบุไว้เช่นเดิม

กรณีที่ท่านมาผิดนัดโดยที่ไม่ได้โทร.มาเลื่อนนัด ขอสงวนสิทธิ์การให้บริการแก่ผู้ป่วยที่มาตรงนัดก่อน และจะให้บริการเคสที่ผิดนัดได้ตั้งแต่ 13:00-16:00 น.

แต่ถ้าหากท่านมีอาการผิดปกติฉุกเฉินสามารถเข้ามารับบริการก่อนวันนัดได้

ท่านสามารถโทร.มาเลื่อนนัดได้ที่
055-270-300(-09) ต่อ 61101

17/10/2025

🔥 เตรียมตัวให้พร้อม! "สองแควเกมส์" ครั้งที่ 40 กำลังจะระเบิดความมันส์! 🤩
​เทศบาลนครพิษณุโลก ภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าบ้าน จัดเต็มความพร้อม ต้อนรับนักกีฬาทั่วภาคเหนืออย่างอบอุ่นที่สุดดด 🤗🏆
​🗓️ 17-26 ตุลาคม 68 เจอกันที่ พิษณุโลก นะครับ! มาสร้างตำนานและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดี ๆ ด้วยกัน! 💪✨
​📍 อย่าพลาด! https://youtu.be/NMKNzkqj9ZA?si=yam3OPCBT-HIBy2P
​ #สองแควเกมส์40 #พิษณุโลก #เกมส์กีฬาภาคเหนือ #พร้อมต้อนรับ #นักกีฬา #เมืองสองแคว 💖🇹🇭

🔥 เตรียมตัวให้พร้อม! "สองแควเกมส์" ครั้งที่ 40 กำลังจะระเบิดความมันส์! 🤩​เทศบาลนครพิษณุโลก ภูมิใจที่ได้เป็นเ...

15/10/2025

"TUK-TUK" สามล้อตุ๊ก ๆ
บนถนนที่พลุกพล่านและแดดจ้าของพิษณุโลก รถสามล้อเครื่องสีสันสดใส “ตุ๊กตุ๊ก” ยังคงแล่นผ่านการจราจร ยานพาหนะที่สดใสเหล่านี้ไม่ได้เริ่มต้นที่นี่ แต่ประวัติศาสตร์ของพวกมันย้อนกลับไปถึงต้นกำ กำ เนิดอันน่าประหลาดใจในอยุธยา
On the busy, sun-drenched streets of Phitsanulok, colorful motorized three-wheelers — “Tuk-Tuks” — still weave through the traffic. These cheerful vehicles did not start here, but their history traces back to a surprising origin in Ayutthaya.
รถตุ๊กตุ๊กรุ่นแรกๆ จริงๆ แล้วเป็นรถบรรทุกสินค้าสามล้อของญี่ปุ่น เดิมทีออกแบบมาเพื่อใช้งานเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรมขนาดเล็ก และที่สำคัญคือไม่มีหลังคาเมื่อมาถึงประเทศไทยครั้งแรก
The very first Tuk-Tuks were actually Japanese three-wheeled cargo trucks. They were originally designed to operate exclusively within small industrial estates and, notably, they had no roof when they first arrived in Thailand.
อย่างไรก็ตาม คนไทยมีชื่อเสียงในด้านความชาญฉลาดในการดัดแปลงสิ่งต่างๆ เมื่อรถเหล่านี้เข้ามาในประเทศไทย พวกมันได้พัฒนาจากรถบรรทุกสินค้าสามล้อแบบญี่ปุ่นธรรมดาๆ มีการเพิ่มหลังคาและที่นั่งผู้โดยสารสำหรับบรรทุกคนและสินค้า กลายเป็นรถตุ๊กตุ๊กโดยสารที่โดดเด่นอย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน
However, Thai people are known for their ingenuity in adapting things. When these vehicles came to Thailand, they evolved from being simple Japanese three-wheeled cargo trucks. A roof and passenger seating were added for both carrying people and transporting goods, transforming them into the distinctive passenger Tuk-Tuks we know today.
ชื่อ "ตุ๊กตุ๊ก" เกิดขึ้นเนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเยือนประเทศไทยในขณะนั้นไม่รู้ว่าจะเรียกรถสามล้อติดเครื่องยนต์ว่าอะไร พวกเขาจึงตั้งชื่อตามเสียงท่อไอเสียของเครื่องยนต์ และชื่อ "ตุ๊กตุ๊ก" ก็ยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

The name "Tuk-Tuk" originated because foreign tourists visiting Thailand at the time did not know what to call the motorized three-wheeled vehicles. They simply adopted the name from the sound of the engine’s exhaust, and the name “Tuk-Tuk” has stuck ever since.

นี่คือเรื่องราวของสามผู้เห็นเหตุการณ์ในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ คนขับรถรุ่นเก่า รถยนต์ที่ทนทานของเขา และตัวเมืองเอง ซึ่งทุกคนต่างได้เห็นการเดินทางจากถนนลูกรังฝุ่นตลบ สู่ถนนลาดยางที่เรียบลื่นในปัจจุบัน
This is the story of three witnesses to a changing era: the old driver, his resilient vehicle, and the city itself—all of whom have seen the journey from dusty, dirt roads to the smooth, paved streets of the present day.

09/10/2025

https://www.facebook.com/share/p/1K3zAQKzFc/

06/10/2025

สมาคมผู้เสียสละพิษณุโลก ร่วมกับมูลนิธิพล.อ.ดร.ศิริ ทิวะพันธุ์และ กรมทหารปืนใหญ่ที่ 4 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถจังหวัดพิษณุโลก
ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคข้าวสาร มาม่า ปลากระป๋อง น้ำพริกสำเร็จรูป นมถั่วเหลือง และอื่นๆ
ไม่รับไข่ เงินสด หรือการโอนเงิน เพื่อนำไปมอบให้กำลังพลของกองทัพภาคที่ 3ที่ปฏิบัตหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
เปิดรับบริจาคที่สำนักงานสมาคมผู้เสียสละพิษณุโลก ตั้งอยู่ถนนบรมไตรฯซอยศรีฟ้า ตั้งแต่วันที่ 4-9 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น.-16.00 น.
ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ทหารตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา มา ณ ที่นี้ครับ

06/10/2025