9เกษตร เป็นเพจเกี่ยวกับเรื่องเกษตร การปลูกพืช เทคนิคเกี่ยวกับปุ๋ย การทำสารชีวภาพ เพื่อบำรุงพืช แบบ ต่างเทคโนโลยีต่างๆ

คลับของคนพอเพียง ,เกษตรอินทรีย์,เกษตรพอเพียง,เศรษฐกิจพอเพียง,เกษตรผสมผสาน,เกษตรทฤษฎีใหม่,ปลูกพืช,เลี้ยงสัตว,ขายสินค้าเกษตร,ปุ๋ย

ไฮโดรโปนิกส์ ( Hydroponics) คือ เป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน นับเป็นวิธีการใหม่ในการปลูกพืช โดยเฉพาะการปลูกผักและพืชที่ใช้...
17/05/2025

ไฮโดรโปนิกส์ ( Hydroponics) คือ เป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน นับเป็นวิธีการใหม่ในการปลูกพืช โดยเฉพาะการปลูกผักและพืชที่ใช้เป็นอาหาร เนื่องจากประหยัดพื้นที่ และไม่ปนเปื้อนกับสารเคมีต่างๆ ในดิน ทำให้ได้พืชผักที่สะอาดเป็นอาหาร ปัจจุบันนี้ในเทคนิคการปลูกพืชแบบไร้ดินหลายแบบด้วยกัน
นักวิจัยด้านเมตาบอลิซึมของพืชได้ค้นพบว่าพืชจะดูดซึมสารอาหารมาเป็นไอออนในน้ำ ซึ่งมีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ในสภาพตามธรรมชาตินั้น ดินจะทำหน้าที่เป็นแหล่งสารอาหาร แต่ดินเองนั้นไม่จำเป็นต่อการเติบโตของพืช เมื่อสารอาหารในดินละลายไปกับน้ำ รากของพืชก็จะสามารถดูดซึมสารอาหารนั้นได้ เมื่อใส่สารอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชไว้ในแหล่งน้ำที่สร้างขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ดินเพื่อเป็นแหล่งอาหารของพืชอีกต่อไป พืชส่วนใหญ่จะเติบโตด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ได้ แต่เติบโตได้ดีมากน้อยแตกต่างกัน การปลูกพืชไร้ดินนี้ทำได้ง่าย สะดวก และประหยัดพื้นที่ แต่ต้องมีอุปกรณ์ที่จำเป็น นั่นคือสารอาหารสำหรับพืชที่ละลายอยู่ในน้ำแล้ว

ปลูกผักโดยไม่ต้องใช้ดิน คือการปลูกผักด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์
แต่การปลูกผักด้วยไฮโดรโปนิกส์มีต้นทุนสูง จึงคิดหาวิธีปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ เปลี่ยนจากวัสดุอุปกรณ์พวก pvc ที่มีราคาแพงโดยการคิดค้นวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น ทดแทน เช่นกระบอกไม้ไผ่ ทำให้ต้นทุนการผลิตน้อยลง ประชาชนทั่วไปสามารถประดิษฐ์ใช้เองในครัวเรือนได้
การปลูกผักด้วยระบบนี้มีรอบปลูกสั้นกว่าการปลูกด้วยดินสามารถปลูกผักเมืองหนาวได้ ประหยัดน้ำกว่าการใช้ดินทำให้ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังได้บริโภคผักปลอดจากสารพิษไร้สารเคมีอีกด้วย นางจรรตกร กล่าว
สำหรับวัสดุที่เหลือใช้ที่นำมาผลิตสามารถหาได้ตามชุมชน เช่น วัสดุปลูกพวกเส้นใยทะลายปาล์มน้ำมันเพราะในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยมีโรงงานอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มหลายแห่งซึ่งมีของเสียจากกระบวนการบีบน้ำมันปาล์มพวกเส้นใยจากทะลายปาล์มเป็นจำนวนมาก นอกจากจะนำไปทำปุ๋ยหมักและเพาะเห็ดแล้วยังสามารถทดแทนวัสดุปลูกพวก พีต มอส ขุยมะพร้าว เม็ดโฟม ได้เป็นอย่างดี และเพื่อใช้วัสดุอยู่ในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์
สำหรับต้นทุนการผลิตนั้นค่อนข้างต่ำและวัสดุที่นำมาผลิตสามารถหาได้ในชุมชน โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 200-300 บาท ก็สามารถปลูกผักไว้รับประทานได้ในครอบครัว

การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน(ไฮโดรโพนิกส์) หมายถึงวิธีการปลูกพืชเพื่อให้พืชได้รับสารอาหารหรือสารละลายธาตุอาหารพืช ที่มีน้ำผสมกับแร่ธาตุที่ต้องการจากทางรากพืช โดยพืชที่ปลูกนั้นจะเป็นการปลูกลงวัสดุปลูกหรือโดยไม่ต้องมีวีสดุปลูกก็ได้

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน
วัสดุที่จำเป็นสำหรับการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดินที่ใช้กันทั่้วไป ได้แก่โรงเรือน ภาชนะและวัสดุที่ใช้ในการปลูก ปุ๋ยหรือธาตุอาหารพืชน้ำ ปั๊มน้ำ ระบบไฟฟ้า เมล็ดพันธุ์ พืชหรือกล้าพืชที่จะใช้ปลูก ฟองน้ำ โฟม เครื่องมือวัดค่า EC เครื่องมือวัดค่า pH ของน้ำถาดเพาะเมล็ด ถ้วยปลูก

ในกรณีที่จะใช้ไม้ไผ่แทนวัสดุแนะนำให้ใช้ต้นไผ่ที่อายุแก่จัด เพื่อความยืดอายุการใช้งาน

ขั้นตอนการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน

จัดเตรียมชุดปลูกให้พร้อม โดยถาดปลูกจะเป็นระบบสำเร็จรูป ถอดประกอบได้ง่าย ให้ตั้งอยู่กลางแจ้งมีแสงแดด ประมาณวันละ 6-8 ชั่วโมง เช่น สนามหญ้าหน้าบ้าน หรือ ดาดฟ้า
จัดเรียงฟองน้ำในถาดเพาะ รดน้ำให้ชุ่มจากนั้นใส่เมล็ดพันธุ์ที่ต้องการในฟองน้ำ ใช้ผ้าคลุมปิดถาดเพาะหรือเก็บไว้ในที่มืด รดน้ำเช้าและเย็นรอจนเมล็ดพันธุ์งอก และพ้นฟองน้ำ(ประมาณ 2 วัน)
เปิดผ้าคลุมออกให้ต้นกล้าได้รับแสงแดด รดน้ำช่วงเช้าและช่วงเย็น ต่อไปอีก 5-7วัน จนต้นกล้ามีใบเลี้ยงคู่และรากงอกจากฟองน้ำ พร้อมสำหรับย้ายไปปลูก
ย้ายกล้าลงปลูก
ข้อดีของการใช้ไม้ไผ่แทนวัสดุการปลูก

เป็นการใช้วัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์
ลดต้นทุนในการจัดหาวัสดุการปลูก
ดูสวยงาม สามารถประดับสวนได้
ข้อเสีย

เมื่อใช้ไปนานๆจะเกิดรอยแตกถ้าใช้ในที่กลางแจ้ง
จะเกิดรา

ปลูกผักในกระสอบคนที่อยู่บ้านจัดสรร พื้นที่บ้านไม่มากนัก แต่รักการปลูกต้นไม้ปลูกผักสวนครัวไว้กินเองทั้งประหยัดและปลอดภัย ...
16/05/2025

ปลูกผักในกระสอบ

คนที่อยู่บ้านจัดสรร พื้นที่บ้านไม่มากนัก แต่รักการปลูกต้นไม้ปลูกผักสวนครัวไว้กินเองทั้งประหยัดและปลอดภัย สบายใจกว่าการซื้อกินมาก สำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัดจริงๆ บ้านเป็นทาวเฮาส์หรือบ้านจัดสรร การปลูกผักในกระสอบเป็นทางเลือกที่ดีมาก การกินผักที่ปลูกด้วยฝีมือตัวเอง ที่สำคัญปลอดสารพิษ และช่วยลดรายจ่ายของครอบครัวได้ทางหนึ่ง คนที่มีเงินก็จะคิดว่ามันเป็นเรื่องยุ่งยาก มีเงินฉันซื้อเอาก็ได้ แต่คุณก็ซื้อผักแถมสารเคมีตกค้างอยู่ดี ถึงแม้ว่าคุณบอกว่ามีเงินซื้อผักปลอดสารพิษตามห้าง แต่คุณมั่นใจได้อย่างไรว่ามันปลอดสารพิษจริงถ้าคุณไม่ได้ปลูกเอง ที่สำคัญเงินซื้อความสุขจากการได้ปลูก จากการได้เฝ้าดูการเจริญเติบโตของผักไม่ได้

วิธีการปลูกผักในกระสอบ
การปลูกผักในกระสอบมี 2 แบบ คือ แนวนอน กับแนวตั้ง
– การวางประสอบแบบนอน เหมาะสำหรับการปลูกพวกผักกาด หอม ผักชี Red Oak พืชที่ไม่ลงรากลึกมากนัก

– การวางกระสอบแบบตั้ง เหมาะสำหรับการปลูกพริก มะเขือ ฟักทอง แตงกวา กะเพรา โหรพา พืชที่ลงรากยาว
กระสอบ
กระสอบปุ๋ย กระสอบอาหารสัตว์ กระสอบแป้งสาลี กระสอบข้าวสาร(ไม่ใช่กระสอบป่าน) สารพัดกระสอบ กระสอบขนาดเล็กขนาดใหญ่ใช้ได้ทั้งนั้น ปัจจุบันมีกระสอบปุ๋ยอีกชนิดหนึ่งชนิดที่ไม่รั่วน้ำ กระสอบชนิดนี้ถ้าจะนำ มาใช้ ก็ให้เจาะรูเพื่อระบายน้ำก่อน แต่ถ้ำเป็นกระสอบแบบที่รั่วน้ำ ก็เอามาใช้ได้เลยโดยไม่ต้องเจาะรู

เตรียมดินก่อนใส่กระสอบ
ดินที่นำมาใช้ใส่กระสอบเพื่อปลูกผักนั้น ควรผสมพวกปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก แกลบ แกลบเผา ฯลฯ ลงไปด้วย

การใส่ดินในกระสอบ
ก่อนที่จะใส่ดินในกระสอบก็ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าจะปลูกอะไร ชอบกินผักอะไร ผักอะไรจำเป็นต้องมี ติดครัว เพื่อจะได้ใส่ดินได้พอดีกับชนิดผักที่จะปลูก ถ้าปลูกพืชรากยาว เช่น พริก มะเขือยาว มะเขือเปราะ มะเขือเทศ ฯลฯ ให้พับกระสอบ หรือม้วนปากกระสอบ ลงมาให้ใส่ดินได้สูงประมาณ 20-25 เซนติเมตร สำหรับการปลูกแนวนอนให้ใส่กระสอบประมาณ 1/2 กระสอบ มัดปากถุงแล้วผลักให้กระสอบนอนลง

ผักกินใบ คะน้า กวางตุ้ง ฮ่องเต้ ฯลฯ ใส่ดินสูง 10-15 เชนติเมตร แต่ถ้าวางกระสอบในแนวตั้ง จะได้พื้นที่ใน การปลูกน้อย แนะนำให้ใช้วิธีการใส่ดินในกระสอบประมาณครึ่งกระสอบ มัดปากด้วยเชือก แล้วผลักกระสอบให้นอน ลง แล้วเจาะรูเพื่อหยอดเมล็ด

การเจาะรูกระสอบ
ไปหากระป๋องปลากระป๋องมา กระป๋องนมก็ได้ แล้วก็จัดการเจาะรูเท่าขนาดกระป๋องปลากระป๋อง แล้วหยอดเมล็ดผักลงปลูก

การปลูกผักบนต้นกล้วยปลูกผักบนต้นกล้วย เป็นการปลูกพืชผักที่น่าสนใจมากเนื่องจากเกือบจะไม่ต้องใช้น้ำเลย และ เป็นอีกทางเลือก...
15/05/2025

การปลูกผักบนต้นกล้วย
ปลูกผักบนต้นกล้วย เป็นการปลูกพืชผักที่น่าสนใจมากเนื่องจากเกือบจะไม่ต้องใช้น้ำเลย และ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้เกษตรกรที่มีสวนกล้วยหรือปลูกอยู่แล้ว ได้ใช้ต้นกล้วยที่ตัดแล้วให้เกิดประโยชน์อีกทางหนึ่งด้วยเมื่อกล้วยออกเครือแก่แล้วตัดเครือกล้วยออกไป ส่วนใหญ่เราก็จะตัดต้นกล้วยลงไปด้วยจึงได้มีการศึกษาว่าจะทำอย่างไรถึงจะนำต้นกล้วยที่ตัดเครือออกแล้วมาใช้ประโยชน์ได้บ้าง ปัจจุบันนี้ได้มีเกษตรส่วนหนึ่งได้ปลูกผักบนต้นกล้วยซึ่งได้ผลผลิตที่ดีมากเช่นเกษตรกรจากเวียดนามขั้นตอนและวิธีการปลูกผักบนต้นกล้วยมี 2 ขั้นตอน

ขึ้นตอนที่ 1 การเตรียมหรือการเพาะต้นกล้า
เตรียมดินเพาะกล้า โดยใช้ปุ๋ยคอก ผสม ขุยมะพร้าวหรือขี้เลื้อย และหรือเศษวัสดุอื่นๆ แล้วเพาะกล้า ลงแปลงเพาะกล้าไว้เมื่อต้นกล้าผักเจริญเติบโตมีใบประมาณ 3-4 ใบ จึงนำออกมาปลูกบนต้นกล้วยได้

ขั้นที่ 2 สำหรับการปลูกผักไร้ดินบนต้นกล้วย
สำหรับการปลูกผักไร้ดินบนต้นกล้วย ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย ซึ่งต้นกล้วยนั้นหลังจากที่ตัดเครือ กล้วยที่แก่แล้วออก จะตัดต้นกล้วยทิ้งซึ่งเป็นการสูญเสียไปเปล่าๆ โดยที่ไม่ได้อะไร ดังนั้น เมื่อตัดเครือกล้วยแล้ว (จะเป็นกล้วยน้ำว้าหรือกล้วยอะไรก็ได้)ก็ให้เจาะรูที่ต้นกล้วยให้รูมีขนาดเท่ากับที่จะนำกล้าลงไปปลูกในต้นกล้วย และทำไม้ที่ตั้งต้นกล้วย ส่วนจำนวนผักที่จะปลูกมากหรือน้อย ไม่สามารถบอกได้ ให้ดูขนาดของต้นกล้วยว่าใหญ่หรือเล็ก และก็ไม่ต้องรดน้ำ ให้ต้นกล้วยแต่อย่างใด หลังจากนั้น ประมาณ 30 วัน (ขึ้นอยู่กับอายุของผักที่ปลูก) ก็เก็บเกี่ยวผักไปกินหรือนำไปขายได้เลย ผักที่นำมาปลูก ได้แก่ ผักสลัด ผักบุ้ง ผักกาดขาว หรือผักอะไรก็ได้ที่ ใช้เวลา ประมาณ 30 40 วัน ถ้าเกินนี้ต้นกล้วยจะโทรมและเหี่ยวแห้งตายเสียก่อน ผักที่ได้จะมีรสชาติดีมาก หวาน และกรอบ ใบเป็นเงางาม ทั้งนี้ เป็นเพราะต้นกล้วยมีธาตุโพแทสเซียมสูงนั่นเอง ผักที่ปลูกควรเป็นผักกินใบที่ไม่ต้องการแสงแดดที่แรงมากนัก

วิธีการปลูกผักบนต้นกล้วยมีดังนี้

วัสดุ – อุปกรณ์

เมล็ดพันธุ์ผัก ประเภท กินใบ อายุการเก็บเกี่ยวสั้น เช่น ผักกาดหอม(ไม่ห่อหัว) จำพวกผักสลัด
กระบะเพาะกล้า หรือ ตะกร้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ถาดหลุมพลาสติก
กระดาษหนังสือพิมพ์
ขี้เถ้าแกลบ,ทราย
ปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมัก
วิธีการปลูกผักบนต้นกล้วย

การเพาะกล้า ในตะกร้าพลาสติก/กระบะเพาะ
ปูประดาษหนังสือพิมพ์(แผ่นเดี่ยว)บนตะกร้าพลาสติก แล้วจัดกระดาษให้เข้ารูปกับตะกร้า ใส่ทรายลงไปในตะกร้าที่เตรียมไว้ให้ได้ความสูงประมาณ 2 ใน 3 ของความสูง ขีดทรายตามแนวยาวของตะกร้าให้เป็นร่องลึกประมาณ 1 ซม. 2-3 แถว โรยเมล็ดพันธุ์ผักลงไปบางๆ แล้วกลบเบาๆ ด้วยทราย จากนั้นนำกระดาษหนังสือพิมพ์(แผ่นเดี่ยว)วางปิดทับด้านบน พร้อมจัดกระดาษให้เข้ารูปกับตะกร้า ใช้บัวรดน้ำ ลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์ (พอให้มีน้ำขังบนผิวหน้าเล็กน้อย) จัดวางตะกร้าไว้ในที่ร่ม หมั่นรดน้ำเช้า-เย็น เมื่อกล้าผักเริ่มงอก ให้เอากระดาษหนังสือพิมพ์ที่ปิดทับด้านหน้าออก แล้วรดน้ำเช้า – เย็น เมื่อต้นกล้าเริ่มมีใบจริงใบแรก หรือ เมื่อมีอายุประมาณ 10-14 วัน ให้ย้ายกล้าในกระบะเพาะลงปลูกในถาดหลุมพลาสติก
การย้ายกล้าผักลงปลูกในถาดหลุม
นำขี้เถ้าแกลบผสมเข้ากับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักพอใส่ลงถาดหลุมให้เต็มทุกหลุม จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม ใช้ไม้แทงนำในขี้เถ้าแกลบให้เป็นรู เพื่อนำต้นกล้าลงปลูก ใช้มือจับยอดต้นกล้าผักเบาๆ แล้วนำไม้ขุดแซะรากกล้าผักขึ้นมาจากกระบะเพาะ จากนั้นแยกกล้าลงปลูกในหลุมถาดที่เตรียมไว้ กดปิดบริเวณรูเบา ๆ ทำจนครบทุกหลุมแล้วจัดเรียงถาดหลุมที่ย้ายกล้าเสร็จแล้วไว้ในที่ร่มรำไร พอมีแสงส่องถึง จัดวางไว้บนชั้นให้น้ำไหลผ่านได้โดยสะดวก เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบหรือประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังปลูก ก็สามารถย้ายกล้าผักไปปลูกบนต้นกล้วยได้แล้ว
การปลูกผักลงบนต้นกล้วย
เจาะรูบนต้นกล้วยที่ตัดเครือแล้ว โดยกะจำนวนรูที่จะปลูกผักให้เหมาะสมกับขนาดของต้นกล้วย ให้รูมีขนาดเท่ากับหลุมในถาดหลุมเพื่อ่ยึดรากต้นกล้าผัก จากนั้นจึงเอาต้นกล้าผักยัดใส่ลงไปในรูของต้นกล้วยที่เจาะไว้ ประมาณ 30 วันก็สามารถเก็บผักที่ปลูกบนต้นกล้วยมารับประทานได้ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุของผักที่ปลูก)
ทั้งนี้ ผักที่ปลูกไม่ควรมีอายุเกิน 40 วัน และควรปลูกผักกินใน ที่ไม่ต้องการแสงแดดจัด

คู่มือปลูกผักพื้นที่น้อยพืชผักเมืองไทย ปลูกง่าย โตเร็ว กินอร่อย แม้คนอยู่ตึก มีมุมน้อยนิดบนคอนโด ก็ปลูกผักหญ้ากินเองได้ ...
14/05/2025

คู่มือปลูกผักพื้นที่น้อย
พืชผักเมืองไทย ปลูกง่าย โตเร็ว กินอร่อย แม้คนอยู่ตึก มีมุมน้อยนิดบนคอนโด ก็ปลูกผักหญ้ากินเองได้ เป็นแนวคิดที่ไม่ใหม่ เพราะมีผู้ริเริ่มและรณรงค์มานานแล้ว แต่ไฉนคนเมืองอยู่แต่ตึกไม่สนใจสีเขียวที่กินได้ในชีวิตจริง โครงการ สวนผักคนเมือง จึงกำเนิดขึ้นโดยผู้ปรารถนาดี อยากให้คนไทยรู้จักปลูกผักกินเอง ใส่ใจในธรรมชาติ กลับมามองของจริงที่จับต้องได้ นอกจากโครงการที่ว่านี้ยังมีมูลนิธิต่างๆ ได้แก่ เอ็นจีโอ สสส. และกลุ่มคนตัวน้อยที่ชวนคนเมืองมาปลูกผัก สร้างเป็นเครือข่ายวิถีเกษตรคนเมือง นอกจากนี้ คนที่อยู่ตึกแต่อยู่นอกเขตกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัด สามารถเข้าร่วมกิจกรรม ฟังอบรมวิธีปลูกผักในเนื้อที่จำกัด จนถึงปลูกข้าวในล้อยางและบ่อซีเมนต์ เขาก็ทำกันมาเห็นผล เป็นเรื่องจริงน่าทึ่งว่า ไม่มีนาข้าวก็ปลูกข้าวกินเองได้

หาตำแหน่งวางกระถาง:
ผักส่วนใหญ่ต้องการแดดตลอดทั้งวัน ถ้าไม่มีที่ตั้งซึ่งได้แดดเต็มวันก็หาตำแหน่งให้ได้แดดมากที่สุด อย่างน้อยก็ครึ่งวัน หรือถ้าขยันและมีเวลาก็คอยขยับกระถางตามแดดแทน ถ้าวางบนดาดฟ้า บางวันแดดอาจร้อนเกินไปจนผักขาดน้ำ ต้องช่วยขึงตาข่ายพรางแสงให้ผักบ้าง

เตรียมกระถาง :
เลือกขนาดกระถางใหญ่พอกับการเติบโตของพืช เช่น ผักกินใบ กระถางควรมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๔ นิ้วขึ้นไป ผักกินผลขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๑๐ นิ้วขึ้นไป หากเป็นภาชนะรูปทรงอื่นๆ ควรมีความลึกของก้นภาชนะตั้งแต่ ๓๐-๕๐ เซนติเมตรจึงจะสามารถปลูกผักได้ทุกชนิด หรือใช้อิฐบล็อกกั้นเป็นคอก หรือใช้กะละมังเก่าก้นแตก ลังไม้ กล่องโฟม มาดัดแปลงก็ได้

เตรียมดิน :
ใช้ดินถุงที่ซื้อจากร้านขายต้นไม้ก็สะดวก ถ้าจะเพิ่มส่วนผสมให้ดินดีปลูกผักงามขึ้น ใช้สูตรตามนี้เลย

ดินร่วนหรือดินถุง ๑ ส่วน
ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า ๑ ส่วน
แกลบเผา หรือขุยมะพร้าว หรือเศษใบไม้แห้ง (กระถินณรงค์ ก้ามปู หูกระจง มะขาม หางนกยูง) ๑ ส่วน ผสมคลุกเคล้าให้เป็นเนื้อเดียวกัน รดน้ำให้มีความชื้นพอปั้นเป็นก้อนได้ แต่ไม่แฉะจนน้ำไหลเยิ้ม บ่มดินไว้ในที่ร่มหรือในถุงสัก ๑ สัปดาห์ รับรองว่าแจ๋วแน่นอน แต่ถ้าไม่มีเวลาจะไม่ทำก็ได้ ไม่ว่ากัน
เตรียมเมล็ดพันธุ์ :
ที่หาง่ายหน่อยคือเมล็ดพันธุ์ขายเป็นซอง มี ๒ ประเภท ดูสัญลักษณ์ตัวย่อบนซองคือ OP (Open-Pollinated) เมล็ดพันธุ์ผสมเปิด ปลูกแล้วเก็บเมล็ดมาใช้ปลูกต่อได้ F1 (First Filial Generation) เมล็ดพันธุ์ลูกผสม ถ้าเก็บเมล็ดมาปลูกต่อจะได้ลักษณะแปรปรวน ไม่เหมือนที่ปลูกในรุ่นแรก ตอนซื้ออย่าลืมดูวันหมดอายุ และเปอร์เซ็นต์การงอกว่าควรสูงกว่า ๗๐% ไม่ควรซื้อซองเมล็ดพันธุ์ที่ตากแดดตากฝน เพราะเมล็ดจะเสื่อมคุณภาพและเปอร์เซ็นต์การงอกลดลง ถ้าเปิดซองแล้วใช้ปลูกไม่หมด ต้องปิดซองให้สนิท และเก็บรักษาไว้ในตู้เย็น

การปลูกผัก :
เคล็ดวิชาปลูกผัก ๗ กลุ่ม
การดูแล :
รดน้ำอย่างน้อยวันละ ๒ เวลา เช้าและเย็น หรือก่อนออกจากบ้าน และหลังกลับบ้าน คอยดูการเจริญเติบโตของพืชและดูว่ามีโรค หรือแมลงมากัดกินหรือเปล่า จะได้แก้ไขได้ทัน เช่น จับหนอนออกเมื่อพบกำลังกัดกินผักของเรา หมั่นเด็ดใบที่เหี่ยวหรือแก่ออก ถอนวัชพืชออกบ้างถ้ามีมากเกินไป ควรใส่ปุ๋ยคอกเก่าหรือปุ๋ยหมักทุกสัปดาห์ พร้อมกับรดน้ำผสมกับน้ำหมักชีวภาพจากเศษอาหารและสารสมุนไพรไล่แมลงอย่างง่าย เช่น พริกแกงละลายน้ำ เพื่อบำรุงรักษาให้พืชผักเราเจริญเติบโตงอกงาม

การเก็บผัก :
พอผักงามน่ากินจนอยากเก็บแล้ว อย่าเพิ่งใจร้อน (ระยะเวลาเก็บเกี่ยวขึ้นอยู่กับชนิดผัก) ทำตามนี้นะ

เก็บผักตอนเช้า แดดไม่แรง จะทำให้ผัก กรอบ สวย น่ากินกว่าเก็บตอนบ่าย แถมยังเก็บไว้กินได้นานด้วย
ใช้มีดตัดเฉพาะส่วนที่ต้องการมาใช้บริโภค ดีกว่าใช้มือเด็ด เพราะผักจะไม่ช้ำ
สำหรับผักกินผลที่ไม่ได้เก็บถอนมาทั้งต้น ใส่ปุ๋ยหลังจากเก็บผักบ้างเพื่อไม่ให้ต้นโทรมไว
หาความรู้เพิ่มเติม :

การปลูกพืชหมุนเวียน การทำปุ๋ยหมัก การทำน้ำสกัดชีวภาพ
การทำสารสกัดสมุนไพรไล่แมลง สรรพคุณของผัก
การทำสวนครัวจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ได้ แต่เมื่อลงมือปลูก และเฝ้าดูพืชผักที่เติบโตจากฝีมือเราเองก็ทำให้ชุ่มชื่นใจไม่เบา

เคล็ดวิชาปลูกผัก ๗ กลุ่ม
๑. ผักกะหล่ำ ผักคะน้า และผักสลัด
– เป็นผักที่เรากินใบ เช่น ผักคะน้า ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง ผักกาดเขียว กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ผักสลัดต่างๆ
– กดดินเป็นหลุมลึกครึ่งเซนติเมตร หยอดเมล็ดหลุมละ ๕-๗ เมล็ด แล้วกลบดินทับบางๆ คลุมด้วยฟางหนา ๑ เซนติเมตร รดน้ำ
– พอต้นกล้างอก นับใบจริงได้ ๒-๓ ใบ ใช้กรรไกรตัดต้นอ่อนให้เหลือหลุมละ ๓ ต้นเมื่อมีใบจริง ๔ ใบตัดเหลือ ๒ ต้น ใบจริง ๕ ใบตัดเหลือ ๑ ต้นที่แข็งแรงที่สุด (ต้นอ่อนที่ตัดทิ้งนำมากินได้เลย กรอบอร่อย)
– ผักกลุ่มนี้ต้องการความชุ่มชื้น รดน้ำให้ชุ่มเสมอ อย่าให้แห้ง เฉพาะผักสลัดตั้งกระถางในร่มหรือแสงรำไร
– ระยะเก็บเกี่ยว : ผักคะน้า ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง ผักสลัด ๔๕ วัน ผักกาดเขียว ๖๐ วัน กะหล่ำต่างๆ ๗๕-๙๐ วัน
– ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว เก็บผักโดยเหลือใบไว้กับต้น ๒ ใบ ต้นจะงอกใบใหม่ให้เก็บได้อีก ๒-๓ ครั้ง

๒. ผักบุ้ง ผักชี
– เป็นผักที่เรากินใบ เช่น ผักบุ้งจีน ผักชี ขึ้นฉ่าย
– ผักบุ้งให้กดดินเป็นร่องตามยาวแล้วโรยเมล็ดเป็นแถวลงในร่อง กลบดินทับบางๆ คลุมด้วยฟางหนา ๑ เซนติเมตร แล้วรดน้ำ
– ผักชีกับขึ้นฉ่ายให้ปลูกแบบเดียวกับผักกะหล่ำ
– ผักบุ้งจีนต้องการแดดทั้งวัน แต่ผักชีและขึ้นฉ่ายชอบให้มีร่มเงาบ้าง
– ผักกลุ่มนี้ต้องการความชุ่มชื้น รดน้ำให้ชุ่มเสมอ อย่าให้แห้ง
– ระยะเก็บเกี่ยว : ผักบุ้งจีน ๓๐ วัน ผักชี ๔๕-๖๐ วัน ขึ้นฉ่าย ๖๐-๙๐ วัน

๓. แมงลัก โหระพา กะเพรา และผักชีฝรั่ง
– เป็นผักที่เรากินใบ เช่น แมงลัก โหระพา กะเพรา ผักชีฝรั่ง
– แมงลัก โหระพา กะเพรา ปลูกแบบเดียวกับผักกะหล่ำ หมั่นเด็ดดอกทิ้งเพื่อให้ต้นและใบเจริญเติบโตเต็มที่
– ผักชีฝรั่งนอกจากปลูกด้วยเมล็ดแบบผักกะหล่ำแล้ว ยังใช้ลำต้นที่มีรากติดปักชำได้ด้วย
– แมงลัก โหระพา กะเพรา รดน้ำวันละครั้งก็พอ ส่วนผักชีฝรั่งชอบความชุ่มชื้น อย่าให้แห้ง
– ระยะเก็บเกี่ยว : โหระพา กะเพรา แมงลัก ๔๕ วัน ผักชีฝรั่ง ๖๐ วัน

๔. แตงและถั่วบางชนิด
– ผักกลุ่มนี้เป็นไม้เถาเลื้อยที่เราเก็บกินผล เช่น บวบหอม ฟักเขียว แตงกวา แตงร้าน แตงไทย ฟักทอง น้ำเต้า มะระ ถั่วฝักยาว ถั่วแขก ถั่วพู ตำลึง
– หยอดเมล็ดโดยวางหลุมละ ๕ เมล็ด (ห่างกัน) แล้วกดหลุมลึกลงไปในดิน ๒-๔ เซนติเมตร คลุมฟางในหลุมหนา ๒ เซนติเมตร กลบดินให้ปิดเมล็ด
– รดน้ำแล้วปักไม้ค้างสำหรับให้พืชเกาะไว้ ถ้าปักหลังจากต้นงอกแล้วอาจโดนรากพืชขาดเสียหาย
– พอต้นกล้างอกมีใบเลี้ยงและใบจริงนับได้ ๖-๗ ใบ ถอนเหลือแต่ต้นแข็งแรงไว้หลุมละ ๓ ต้น ปล่อยโตทั้ง ๓ ต้น ไม่ต้องถอนอีก
– ห้ามพรวนโคนต้น เพราะจะทำให้รากขาด ต้นผักจะอ่อนแอต่อโรคและแมลง
– ระยะเก็บเกี่ยว : ๔๐-๖๐ วัน

๕. พริก มะเขือ
– เป็นผักที่เรากินผล เช่น พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า มะเขือเปราะ มะเขือยาว มะเขือพวง มะเขือเทศ
– กลุ่มนี้ต้องเพาะกล้าก่อน โดยใช้ภาชนะพลาสติกโปร่งๆ หรือถ้วยพลาสติกเจาะรูที่ก้นจนพรุน สูงไม่เกิน ๑๐ เซนติเมตร ใส่ดินในภาชนะแล้วหว่านเมล็ดให้กระจายบนผิวดิน กลบดินทับบางๆ รดน้ำ ใส่ภาชนะในถุงพลาสติก มัดปากถุง แล้วตั้งทิ้งไว้ ไม่ต้องรดน้ำอีก
– เมื่อต้นกล้ามีใบเลี้ยง ๒ ใบ แกะถุงออก รดน้ำวันละครั้งจนมีใบจริง ๒ ใบ ให้ย้ายไปลงในถุงเพาะชำสีดำขนาด ๒ นิ้ว (ซื้อได้ตามร้านขายต้นไม้ทั่วไป) จนต้นโตมีใบจริง ๕-๖ ใบ จึงย้ายต้นลงในกระถางจริง รดน้ำให้ชุ่ม
– ระยะเก็บเกี่ยว : มะเขือ ๙๐ วัน พริก ๑๒๐ วัน

๖. หอม กระเทียม
– เป็นผักที่เราเก็บหัวมาใช้ เช่น ต้นหอมหรือหอมแบ่ง หอมแดง กระเทียม
– ปลูกโดยใช้หัวที่เก็บไว้นาน ๔ เดือนแล้วเอามาตัดรากแห้งออก แยกหัวออกเป็นหัวเดียว ฝังลงดินให้ปลายหัวเสมอผิวดิน เว้นระยะระหว่างต้น ๕ เซนติเมตร คลุมฟางทับหนา ๑ เซนติเมตร รดน้ำ
– เมื่อต้นงอกได้ ๑๕ วันจึงค่อยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
– ต้นหอมต้องหมั่นกำจัดวัชพืช และรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ
– ระยะเก็บเกี่ยว : ต้นหอม ๔๕ วัน หอมแดง ๖๐ วัน กระเทียม ๙๐ วัน

๗.ขิง ข่า
– เป็นผักที่เราเก็บเหง้าใต้ดินมาใช้ เช่น ขิง ข่า กระชาย ขมิ้นขาว ขมิ้นชัน
– ใช้แง่งขิงหรือขมิ้นแก่มาตัดเป็นท่อนๆ ยาว ๑ นิ้ว สำหรับข่าให้ใช้ส่วนที่ติดต้นเหนือดินไว้บางส่วน กระชายให้ตัดรากออก
– เอาปูนแดงทาตรงรอยแผลที่ตัด ทิ้งให้แผลแห้งแล้วจึงนำมาฝังดินลึก ๑๐-๑๕ เซนติเมตร คลุมฟางทับ รดน้ำ
– รดน้ำวันละ ๑ ครั้ง
– ระยะเก็บเกี่ยว : ขิง ๑๒๐ วัน ข่า ขมิ้น กระชาย มากกว่า ๒๔๐ วัน แต่ถ้าต้องการขิงข่าอ่อนเก็บได้ใน ๓๐ วัน
– เดือนพฤศจิกายน-เมษายน เป็นช่วงที่ขิงข่าพักตัวทิ้งต้นเหลือแต่เหง้าใต้ดิน เดือนพฤษภาคมจึงงอกต้นขึ้นใหม่

ผักสวนครัวลอยฟ้า ไม้ประดับกินได้ การปลูกผักสวนครัวก็สามารถสร้างสรรค์ให้เกิดความสวยงามได้ไม่น้อยเช่นกัน โดยการใช้ภาชนะปลู...
13/05/2025

ผักสวนครัวลอยฟ้า ไม้ประดับกินได้ การปลูกผักสวนครัวก็สามารถสร้างสรรค์ให้เกิดความสวยงามได้ไม่น้อยเช่นกัน โดยการใช้ภาชนะปลูกที่มีน้ำหนักเบา สามารถดัดแปลงให้มีขอสำหรับแขวน หรือ เกี่ยวได้ และนำไปแขวนตามจุด หรือมุมต่างๆ ของที่พักอาศัย เหมาะสำหรับที่พักอาศัยที่มีขนาดเล็ก มีพื้นที่ว่างเล็กน้อย เช่น ตามกำแพง ริมรั้ว ระเบียง ริมหน้าต่าง ผักที่เลือกมาปลูกควรเป็นผักที่หยั่งรากตื้น เช่น ผักบุ้งจีน กวางตุ้ง ผักกาดหอม โหระพา กระเพรา ข้อควรระวังคือ ความชื้นของสวนครัวลอยฟ้าจะระเหยอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงต้องหมั่นรดน้ำอยู่บ่อยๆ

ผักสวนครัวกระถาง กระสอบ หรือภาชนะ ไม่ว่าจะเป็นกะละมัง ตะกร้า หม้อ ชาม แม้แต่กล่องโฟม ก็นำมาใช้ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ต้องเลือกชนิดผักให้เหมาะสมนั่นก็คือ ผักรากหยั่งตื้น ได้แก่ ผักชี ต้นหมอ คะน้า ผักบุ้งจีน ผักกาดขาว ผักกาดเขียว ผักกาดหอม กะหล่ำปลี สะระแหน่ ขึ้นฉ่าย ตั้งโอ๋ เป็นต้น ส่วนผักรากหยั่งลึกปานกลาง ได้แก่ กะเพรา โหระพา แมงลัก พริก มะเขือ มะเขือเทศ แตงกวา ถั่วแขก และถั่วฝักยาว เป็นต้น

พอจะได้ไอเดียกันบ้างหรือป่าวคะ ขอแนะนำอีกเรื่อง เวลาเก็บผักมากินนั้น หากเป็นผักใบ พวกคะน้า ผักบุ้ง ให้เด็ดใบมารับประทาน ไม่ต้องถอนออกทั้งต้นนะคะ เพราะมันจะแตกแขนงออกมาให้ได้รับประทานกันอีก ยิ่งถ้าเป็นพวกสะระแหน่ กะเพรา โหระพา แมงลัก ตำลึง ยิ่งเด็ดก็จะยิ่งแตกยอดให้ได้รับประทานกันตลอดปีเลยทีเดียว

วิธีกำจัดเพลี้ยแป้ง(แบบออเเกนิค)1 น้ำยาล้างจานน้ำยาล้างจานมีฤทธิ์ลดแรงตึงผิว ทำให้ขี้ผึงที่เพลี้ยแป้งสร้างคลุมตัวเสียไป ...
13/10/2024

วิธีกำจัดเพลี้ยแป้ง(แบบออเเกนิค)
1 น้ำยาล้างจาน
น้ำยาล้างจานมีฤทธิ์ลดแรงตึงผิว ทำให้ขี้ผึงที่เพลี้ยแป้งสร้างคลุมตัวเสียไป และหายใจไม่ได้ โดยใช้อัตราส่วนน้ำยาล้างจาน 10 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 20 ลิตร หากได้ผลก็จะเห็นเพลี้ยแป้งฝ่อแห้งไป
2 พริกสด
พริก กำจัดเพลี้ย
พริกสดมีสารรบกวนระบบการดูดซึมอาหารของเพลี้ยแป้ง
หรืออาจเพิ่มความรุนแรงขึ้นอีกด้วยการผสมกับพริกสด ซึ่งมีสารรบกวนระบบการดูดซึมอาหารของเพลี้ยแป้ง ในอัตราส่วน พริกสดตำละเอียด 5 ช้อนโต๊ะ น้ำยาล้างจานชนิดไม่มีสารฟอกขาว 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมและหอมแดงสดอย่างละ 1 หัวใหญ่ นำไปปั่นโดยผสมน้ำบ้างเพื่อให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำอีก 2 ลิตร หมักทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำมากรอง ก่อนนำไปใช้งาน ในกรณีที่เป็นต้นไม้ที่มีใบอ่อน อาจลองแค่บางจุดก่อน เพราะใบอ่อนอาจไหม้ได้
3 เหล้าขาว
หากสูตรเบื้องต้นยังไม่สาแก่ใจ แต่ยังกลัวสารเคมีรุนแรงอยู่ ลองใช้สูตรเหล้าขาว 2 ขวด น้ำส้มสายชู 5 % 1 ลิตร สาร EM 1 ลิตร กากน้ำตาล 1 ลิตร และน้ำสะอาด 10 ลิตร นำทั้งหมดมาผสมกันและหมักไว้นาน 10 – 15 วัน หมั่นคนไม่ให้ส่วนผสมนอนก้น และอย่าปิดฝาแน่นสนิทเพื่อให้ก๊าซที่เกิดขึ้นระบายออกได้ พอครบกำหนดแล้วให้ใช้ปริมาณ 1-5 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำสะอาด 5-10 ลิตร นำไปฉีดพ่นพืชผักทุก 3 วัน สลับกับพ่นปุ๋ยน้ำ หากเป็นพืชสวน พ่นทุก 3-7 วัน สลับกับการพ่นปุ๋ยน้ำ
ที่สำคัญการฉีดพ่นต้องทั่วถึง มิเช่นนั้นหากมีเพลี้ยแป้งอยู่ใต้ใบหรือเกาะซ้อนกันแน่น ก็อาจทำให้ตัวล่างรอดและขยายพันธุ์ต่อไปได้ คงต้องอาศัยความพยายามในการกำจัดต้นเหตุ ตัดเนื้อร้าย และใช้สารเคมีควบคู่กันไป จึงจะกำราบเจ้าเพลี้ยตัวน้อยให้สิ้นฤทธิ์ลงได้

ไอเดีย "ค้างปลูกผัก" ไว้ปลูกผักไม้เลื้อยในช่วงฤดูฝนที่มา ihome108.com
13/10/2024

ไอเดีย "ค้างปลูกผัก" ไว้ปลูกผักไม้เลื้อยในช่วงฤดูฝน

ที่มา ihome108.com

การปลูกผักไร้ดินบนต้นกล้วย ของดี ที่เวียดนาม เมื่อวันที่ 12-16 มีนาคม 2550 ผู้เขียนได้รับเกียรติจากมูลนิธิโครงการหลวง ให...
07/10/2024

การปลูกผักไร้ดินบนต้นกล้วย ของดี ที่เวียดนาม

เมื่อวันที่ 12-16 มีนาคม 2550 ผู้เขียนได้รับเกียรติจากมูลนิธิโครงการหลวง ให้เป็นผู้ประสานงานนำคณะเจ้าหน้าที่โครงการหลวง จำนวน 19 คน นำโดย ดร.ไพฑูรย์ พลสนะ และ อาจารย์เสียงทอง นุตาลัย ไปศึกษาดูงานด้านการปลูกผักเมืองหนาวตามมาตรฐาน UREPGAP ที่เมืองดาลัต จังหวัดลามด่ง และตลาดกลางสินค้าเกษตรเบิ่นดินห์ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ในโอกาสที่ไปเยี่ยมชมการปลูกพืชผักเมืองหนาวที่ "ออการ์นิคฟาร์ม" (Organik farm) ของ ดร.เหวียน บา ฮุง (Dr.Nguyen Ba Hung) ซึ่งเป็นผู้ปลูกผักที่ได้มาตรฐาน ตามมาตรฐานของยุโรปเพียงรายเดียวในประเทศเวียดนาม คณะของเราได้รับความรู้จาก ดร.ฮุง เป็นอันมาก

ดร.ฮุง สำเร็จการศึกษาทางด้านพันธุศาสตร์จากประเทศฝรั่งเศส และมีความสนใจทางด้านการเกษตรมาก เมื่อสำเร็จการศึกษาก็ไม่ยอมไปเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัย หันมายึดอาชีพเป็นเกษตรกรเสียเอง ทั้งนี้ เพราะท่านมีความรักและสนใจอาชีพการเกษตร ประกอบกับท่านอยากจะช่วยเหลือเกษตรกรพี่น้องของท่านที่ยังยากจนและขาดความ รู้ทางด้านการพัฒนาเกษตรแผนใหม่ เพื่อพัฒนาให้ทันต่อสถานการณ์ของโลก ท่านได้พัฒนาฟาร์มของท่านเพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรรอบๆ ฟาร์ม โดยเริ่มพัฒนาจากสิ่งที่มีอยู่และหาได้ในท้องถิ่น แม้แต่โครงของโรงเรือนปลูกผักก็ทำด้วยไม้ไผ่ แต่ท่านก็สามารถได้มาตรฐาน UREPGAP ท่านเพาะปลูกพืชผัก ทั้งผักกินใบและผักกินผล รวมทั้งสิ้น 89 ชนิด โดยเน้นพืชผักที่เก็บเกี่ยวเมื่อมีอายุน้อยๆ และพืชผักที่มีขนาดเล็กที่เรียกว่า "เบบี้" (baby vegetable) มีเกษตรกรที่อยู่ในเครือ (Contract farmer) ของท่าน จำนวน 12 ครอบครัว โดยแต่ละครอบครัวมีพื้นที่เพาะปลูกผัก ครอบครัวละ 2 เฮกตาร์ หรือประมาณ 12 ไร่เศษ ผลิตผักต่างๆ ได้สัปดาห์ละ 5 ตัน เมล็ดพันธุ์ผักส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศไทยและประเทศต่างๆ ทางยุโรป เช่น ฮอลแลนด์ และฝรั่งเศส เป็นต้น

เมื่อเมล็ดพันธุ์ดีต้องนำเข้าจากต่างประเทศ จึงมีราคาแพงมากอย่างชนิดที่เรียกว่า นับเมล็ดขาย ดังนั้น ดร.ฮุง และเกษตรกรเวียดนามทั่วไปในเมืองดาลัต จึงใช้เมล็ดพันธุ์อย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยใช้วิธีการตกกล้าลงในกระบะเพาะที่เป็นหลุม หลุมละ 1 เมล็ด แตกต่างจากเกษตรกรไทยของเรามาก แม้จะรู้ว่าเมล็ดพันธุ์ที่ซื้อมาแพงแต่กลับไม่สนใจแก้ปัญหา ยังคงใช้วิธีเพาะเมล็ดพันธุ์โดยการหว่านเมล็ดพันธุ์ลงในแปลงกล้า ซึ่งจะได้ต้นกล้าที่มีคุณภาพดีน้อย และมีความเสียหายค่อนข้างมาก ทั้งนี้ เพราะต้นกล้าส่วนหนึ่งจะถูกทำลายโดยด้วงหมัดผัก ซึ่งเป็นศัตรูที่สำคัญมากของผักทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะกล้า และเมื่อย้ายไปปลูกในแปลงปลูกต้นกล้าก็จะช้ำ หรือเหี่ยวเฉาหรือบางต้นอาจเน่าตายไปเลย ทำให้เกษตรกรไทยมีต้นทุนในการเพาะปลูกผักที่สูงมาก

ก่อนที่จะไปถึงการปลูกผักไร้ดินบนต้นกล้วย ใคร่ขอกล่าวถึงการเตรียมหรือการเพาะต้นกล้าเสียก่อน

ความมั่นคงที่แท้จริง
07/10/2024

ความมั่นคงที่แท้จริง

เดินทางมาไกลมากแล้ว บางทีก็นึกถึงอดีตที่เรียบง่าย..
06/10/2024

เดินทางมาไกลมากแล้ว บางทีก็นึกถึงอดีตที่เรียบง่าย..

ที่อยู่

Phra Khanong

เบอร์โทรศัพท์

+66625863686

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ 9เกษตรผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง 9เกษตร:

แชร์

ประเภท