La Vie en Road ลาวีอองโร้ด

La Vie en Road ลาวีอองโร้ด Art and cultural travel
www.lavieenroad.com

พามาดูความหรูหราแบบเฟิร์สคลาสของ BMW i7 xDrive60 M Sport ซึ่งเป็นครั้งแรกของซีรีส์ 7 ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบ 10...
18/07/2025

พามาดูความหรูหราแบบเฟิร์สคลาสของ BMW i7 xDrive60 M Sport ซึ่งเป็นครั้งแรกของซีรีส์ 7 ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบ 100%

Test drive ครั้งนี้อยู่ในกรุงเทพฯ แต่เราได้ลองฟังก์ชั่นล้ำๆ มากมายในห้องโดยสาร ทั้งเบาะหนังแท้ที่นวดได้ มีลมร้อน/เย็น เพิ่มความ relax ขณะขับขี่ ระบบสั่งงานด้วยเสียง “Hey BMW" หรือการเชื่อมต่อกับแอปฯ ในมือถือ ที่ให้เราเซ็ตอัพทุกอย่างไว้ตามความชอบเฉพาะตัว

นี่คือความหรูหราสูงสุดของ Series 7 บวกความรักษ์โลกแบบคนรุ่นใหม่ หรูหราแบบไม่ต้องตะโกน แต่ออราแรงมากค่ะ เริ่มต้นแปดล้านเบาๆ 😎

Millennium Auto โทร 1286

i7 xDrive60 M Sport by Millennium Auto ครั้งแรกของสายพันธุ์ซีรีส์ 7 ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนแบบ 100% -ประตูรถเปิดเอง....

Lake Garda ทะเลสาบสีฟ้าใสของอิตาลีสวัสดีค่ะหน้าร้อนแบบนี้ จะชวนทุกคนไปเที่ยวทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี ที่ซึ่งเราตามม...
07/07/2025

Lake Garda ทะเลสาบสีฟ้าใสของอิตาลี

สวัสดีค่ะหน้าร้อนแบบนี้ จะชวนทุกคนไปเที่ยวทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี ที่ซึ่งเราตามมาจากภาพวาดของ Gustavv Klimt จิตรกรชาวออสเตรียที่ชอบมาพักผ่อนริมทะเลสาบแห่งนี้ทุกๆ หน้าร้อน และเก็บแรงบันดาลใจจากความงามของธรรมชาติไปสร้างสรรค์งานศิลปะมากมาย

Lake Garda มีนักท่องเที่ยวท้องถิ่นชาวอิตาเลียนเอง และชาติอื่นๆ ในยุโรปเยอะมาก วันที่เราไป แทบไม่เห็นคนเอเชียเลย และวันเสาร์อาทิตย์คนเยอะมาก มากันเป็นครอบครัว พาเด็กๆ หรือน้องหมามาเดินเล่น และทำกิจกรรมอย่างเล่นน้ำ ขี่จักรยาน เดินตลาดขายอาหารและของทำมือ ฯลฯ

มีหลายหมู่บ้านกระจายตัวกันอยู่ มีโรงแรม/รีสอร์ทสวยๆ หลายแห่ง ถ้าเป็นไปได้ควรมาค้างสัก 2 คืนและใช้ชีวิตช้าๆ แบบชาวอิตาเลียน แต่ช่วงพีค ราคาที่พักสูงมาก อาจเลือกพักที่เมืองใกล้ๆ อย่าง Verona, Brescia แล้วนั่งรถไฟมาลงสถานี Desenzano del Garda ก็สะดวกดี

#ที่เที่ยวไฮไลท์
Desenzano del Garda – เมืองใหญ่ที่สุดริมทะเลสาบ บรรยากาศคึกคัก มีตลาดขายอาหาร ขายของที่ระลึก เต็มไปด้วยคาเฟ่ บาร์ ร้านอาหารบรรยากาศดี

Sirmione – หมู่บ้านแสนหวานบนแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลสาบ มี Castello Scaligero ปราสาทเก่าจากยุคศตวรรษที่ 13 ด้านในเต็มไปด้วยร้านเจลาโต้ คาเฟ่เล็ก ๆ และร้านขายของที่ระลึก

Limone sul Garda – หมู่บ้านมะนาวริมหน้าผา นักท่องเที่ยวสามารถไปเดินเล่นชิลๆ ในสวนผลไม้ จะได้กลิ่นหอมหวานของมะนาว รวมไปถึงผลไม้รสเปรี้ยวอื่นๆ เช่น ส้มและเกรปฟรุต เขาเอามาทำแยมผลไม้ขายในตลาดและร้านค้าในเมือง

Riva del Garda – ฝั่งเหนือสำหรับสายแอดเวนเจอร์ มีความอัลไพน์มากกว่า และเหมาะกับคนที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ไฮไลต์ ได้แก่ ปีนเขา, เล่นวินเซิร์ฟ, พายเรือคายัค เที่ยวน้ำตก Varone

Bardolino – เป็นศูนย์กลางของไวน์แดง Bardolino DOC ที่มีชื่อเสียง
Lazise – เมืองเก่าที่มีกำแพงล้อมรอบ ต้องไม่พลาดไปชมปราสาท Scaliger และกำแพงเมือง แวะร้านอาหารริมทะเลสาบที่มี patio สวย ๆ และที่เราชอบมากคือ Thermal park ที่อยู่ใกล้เมือง (Parco Termale del Garda)

#เที่ยวอิตาลี #เที่ยวยุโรป

The Standard Grill เมนูใหม่ เสิร์ฟกลิ่นอายบราสเซอรี่สไตล์นิวยอร์ก ด้วยรสชาติร่วมสมัยกว่าเดิมสำหรับใครที่คุ้นเคยห้องอาหาร...
22/06/2025

The Standard Grill
เมนูใหม่ เสิร์ฟกลิ่นอายบราสเซอรี่สไตล์นิวยอร์ก ด้วยรสชาติร่วมสมัยกว่าเดิม

สำหรับใครที่คุ้นเคยห้องอาหาร The Standard Grill ที่โรงแรม The Standard, Bangkok Mahanakhon อยู่แล้ว เราจะพาไปดูเมนู à la carte ใหม่ ที่เชฟตั้งใจสร้างสรรค์รสชาติให้กลมกล่อมลงตัว ระหว่างความคลาสสิกแบบอเมริกันบราสเซอรี่ และรสนิยมร่วมสมัย

#เรียกน้ำย่อยแบบมีลูกเล่น
- Prawn cocktail กุ้งเนื้อแน่นสดหวาน วางบนซอสค็อกเทลสูตรเฉพาะ เปรี้ยวสดชื่น และครีมมี่แบบพอดี
- Beef Tartare เนื้อดิบปรุงรสแบบฝรั่งเศส
- Bone Marrow กระดูกวัวอบจนไขกระดูกด้านในละลาย ราวกับเยลลี่ ราดซอสพิเศษเพิ่มเลเยอร์ของรสชาติ

#จานหลักน่าค้นหา
- Princess Wagyu Tomahawk สเต็กชิ้นใหญ่ระดับพรีเมียม น่างจนสุกกำลังดี เสิร์ฟบนแผ่นไม้ใหญ่ เครื่องเคียงครบสูตร
- M.C. Herd Lamb Cutlets เนื้อลูกแกะจากออสเตรเลีย นุ่มกำลังดี
- Baby Chicken เนื้อไก่ที่ผ่านการหมักและอบในเตาถ่านจนกรอบนอกนุ่มใน
- Grilled Seabream ปลากะพงตัวโตย่างทั้งตัวจนหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมเลมอนและซอสซัลซ่า

#ของหวานสุดสวีท
- Woodfire Cinnamon Rolls โรลอบสดจากเตาถ่าน ให้กลิ่นไม้บางๆ ตัดกับซิสไอซิ่ง หวานกำลังดี
- Tiramisu สูตรต้นตำรับ ละมุนในทุกเลเยอร์

The Standard Grill
ชั้น 5 โรงแรม The Standard, Bangkok Maganakhon
โทรจอง 02-085-8888

ดูเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/thestandardgrillbkk

แสงไฟจากยุค '80s วัฒนธรรมดิสโก้ และ Rolls-Royce รุ่นใหม่ล่าสุดในราคา 41.5 ล้านเริ่มต้นLa Vie en Road รู้สึกตื่นเต้นที่มี...
16/06/2025

แสงไฟจากยุค '80s วัฒนธรรมดิสโก้ และ Rolls-Royce รุ่นใหม่ล่าสุดในราคา 41.5 ล้านเริ่มต้น

La Vie en Road รู้สึกตื่นเต้นที่มีโอกาสเข้าร่วมงานเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของ Rolls-Royce คันนี้ที่โรงแรม Four Season Bangkok ค่ะ ยนตรกรรมไฟฟ้าที่ทรงพลังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ในชื่อ Black Badge Spectre จนอาจบอกได้ว่านี่คือจุดสูงสุดของตลาดรถยนต์เลยทีเดียว

นอกจากเอกลักษณ์ของรถยนต์ Rolls-Royce ทุกรุ่น ที่ตกแต่งภายในห้องโดยสาร เหมือนว่ายกดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนมาให้ชมแล้ว รุ่นนี้สร้างประสบการณ์พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการนำสีแสงไฟนีออนของไนต์คลับช่วงยุค '80s-'90s มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบด้วย ทั้งกระจังหน้าแพนธีออนเรืองแสง เพิ่มลูกเล่นด้วยการพ่นสีด้านใน ตัวถังรถสีม่วง ไปจนถึงโลโก้เรืองแสง และแดชบอร์ดเรืองแสง

แวบแรกที่เห็นไฟสีแบบนี้บนเวทีเปิดตัวรถ ในหัวเราคือเพลง Madonna, Depeche Mode ขึ้นมาเลย เพราะเพลงช่วงยุค '80s-'90s เป็นยุคที่เราฟังตอนเริ่มสนใจดนตรีและหัดฟังเพลงใหม่ๆ ยุคนั้นไม่มีนะคะ Youtube ต้องเสาะหาฟังวิทยุคลื่นที่เขาเปิดเพลงแบบนี้ แล้วก็หาอ่านตามแมกกาซีนดนตรี เวลากูรูเขาวิเคราะห์หรือแนะนำอะไรใหม่ๆ ซึ่งมันเปิดโลก และทำให้เราชอบดนตรีมาถึงทุกวันนี้

บรรยากาศของยุค '80s-'90s ทั้งดนตรี แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ผู้คน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ จากดิสโก้ ซินธ์ป็อป มาสู่ฟังก์ เฮาส์ เทคโน อาร์แอนด์บี และฮิปฮอป รวมถึงดีเจที่ใช้แผ่นไวนิล เริ่มมีการมิกซ์เพลงต่อเนื่อง จนเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมดีเจมืออาชีพ

ในขณะที่แฟชั่น '80s ก็มีเสื้อผ้าสีเรืองแสง กางเกงรัดรูป เมกอัพสีสันสดใส คนสนุกกับการแต่งตัวไปไนท์คลับ ไปเต้นกันจริงจัง ไม่ใช่แค่ไปยืนดื่ม มันคือไฮไลต์ของชีวิตกลางคืนยุคนั้นเลย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ก โตเกียว ลอนดอน หรือแม้แต่กรุงเทพฯ

นิยามของศิลปะยุค ’80s-'90s มันคือการผสมผสานของความจัดจ้าน แฟชั่นสุดขั้ว แสงสีอลังการ และวัฒนธรรมการแสดงออกอย่างอิสระ เชื่อว่าคนทำงานสร้างสรรค์หลายๆ คนในยุคนี้ จะต้อง inspire อะไรบางอย่างจากยุคนั้นมาไม่มากก็น้อย

และเมื่อ Rolls-Royce หยิบเอาสิ่งนี้มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ เราเชื่อว่ามันกระตุก attention ของคนสายครีเอทีฟหลายๆ คนเลย

ยิ่งเมื่อรูปลักษณ์ที่ถูกขบคิดมาอย่างดีในทุกดีเทล แถมยัง customize ตามความต้องการเฉพาะบุคคลได้ มาแมตช์เข้ากับการปรับปรุงในเชิงวิศวกรรมของตัวรถที่สูงขึ้น เพื่อรองรับการขับขี่ทุกรูปแบบ รถคันนี้แทบจะเหมือนพรมวิเศษ “Magic Carpet Ride" ที่พาเราไปในทุกจุดหมายอย่างสะดวกสบายเหนือชั้น สมคอนเซ็ปต์ "The Alter Ego, Amplified"

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Rolls-Royce Motor Cars Bangkok

Meliá Milano & City Escapeที่พัก 5 ดาว และพิกัดจุดเช็คอินสุดเก๋ในมิลานถ้ามองว่าโรมคือความโอ่อ่า มิลานก็คงเป็นความชิคมีสไ...
10/06/2025

Meliá Milano & City Escape
ที่พัก 5 ดาว และพิกัดจุดเช็คอินสุดเก๋ในมิลาน

ถ้ามองว่าโรมคือความโอ่อ่า มิลานก็คงเป็นความชิคมีสไตล์ที่น่าหลงใหล เมืองแห่งดีไซน์และแฟชั่นที่ทุกมุมมีเรื่องราวให้บอกเล่าไม่รู้จบ

มามิลานครั้งนี้ เราพักที่ Meliá Milano โรงแรม 5 ดาว
ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Lotto ซึ่งเดินทางโดยรถไฟใต้ดินจากใจกลางเมืองประมาณไม่เกิน 20 นาที

เข้ามาถึงจะพบกับล็อบบี้อลังการ มีแชนเดอเลียร์ใหญ่ตรงโถงบันได เราทำการเช็คอิน ก่อนที่พนักงานจะพาขึ้นลิฟต์ไปยังห้องพัก ซึ่งมีเตียง king bed ใหญ่มาก นุ่มสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทีวี ตู้เย็น โต๊ะทำงาน และห้องน้ำก็มี amenities หอมๆ ให้เราเลือกใช้

อาหารเช้าอยู่ที่ชั้นล่าง แต่สำหรับแขกที่ได้ privilege จาก The Level จะได้ไปใช้ห้องที่ไพรเวท ซึ่งนอกจากบุฟเฟต์อาหารเช้าที่ให้เลือกตักเองแล้ว เราสามารถสั่ง a la carte ให้เขาทำแบบสดใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเครป วาฟเฟิล หรือเมนูสารพัดไข่

และอีกหนึ่ง benefit สำหรับแขก The Level ก็คือ free aperitivo ในช่วงเย็นถึงค่ำ นอกจากเครื่องดื่มฟรีหลากหลายแล้ว ก็มีของกิน และขนมเค้กละลานตา ให้ทานด้วย

อ่านรีวิวเต็มได้ที่ https://www.lavieenroad.com/good-night/melia-milano-hotel-italy/

👉 แจกพิกัดจุดเช็คอินสุดเก๋ในมิลาน
1. มหาวิหารดูโอโมแห่งมิลาน (Duomo di Milano) - ถ้าคิดอะไรไม่ออก ขอให้ไปเริ่มตรงนี้ก่อนเพราะเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง วิหารหินอ่อนแบบโกธิกอลังการ มีระเบียงบนหลังคาให้ชมวิวเมือง

2. แกลเลอเรีย วิตโตรีโอ เอ็มมานูเอลที่ 2 (Galleria Vittorio Emanuele II) - รวมร้านแบรนด์เนมละลานตา ภายใต้โดมกระจกสวยงาม

3. Pasticceria Marchesi Milano - หนึ่งในร้านขนมหวานที่เก่าแก่และโดดเด่นที่สุดของมิลาน สาขา Galleria Vittorio Emanuele II กาแฟดี แถมมีเพสทรีหลากหลาย ทั้งเค้ก มันดาลา โครเกต์ มาการง แล้วที่นั่งชั้นบนมีมุมกระจกที่มองลงมาเห็นงานฝังกระเบื้องบนพื้น Galleria

4. Castello Sforzesco - ปราสาทเก่าแก่ยุคศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่งานศิลปะ

5. สวนสาธารณะเซมเปียเน (Parco Sempione) - สวนขนาดใหญ่ใกล้ปราสาท Sforzesco เหมาะไปเดินเล่น ปิกนิก

6. Porta Nuova - ย่านสมัยใหม่ของมิลาน มีอาคารเขียวที่ปลูกต้นไม้ทั้งด้านนอก ชนะรางวัลด้านการออกแบบยั่งยืน

7. Porta Magenta - ย่านเก่าแก่ เป็นที่อยู่อาศัยของคนท้องถิ่นฐานะดีและชนชั้นกลางระดับสูง บรรยากาศผสมผสานระหว่างความคลาสสิกของยุโรปเก่า และความมีระดับแบบร่วมสมัย ร้าน Pasticceria Marchesi ต้นตำรับอยู่ที่ย่านนี้

8. De Santis - ร้าน Panini เก่าแก่ มีมาตั้งแต่ปี 1964 เขามีแซนด์วิชอิตาเลียนคลาสสิก เน้นเนื้อแฮม cured meat ชีสที่มีเอกลักษณ์ เช่น fontina สั่งทำสดใหม่แต่ละวัน

9. Navigli - ย่านคลองเก่าแก่และถนนศิลปะ มีร้านอาหาร บาร์ ให้ไปนั่งชิลช่วงยามเย็น ดูพระอาทิตย์ตก

10. Officina 12 - ร้านอาหารแนะนำในย่าน Navigli เสิร์ฟเมนูที่เน้นวัตถุดิบท้องถิ่นและตามฤดูกาล: พาสต้าทำมือ, ซีฟู้ดสด และเนื้อย่างบนเตาถ่าน และด้านในมีบาร์ Gino12 ซึ่งเป็น Gin Bar แรกของมิลาน นำเสนอจินกว่า 100 แบรนด์ รวมทั้งเมนูค็อกเทลจิน-โทนิคและแก้วพิเศษที่สร้างสรรค์ใหม่

#เที่ยวมิลาน #โรงแรมมิลาน #เที่ยวอิตาลี

เดินเล่นช้าๆ ในเมืองเก่า Aix-en-Provence10 พิกัดที่เที่ยวสายอาร์ตและคาเฟ่น่ารักนี่คือครั้งที่ 2 แล้ว ที่เรามาเมืองเอ็กซอ...
08/06/2025

เดินเล่นช้าๆ ในเมืองเก่า Aix-en-Provence
10 พิกัดที่เที่ยวสายอาร์ตและคาเฟ่น่ารัก

นี่คือครั้งที่ 2 แล้ว ที่เรามาเมืองเอ็กซองโพรวองซ์ (Aix-en-Provence) เมืองที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เป็นจุดหมายในฝันของคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวิถีชีวิตแบบ Provençal ท่ามกลางบรรยากาศที่มีทั้งกลิ่นอายความเก่าและวิถีชีวิตสมัยใหม่ ภาพของน้ำพุตามจุดต่างๆ ของเมือง แสงแดดอบอุ่นถึงขั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ได้รับแสงแดดมากกว่า 300 วัน/ปี ตลาดที่คึกคัก และผู้คนที่นั่งจิบกาแฟริมถนน เป็นภาพจำของเมืองเอ็กซ์ที่เราอยากเปิดวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

1. Hôtel de Caumont – Centre d’Art
พระราชวังสไตล์บาโรกสุดหรูที่ได้รับการปรับปรุงเป็นศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมใจกลางเมือง Aix-en-Provence ชั้นล่างมีร้านอาหารและคาเฟ่ Café Caumont

2. Fondation Vasarély ดูงาน optical art ที่มิวเซียมสุดโมเดิร์น

3. Calissons Brémond ร้านขนมกาลิสซงประจำเมือง Aix

4. Léonard Parli อีกหนึ่งร้านขนมหวานโบราณที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งเอ็กซองโพรวองซ์ ซึ่งโด่งดังไม่แพ้กัน ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1874

5. Boulangerie Jacob’s ร้านขนมปังและขนมอบใจกลางเอ็กซองโพรวองซ์ ที่มีขนมปังช็อกโกแลตอร่อยมากก

6. Aux Pâtes Fraîches สำหรับสายพาสต้า และเครื่องเทศเมดิเตอร์เรเนียน ทุกโปรดักต์เป็นโฮมเมด

7. La Rotonde และ Cours Mirabeau น้ำพุขนาดใหญ่ตรงวงเวียนและถนนสายหลักของเมือง จุดนัดพบที่มีทั้งตลาด และคาเฟ่เก๋มากมาย

8. Café du Palais ร้านบิสโตร-บราสเซอรีบรรยากาศดี มีสลัด พาสต้าอร่อย

9. Jörgï ร้านอาหารสำหรับสายสุขภาพ สร้างความน่าสนใจด้วยการให้ลูกค้าเลือกวัตถุดิบเอง

10. Colde เรามาทานบรันช์ที่นี่ ป็นโฮมเมด 100% เมนูหลากหลาย ทั้งแซนด์วิช โทสต์ เบอร์เกอร์ สลัด พาสต้า และ Buddha Bowl แถมมีเมนูวีแกนด้วย

อ่านบทความเต็มได้ที่ https://www.lavieenroad.com/escape/aix-en-provence-what-to-do/

#เที่ยวฝรั่งเศส

New vlog is here!คลิปนี้พาเที่ยวหมู่บ้านเล็กๆ แห่งเทือกเขา Luberon ทางใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งติดอันดับท็อปในกลุ่มหมู่บ้านที่...
04/06/2025

New vlog is here!
คลิปนี้พาเที่ยวหมู่บ้านเล็กๆ แห่งเทือกเขา Luberon ทางใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งติดอันดับท็อปในกลุ่มหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส อย่าง Gordes, Lourmarin, Roussillon ไปจนถึงตามรอยโลเกชั่นถ่ายหนังที่หมู่บ้าน Cucuron

สัมผัสเสน่ห์แบบธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่งของโพรวองซ์ เดินตลาดดูผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ตั้งแต่น้ำผึ้ง น้ำมันมะกอก ชิมไวน์ ลาเวนเดอร์ ฯลฯ แวะคาเฟ่ ร้านอาหาร วิวหลักล้าน รวมทั้งโรงแรมสวยใน L'Isle-sur-la-Sorgue

แถมบอกพิกัดทะเลสาบลับที่ไม่แมสแต่บรรยากาศดีมาก ทั้งหมดนี้เดินทางโดยรถวินเทจ Citröen 2CV คันสีแดงสุดน่ารัก ใครอยากเช่ารถคันนี้สำรวจโพรวองซ์ ไปชมกันในคลิปเลยค่ะ

#เที่ยวโพรวองซ์ #เที่ยวฝรั่งเศส

#เที่ยวโพรวองซ์ #เที่ยวฝรั่งเศสใต้ ขับรถเที่ยว Luberon กับ 10 สถานที่ไฮไลต์ในหุบเขาแห่งหมู่บ้านสวยของฝร...

แจกพิกัดขับรถเที่ยว Luberon หุบเขาแห่งหมู่บ้านสวย ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ด้วยรถวินเทจ 2CV ครบฟีลความเป็นโพรวองซ์แบบฟินๆhtt...
25/05/2025

แจกพิกัดขับรถเที่ยว Luberon หุบเขาแห่งหมู่บ้านสวย ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ด้วยรถวินเทจ 2CV ครบฟีลความเป็นโพรวองซ์แบบฟินๆ

https://www.lavieenroad.com/escape/luberon-provence-south-of-france/

Destination Luberon
#เที่ยวโพรวองซ์ #เที่ยวฝรั่งเศส

สัมผัสชนบทแห่งโพรวองซ์ในหุบเขาแห่ง Luberon ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสที่ล้อมรอบหมู่บ้านเก่าแก่ เดินตลาดท้องถิ่น ช....

เที่ยวโพรวองซ์ในฤดูใบไม้ผลิ เราเริ่มต้นกันที่เมืองชื่ออ่านยากสักนิด L'Isle-sur-la-Sorgue อยู่ทางใต้ของฝรั่งเศส ไม่ไกลจาก...
18/05/2025

เที่ยวโพรวองซ์ในฤดูใบไม้ผลิ เราเริ่มต้นกันที่เมืองชื่ออ่านยากสักนิด L'Isle-sur-la-Sorgue อยู่ทางใต้ของฝรั่งเศส ไม่ไกลจาก Avignon และ Aix en Provence ที่นี่คือเมืองแห่งของเก่า ของแอนทีก เฟอร์นิเจอร์วินเทจ หนังสือหายาก ของแต่งบ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราว

หลายคนเรียกเมืองนี้ว่า 'เวนิสแห่งโพรวองซ์' เพราะมีแม่น้ำลำคลองไหลผ่านทั่วเมือง ร้านอาหารและคาเฟ่น่ารักที่พร้อมเสิร์ฟอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นในโพรวองซ์ และยังมีตลาดนัดของเก่าที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสทุกวันอาทิตย์

ถ้าอยากจะพักค้างที่นี่สักคืนสองคืน แนะนำโรงแรมโลเกชั่นดีเพราะอยูู่ใจกลางเมือง L’Isle-sur-la-Sorgue เลย ชื่อว่า Grand Hôtel Henri โรงแรม 4 ดาวที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ ความงามทางสถาปัตยกรรม และการบริการที่ใส่ใจรายละเอียด โดยอยู่ในอาคารที่อายุเก่าแก่กว่า 230 ปี เป็นสถานที่สำคัญของเมืองเลยก็ว่าได้ เคยเป็นทั้งสถานที่จัดแสดงคาบาเรต์ ออแบร์จ ก่อนจะมาเป็นโรงแรม ซึ่งก็เพิ่งจะได้รับการรีโนเวทแบบพลิกโฉมใหม่หมดเมื่อปี 2015 ทำให้ที่นี่กลับมามีชีวิตอีกครั้งในแบบร่วมสมัย สไตล์ French chic

อ่านรีวิวเต็มได้ที่ https://www.lavieenroad.com/good-night/grand-hotel-henri-llsle-sur-la-sorgue/

Destination Luberon
#เที่ยวโพรวองซ์ #เที่ยวฝรั่งเศส

Francaเดทสุดโรแมนติกที่ร้านอิตาเลียนใจกลางย่านอโศกฟรังกาเป็นเหมือน hidden gem ในซอยสุขุมวิท 10 ที่ไม่ไกลจาก BTS อโศก เรา...
28/02/2025

Franca
เดทสุดโรแมนติกที่ร้านอิตาเลียนใจกลางย่านอโศก

ฟรังกาเป็นเหมือน hidden gem ในซอยสุขุมวิท 10 ที่ไม่ไกลจาก BTS อโศก เราตามมาจากรีวิว 5 ดาวในกูเกิ้ล ที่ทุกคนกล่าวชมเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งอาหารอร่อยและบริการดีเยี่ยม

เราประทับใจตั้งแต่ก่อนมา เพราะพนักงานโทรมารีเช็คอีกทีเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะคอนเฟิร์ม booking แน่ๆ และถามว่าขับรถมาไหม เพื่อ make sure จำนวนที่จอดที่จำกัดหน้าร้านให้รองรับได้

ภายในร้านมีส่วนของร้านอาหารหลัก และพาวิลเลียนด้านข้างที่มีสนามหญ้าเป็นโซนบาร์หรือจัดไพรเวทไดนิ่ง จำนวนโต๊ะไม่เยอะมาก พนักงานจึงบริการทั่วถึงและทำให้เรารู้สึกพิเศษ ไม่แปลกใจที่คนมักมาฉลองวันเกิด ฉลองโอกาสพิเศษ และเดทสุดโรแมนติก

ค็อกเทลที่นี่ให้เรา customize ลวดลายตามใจชอบ หรือจะใส่ชื่อตัวเองก็ได้ โดยมีค็อกเทลชื่อน่ารักอย่าง Summer in Como, Postcards from Rome และ Tuscan Sunset เหมือนเรากำลังสัมผัสกลิ่นอายของเมืองในอิตาลีจริงๆ

เขาเสิร์ฟอาหารอิตาเลียนที่ปรุงแบบทันสมัย รสชาติเข้มข้นดีเหมาะกับคนไทย มี appetizer อย่าง Tuna tartare & smoked salmon crispy cone หรือ Fresh scallop & avocado tartare ต่อด้วย Burrata salad ที่ชีสฉ่ำมาก ก่อนจะสั่งพาสต้า Crab aglio olio เนื้อปูเน้นๆ และสำหรับคนชอบสเต็ก ห้ามพลาด Australian Wagyu Ribeye steak ย่างบนเตาถ่าน กลิ่นหอมอ่อนๆ แถมเนื้อนุ่มละลายในปาก

ของหวาน เราแนะนำ Lemon sorbet ให้ความสดชื่น หรือ Lemon crême brûlée บาลานซ์เปรี้ยวหวานลงตัว กลับบ้านอิ่มสบายใจ

Franca
ซอยสุขุมวิท 10
เปิดอังคาร-อาทิตย์ 11.00-14.00 และ 17.00-22.00
โทรจอง 097-426-6423

#ร้านอาหารอิตาเลียน

Villa Frantzénจากบ้านส่วนตัวหลังงาม สู่ร้านอาหารนอร์ดิกสไตล์โมเดิร์นในย่านบ้านพักเก่าแก่ซอยเย็นอากาศ กรุงเทพฯ บรรยากาศเง...
07/02/2025

Villa Frantzén
จากบ้านส่วนตัวหลังงาม สู่ร้านอาหารนอร์ดิกสไตล์โมเดิร์น

ในย่านบ้านพักเก่าแก่ซอยเย็นอากาศ กรุงเทพฯ บรรยากาศเงียบสงบแบบคนละโลกกับถนนสาทร เราเลี้ยวรถเข้ามาที่วิลล่า ฟรานต์เซน ร้านอาหารนอร์ดิกที่เนรมิตขึ้นบนพื้นที่สวยๆ บ้านหลังสีขาว สนามหญ้าสีเขียว และน้ำพุ

Frantzén Group มีร้านอาหารในเครือถึง 6 แห่งทั่วโลก โดยมี 3 ร้านในสวีเดน 1 ร้านในสิงคโปร์ 1 ร้านในอังกฤษ และก็ 1 ร้านแห่งนี้ในกรุงเทพฯ เป็นร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นนอร์ดิกที่มีกลิ่นอายเอเชียน ภายใต้การดูแลด้านอาหารโดยเชฟมาร์ติน เอนสตรอม (Martin Enstrom)

โซนวิลล่ามี 2 ชั้น ชั้นล่างรองรับแขกได้ 60 ที่นั่ง ส่วนด้านบนเป็นห้องไพรเวท 3 ห้อง ข้างๆ วิลล่ามีค็อกเทลบาร์ให้เราไปดื่มเรียกน้ำย่อยก่อนดินเนอร์ก็ได้

ภายในวิลล่า ใช้ไฟโทนอุ่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ สัมผัสถึงความเป็นสแกนดิเนเวียนเลย ตรงครัวเป็นแบบเปิด เราจะเห็นการทำงานทั้งหมดของทีมครัวราวกับเป็นการแสดงสด ก่อนเขาจะยกอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะตามคอร์สที่เราเลือก

คนไทยอาจไม่คุ้นกับอาหารนอร์ดิกเท่าไร โดยหลักๆ ก็คือจะเน้นรสชาติเปรี้ยวและเค็มแบบชัดเจน รวมทั้งการหมักดองซึ่งเป็นวิธีถนอมอาหารของเมืองหนาว แต่ที่นี่เขาก็จะ twist ด้วยการเติมกลิ่นอายความเป็นอาหารเอเชียนลงไป กลายเป็นเอกลักษณ์ที่น่ามาลองสัมผัสสักครั้ง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://villafrantzen.com
เปิดทุกวัน 17.30-22.00 น.
📍ซอยเย็นอากาศ 3
ราคาเริ่มต้น 3,500++ บาท
โทรจองที่นั่ง 08 7344 8222

The Sukhothai Spaสปาสุดหรูในเรือนไทย บรรยากาศสุโขทัย ใจกลางกรุงเทพฯจากถนนสาทรที่แสนวุ่นวาย โรงแรมเดอะ สุโขทัย กรุงเทพฯ เ...
24/11/2024

The Sukhothai Spa
สปาสุดหรูในเรือนไทย บรรยากาศสุโขทัย ใจกลางกรุงเทพฯ

จากถนนสาทรที่แสนวุ่นวาย โรงแรมเดอะ สุโขทัย กรุงเทพฯ เหมือนเป็นโอเอซิสใจกลางเมืองที่มองไปมีแต่สีเขียวและความเงียบสงบ

วันนี้เรามาสปา ซึ่งอยู่ภายในพื้นที่โรงแรมแต่แยกส่วนออกไป ใกล้ๆ กับสนามหญ้ากว้างกว่า 7,000 ตร.เมตร สร้างเป็นกลุ่มเรือนไทยที่เขายกของแท้มาออกแบบและปรับปรุงใหม่โดยทีมสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญสถาปัตยกรรมไทย ด้วยแรงบันดาลใจจาก “สุโขทัย” ตามชื่อของโรงแรม

แค่ทางเดินเข้าสปาก็สวยและขลังมาก เพราะมีต้นแบบจากวัดศรีชุมในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มีบ่อน้ำที่เรียกว่าตระพัง ลวดลายดอกบัวที่พื้นสระเชื่อมโยงเราสู่ความสงบ ส่วนทางเดินยาวที่ทอดไป ก็เหมือนเป็นการเตรียมความพร้อมทั้งกายและใจ เพื่อรับการบำบัดที่ล้ำลึกไปถึงระดับจิตวิญญาณ

ที่นี่มีทรีตเมนต์ทั้งเพื่อสุขภาพและความงาม ซึ่งวันนี้เราได้มาลอง Booster VipO2 Treatment by BR 90 นาที เป็นเฟเชียลทรีตเมนต์เพื่อความกระจ่างใส ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Biologique Recherche แบรนด์สกินแคร์เก่าแก่จากประเทศฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อในเรื่องส่วนผสมที่เข้มข้นและประสิทธิภาพสูง เน้นให้ความสำคัญกับโครงสร้างผิวและฟื้นฟูตามสภาพผิวที่แตกต่างของแต่ละคน

เรือนไทยทั้งหมด 7 หลัง แต่ละหลังคือหนึ่งห้องทรีตเมนต์ที่เป็นส่วนตัว จะมาเดี่ยวหรือคู่ ก็มีห้องให้เลือกตามความต้องการ เขาตกแต่งด้านในโดยใช้โทนสีเขียวแบบเดียวกับเครื่องสังคโลก มาพร้อมความทันสมัยอย่างห้องอาบน้ำ และจากุซซี่ ให้เราผ่อนคลายอย่างเต็มที่

อ่านรีวิวเต็มได้ที่ https://www.lavieenroad.com/escape/the-sukothai-spa-bangkok/

The Sukhothai Spa
โรงแรมเดอะ สุโขทัย กรุงเทพฯ เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-23.00น.
โทร 02-344-8676
More info: www.facebook.com/

ที่อยู่

Phra Nakhon

เบอร์โทรศัพท์

+66989683095

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ La Vie en Road ลาวีอองโร้ดผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง La Vie en Road ลาวีอองโร้ด:

แชร์

ประเภท

Anya Wan

นักเขียน/นักดนตรี เจ้าของผลงานหนังสือ 'เวียนนา ลาทีโด' ที่นอกจากเล่นเชลโลแล้ว ยังชอบออกเดินทางคนเดียวอยู่เสมอๆ ทั้งแกลเลอรี่ ตลาดของเก่า ร้านกาแฟ และเมืองที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่

I’m a writer and musician who is author of ‘Vienna La Ti Do’. Besides playing cello, I have passion for solo travel. You can find me at art galleries, flea markets, nice cafes, and cultural cities. Let’s travel together!

IG: lavie.enroad

Youtube: La Vie en Road