Pthai พี่ไทเล่าให้ฟัง

Pthai พี่ไทเล่าให้ฟัง อัพเดทความเคลื่อนไหวในออสเตรเลีย และที่อื่นๆ ให้คุณได้รู้เท่าทันเหตุการณ์

ข่าวด่วน! รัฐบาลเตรียมคุมเข้มกองทุนซูเปอร์ฯ หลังเกิดเหตุ "Shield Fund" ล่มสำหรับคนไทยในออสเตรเลียที่กำลังวางแผนอนาคตทางก...
29/09/2025

ข่าวด่วน! รัฐบาลเตรียมคุมเข้มกองทุนซูเปอร์ฯ หลังเกิดเหตุ "Shield Fund" ล่ม
สำหรับคนไทยในออสเตรเลียที่กำลังวางแผนอนาคตทางการเงินและมีเงิน ซูเปอร์แอนนูเอชั่น (Superannuation) ข่าวนี้เป็นเรื่องที่ต้องติดตามครับ! รัฐบาลกลางกำลังส่งสัญญาณว่าจะ เพิ่มความเข้มงวดของกฎระเบียบ เพื่อจัดการกับกองทุนซูเปอร์ฯ หรือกองทุนรวมเพื่อการลงทุนที่เข้าข่าย "ไม่น่าเชื่อถือ"

ชนวนเหตุคืออะไร?
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเกิดกรณี Shield Master Fund ล่ม โดยกองทุนนี้เป็นบริษัทในเครือของ Macquarie Group ซึ่งถูกฟ้องร้องโดยคณะกรรมการหลักทรัพย์และการลงทุนแห่งออสเตรเลีย (ASIC)

การคืนเงินครั้งใหญ่: Macquarie ยอมรับว่าไม่ได้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและยุติธรรม และตกลงที่จะ จ่ายคืนเงินเต็มจำนวน 321 ล้านดอลลาร์ ให้กับสมาชิก Shield 3,000 ราย ภายในวันพรุ่งนี้

รัฐบาลจะทำอย่างไรต่อไป?
นาย Daniel Mulino ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่ากำลังทำงานร่วมกับ ASIC เพื่อปฏิรูปกฎหมายให้ ยากขึ้น ในการขอใบอนุญาตจัดตั้งกองทุนที่อาจก่อปัญหาได้

"เกณฑ์ต่ำเกินไป": ประธาน ASIC เคยกล่าวไว้ว่า "เกณฑ์" ในการลงทะเบียนจัดตั้งกองทุนรวมนั้นต่ำมาก ไม่ว่าสินทรัพย์ที่ลงทุนจะเป็นอะไรก็ตาม (เช่น อัลปาก้า หรือมีมคอยน์) หากมีเอกสารครบถ้วน ASIC ก็ต้องลงทะเบียนให้ ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่รัฐบาลต้องการปิด

เตือนให้ระวัง: รัฐมนตรี Mulino เตือนให้ชาวออสเตรเลียระวัง กลยุทธ์การขายแบบกดดันสูง เช่น การขอให้ตัดสินใจทันที หรือโฆษณาออนไลน์ที่ดูหวือหวาเกินจริง
การเข้มงวดของรัฐบาลครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ปกป้องผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ที่ออมเงินในกองทุนซูเปอร์ฯ เพื่ออนาคตเกษียณอายุ ดังนั้น หากคุณกำลังพิจารณาเปลี่ยนกองทุนหรือลงทุน ควรตรวจสอบข้อมูลและเงื่อนไขอย่างรอบคอบเป็นพิเศษครับ

ครดิตภาพโดย 9news.com.au

โอกาสมาถึงแล้ว! รัฐบาลออสเตรเลียเปิดโครงการช่วยซื้อบ้านด้วยเงินดาวน์แค่ 5% เริ่มวันพุธนี้มีข่าวดีสำหรับคนไทยในออสเตรเลีย...
29/09/2025

โอกาสมาถึงแล้ว! รัฐบาลออสเตรเลียเปิดโครงการช่วยซื้อบ้านด้วยเงินดาวน์แค่ 5% เริ่มวันพุธนี้
มีข่าวดีสำหรับคนไทยในออสเตรเลียที่กำลังฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง! รัฐบาลกลางภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแอนโทนี แอลบาเนซี เตรียมเปิดตัว โครงการเงินดาวน์สำหรับผู้ซื้อบ้านครั้งแรก (First Home Buyer Scheme) ที่ขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น โดยจะ เริ่มต้นในวันพุธที่ 1 ตุลาคมนี้

โครงการใหม่ดียังไง?
เงินดาวน์แค่ 5%: ผู้ซื้อบ้านครั้งแรกทุกคนสามารถเข้าตลาดอสังหาฯ ได้ด้วยเงินดาวน์เริ่มต้นเพียง 5% เท่านั้น ส่วนที่เหลือของเงินดาวน์จะได้รับการค้ำประกันจากรัฐบาล

ไม่มีโควต้า ไม่มีเพดานรายได้: โครงการใหม่นี้ เปิดให้ผู้ซื้อบ้านครั้งแรกทุกคนเข้าถึงได้ โดยไม่มีการจำกัดจำนวนสิทธิ์หรือจำกัดเพดานรายได้อีกต่อไป

เพดานราคาสูงขึ้น: รัฐบาลจะปรับเพิ่มเพดานราคาทรัพย์สินที่เข้าร่วมโครงการให้สูงขึ้น ตามราคาบ้านเฉลี่ยในปัจจุบัน ทำให้คุณมีตัวเลือกบ้านมากขึ้น

ประหยัดค่าประกัน: คาดว่าในปีแรก ผู้ใช้โครงการจะสามารถ ประหยัดค่าประกันสินเชื่อ (LMI) ได้รวมกันประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์

คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ: รีบเกินไปอาจเจ็บตัว!
แม้โครงการนี้จะช่วยให้เข้าถึงการซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์กลับออกโรงเตือน!
Melinda Jennison ประธาน REBAA (สมาคมตัวแทนผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์) เผยว่า ตลาดอสังหาฯ ในหลายพื้นที่เริ่มร้อนแรงและราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเดือนที่ผ่านมา เพราะผู้ซื้อเกิดความ "ตื่นตระหนก" และกลัวว่าจะตกรถ (Fear of Missing Out - FOMO)
ผลกระทบคือ:

ราคาบ้านที่เคยขายได้ 750,000 ดอลลาร์เมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้พุ่งไปเกือบ 800,000 ดอลลาร์แล้ว

ผู้ซื้อบางรายรีบซื้อแบบ ไม่ได้ไปดูทรัพย์สินจริง หรือ ยอมจ่ายเกินราคา ก่อนที่โครงการจะเริ่ม
ข้อแนะนำ: ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่าแม้รัฐบาลจะช่วยเรื่องเงินดาวน์ได้ แต่หากไม่มีการเพิ่มอุปทาน (จำนวนบ้าน) ในตลาด การเพิ่มอุปสงค์ (ความต้องการซื้อ) จะยิ่ง ผลักดันให้ราคาบ้านสูงขึ้นไปอีก ซึ่งจะทำให้การขอสินเชื่อยากขึ้นอยู่ดี คำแนะนำคือ ให้ผู้ซื้อตั้งสติ ยึดติดกับงบประมาณที่วางไว้ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อไม่ให้ถูกจูงใจให้ซื้อแพงเกินไปเพราะความกลัว
ดังนั้น โอกาสมาถึงแล้ว แต่อย่าลืมวางแผนการเงินให้รอบคอบและอย่าใจร้อนจนเกินไปนะครับ!

ครดิตภาพโดย 9news.com.au

ฝันสลาย! RBA ลดดอกเบี้ยทำคนออสซี่เก็บเงินซื้อบ้านยากขึ้นสำหรับหลายๆ คนที่กำลังเก็บเงินเพื่อซื้อบ้านหลังแรกในออสเตรเลีย อ...
23/09/2025

ฝันสลาย! RBA ลดดอกเบี้ยทำคนออสซี่เก็บเงินซื้อบ้านยากขึ้น

สำหรับหลายๆ คนที่กำลังเก็บเงินเพื่อซื้อบ้านหลังแรกในออสเตรเลีย อาจจะต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่! แม้ว่าการที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ทยอย ลดอัตราดอกเบี้ย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์, พฤษภาคม และสิงหาคมที่ผ่านมา จะเป็นข่าวดีสำหรับคนที่มีสินเชื่อบ้านอยู่แล้ว แต่สำหรับคนเก็บเงินกลับเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ

ทำไมการลดดอกเบี้ยถึงเป็นปัญหา?
ดอกเบี้ยเงินฝากลดฮวบ: เมื่อดอกเบี้ยนโยบายลดลง ดอกเบี้ยที่ธนาคารจ่ายให้กับบัญชีออมทรัพย์ก็ลดตามไปด้วย ทำให้เงินที่ตั้งใจเก็บไว้เติบโตช้าลง

เป้าหมายไกลออกไป: คู่รักคู่หนึ่งที่กำลังเก็บเงินซื้อบ้านเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน พวกเขาเก็บเงินมา 2 ปีแล้ว แต่การลดลงของดอกเบี้ยเงินฝากทำให้เป้าหมายการซื้อบ้านต้องเลื่อนออกไปอีก

มีเงินออมมหาศาล แต่เก็บยากขึ้น!
แม้ว่าตัวเลขทางการจะแสดงว่าชาวออสเตรเลียมีเงินฝากรวมกันถึง 1.64 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในการออมเงิน

ดอกเบี้ยล่อใจ แต่มีเงื่อนไข: เมื่อหลายเดือนก่อนยังมีบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 5.5% แต่ตอนนี้เหลือเพียงแค่ที่เดียว และยังมาพร้อมกับเงื่อนไขที่ซับซ้อน เช่น ต้องฝากเงินเพิ่มทุกเดือน หรือจำกัดอายุผู้ใช้

ไม่เป็นไปตามคาด: รายงานจาก ACCC พบว่ากว่า 71% ของบัญชีเงินฝากไม่ได้รับดอกเบี้ยโบนัส เพราะทำตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ไม่ได้

ทางเลือกสำหรับคนเก็บเงินและคนมีบ้าน
สำหรับคนเก็บเงิน: ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ลองมองหาบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่า 4.5% และตรวจสอบเงื่อนไขให้ดี หรืออาจพิจารณา บัญชีออฟเซ็ต (offset account) หากมีสินเชื่อบ้านอยู่แล้ว เพราะการนำเงินไปพักไว้ในบัญชีนี้จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านได้

สำหรับคนมีบ้าน: การลดดอกเบี้ยนับเป็นโอกาสในการประหยัดเงินค่าผ่อนบ้าน โดยเฉพาะผู้ที่มีสินเชื่อแบบอัตราดอกเบี้ยลอยตัว (variable rate)
การประชุม RBA ครั้งต่อไปมีกำหนดในวันที่ 29-30 กันยายนนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดว่า RBA น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน เพื่อดูสถานการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อต่อไปครับ

เครดิตภาพโดย abc.net.au

ข่าวร้อน! จ่อเก็บค่าธรรมเนียม "จักรยานไฟฟ้า" และ "สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า"สำหรับคนไทยที่ใช้ จักรยานไฟฟ้า (e-bike) หรือ สกู๊ตเตอร...
23/09/2025

ข่าวร้อน! จ่อเก็บค่าธรรมเนียม "จักรยานไฟฟ้า" และ "สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า"

สำหรับคนไทยที่ใช้ จักรยานไฟฟ้า (e-bike) หรือ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า (e-scooter) ในออสเตรเลีย โดยเฉพาะในรัฐควีนส์แลนด์ อาจจะต้องเตรียมตัวกับความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญครับ!
นักการเมืองท้องถิ่นในควีนส์แลนด์กำลังผลักดันให้มีการ จดทะเบียน (registration), ทำประกันภัยภาคบังคับ (CTP insurance) และ ขอใบอนุญาตขับขี่ (licensing) สำหรับอุปกรณ์เหล่านี้ หลังจากเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งและมีผู้ใช้งานจำนวนมากขับขี่ด้วยความประมาท

ทำไมถึงต้องมีกฎหมายใหม่?
ความปลอดภัย: ผู้พักอาศัยหลายคนร้องเรียนเรื่องการขับขี่ที่อันตราย เช่น ขับเร็วเกินกำหนด, ขี่ซ้อนสอง, หรือขี่ด้วยท่าทางหวาดเสียว

การเอาผิด: หากเกิดอุบัติเหตุ การมีทะเบียนและประกันภัยจะช่วยให้สามารถระบุตัวตนและรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นได้

ฝ่ายที่เห็นด้วย vs. ฝ่ายที่คัดค้าน
ฝ่ายที่เห็นด้วย: ส.ส. Hermann Vorster และสมาชิกสภาท้องถิ่น Nick Marshall สนับสนุนแนวคิดนี้ โดยมองว่าเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคนบนท้องถนน และทำให้สามารถติดตามผู้ที่ทำผิดกฎได้

ฝ่ายที่คัดค้าน: กลุ่ม Bicycle Queensland ซึ่งเป็นองค์กรที่สนับสนุนการปั่นจักรยาน มองว่ากฎหมายที่มีอยู่เดิมก็เพียงพอแล้ว เพราะจักรยานไฟฟ้าที่กำลังเป็นปัญหา (เช่น รุ่นที่มีความเร็วสูง) นั้น ผิดกฎหมายอยู่แล้ว และการออกกฎหมายใหม่จะยิ่งเป็นการสร้างขั้นตอนที่ยุ่งยากและเป็นอุปสรรคต่อการใช้ยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา และผลสรุปจากคณะกรรมการสอบสวนของรัฐสภาจะมีขึ้นในเดือนมีนาคมปีหน้า ซึ่งจะมีการตัดสินใจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายหรือไม่ครับ
คุณมีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้างครับ คิดว่าควรมีการจดทะเบียนและทำประกันสำหรับจักรยานไฟฟ้าหรือไม่?

เครดิตภาพโดย abc.net.au

รถไฟซิดนีย์จะสื่อสารกับผู้โดยสารได้ดีขึ้นได้อย่างไร?ข่าวสำคัญสำหรับผู้ใช้บริการรถไฟในซิดนีย์ครับ! จากรายงานอิสระล่าสุดเก...
23/09/2025

รถไฟซิดนีย์จะสื่อสารกับผู้โดยสารได้ดีขึ้นได้อย่างไร?

ข่าวสำคัญสำหรับผู้ใช้บริการรถไฟในซิดนีย์ครับ! จากรายงานอิสระล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์สายไฟขาดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีการชี้ให้เห็นถึงปัญหาใหญ่ของ Sydney Trains นั่นคือ "การขาดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ" ทำให้ผู้โดยสารต้องตกอยู่ในภาวะ "ขาดข้อมูล" เป็นเวลานานหลายชั่วโมง

ทำไมการสื่อสารจึงเป็นปัญหา?
ขาดการแจ้งเตือน: รายงานระบุว่าผู้โดยสารที่ติดอยู่ในขบวนรถไม่ได้รับการอัปเดตข้อมูลเป็นเวลาหลายชั่วโมง

การแจ้งเตือนที่ล่าช้า: การแจ้งเตือนครั้งแรกบนแอป Opal ถูกส่งออกมาหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้วถึง 18 ชั่วโมง

ผู้โดยสารเหมือน "ปศุสัตว์": ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งกล่าวว่าระบบกำลังถอยกลับไปสู่แนวคิดแบบ "ควบคุมสั่งการ" ที่มองผู้โดยสารเป็นเพียงฝูงปศุสัตว์ แทนที่จะมองว่าพวกเขาเป็นลูกค้าที่ต้องการการบริการที่ดี

ทางออกของปัญหาคืออะไร?
นักวิชาการจาก UTS คุณ Michelle Zeibots ชี้ว่า Sydney Trains ต้องหวนกลับมาให้ความสำคัญกับ "ประสบการณ์ของลูกค้า" เป็นอันดับแรกอีกครั้ง โดยเฉพาะในเรื่องการสื่อสาร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม John Graham ได้รับปากว่าจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงเพื่อแก้ไขปัญหานี้แล้ว โดยมีแผนจะนำระบบใหม่มาใช้เพื่อส่งข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นบนชานชาลา ในแอปพลิเคชัน และบนขบวนรถเมื่อเกิดความล่าช้าขึ้น

จะมีการแจ้งเตือนอัตโนมัติบนแอป Opal

จะมีการจัดตั้งทีมดูแลและช่วยเหลือผู้โดยสารชุดใหม่เพื่อประจำอยู่ที่สถานีและบนขบวนรถเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ

ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่าหากผู้โดยสารได้รับข้อมูลที่เพียงพอ พวกเขาก็พร้อมที่จะให้อภัยหากเกิดความล่าช้า ดังนั้นการสื่อสารที่ดีและรวดเร็วจึงเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นความเชื่อมั่นและสร้างความพึงพอใจให้กับผู้โดยสารทุกคนครับ

เครดิตภาพโดย abc.net.au

ระวังให้ดี! ข้อผิดพลาดในการรีไฟแนนซ์ที่ทำให้เจ้าของบ้านชาวออสซี่ต้องจ่ายเพิ่มกว่า 1.2 แสนดอลลาร์!สำหรับคนไทยในออสเตรเลีย...
18/09/2025

ระวังให้ดี! ข้อผิดพลาดในการรีไฟแนนซ์ที่ทำให้เจ้าของบ้านชาวออสซี่ต้องจ่ายเพิ่มกว่า 1.2 แสนดอลลาร์!

สำหรับคนไทยในออสเตรเลียที่มีบ้านเป็นของตัวเองและกำลังคิดจะ รีไฟแนนซ์ (refinance) สินเชื่อบ้าน ข่าวนี้เป็นเรื่องที่ต้องรู้ไว้เลยครับ!
ผลสำรวจจากเว็บไซต์ Money.com.au เปิดเผยว่าเกือบครึ่งหนึ่งของเจ้าของบ้านที่รีไฟแนนซ์กำลังทำผิดพลาดครั้งใหญ่ที่อาจทำให้ต้องเสียเงินเพิ่มกว่า 121,000 ดอลลาร์ ตลอดอายุสัญญา

ข้อผิดพลาดที่ว่าคืออะไร?
การรีไฟแนนซ์นั้นมีเป้าหมายเพื่อลดภาระดอกเบี้ยและค่าผ่อนรายเดือน แต่หลายคนกลับทำพลาดด้วยการ "รีเซ็ต" ระยะเวลาการผ่อนชำระกลับไปเป็น 30 ปี ซึ่งแม้จะทำให้ยอดผ่อนรายเดือนลดลงในระยะสั้น แต่ในระยะยาวกลับต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมเพิ่มขึ้นมหาศาล

ตัวอย่างที่เห็นภาพชัด
สมมติว่าคุณเหลือระยะเวลาผ่อน 25 ปี บนยอดหนี้ 600,000 ดอลลาร์ ดอกเบี้ย 5.7% และตัดสินใจรีไฟแนนซ์ไปที่ดอกเบี้ย 5.5% แต่กลับ ยืดระยะเวลาเป็น 30 ปี

สิ่งที่คุณคิด: "ยอดผ่อนรายเดือนลดลงตั้ง 349 ดอลลาร์ สบายขึ้นเยอะ!"

ความเป็นจริง: คุณจะต้องจ่าย ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นถึง 99,465 ดอลลาร์!
แต่ถ้าคุณรีไฟแนนซ์ไปที่ดอกเบี้ย 5.5% และ คงระยะเวลาผ่อนไว้ที่ 25 ปี คุณจะสามารถ ประหยัดเงินไปได้กว่า 121,067 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับการผ่อนแบบ 30 ปี

หากทำผิดพลาดไปแล้ว...จะแก้ไขได้อย่างไร?
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าอย่าเพิ่งตกใจครับ! คุณสามารถแก้ไขได้ด้วยการ:

จ่ายเงินเพิ่ม จากยอดผ่อนขั้นต่ำในแต่ละเดือน

รักษาการผ่อนชำระรายเดือนให้สูงเท่าเดิม เหมือนก่อนรีไฟแนนซ์
การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเงินดอกเบี้ยและสามารถปิดยอดหนี้ได้เร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยให้มีอิสรภาพทางการเงินในระยะยาวได้อย่างแท้จริงครับ
สำหรับใครที่กำลังจะรีไฟแนนซ์ ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนอย่างรอบคอบนะครับ เพื่อป้องกันไม่ให้ความตั้งใจที่จะประหยัดกลายเป็นการเสียเงินเพิ่มโดยไม่รู้ตัว

เครดิตภาพโดย skynews.com.au

ตลาดบ้านออสเตรเลียชะลอตัว: อัตราการขายบ้านลดลง เหตุหลักมาจากปัญหาแรงงานก่อสร้างสำหรับคนไทยในออสเตรเลียที่กำลังมองหาบ้านห...
18/09/2025

ตลาดบ้านออสเตรเลียชะลอตัว: อัตราการขายบ้านลดลง เหตุหลักมาจากปัญหาแรงงานก่อสร้าง

สำหรับคนไทยในออสเตรเลียที่กำลังมองหาบ้านหรือสนใจตลาดอสังหาริมทรัพย์ ข่าวนี้มีข้อมูลสำคัญที่ต้องทราบครับ!
อัตราการขายบ้านในออสเตรเลีย (national clearance rate) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงเหลือ 65.3% ซึ่งหมายความว่าจากบ้านที่นำออกประมูลทั้งหมด 1,946 หลัง มีเพียงประมาณ 2 ใน 3 เท่านั้นที่สามารถขายได้สำเร็จ

ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
คุณ Angus Moore ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์จาก REA Group (realestate.com.au) ได้วิเคราะห์สถานการณ์นี้ว่าปัจจัยสำคัญมาจากปัญหาใน ภาคการก่อสร้าง

ใช้เวลานานขึ้น: การสร้างบ้านใหม่ในปัจจุบันใช้เวลานานกว่าที่เคยเป็น

ปัญหาแรงงาน: ภาคก่อสร้างกำลังเผชิญกับความท้าทายเรื่องแรงงาน ทำให้ไม่สามารถสร้างบ้านได้ตามความต้องการ
สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าตลาดบ้านในออสเตรเลียกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน โดยเฉพาะปัญหาด้านอุปทานที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาและโอกาสในการซื้อบ้านในอนาคตครับ

เครดิตภาพโดย skynews.com.au

สิ้นสุดยุค "ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต" ที่น่ารำคาญข่าวดีสำหรับนักช้อปทั้งหลาย! ผู้บริหารสมาคมธนาคารออสเตรเลีย (Australian B...
18/09/2025

สิ้นสุดยุค "ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต" ที่น่ารำคาญ

ข่าวดีสำหรับนักช้อปทั้งหลาย! ผู้บริหารสมาคมธนาคารออสเตรเลีย (Australian Banking Association - ABA) คุณ Simon Birmingham ได้ออกมาสนับสนุนข้อเสนอของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ที่ต้องการให้ ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต (credit card surcharges) สำหรับการชำระเงินด้วยบัตร EFTPOS, Mastercard และ Visa
คุณ Birmingham กล่าวว่ารัฐบาลแอลบาเนซีทำถูกต้องแล้วที่ผลักดันเรื่องนี้ เพราะการเก็บค่าธรรมเนียมที่ผู้บริโภคไม่สามารถคาดเดาได้นั้นเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจอย่างยิ่ง ข้อเสนอนี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคเรียกร้องมาตลอด

ทำไมต้องยกเลิก?
ลดความสับสน: ผู้บริโภคจะรู้ราคาที่แท้จริงของสินค้าหรือบริการทันที ไม่ต้องมานั่งคำนวณค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

สร้างความโปร่งใส: การทำธุรกรรมจะมีความยุติธรรมมากขึ้น ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้รับข้อมูลที่ชัดเจน

การยกเลิกค่าธรรมเนียมนี้จะช่วยให้ชาวออสเตรเลียสามารถใช้จ่ายได้อย่างสบายใจและมั่นใจมากขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่มุ่งเน้นการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างแท้จริง

เครดิตภาพโดย skynews.com.au

อัตราการว่างงานคงที่! RBA มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยในเดือนกันยายนข่าวดีสำหรับคนมีภาระหนี้สิน! สำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย (ABS...
18/09/2025

อัตราการว่างงานคงที่! RBA มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยในเดือนกันยายน

ข่าวดีสำหรับคนมีภาระหนี้สิน! สำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย (ABS) ประกาศตัวเลขล่าสุดเกี่ยวกับอัตราการว่างงานในเดือนสิงหาคม โดยตัวเลขยังคงอยู่ที่ 4.2% เท่าเดิม ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีโอกาสสูงที่จะ คงอัตราดอกเบี้ย ไว้ในการประชุมเดือนกันยายนนี้

ตัวเลขการจ้างงานเป็นอย่างไรบ้าง?
แม้ว่าภาพรวมอัตราการว่างงานจะทรงตัว แต่รายละเอียดภายในมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย:

การจ้างงานเต็มเวลา (Full-time) ลดลง 5,400 ตำแหน่ง

การจ้างงานนอกเวลา (Part-time) เพิ่มขึ้น 35,500 ตำแหน่ง

นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองว่าตลาดแรงงานของออสเตรเลียยังคงแข็งแกร่งและมีความยืดหยุ่น โดยแม้จะมีตัวเลขการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมที่ยังคงดีอยู่

อนาคตอัตราดอกเบี้ยจะเป็นอย่างไร?
ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศตัวเลขนี้ ตลาดการเงินมองว่ามีโอกาส 80% ที่ RBA จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ซึ่งหลังจากตัวเลขออกมา โอกาสก็เพิ่มขึ้นไปอีก

นักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดการณ์ว่า RBA ยังมีโอกาส ลดอัตราดอกเบี้ย ได้อีกครั้งภายในปีนี้ หรืออาจจะมีการลดอีกหนึ่งถึงสองครั้งในช่วงต้นปีหน้า เพื่อให้ระดับนโยบายการเงินกลับสู่ภาวะปกติ

การคงอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (cash rate) ของออสเตรเลียอยู่ที่ 3.6% เท่าเดิม หลังจากที่ RBA เริ่มทยอยลดอัตราดอกเบี้ยลงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เครดิตภาพโดย skynews.com.au

วิกฤตแบงก์ ANZ! สหภาพแรงงานยื่นเรื่องต่อ Fair Work Commission หลังแบงก์โดนปรับ 240 ล้านดอลลาร์ และปลดพนักงานยกใหญ่สำหรับ...
18/09/2025

วิกฤตแบงก์ ANZ! สหภาพแรงงานยื่นเรื่องต่อ Fair Work Commission หลังแบงก์โดนปรับ 240 ล้านดอลลาร์ และปลดพนักงานยกใหญ่
สำหรับคนไทยในออสเตรเลียที่อาจเป็นลูกค้าหรือทำงานในแวดวงธนาคาร ข่าวนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนครับ!
สหภาพแรงงานภาคการเงิน (Finance Sector Union - FSU) ได้ยื่นเรื่องขอให้ Fair Work Commission ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลด้านแรงงานของออสเตรเลีย เข้ามาแทรกแซงธนาคาร ANZ โดยด่วน หลังจากที่ ANZ เผชิญกับปัญหามากมายในช่วงที่ผ่านมา

เกิดอะไรขึ้นกับ ANZ?

โดนปรับ 240 ล้านดอลลาร์: ANZ เพิ่งตกลงจ่ายค่าปรับจำนวนมหาศาลให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนแห่งออสเตรเลีย (ASIC) จากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายอย่าง เช่น การซื้อขายพันธบัตรที่ผิดปกติ และการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมกับลูกค้า

ปลดพนักงานยกใหญ่: ANZ ประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ และจะปลดพนักงานถึง 3,500 ตำแหน่ง นอกจากนี้ ยังเกิดความผิดพลาดทางเทคนิคที่ทำให้พนักงานบางส่วนได้รับอีเมลแจ้งการเลิกจ้างก่อนที่ผู้บริหารจะแจ้งอย่างเป็นทางการ ทำให้เกิดความโกลาหลและความไม่พอใจอย่างมาก
เลขาธิการ FSU คุณ Julia Angrisano กล่าวว่า ANZ กำลังอยู่ในภาวะ "วิกฤต" และมองว่าการกระทำของธนาคารเป็นการไม่ให้เกียรติพนักงาน ซึ่งสวนทางกับการที่ธนาคารเพิ่งโดนปรับเงินจำนวนมหาศาล FSU จึงต้องการให้ Fair Work Commission เข้ามาช่วยดูแลเรื่องนี้ เพื่อให้พนักงานได้รับความเป็นธรรมและความชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของพวกเขา
การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการเงินของออสเตรเลีย ไม่ใช่แค่ ANZ แต่ยังมีธนาคารใหญ่อื่นๆ เช่น NAB, Bank of Queensland และ Bendigo Bank ที่มีการประกาศลดจำนวนพนักงานเช่นกัน ซึ่งสหภาพแรงงานมองว่าอุตสาหกรรมนี้กำลัง "ควบคุมไม่ได้" และจำเป็นต้องมีกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น

เครดิตภาพโดย skynews.com.au

รัฐบาลออสเตรเลียทุ่ม 1.1 พันล้านดอลลาร์ พลิกโฉมวงการพลังงานด้วยน้ำมันจากน้ำมันคาโนลาและ "ของเสีย"ข่าวใหญ่สำหรับชาวออสเตร...
18/09/2025

รัฐบาลออสเตรเลียทุ่ม 1.1 พันล้านดอลลาร์ พลิกโฉมวงการพลังงานด้วยน้ำมันจากน้ำมันคาโนลาและ "ของเสีย"

ข่าวใหญ่สำหรับชาวออสเตรเลียโดยเฉพาะคนไทยในออสเตรเลีย! รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีแอนโทนี แอลบาเนซี (Anthony Albanese) ประกาศทุ่มงบประมาณกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อลงทุนในโครงการผลิตเชื้อเพลิงเหลวคาร์บอนต่ำ (LCLF) ซึ่งจะนำมาใช้แทนน้ำมันเบนซินและดีเซลที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน

เชื้อเพลิงแห่งอนาคต: ทำจากอะไร?
เชื้อเพลิงใหม่นี้จะผลิตจากวัตถุดิบทางการเกษตร เช่น น้ำมันคาโนลา ข้าวฟ่าง น้ำตาล และ "ของเสีย" ต่าง ๆ ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้กับเครื่องยนต์ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้เลย ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุก, เรือขนส่งสินค้า หรือแม้กระทั่งเครื่องบิน

ทำไมต้องเปลี่ยน?
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Cleaner Fuels Program ซึ่งเป็นแผนงานของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ออสเตรเลียไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) นอกจากจะช่วยลดมลพิษแล้ว ยังสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ให้กับประเทศอีกด้วย โดยเฉพาะการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ และสร้างงานให้กับชาวออสเตรเลีย

เริ่มเมื่อไหร่?
รัฐบาลคาดว่าจะเริ่มผลิตเชื้อเพลิงล็อตแรกได้ในปี 2029 โดยจะเปิดรับสมัครผู้ประกอบการที่สนใจขอรับทุนสนับสนุนในช่วงกลางปี 2026

นับเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าออสเตรเลียกำลังมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดอย่างจริงจัง ซึ่งจะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

เครดิตภาพโดย skynews.com.au

มหาวิทยาลัยออสเตรเลียเลย์ออฟพนักงาน 3,500 ตำแหน่งท่ามกลางวิกฤตงบประมาณมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียกำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่...
12/09/2025

มหาวิทยาลัยออสเตรเลียเลย์ออฟพนักงาน 3,500 ตำแหน่งท่ามกลางวิกฤตงบประมาณ

มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียกำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ โดยมีการปลดพนักงานออกหลายพันตำแหน่งและยุติการสอนหลายหลักสูตร ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างหนักระหว่างฝ่ายบริหารและสหภาพพนักงาน รายงานจาก National Tertiary Education Union (NTEU) ระบุว่ามีพนักงานในมหาวิทยาลัยกว่า 3,500 คนถูกปลดออกในช่วงปี 2024-2025 โดยทางสหภาพกล่าวหาว่าฝ่ายบริหารใช้จ่ายเงินจำนวนมากไปกับที่ปรึกษาและเงินเดือนผู้บริหารระดับสูงอย่างไม่สมเหตุสมผล

ในขณะที่ฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยโต้แย้งว่า พวกเขาต้องเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจที่ท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนนักศึกษาต่างชาติที่ลดลงถึง 90% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของมหาวิทยาลัย และการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย "Job Ready Graduates" ที่ลดค่าเล่าเรียนในบางหลักสูตร ทำให้มหาวิทยาลัยสูญเสียรายได้ไปกว่าพันล้านดอลลาร์ต่อปี

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อทั้งพนักงานและนักศึกษา โดยเฉพาะพนักงานอย่าง Dr. Ivan Maksymov นักฟิสิกส์จาก Charles Sturt University ที่ต้องถูกเลิกจ้างเป็นครั้งที่สองในรอบสามปี ทำให้เขาต้องดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ด้านนักศึกษาเองก็ได้รับผลกระทบจากการยุติหลักสูตร ตัวอย่างเช่น University of Technology Sydney (UTS) ที่ระงับการเรียนการสอนกว่า 120 หลักสูตร ซึ่งทำให้บางคนไม่สามารถเรียนต่อในหลักสูตรที่วางแผนไว้ได้

ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยยังคงหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนเพิ่มเติมจากรัฐบาลเพื่อช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ที่จะบ่งบอกว่าจะมีเงินช่วยเหลือในเร็วๆ นี้

ภาพจาก ABC News

ที่อยู่

Phra Nakhon

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Pthai พี่ไทเล่าให้ฟังผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท