IYARA บริษัทด้านสื่อ/ข่าว ข่าวออนไลน์

บิ๊กหวาน สั่งรวบผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นหลอกนักศึกษา ทำงานแก๊งคอลเซนเตอร์ พร้อมเพิกถอนวีซ่า ขึ้นแบล็คลิส ส่งกลับ ดำเนินคดีสืบ...
17/02/2025

บิ๊กหวาน สั่งรวบผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นหลอกนักศึกษา ทำงานแก๊งคอลเซนเตอร์ พร้อมเพิกถอนวีซ่า ขึ้นแบล็คลิส ส่งกลับ ดำเนินคดี
สืบเนื่องจากกรณีเยาวชนชาวญี่ปุ่นถูกหลอกให้ไปทำงานขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 17 ม.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาได้มีการประสานงานกับทางการญี่ปุ่น จนสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายกลับประเทศญี่ปุ่นได้แล้ว
ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม ,พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม. ,พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม.
พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.ปรท.บก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. เปิดเผยกรณีจับกุมผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นหลอกลวงเหยื่อเด็กมัธยมสัญชาติเดียวกันข้ามฝัง ไปทำงานขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ สตม. โดย บก.สส.สตม. สืบสวนกรณีดังกล่าว จนสามารถพิสูจน์ทราบตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ได้ คือ คือ MR.TOM FUJINUMA หรือ นาย ทอม ฟูจินุมะ สัญชาติ ญี่ปุ่น อายุ 29 ปี หมายเลขหนังสือเดินทาง TT5861637 เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. จึงได้ทำหนังสือเพิกถอนการอยู่ต่อในราชอาณาจักร ลงวันที่ 13 ก.พ.68 และได้ตรวจสอบข้อมูลของนายทอมฯ พบว่า เป็นผู้มีหมายจับจากทางการญี่ปุ่นในข้อหา
“ ลักพาตัวโดยใช้กำลังเพื่อแสวงหากำไร ,การกักขังที่ผิดกฎหมาย ,การบุกรุกเข้าไปในที่พักอาศัย ทำร้ายบุคคลในที่เกิดเหตุ และปล้นทรัพย์ ” ต่อมาทราบว่า ผู้ต้องหาจะเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทย จากประเทศเมียนมา มาลงที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง จึงได้เข้าตรวจสอบพร้อมแจ้งการเพิกถอนการอยู่ต่อในราชอาณาจักร(ตม.83)ให้ผู้ต้องหาทราบ และนำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เตรียมผลักดันส่งกลับประเทศญี่ปุ่นต่อไป
จตช. กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับคนต่างด้าวที่กระทำผิด หรือมีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดและผลักดันออกนอกประเทศ รวมทั้งลงบัญชีเป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยทุกราย

กลุ่มจิตอาสาเพื่อสังคม กรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการชุมชนอยู่เจริญเก้าไร่ เขตดอนเมือง โดย นางชัชวาล กองตระการ เป็นประธานกร...
17/02/2025

กลุ่มจิตอาสาเพื่อสังคม กรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการชุมชนอยู่เจริญเก้าไร่ เขตดอนเมือง โดย นางชัชวาล กองตระการ เป็นประธานกรรมการชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน(อสม) ร่วมกันเยี่ยมผู้สูงอายุ
อายุยืน อยู่ในความเอาใจใส่ ดูแลของลูกหลาน และให้กำลังใจ ผู้สูงอายุช่วยเหลือตัวเองได้น้อย และผู้มีรายได้น้อย ยังต้องพึ่งพาช่วยเหลือเกื้อกูลและแบ่งปันจากสังคม มอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้ เป็นกิจกรรมเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และน้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม 2567
กลุ่มจิตอาสาเพื่อสังคม มอบผักสวนครัวจากการขยายเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทานให้ เป็นสัญลักษณ์ความห่วงใย ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัติยราชนารี โดย คณะกรรมการชุมชนอยู่เจริญเก้าไร่ ผู้สูงอายุ และผู้มีรายได้น้อย ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน มีพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของปวงประชาสืบไป

คานโนเนียร์ ดับซ่า โรดริเกวซ ยก 4 ศึก UFC FIGHT NIGHTจาเร็ด คานโนเนียร์ นักสู้ตัวเก๋าอเมริกัน อาศัยประสบการณ์และความปราด...
17/02/2025

คานโนเนียร์ ดับซ่า โรดริเกวซ ยก 4 ศึก UFC FIGHT NIGHT
จาเร็ด คานโนเนียร์ นักสู้ตัวเก๋าอเมริกัน อาศัยประสบการณ์และความปราดเปรียวว่องไวที่เหนือกว่า เป็นฝ่ายค่อยๆไล่ถล่มเอาชนะ TKO เกรกอรี โรดริเกวซ คู่ต่อกรชาวบราซิลไปได้อย่างเฉียบขาด ในคู่เอกของ ศึก UFC FIGHT NIGHT : CANNONIER VS RODRIGUES ณ สังเวียน UFC APEX, ลาส เวกัส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
คู่เอกของรายการเป็นการดวลกันในพิกัดรุ่นมิดเดิลเวต ระหว่าง จาเร็ด คานโนเนียร์ นักสู้มากประสบการณ์ชาวอเมริกันวัย 40 ปี พบกับนักสู้ฟอร์มแรงจากบราซิลวัย 32 ปีอย่าง เกรกอรี โรดริเกวซ ที่ชนะมา 3 ติดต่อกัน
เปิดฉากยกแรก โรดริเกวซ เป็นฝ่ายขยับเข้าหา โดยมีหมัดขวาที่พร้อมเผด็จตลอดเวลา ขณะ คานโนเนียร์ พยายามใช้สเต็ปเท้าหมุนวนไปรอบเวที พร้อมอาศัยจังหวะฉาบฉวยเล่นงานใส่ Robocop โดยแม้ว่า คานโนเนียร์ จะโดนอาวุธของ โรดริเกวซ จนเซถลาแต่สุดท้ายก็ยังเอาตัวรอดได้แบบหวุดหวิด
ยกที่ 2-3 คานโนเนียร์ ปรับสไตล์มาใช้การออกอาวุธจังหวะสองและใช้ความปราดเปรียวว่องไวที่เหนือกว่า ค่อยๆยิงหมัดเข้าหน้า โรดริเกวซ จนออกอาการช้าลงไปอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งเข้าสู่ยกที่ 4 คานโนเนียร์ ที่ดูเหมือนจะเห็นจุดอ่อนของ โรดริเกวซ ก็ไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอยไป เดินหน้ารัวหมัดเข้าใส่จนกรรมการต้องสั่งยุติการต่อสู้
เป็นอันว่า จาเร็ด คานโนเนียร์ สามารถดับซ่าเอาชนะ TKO เกรกอรี โรดริเกวซ ไปได้แบบน่าประทับใจในยกที่ 4 พร้อมกับเพิ่มสถิติให้ตัวเองเป็นชนะ 18 แพ้ 8 แถมยังหยุดสถิติชนะติดต่อกันของ เกรกอรี โรดริเกวซ ไว้ที่ 3 ไว้ติดต่อกัน
รองคู่เอกเป็นการต่อสู้ในพิกัดรุ่นเฟเธอร์เวต ระหว่าง คาลวิน กัตตา นักสู้อเมริกันวัย 36 ปี ดวลกับ ยุสเซฟ ซาลาล นักสู้จากโมร็อกโกวัย 28 ปี โดยช่วง 2 ยกแรก แม้ว่า กัตตา จะเป็นฝ่ายเดินเข้าหา แต่ดูเหมือนเป็นการเดินรับอาวุธของ ซาลาล ที่มีความปราดเปรียวว่องไวที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
เข้าสู่ยกสุดท้าย กัตตา พยายามลุยแหลกหวังปิดเกมให้ได้ แต่สุดท้ายก็หาตัว ซาลาล ไม่เจอ ครบ 3 ยก กรรมการรวมคะแนนก่อนชูมือให้ ยุสเซฟ ซาลาล เอาชนะคะแนน คาลวิน กัตตา ไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์
ผลการต่อสู้อย่างเป็นทางการศึก UFC FIGHT NIGHT : CANNONIER VS RODRIGUES
คู่หลักของรายการ
คู่เอก - รุ่นมิดเดิลเวต
จาเร็ด คานโนเนียร์ ชนะ TKO เกรกอรี โรดริเกวซ ยกที่ 4
รองคู่เอก - รุ่นเฟเธอร์เวต
ยุสเซฟ ซาลาล ชนะคะแนน คาลวิน กัตตา
รุ่นมิดเดิลเวต
เอ็ดมัน ชาบาซยาน ชนะ TKO ดิแลน บุดกา ยกที่ 1
รุ่นไลต์เวต
นาซิม ซาดิคอฟ ชนะ TKO อิสมาเอล บอนฟีม ยกที่ 2
รุ่นมิดเดิลเวต
อันเดร เปโตรสกี ชนะคะแนน โรดอลโฟ วิเอรา
รุ่นเฟเธอร์เวต
โชเซ เดลกาโด ชนะ TKO คอนอร์ แม็ทธิวส์ ยกที่ 1
คู่ประกอบรายการ
รุ่นสตรอว์เวตหญิง
อันเจลา ฮิลล์ ชนะคะแนน เค็ทเลน ซูซา
รุ่นฟลายเวต
ราฟาเอล เอสเตวัม ชนะคะแนน เชซุส อกีร์ลา
รุ่นเวลเตอร์เวต
กาเบรียล บอนฟีม ชนะซับมิทชัน เคาส์ วิลเลียมส์ ยกที่ 2
รุ่นแบนตัมเวต
อลิยาห์ สมิธ ชนะคะแนน วินซ์ โมราเลส
รุ่นเฮฟวีเวต
วัลเตอร์ วอล์คเกอร์ ชนะซับมิทชัน ดอน เทล มาเยส ยกที่ 1
รุ่นแบนตัมเวตหญิง
แจ็คเกลีน คาวาลคันติ ชนะคะแนน จูเลีย อวิลา
สำหรับรายการต่อไปจะเป็นการต่อสู้ภายใต้ศึก UFC FIGHT NIGHT : CEJUDO VS SONG คู่เอกของรายการเป็นการดวลกันในพิกัดรุ่นแบนตัมเวตระหว่าง เฮนรี เซจูโด นักสู้อเมริกัน จะพบกับ ซง ยา ตง คู่ต่อกรจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยจะระเบิดศึก ณ สังเวียน Climate Pledge Arena, ซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา ในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ นี้ คู่หลักของรายการเริ่มเวลา 9.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
แฟนหมัดมวยชาวไทยติดตามชมได้ทางช่อง TRUE SPORTS HD3 (668) และแอปพลิเคชั่น UFC Fight Pass รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.ufc.com/event/ufc-fight-night-february-22-2025
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของ UFC Thailand ได้ที่
Facebook 👉 https://www.facebook.com/UFCThailand
Instragram 👉 https://www.instagram.com/ufcthailand

คุณนายน้ำหวาน x กงหลุน ผงาดแชมป์ฟุตบอล พระประแดง ซูเปอร์ คัพ   หลังเอาชนะ สิงห์คลองเตย x น้ำดื่มน้องฟาติลเดินทางมาถึงรอบ...
17/02/2025

คุณนายน้ำหวาน x กงหลุน ผงาดแชมป์ฟุตบอล พระประแดง ซูเปอร์ คัพ หลังเอาชนะ สิงห์คลองเตย x น้ำดื่มน้องฟาติล
เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศของฟุตซอลพระประแดง ซูเปอร์ คัพ ครั้งที่ 3 ที่ KOOL SUPPORTER จับมือกับ Main Stand ซึ่งหลังจากขับเคี่ยวกันมายาวนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ ก็ได้คู่ชิงชนะเลิศ
เป็นการเจอกันของคุณนายน้ำหวาน x กงหลุน ที่ด้ายหลักฟุตซอลดีกรีระดับทีมชาติหลายคนไม่ว่าจะเป็น ปาณัสม์ กิตติภาณุวงศ์, รณชัย จูงวงศ์สุข, สราวุท ผลาพฤกษ์, สรศักดิ์ พูนจังหรีด เจอกับ สิงห์คลองเตย x น้ำดื่มน้องฟาติล ที่มีปัญญพนต์ พุ่มวิเศษ นำทีม
ผลการแข่ง ปรากฏว่า “คุณนายน้ำหวานxกงหลุน” สุดแกร่ง !! ถล่ม “สิงห์คลองเตย“ 5-0 ผงาดแชมป์ศึกฟุตซอล “พระประแดง Super Cup By KOOL SUPPORTERS ครั้งที่ 3”
โดยทีมแชมป์ รับเงินรางวัล 100,000 บาท, รองแชมป์ 30,000 บาท และอันดับ 3 ร่วม (มุสลิมอาปาเช่, เหล้าหวาน VPOP) รับทีมละ 10,000 บาท
ขณะที่รุ่น ยู-18 ฃ“ราชวินิตบางเขน” ฟอร์มดุ !! ถล่ม “นาหลวง” 7-3 คว้าแชมป์ฟุตซอล “พระประแดง Super Cup By KOOL SUPPORTERS
โดยทีมแชมป์ รับเงินรางวัล 20,000 บาท, รองแชมป์ 10,000 บาท และอันดับ 3 ร่วม (กีฬานครนนท์วิทยา 6, ทวีธาภิเศก) รับทีมละ 5,000 บาท

 #มาดามแป้ง นายกสมาคมฯ แสดงความห่วงใย ส่งตัวแทนเข้าเยี่ยม กองหน้าสุพรรณบุรีฯ กรณีถูกไฟดูด ในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2สมาค...
17/02/2025

#มาดามแป้ง นายกสมาคมฯ แสดงความห่วงใย ส่งตัวแทนเข้าเยี่ยม กองหน้าสุพรรณบุรีฯ กรณีถูกไฟดูด ในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้สั่งการให้ติดตามดูแลอาการ อูเคอร์ ฟาน ลิงเกน นักกีฬาสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี อย่างใกล้ชิด และให้อัปเดตอาการให้ทราบตลอด ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ พร้อมมอบหมายให้ คุณไพฤทธิ์ ต้านไพรี หัวหน้าฝ่ายควบคุมการแข่งขัน บริษัท ไทย ลีก จำกัด เดินทางเข้าไปเยี่ยมเป็นที่เรียบร้อย
นอกจากนี้ นายกสมาคมฯ ยังได้กำชับไปยังฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพทุกสนามในการปฎิบัติตามระเบียบจัดการแข่งขัน โดยเฉพาะการตรวจสอบอุปกรณ์ ให้มีความพร้อมและปลอดภัยสูงสุด และจะต้องมิให้เกิดเหตุการณ์ใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อนักกีฬา แฟนบอล และผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพอย่างเด็ดขาด
โดยเบื้องต้นได้รับ รายงานจากฝ่ายจัดการแข่งขัน ว่า หลังจบการแข่งขัน นักกีฬาหมายเลข 9 อูเคอร์ ฟาน ลิงเกน กองหน้าของสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ได้ รับรางวัล MOTM จากเกมที่พบกับ พัทยา ยูไนเต็ด วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ทางทีมงานถ่ายทอดสดได้เรียกผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำแมตช์ มาเพื่อสัมภาษณ์ และทางทีมงานถ่ายทอดสดได้ยื่น ไมค์ ให้นักกีฬาคนดังกล่าวฯ ระหว่างนั้นเอง เกิดไฟฟ้าดูดในระหว่างถือไมค์ (มีสาย)
บริเวณริมขอบเส้นข้างในสนามด้านหน้าอัฒจันทร์หลัก และล้มลงนอนกับพื้นหญ้า แต่ยังรู้สึกตัว พูดคุยได้ และได้รับการปฐมพยาบาล หลังจากนั้นลุกขึ้นเดินและพูดคุยได้ ประมาณ 20 นาที ทางสโมสรทีมเหย้ารีบนำส่งโรงพยาบาลกรุุงเทพพัทยา เพื่อเช็คร่างกาย
โดยล่าสุดนักกีฬา ได้ย้ายจากห้อง CCU มาเข้าพักฟื้นในห้องพักธรรมดาแล้ว ผลเอ็กซ์เรย์ ไม่มีอาการกระดูกหัก เหลือเพียงแค่อาการปวดกล้ามเนื้อที่ไหล่ขวาเท่านั้น

ชบาแก้วU20 ซ้อมครั้งแรกที่ออสเตรเลีย, “ริญญาภัทร์” รับทุกคนโฟกัสทีมเราเป็นหลัก เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด วันที่ 17 กุมภ...
17/02/2025

ชบาแก้วU20 ซ้อมครั้งแรกที่ออสเตรเลีย, “ริญญาภัทร์” รับทุกคนโฟกัสทีมเราเป็นหลัก เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 05.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ณ สนามฝึกซ้อม AIS ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติออสเตรเลีย ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ฝึกซ้อมครั้งแรกที่ประเทศออสเตรเลียเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอลรายการ Four Nations Tournament 2025 ระหว่างวันที่ 16 – 27 กุมภาพันธ์ 2568
การฝึกซ้อมครั้งนี้ นำโดย หนึ่งฤทัย สระทองเวียน หัวหน้าผู้ฝึกสอน พร้อมด้วยนักเตะ 20 คน ทำการฝึกซ้อมทามกลางอุณหภูมิ 11 องศาเซลเซียส ซึ่งเน้นไปที่การปรับสภาพร่างกายให้เข้ากับอากาศที่ค่อนข้างเย็น และปิดท้ายด้วยการจบสกอร์ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
หลังการฝึกซ้อม ริญญาภัทร์ มูลดง กองกลางของทีมกล่าวว่า “การฝึกซ้อมครั้งแรกที่ออสเตรเลียทุกคนพยายามปรับตัวกับสภาพอากาศและลูกฟุตบอลใหม่ ถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆคะ เมื่อวานเราได้ยืดกล้ามเนื้อและเดินผ่อนคลายทำให้การเดินทางกว่า 10 ชั่วโมงไม่ค่อยมีผลกระทบเยอะ”
“ส่วนตัวพยายามคอยกระตุ้นน้องๆในทีม เพื่อให้ดึงศักยภาพของแต่ละคนออกมาช่วยซัพพอร์ตชุดนี้ให้ได้มากที่สุด ด้วยความที่หนูเคยขึ้นไปซ้อมกับชุดใหญ่ ความเข้มข้นอาจจะแตกต่างอยู่บ้าง แต่เรื่องแทคติกมีความคล้ายกันอยู่แล้ว การทำงานกับโค้ชหนึ่งหนูคิดว่าเรากำลังอยู่ในช่วงปรับตัว เพื่อทำความเข้าใจกับระบบของโค้ช แต่ทุกอย่างก็ไปได้ดี ตอนนี้เราโฟกัสที่ทีมเราเป็นหลัก ไม่ได้มองว่าคู่แข่งเป็นใคร แต่จะทำผลงานของทีมออกมาให้เต็มที่มากกว่า”
โปรแกรมการแข่งขันของฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในการแข่งขัน Four Nations Tournament 2025 มีดังนี้
🗓 วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568
🇹🇭 ไทย U20 VS หมู่เกาะโซโลมอนชุดใหญ่ 🇸🇧
⏰ เวลา 14.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
🏟️ ไวกิ้ง พาร์ค
📺 ถ่ายทอดสดทาง Facebook : FA THAILAND, ช้างศึก / YouTube : ช้างศึก
🗓 วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568
🇻🇺 วานูอาตู ชุดใหญ่ VS ไทย U20 🇹🇭
⏰ เวลา 11.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
🏟️ ไวกิ้ง พาร์ค
📺 ถ่ายทอดสดทาง Facebook : FA THAILAND, ช้างศึก / YouTube : ช้างศึก
🗓 วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
🇦🇺 ออสเตรเลีย U20 VS ไทย U20 🇹🇭
⏰ เวลา 14.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
🏟️ แดกิ้น พาร์ค
📺 ถ่ายทอดสดทาง Facebook : FA THAILAND, ช้างศึก / YouTube : ช้างศึก
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไทยผ่าน LINE Official คลิ๊ก https://lin.ee/OQ7I6Wk
#ฟุตบอลทีมชาติไทย #ฟุตบอลหญิง #ชบาแก้ว #ช้างศึก #ทีมชาติไทย #ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย #บอลหญิง #ฟุตบอลไทย #บอลไทย

รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ติดตามโครงการเพิ่มศักยภาพพื้นที่ด้วยการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ อ.ระโนด จ.สงขลา หวังส่งเสริมและฟื้นฟู...
17/02/2025

รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ติดตามโครงการเพิ่มศักยภาพพื้นที่ด้วยการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ อ.ระโนด จ.สงขลา หวังส่งเสริมและฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดยปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะสมกับการผลิต และ
พัฒนาพื้นที่การเกษตรของพี่น้องเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น
นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามโครงการเพิ่มศักยภาพพื้นที่ด้วยการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ณ บ้านดูวา หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านขาว อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการป้องกันและฟื้นฟูพื้นที่เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับนโยบาย
จัดการทรัพยากรทางการเกษตร ส่งเสริมและพื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดยปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะสมกัมกับการผลิต
และพัฒนาพื้นที่การเกษตรของพี่น้องเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้นสำหรับพื้นที่ดังกล่าว เป็นการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ โดยการปรับรูปแปลงนาลักษณะที่ 3 (ขุดคู-ยกร่อง) เพื่อแก้ปัญหาการเก็บกักน้ำของดิน พร้อมทั้งทั้งน้ำคันดินกั้นน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ของเกษตรกรกร สามารถแก้ปัญหาทางการเกษตรให้กับเกษตรกรในพื้นที่ลุ่ม ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมพัฒนาที่ดิน ได้สำรวจพื้นที่และความต้องการของเกษตรกรกรสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับเกษตรกรในการปรับเปลี่ยนพื้นที่เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม
โดยได้ดำเนินการสำรวจความต้องการของเกษตรกรและจัดทำแผนที่ออกแบบการก่อสร้าง ดำเนินการปรัปรับรูปแบบแปลงนา เพื่อแก้ปัญหาการระบายน้ำของติน พร้อมทำคันดินกั้นกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม รวมถึงการถ่ายทอดความรู้และสนับสนุนปัจจัยการผลิตอย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ พร้อมสนับสนุนเกษตรกรที่ต้องการปรับเปลี่ยนจากการทำนาข้าว มาปลูกปาล์มน้ำล์มน้ำมันที่มีผลตอบแทนสูงกว่า โดยจากการประเมินภาพรวมของโครงการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ
มีมูลค่าทางเศรษฐกิจของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในคาบสมุทรสทิงพระ ประเมินจากผลผลิตเฉลี่ย 2,618 กก/ไร่ ราคา 6 บาท/กก. รายได้เท่ากับ 15,708 บาท/ไร่/ปี ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับเกษตรกรได้มีรายได้สูงขึ้นและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วยf MOACThailand www.moac.go.th 0-2281-5884

“รมว.นฤมล” มั่นใจ หลังสั่ง Set Zero ทุเรียนไทยไร้สารปนเปื้อน คาดปี 68 ยังครองส่วนแบ่งตลาดในจีน 57% พร้อมเร่งแก้โรคมือเท้...
17/02/2025

“รมว.นฤมล” มั่นใจ หลังสั่ง Set Zero ทุเรียนไทยไร้สารปนเปื้อน คาดปี 68 ยังครองส่วนแบ่งตลาดในจีน 57% พร้อมเร่งแก้โรคมือเท้าปากเปื่อยในโค ตั้งเป้าลุยขยายตลาดส่งออกจีน
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังจากที่ได้เดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า เราได้มีโอกาสพบกับ ดร.ซุน เหมยจุน รัฐมนตรีว่าการสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) และได้พูดคุยถึงความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาการส่งออกสินค้าผลไม้จากประเทศไทยไปยังจีนว่า มีการดำเนินการอะไรไปบ้าง เพราะจีนนำเข้าผลไม้จากประเทศไทยเป็นอันดับ 1
และทุเรียนเป็นสินค้าที่นำเข้ามากที่สุด จึงจำเป็นจะต้องดูแลความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยเราส่งออกทุเรียนไปจีนเฉลี่ยปีละ 1.3 - 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปี 2568 นี้ไทยจะส่งออกทุเรียนไปจีนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งทุเรียนไทยยังครองส่วนแบ่งตลาดในจีนถึง 57% และผู้บริโภคจีนยัดงให้การยอมรับทุเรียนไทยมาก
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า การดูแลผลไม้โดยเฉพาะทุเรียน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่ได้รับรายงานถึงปัญหาในการพบสารปนเปื้อน ตนจึงได้มอบหมายกรมวิชาการเกษตรออกประกาศให้ผู้ประกอบการดำเนินการตามมาตรฐานที่กำหนด และเรียกฟรุตบอร์ดสั่งการเร่งด่วนให้ตรวจสอบสาร Basic Yellow 2 (BY2) แคดเมียม และหนอนในสินค้า พร้อมเตรียมความพร้อมของห้องปฏิบัติการตรวจสอบ (แล็บ) ที่จะสามารถตรวจสอบ เพื่อยืนยันว่าจะไม่มีสารปนเปื้อนในทุเรียน
“ตอนนั้นมีแล็บที่มีความพร้อม 4-5 รายที่ให้การตรวจสอบได้ แต่ปัจจุบันจำนวนห้องแล็บเริ่มมีจำนวนมากขึ้น พร้อมที่จะให้ตรวจสอบสินค้าได้แล้ว เพราะได้มอบนโยบายให้กับกรมวิชาการเกษตร ในการเร่งตรวจสอบให้มีความเร็วขึ้น และเพิ่มจำนวนแล็บในการรองรับการตรวจสอบ เพราะทุเรียนถือว่าเป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าให้กับประเทศกว่าปีละ 100,000 ล้านบาท และเชื่อว่าจะมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวต่อด้วยว่า กระทรวงเกษตรฯ มีความพยายามที่จะเปิดตลาดโคเนื้อและโคมีชีวิตไปยังตลาดจีนตั้งแต่ปี 2562 และส่งรายงานให้กับ GACC หน่วยงานของจีน ซึ่งได้มีการสอบถามมายังประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเราก็ได้มีการรายงานให้ทราบถึงความคืบหน้าว่า ประเทศไทยได้มีการเตรียมพื้นที่ค่ายกักกันโรค สำหรับโคมีชีวิตเพื่อสร้างความมั่นใจว่าโคมีชีวิตจะไม่ติดโรคก่อนที่จะส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งพื้นที่กักกันเราได้ใช้พื้นที่จังหวัดเชียงราย และเมื่อระยะเวลาในการกักกันครบ
มีการตรวจโรค เราจะนำโคมีชีวิตขนส่งผ่านเส้นทางเดินเรือ ล่องแม่น้ำโขงและขึ้นที่ท่าเรือคลองจีน และอีกช่องทาง คือ ผ่านการขนส่งทางรถไฟ จาก กรุงเทพฯ – หนองคาย - สปป.ลาว - จีน ซึ่งทางหน่วยงานจีนได้รับทราบและอยู่ระหว่างการประเมินความเสี่ยง และรอความเห็นจากหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯของจีน
“ตอนนี้อยู่ระหว่างรอรับการประเมินผลของจีนว่า จะตอบรับหรือให้ความคิดเห็นอย่างไร เพื่อให้เราสามารถส่งโคเนื้อและโคมีชีวิตไปยังตลาดจีนได้ เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันตลาดจีนมีความต้องการสินค้าดังกล่าวสูงมาก แต่ประเทศไทยยังติดปัญหาประเทศที่อยู่ในลิสต์ของการติดโรคระบาดของมือเท้าปากเปื่อยในสัตว์ ซึ่งการที่จะนำประเทศไทยออกจากลิสต์
เป็นเรื่องที่ยาก แต่ล่าสุดได้มีการประชุม Beef Board เห็นชอบให้เร่งหางบประมาณเพื่อนำวัคซีนฉีดให้สัตว์เพื่อป้องกันโรคได้ 100% ซึ่งที่ผ่านมาวัคซีนป้องกันโรคได้เพียง 50 - 60% ซึ่งต้องยอมรับว่า งบประมาณที่ได้แต่ละปียังไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงอยู่ระหว่างการผลักดันต่อไป” ศ.ดร.นฤมล กล่าว

เตือนชาวนาระวัง “แมลงสิง” ศัตรูข้าวระยะออกรวง กรมส่งเสริมการเกษตร แจ้งเตือนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เฝ้าระวัง แมลงสิง แมลงศัตร...
17/02/2025

เตือนชาวนาระวัง “แมลงสิง” ศัตรูข้าวระยะออกรวง
กรมส่งเสริมการเกษตร แจ้งเตือนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เฝ้าระวัง แมลงสิง แมลงศัตรูข้าวระยะออกรวง เนื่องจากพื้นที่ปลูกข้าวในประเทศเริ่มเข้าสู่ระยะออกรวงและเข้าสู่ระยะเก็บเกี่ยว ประมาณ 20 ล้านไร่ โดยข้อมูลจากระบบรายงานสถานการณ์ระบาดศัตรูพืชของพืชเศรษฐกิจหลักของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นระยะที่แมลงสิงจะเข้าทำลายในพื้นที่ปลูกข้าว จึงขอให้เกษตรกรหมั่นสำรวจแปลงนาของตนเองอย่างสม่ำเสมอ
รูปร่างลักษณะ ไข่ของแมลงสิงจะมีสีน้ำตาลแดงเข้ม รูปร่างคล้ายจาน ตัวอ่อนของแมลงสิงจะมีสีเขียวแกมน้ำตาล ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ในส่วนของตัวเต็มวัยจะมีรูปร่างเพรียวยาวประมาณ 15 มิลลิเมตร มีหนวดยาว ลำตัวด้านบนมีสีน้ำตาล ส่วนด้านล่างจะมีสีเขียว เมื่อถูกรบกวนจะบินหนี พร้อมทั้งปล่อยกลิ่นเหม็นออกจากต่อมที่ส่วนท้อง
ลักษณะการทำลายของแมลงสิง ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของแมลงสิง จะเข้าทำลายเมล็ดข้าวในระยะข้าวเป็นน้ำนมจนถึงออกรวง โดยจะใช้ปากแทงดูดกินน้ำเลี้ยงจากเมล็ดข้าว โดยเฉพาะในระยะที่เป็นน้ำนม แต่ก็สามารถดูดกินเมล็ดข้าวได้ทั้งเมล็ดอ่อนและเมล็ดแข็ง ทำให้เมล็ดลีบ หรือเมล็ดไม่สมบูรณ์ ตัวอ่อนสามารถดูดกินน้ำเลี้ยงจากกาบใบข้าวได้ ส่งผลให้ผลผลิตข้าวลดลง ความเสียหายจากการทำลายของแมลงสิงทำให้ข้าวเสียคุณภาพ เมื่อนำไปสีข้าวจะแตกหักง่าย
การป้องกันกำจัดแมลงสิง หลีกเลี่ยงการปลูกข้าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อตัดวงจรของแมลงสิง กำจัดวัชพืชในนาข้าว คันนา และรอบ ๆ แปลง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของแมลงสิง ใช้สวิงโฉบจับตัวอ่อน และตัวเต็มวัยมาทำลาย หรือใช้เนื้อเน่าแขวนไว้ตามนาข้าว เพื่อล่อตัวเต็มวัยของแมลงสิงมาทำลาย เนื่องจากตัวเต็มวัยของแมลงสิงชอบกินเนื้อเน่า

สศก. เปิดเวทีสัมมนา ขับเคลื่อนการพัฒนาการเกษตรมุ่งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGsนายวินิต อธิสุข รองเลขาธิการสำนักงานเศร...
17/02/2025

สศก. เปิดเวทีสัมมนา ขับเคลื่อนการพัฒนาการเกษตรมุ่งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs
นายวินิต อธิสุข รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การขับเคลื่อนการพัฒนาการเกษตรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)” ซึ่ง สศก.
โดย กองนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตร จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 ณ โรงแรม Best Western Plus Wanda Grand จังหวัดนนทบุรี
สำหรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาไว้จำนวน 17 เป้าหมาย 169 เป้าหมายย่อย 264 ตัวชี้วัด เพื่อให้เป็นกรอบการพัฒนาของโลกในการบรรลุ
การพัฒนาทางสังคมเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังภายในปี 2573
ภายใต้ 5 มิติการพัฒนา (5P) ได้แก่ การพัฒนาคน (People) สิ่งแวดล้อม (Planet) เศรษฐกิจและความมั่งคั่ง (Prosperity) สันติภาพและความยุติธรรม (Peace) และความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา (Partnership) ทั้งนี้ ประเทศไทย ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน พร้อมกำหนดให้การพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 เป้าหมาย เชื่อมโยงกับแผน 3 ระดับของประเทศ รวมถึงมีกลไกการขับเคลื่อนการดำเนินงานตั้งแต่ระดับนโยบาย ระดับหน่วยงาน จนถึงระดับพื้นที่ด้วยเช่นกัน
สศก. ในฐานะหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก
(Custodian 1: C1) เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 2 ยุติความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหารและยกระดับโภชนาการ และส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน (SDG 2) มีหน้าที่รายงานผลการดำเนินงานการขับเคลื่อน ตรวจสอบปัญหาและอุปสรรค รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการจัดเก็บข้อมูลเป้าหมายย่อย
(Custodian 2: C2) ทั้งหน่วยงานในและนอกสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทั้งภายในและภายนอกสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความรู้ความเข้าใจ ปรับใช้ในการจัดทำแผนงาน/โครงการของหน่วยงานเพื่อสนับสนุนและผลักดันการพัฒนาการเกษตรให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ภายในปี 2573 การสัมมนาฯ ได้มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับ “การขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาพรวมของประเทศไทย” โดยนางสาวจิดาภา จิตสัมพันธเวช ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและการบรรยาย “การขับเคลื่อนการพัฒนาการเกษตรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ชลบุนนาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDG Move (Centre for SDG Research and Support SDG Move)
ซึ่งในปี 2567 ทาง UN-ESCAP (United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific) ได้ประเมินผลการดำเนินงาน SDGs ระดับภูมิภาคพบว่า มี 135 เป้าหมายย่อย จากทั้งหมด 169 เป้าหมายย่อย ที่สามารถประเมินความก้าวหน้าได้ โดยในระดับโลกมีเพียงร้อยละ 17และในระดับภูมิภาค มีเพียงร้อยละ 11 ที่มีแนวโน้มบรรลุเป้าหมายภายในปี 2573 และคาดการณ์ว่า หากไม่เร่งรัดการขับเคลื่อนการดำเนินงาน SDGs จะทำให้บรรลุเป้าหมายได้ในปี 2605 หรือล่าช้ากว่าที่กำหนด 32 ปี
โดยสาเหตุสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความเหลื่อม
ล้ำทางเศรษฐกิจ
สำหรับภาคการเกษตร ถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ซึ่งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs ที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร นอกจาก SDG เป้าหมายที่ 2 แล้ว
ยังเชื่อมโยงกับ SDG เป้าหมายที่ 1 ขจัดความยากจน SDG เป้าหมายที่ 4 การศึกษาที่มีคุณภาพ SDG เป้าหมายที่ 5 ความเท่าเทียมทางเพศ SDG เป้าหมายที่ 6 น้ำสะอาดและสุขาภิบาล SDG เป้าหมายที่ 7 พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้ SDG เป้าหมายที่ 8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
SDG เป้าหมายที่ 9 โครงสร้างพื้นฐานนวัตกรรมและอุตสาหกรรม SDG เป้าหมายที่ 12 การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน SDG เป้าหมายที่ 13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ SDG เป้าหมายที่ 14 ทรัพยากรทางทะเล SDG เป้าหมายที่ 15 ระบบนิเวศบนบกและ SDG เป้าหมายที่ 17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนนอกจากนี้ ในส่วนของการเสวนา เรื่อง “ปลุกพลังภาคีเกษตรไทย สู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยเกษตรกรผู้ดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ประกอบด้วย 1) นางสาวนฤมล ทักษอุดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ผู้ดำเนินธุรกิจกาแฟครบวงจร 2) นายอำนาจ เรียนสร้อยเจ้าของแทนคุณ ออร์แกนิคฟาร์ม จังหวัดนครปฐม ผู้ดำเนินธุรกิจฟาร์มไก่เนื้อและไก่ไข่ออร์แกนิค 3) นายวานิชย์ วันทวี เจ้าของ ว. ทวีฟาร์ม จังหวัดขอนแก่น ผู้ดำเนินธุรกิจเลี้ยงสุกรแบบไบโอไดนามิค และ 4) นายสุรพล กลิ่นขจรไกล เกษตรกรในโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงบ้านแม่แฮหลวง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ผู้นำเกษตรกรผู้ปลูกเสาวรสหวาน ซึ่งสรุปข้อเสนอแนะในการขับเคลื่อน SDGs ในระดับพื้นที่ ดังนี้
1) นโยบายภาคเกษตร ควรกำหนดนโยบายให้เหมาะสมกับสินค้าและบริบทของแต่ละพื้นที่ เช่น นโยบายสำหรับเกษตรกรที่มีการเพาะปลูกบนพื้นที่ราบ นโยบายสำหรับเกษตรกรที่มีการเพาะปลูกบนพื้นที่ลาดชันหรือบนพื้นที่สูง
2) ระเบียบและข้อกำหนดในการขออนุญาตต่าง ๆ พบว่า บางส่วนยังมีขั้นตอนที่ซับซ้อน ไม่เอื้อต่อเกษตรกรรายย่อย ประกอบกับเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการรวมถึงผู้ให้คำแนะนำมีปริมาณจำกัด มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
สูงส่งผลให้ต้นทุนต่อสินค้าเพิ่มขึ้นทำให้ผู้บริโภคอาจเข้าไม่ถึงสินค้า
3) ภาครัฐควรมีการบูรณาการระหว่างองค์กรให้มากขึ้น ส่งผลให้การใช้ข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลของแต่ละหน่วยงานไม่ใช่ฐานข้อมูลเดียวกัน และ 4) ควรส่งเสริมความรู้ในการจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสม สามารถสร้างผลผลิตต่อพื้นที่อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีคุณภาพสูงและสร้างช่องทางการตลาดให้เกษตรกรและผู้บริโภคให้มากขึ้นทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะร่วมกับผู้เข้าร่วมสัมมนา
รวมทั้งถอดบทเรียนจากเกษตรกรผู้ดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับเป้าหมาย
การพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนงาน/โครงการ ให้สอดคล้องกับภารกิจของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งทาง สศก. จะนำผลการสัมนนาไปใช้ประกอบการจัดทำรายงานการทบทวนการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ระดับชาติโดยสมัครใจ (Voluntary National Review: VNR) ฉบับปี ค.ศ. 2025 ของ SDG เป้าหมายที่ 2 ต่อไป โดยผู้ที่สนใจข้อมูลการจัดสัมมนาฯ ในวันดังกล่าว สามารถสอบถามได้ที่ส่วนนโยบายและแผนการเกษตร กองนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตร โทร. 0 2940 6671-2 ในวันและเวลาราชการ

เปิดงานแล้ว!! เทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2568 ฉลอง 50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทยโดย รมว.ท่องเที่ยว และเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประช...
30/01/2025

เปิดงานแล้ว!! เทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2568 ฉลอง 50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย
โดย รมว.ท่องเที่ยว และเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมพิธีกล่าวคำอวยพรเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2568 ฉลอง 50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ผู้แทนสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้แทนรัฐบาลไทย ร่วมกล่าวคำอวยพรเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2568 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน
พร้อมด้วยนางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอัครุตม์ สนธยานนท์ รองปลัดกระทรวงการคลัง นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัด กระทรวงมหาดไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนายชัย อรุณานนท์ชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเข้าร่วมในพิธีฯ ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีน ประเทศไทย ประจำปี 2568 เป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่ส่งเสริมการสานความสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่ระหว่างสองประเทศให้ยืนยาว ตลอดไป รวมทั้งเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน และครบรอบ 21 ปี ความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมระหว่าง ททท. กับกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีน
ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างชาวจีนและชาวไทยได้มีการสืบสานมาอย่างยาวนานจนเกิดการผสมกลมกลืนทั้งทางด้านการค้า ศิลปกรรม และวัฒนธรรม รวมทั้งในด้านการท่องเที่ยว ดังปรากฏจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเยือนประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมีจำนวนมากกว่า 1.3 ล้านคนในช่วงระหว่างวันที่ 24 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ 2568 อัตราการเติบโตจากปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากปีที่ผ่านมา
และนักท่องเที่ยวไทยได้เดินทางเยือนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและยิ่งใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน เนื่องในวาระอันเป็นมงคลเทศกาลตรุษจีนปีงูนี้ ขออวยพรให้พี่น้องชาวไทยและพี่น้องชาวจีนที่อยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก มีความสุขความเจริญ สุขภาพร่างกายแข็งแรง ร่ำรวยเงินทองและความโชคดี สมปรารถนาทุกประการ
นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้เป็นวาระโอกาสพิเศษครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย และ “50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย” สะท้อนถึงความแน่นแฟ้นดั่งพี่น้องของทั้งสองประเทศ ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา การแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างจีนและไทยในด้านต่างๆ มีความก้าวหน้าอย่างมากและประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนจีนและไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของทั้งสองประเทศ ทำให้ประชาชนได้เดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันและมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตร ในโอกาสนี้ ขออวยพรให้จีนและไทยเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีมีสุข และขอให้ทั้งสองประเทศก้าวไปข้างหน้า ร่วมสร้างอนาคตที่ดีและสดใสยิ่งขึ้นให้กับความสัมพันธ์จีน-ไทย ตลอดไป
ในช่วงพิธีกล่าวอวยพรฯ ทั้งสองประเทศได้มอบของที่ระลึกแก่กัน พร้อมจัดการแสดงชุดพิเศษเพื่อให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสบรรยากาศและเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด โดยประเทศไทยนำเสนอการแสดงชุด “Soft Power of Thailand” ไทยร่วมสมัยที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของไทย ได้แก่ อาหาร ประเพณีไทย การต่อสู้มวยไทย ที่ถือเป็นเสน่ห์ไทยที่ได้รับความสนใจและรู้จักไปทั่วโลก ขณะที่สาธารณรัฐประชาชนจีนนำเสนอความงดงามของวัฒนธรรมผ่านชุดการแสดงการขับร้องประสานเสียง
ชุด “ขับขานบทเพลงสู่ใจที่เป็นหนึ่ง” ถือเป็นของขวัญอันล้ำค่าที่จะมาร่วมสร้างความสุข ความประทับใจ และรอยยิ้มให้แก่พี่น้องชาวไทยในโอกาสเทศกาลตรุษจีนปีงู เทศกาลตรุษจีนประเทศไทย ประจำปี 2568 ณ ลานศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม- 2 กุมภาพันธ์ 2568 ภายใต้แนวคิด “Ignite Your Senses Embrace Our Two Cultures” มีไฮไลต์ Art Installation แลนด์มาร์กรูปงูฉลุลายประดับไฟขนาดใหญ่ องค์เจ้าแม่กวนอิมและเทพเจ้าที่ชาวจีนนับถือ พร้อมจำลองชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่และมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจได้แก่
ชุมชนจีนโบราณบ้านชากแง้ว จ.ชลบุรี และชุมชนจีนตลาดน้อย ศาลเจ้าโรงเกือก และนำเสนอการแสดงเชิงวัฒนธรรม อาทิ โขน ตอนหนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา รำวงย้อนยุค สยามเมืองยิ้ม สะบัดชัย บันลือไทย นาฎศิลป์ไทยร่วมสมัยชุด “คีรีแห่งศรัทธา งามเลิศยศทั่วแดนไทย” โนราห์ระเริงระบำ ระบำชาชัก เรือมตะล็อก กาบเซิ้งเทิ่งบ่อง ระบำกลองยาว รวมทั้งยังมีกิจกรรมสาธิตวัฒนธรรมไทย-จีน 4 กิจกรรม ได้แก่ การเขียนพู่กันจีน ศิลปะการตัดกระดาษจีน การเขียนหัวโขน การทำว่าวจุฬา
และการตัดกระดาษ รวมถึงการออกร้านอาหารที่มีชื่อเสียงกว่า 30 ร้าน พร้อมด้วยการแสดงศิลปินตลอด 6 วัน ได้แก่วง MEAN วง HERS, Tilly birds, Landokmai, Scrubb, Whal & Dolph, ต้าห์อู๋ พิทยา, PAIINNTT, Bowkylion, Better Weather, bamm และ Risa Narisa
นอกจากนี้ ททท. ได้ร่วมจัดเทศกาลตรุษจีน บริเวณถนนเยาวราช กรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ตามธรรมเนียมจีน โดย ททท. เนรมิตถนนเยาวราชด้วยการประดับไฟบริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ
วงเวียนโอเดียน ถึง แยกเฉลิมบุรี ถนนเยาวราช ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม-9 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 18.00-24.00 น. และวันที่ 29 มกราคม 2568 พิธีเปิดเทศกาลตรุษจีนเยาวราช ประจำปี 2568 ณ ถนนเยาวราช โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน ซึ่ง ได้รับการสนับสนุนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนนำการแสดงทางวัฒนธรรมรูปแบบ Thai Contemporary ผสมผสานเครื่องดนตรีจีน แสดงหน้าพระพักตร์ รวมทั้งจัดทำบูธในงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช นำเสนอศาสตร์พยากรณ์ ได้แก่ ศาสตร์นาฬิกาพยากรณ์ อ.พิชัยรัตน์ และศาสตร์ไพ่ออรอเคิล อ.แน็ต ซียูทาโร่ห์
ทั้งนี้ ยังมีการสนับสนุนการจัดงานในพื้นที่ต่าง ๆ ได้แก่ 1) ตรุษจีนสุพรรณบุรี มหัศจรรย์ 17 ปี มังกรสวรรค์ ณ อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร จังหวัดสุพรรณบุรี วันที่ 29-30 มกราคม 2568 2) เทศกาลตรุษจีนหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ณ บริเวณโรงเรียนศรีนครมูลนิธิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา วันที่ 28 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ 2568 3) ประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ ณ บริเวณต้นแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ วันที่ 22 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ 2568 4)
ตรุษจีน สามแผ่นดิน จังหวัดขอนแก่น ณ บริเวณรอบศาลหลักเมือง และถนนอดุณสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น วันที่ 24-26 มกราคม 2568 5) เทศกาลตรุษจีนไชน่าทาวน์เมืองเชียงใหม่ ณ บริเวณถนนเมรุ (ย่านตรอกเล่าโจ้ว) ถนนช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 29-30 มกราคม 2568 6) การจัดงานประเพณีแห่พระสะเดาะเคราะห์ ประจำปี 2568 บริเวณมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่
แนวถนนสวนหย่อมถนนศุภสารรังสรรค์ เทศบาลนครหาดใหญ่ และหัวมุมศูนย์การค้าโอเดียนถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในวันที่ 28 มกราคม-6 กุมภาพันธ์ 2568 และ 7) เทศกาลตรุษจีนราชบุรี 2568 สำเร็จ สมหวัง ร่ำรวย ณ ริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา-ตลาดโคยกี่ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี วันที่ 29 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ 2568
เครดิตภาพ : Sathorn Leelakhajornjitl

ที่อยู่

The Offices At Centralworld 999/9 ถนน พระรามที่ 1 เขตปทุมวัน
Phra Nakhon
10330

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ IYARAผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง IYARA:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์