27/03/2025
คนเขียนวิเคราะห์เก่งเนาะ
https://www.facebook.com/share/p/1BPDXK3xQi/
ระบบ LTAX online กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
128.5 ล้าน .. ใช้การไม่ได้
เครือข่าย ฯ ใน อปท. รายงานมาว่าระบบบูรณาการทะเบียนทรัพย์สิน (LTAX ONLINE) ที่จัดทำมาเพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และภาษีป้าย ใช้การไม่ได้ ระบบประมวลผลมีปัญหา เมนูหนังสือ และประเมินภาษีป้ายก็ยังมั่ว ถ่ายโอนข้อมูลผิดพลาด..สร้างปัญหาการทำงานซ้ำซ้อนให้แก่ อปท. ต้องไปจ้างเอกชนมาทำงานแทน...
เราลองสืบเสาะข้อมูลย้อนหลังพบว่า กรมส่งเสริมฯใช้งบในการจัดทำโครงการ LTAX online ไปกว่า 128.5 ล้านบาท *ยังไม่รวมงบอบรม และงบเช่าครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์
แบ่งเป็น 3 โครงการ
โครงการที่ 1. ชื่อโครงการ ประกวดราคาจ้างดำเนินการบูรณาการทะเบียนทรัพย์สินของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำนวน 1 ระบบ ด้วยวิธี (e-bidding)
เลขที่โครงการ 64117375743
งบประมาณ 75,500,000 บาท
โครงการที่ 2. ประกวดราคาจ้างบริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมแก้ไขระบบบูรณาการทะเบียนทรัพย์สิน (LTAX ONLINE) จำนวน 1 งาน ด้วยวิธี (e-bidding)
เลขที่โครงการ 67069188996
งบประมาณ 3,000,000 บาท
โครงการที่ 3. ประกวดราคาจ้างดำเนินการสร้างเครื่องมือและแพลตฟอร์มกลาง และบูรณาการทะเบียนทรัพย์สิน (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) ระยะที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 1 ระบบ ด้วยวิธี (e-bidding)
ได้บริษัทเดียวกันทั้ง 3 โครงการ
ปัญหาโปรแกรม Ltax online เริ่มต้นมาจาก พรบ.ภาษีที่ดิน ซึ่ง กรมฯ มีโปรแกรมเก่า ชื่อ Ltax 3000 v.4 เป็นโปรแกรมออฟไลน์ ใช้ได้เฉพาะภายใน อปท. ข้อมูลแบคอัพอยู่ที่ อปท. โดยได้พัฒนามาระดับนึงในช่วง ปี 2562-2563 และหยุดพัฒนาไป จึงมายกระดับใหม่เป็น online อย่างในปัจจุบัน
(มุมนี้ คงเห็นว่า หากเป็นออนไลน์ก็จะมีรายได้จากการอบรม เหมือนโปรแกรมอื่นๆที่กรมฯดำเนินการมาแล้ว)
แต่ในการจัดเก็บภาษีของ อปท. ปัจจุบันมีความหลากหลายในการจัดทำฐานข้อมูล หรือ โปรแกรม โดยสามารถแบ่งได้ เป็น 3 กลุ่ม คือ
#กลุ่มที่ 1 ยังคงใช้ระบบ Ltax 3000 v.4 ในการดำเนินการจัดเก็บภาษีอยู่ เพราะใช้งานง่าย เมื่อเทียบกับ Ltax online เช่น ฟังก์ชั่น , เมนู , การรันระบบ , การผลิตเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมี อปท. จำนวนนึงยังคงใช้งาน ส่วนใหญ่มักจะเป็น อบต.ขนาดเล็ก - ขนาดกลาง (ขนาดในที่นี้หมายถึง จำนวนแปลงที่ดิน+ความหลากหลายในการใช้ประโยชน์ทางภาษี)
#กลุ่มที่ 2 ใช้ Ltax online ในการจัดเก็บเลย แต่มักพบปัญหาอยู่บ่อยครั้ง เช่น ความอืด ความลื่นไหล ของโปรแกรม เพราะเซิร์ฟเวอร์มันอยู่ที่กรมฯ ระบบช้ามาก หรือ การคำนวณออกมา error ซึ่ง อปท. ส่วนนี้จะจัดงบจ้างเอกชนมาดำเนินการสำรวจ และประมวลผล แล้วนำไปคีย์ลงระบบอีกรอบ..
#กลุ่มที่ 3 ใช้ TaxGO เป็นโปรแกรมของ ม.จุฬา ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพ เป็นระบบออนไลน์ เบื้องหลังระบบนี้ได้พัฒนามาจาก Ltax 3000 v.4 ซึ่ง กทม. เคยใช้อยู่ 2 ปี แต่ด้วย กทม.มีข้อมูลมากจำเป็นต้องไปจ้างเอกชนขึ้นมาเอง
ระบบTaxGo นี้ ส่วนใหญ่จะเป็นเทศบาลเมือง และเทศบาลนคร เช่น เทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลนครสมุทรปราการ หรือ อปท.ทั้งจังหวัดภูเก็ต ใช้งานอยู่
#กลุ่มที่ 4 คือ จ้างเอกชน เขียนโปรแกรม ขึ้นมาใช้กับ อปท.นั้นๆ เลย เช่น เทศบาลนครแหลมฉบัง เมืองพัทยา เทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง และหลายๆที่ ส่วนใหญ่มักจะเป็น อปท.ที่มีงบประมาณสูง
ถามว่า ทำไม อปท.ส่วนใหญ่ถึงได้ใช้ TaxGO หรือ จ้างเอกชน เพราะ การบริหารจัดการภาษีที่ดิน และภาษีป้าย มันเสมือนหนึ่งเป็นฐานข้อมูล Big Data รวมถึงกระบวนการจัดทำเอกสารหนังสือแจ้งประเมินตามกฎหมาย อีกทั้ง เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการชำระแบบสแกนบาร์โค้ด
ยกตัวเช่น 1 ราย มีที่ดิน 2 แปลง เอกสารจะประกอบด้วย 4 แผ่น ที่นี้ลองคิดเล่นๆว่า อปท.ใหญ่ มีผู้ชำระภาษี สัก 2,000 ราย x 4 แผ่น = เอกสาร 8,000 แผ่น นี่คือ กระบวนการผลิตเอกสาร ยังไม่นับเรื่อง การจัดส่งไปรษณีย์ไทย ที่ต้องมีกระบวนการจัดทำและจัดส่งอีก
อีกทั้ง ยังต้องทำใบสแกนบาร์โค้ดด้วย ซึ่ง กรมฯ ได้กำหนดให้ไปทำในระบบ e-laas หรือ New e-laas โดยมีขั้นตอน 1 ราย มักจะต้องใช้เวลา 1-2 นาที เพียงเพราะระบบมีขั้นตอนเริ่มจากการกรอกข้อมูลก่อน หรือแก้ไขฐานข้อมูลต่อราย แล้วเรียกขึ้นมาจัดทำเอกสารแล้ว ปริ๊นออกมา *ที่ละที่ ไม่จบครบในโปรแกรมเดียว ดังนั้น เอกสารสแกนบาร์โค้ด ก็ต้องแยกไปทำอีกโปรแกรมนึง 2,000 ราย อีก 2,000 แผ่น
ซึ่งในขณะที่ โปรแกรมอื่น ทำได้ครบ จบในโปรแกรมเดียว คือ TaxGO กับ โปรแกรมเอกชน แต่ของกรมฯ ก็ได้โฆษณา(โม้) มาตั้งแต่ Ltax 3000 แล้วว่า จะเชื่อมกับ e-laas ตอนนี้มา ถึง Ltax online กับ New e-laas ก็ยังไม่มีวี่แวว หรือ ทางที่จะเป็นไปได้เลย ที่ 2 โปรแกรมจะเชื่อมโยงกันเพราะล่มไม่เป็นท่า..หมดงบไปหลายร้อยล้าน..
ต่อมา #เรื่องศักยภาพของโปรแกรม
#เรื่องที่ 1 มาตรา 10 ของ พรบ.ภาษีที่ดิน ระบุว่า ที่ดินที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น การซื้อขาย การโอน ของสำนักงานที่ดิน กำหนดไว้ว่า ต้องส่งข้อมูลให้กับ อปท. เป็นปัจจุบัน และกำหนดแนวทางไว้ คือ ส่งผ่านเว็บไซต์ของกรมที่ดิน ซึ่งได้มาจะเป็นไฟล์เอ็กเซล เนื่องจากมีความซับซ้อนของข้อมูล และมีปริมาณหลากหลาย เช่น ระดับ เทศบาลเมือง จะได้รับต่อเดือน ๆ ละ 200-800 แปลง เมื่อได้มา อปท.ก็ต้องดำเนินการปรับปรุงฐานข้อมูล
เมื่อมีโปรแกรมก็ควรจะทำให้มันง่ายกับระบบในปัจจุบัน แต่ Ltax online กับทำไม่ได้ ภาษีที่ดินผ่านมาแล้ว 2563-2568 กว่า 6 ปี ทำไม่ได้ แต่โปรแกรม TaxGO กับ โปรแกรมเอกชน กลับทำได้ โดยนำไฟล์มาแล้วนำเข้า พร้อมปรับปรุงได้เลย
#เรื่องที่ 2 ก็คือเรื่อง ใบสแกนบาร์โค้ด Ltax online ทำไม่จบในโปรแกรมเดียว ต้องไปทำใน New e-laas แต่โปรแกรม TaxGO กับ โปรแกรมเอกชน กลับทำได้
#เรื่องที่ 3 การคำนวนสัดส่วน อันนี้มีกฎหมายลูก ของ พรบ.ภาษี กำหนดไว้ มีเรื่องเศษส่วน แต่ Ltax online ทำไม่ได้ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในเมื่อระดับ กรมฯ ควรทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย..
#เรื่องที่ 4 การคำนวณภาษีแบบขั้นบันได หรือ ก้าวหน้าตามอัตราภาษีที่กฎหมายกาหนด Ltax online ทำไม่ได้
#เรื่องที่ 5 ฟังชั่น / เมนูการใช้งาน Ltax online เมื่อเทียบกับโปรแกรมอื่น เหมือนคล้ายๆกับ โปรแกรมราชการสมัยก่อน แบบเก่าๆ เช่น เข้าชื่อนายประยุทธเพื่อเช็ค ข้อมูลที่ดิน แต่เวลาจะดูว่า นายประยุทธมีข้อมูลป้าย ไหม ต้องไปเข้าเริ่มต้นใหม่ แบบนี้ คือ เหมือนเป็นขั้น เป็นตอน เสมือนออกแบบโปรแกรม คล้ายกับตอนเรียน Access (1 ใน 4 โปรแกรมสานักงาน) เมื่อ 15 ปีก่อน แต่โปรแกรม TaxGO กับ โปรแกรมเอกชน กลับเชื่อมโยง หรือทำเป็นลิงค์ ที่ตัวชื่อได้เลย เพียงคลิกชื่อ มันก็ขึ้นเลยว่า มีฐานภาษี ข้อมูลอะไรบ้าง..
ในทางเทคนิควิศวะคอมฯ พูดกันง่ายๆว่า “Ltax online เสมือนเด็กจบใหม่ หัดเขียนโปรแกรม”
ประชาชนตรวจสอบแล้ว..ฝากต้นสังกัดและหน่วยงานตรวจสอบด่วน!!
ศูนย์ปฏิบัติการSTRONGประเทศไทย
กระทรวงมหาดไทย PR
FC Anutin
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
สื่อสารองค์กร สำนักงาน ป․ป․ท․
สำนักงาน ป.ป.ช.