Shan Spirit - เหล้ากบฏเงี้ยว

Shan Spirit - เหล้ากบฏเงี้ยว 🩸SHAN-เหล้ากบฏเงี้ยว โปรเจ็คผลิตสุรากลั่นชุมชนของกลุ่มนักเคลื่อนไหวจังหวัดแพร่ (ใช้เพจนี้เพจเดียว)

07/08/2025

ข่าาา

07/08/2025

สภาเห็นชอบผ่าน “ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. ...” ตามที่ สว. แก้ไข ด้วยคะแนนเสียง 420 เสียง จากผู้เข้าร่วมประชุม 425 คน พรรคประชาชนระบุ การแก้ไขเนื้อหาในร่างกฎหมายในชั้นกรรมาธิการของสภาผู้แทนฯ และการแก้ไขในชั้น สว. ทำให้หลักการที่เป็นหัวใจของร่างตามที่พรรคประชาชนเสนอ หล่นหายไประหว่างทาง 2 ข้อ
หนึ่ง ข้อห้ามการโฆษณาหรือเผยแพร่ในลักษณะที่เป็นการเหยียดหยาม สร้างความเกลียดชัง หรือเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อกลุ่มชาติพันธุ์ แม้เรื่องนี้ สส. ให้ความเห็นชอบในวาระ 3 แล้ว แต่ สว. กลับตัดออก ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะทุกวันนี้ยังมีการเผยแพร่ทางสื่อโดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย โจมตีและสร้างความเกลียดชังอย่างมีอคติต่อกลุ่มชาติพันธุ์
สอง การประกาศพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ เพราะที่ผ่านมากลุ่มชาติพันธุ์ไม่ว่าในพื้นที่ใด ต้องเผชิญปัญหาร่วมกันคือการไม่มีกรรมสิทธิ์เหนือที่ดินที่บรรพบุรุษของตัวเองแผ้วถางทำกิน เนื่องจากพื้นที่นั้นถูกกำหนดโดยรัฐให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ มีการใช้กฎหมายป่าไม้เป็นเครื่องมือผลักดันกลุ่มชาติพันธุ์ออกจากพื้นที่ หรือไม่สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินไปได้มากกว่าการเพาะปลูก กลายเป็นแต่เพียง “ผู้อยู่อาศัย” หรือเป็น “ผู้เช่า” ที่ดินจากรัฐ
เลาฟั้ง สส. พรรคประชาชน กล่าวว่า หากบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ เท่ากับคนชาติพันธุ์ยังต้องเผชิญปัญหาเดิมๆ ต่อไป หลายร้อยชุมชนที่ร้องเรียนปัญหามายัง สส. สว. ว่าพวกเขาไม่มีสิทธิในพื้นที่ทำกินของตัวเอง ก็ยังต้องรอต่อไป
อ่านต่อที่ลิงก์ในคอมเมนต์

06/08/2025

ประเทศไทย
มีกฎหมายคุ้มครองชาติพันธุ์ ฉบับแรกแล้วพี่น้อง
#พรบคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์

06/08/2025

วันชี้ชะตา! ลุ้นสภาฯ ผ่าน ‘กม.ชาติพันธุ์’ ฉบับแรกของไทยพรุ่งนี้
เครือข่ายชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง หวัง จุดเริ่มต้นยอมรับตัวตนบนความหลากหลายทางวิถีวัฒนธรรม ลบล้างอคติ คืนสิทธิหล่นหายสู่ความเท่าเทียม พร้อมหนุนศักยภาพบนความหลากหลายทางวัฒนธรรม สู่พลังพัฒนาประเทศ
📌 อ่านเนื้อหาเพิ่มในคอมเมนต์

#กฎหมายชาติพันธุ์

06/08/2025

[เชิญชวนติดตามสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง "พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์" ]

วันนี้สภาผู้แทนราษฏรมีกำหนดจะพิจารณาร่าง "พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์" ในวันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2568
👉 โดย "พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์" จะถูกยกขึ้นมาพิจารณาเป็นร่างแรกในวันดังกล่าว
👀 ปีกงานชาติพันธุ์ฯ พรรคประชาชน ขอเชิญชวนพี่น้องชาติพันธุ์ พี่น้องชนเผ่าพื้นมืองและประชาชนทุกคนร่วมติดตามการพิจารณา "พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์" ไปพร้อมๆ กัน
ในวันที่ 6 สิงหาคม 2568 นี้ เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป
#ชาติพันธุ์ประชาชน
#เครือข่ายชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองพรรคประชาชน
#พรรคประชาชน
#ปัญหาที่ดิน
#สร้างป่าสร้างรายได้
#แก้ไขพระราชบัญญัติสวนป่า
#ด้อมส้ม
#ชาติพันธุ์
#ชาติพันธุ์ไทยเท่าเทียม
#พรบชาติพันธุ์
#กฎหมายคุ้มครองชาติพันธุ์
#ชาติพันธุ์
#ชนเผ่าพื้นเมือง

06/08/2025

“ชาติพันธุ์ก็คือคน”

6 สิงหาคม 2568 — วันประวัติศาสตร์กฎหมายชาติพันธุ์

วันนี้ ร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์
จะเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ อีกครั้ง
หากผ่าน คือชัยชนะของสิทธิ ศักดิ์ศรี และความหวัง

📌 ไม่ใช่แค่ “กฎหมาย” แต่คือ “การยอมรับในตัวตน”
📌 ไม่ใช่แค่ “สิทธิ” แต่คือ “คุณค่าความเป็นมนุษย์”
📌 ไม่ใช่แค่ “หนึ่งวัน” แต่คือ “จุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์”

#พรบชาติพันธุ์ ไม่ใช่แค่ของกลุ่มชาติพันธุ์ แต่เป็นของพวกเราทุกคนที่เชื่อในความเสมอภาคและความหลากหลาย

🧡 ร่วมส่งใจ
🧡 ร่วมจับตา
🧡 ร่วมจารึกประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน

#พรบคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์

ยกแรกผ่านแล้ว
04/08/2025

ยกแรกผ่านแล้ว

วันที่ 4 สิงหาคม 2568
ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาในวาระที่ 2 และ 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพื่อให้ได้รับทราบทางสมาคมฯคราฟท์เบียร์ ขอหยิบยกสาระสำคัญใน หมวด 4/1 “การโฆษณา” มาสรุปให้เข้าใจ ดังนี้
✅ มาตรา 32/1 ห้ามผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เว้นแต่เป็นการให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ หรือประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุม
อธิบายอย่างง่าย : ห้ามโฆษณาเพื่อจูงใจให้คนอยากดื่ม แต่ ให้ข้อมูลความรู้ได้ ถ้าทำตามกติกาที่กำหนด
*กฎหมายเดิม (พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551)
มาตรา 32 ห้ามมิให้โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อ/เครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงให้ผู้อื่นดื่ม ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
การประชาสัมพันธ์ทำได้เฉพาะการให้ข้อมูลข่าวสารและความรู้เชิงสร้างสรรค์ โดย ห้ามแสดงภาพสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์ ยกเว้นในกรณีที่เป็นภาพสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มนั้น
✅ มาตรา 32/2 ห้ามผู้ใดใช้ชื่อเสียงเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตนสื่อสารข้อมูล ต่อสาธารณชนโดยการแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมุ่งหมายชักจูงใจให้ผู้อื่นบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เว้นแต่เป็นการสื่อสารทางวิชาการให้แก่สมาชิกในวงจำกัด ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุม
อธิบายอย่างง่าย : ห้ามใช้ชื่อเสียงมาชวนคนดื่มเหล้าเว้นแต่ให้ความรู้เฉพาะกลุ่ม
✅ มาตรา 32/3 ห้ามผู้ใดโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือสิ่งอื่นใดที่ใช้ชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นชื่อหรือเครื่องหมายของผลิตภัณฑ์หรือสิ่งนั้น หรือโฆษณาโดยการนำเอาชื่อ เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตัด ต่อเติม หรือดัดแปลงข้อความให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของชื่อหรือเครื่องหมายของผลิตภัณฑ์หรือสิ่งนั้น มีลักษณะทำนองทำให้เข้าใจได้ว่าหมายความถึงการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อธิบายอย่างง่าย : ห้ามโฆษณาสินค้าอื่น โดยใช้ชื่อ โลโก้ หรือสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้คนเข้าใจว่าเป็นการโฆษณาเหล้า เบียร์ หรือแอลกอฮอล์
✅ มาตรา 32/4 ห้ามผู้ใดให้การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมหรือเพื่อสาธารณประโยชน์แก่บุคคล กลุ่มบุคคล หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชน โดยมีลักษณะเป็นการส่งเสริมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุม
อธิบายอย่างง่าย: ห้ามสนับสนุนกิจกรรมสาธารณะ (เช่น งานเพื่อสังคมหรือกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน) โดยแฝงการส่งเสริมให้คนอยากดื่มแอลกอฮอล์
✅ มาตรา 32/5 ห้ามผู้ใดเผยแพร่กิจกรรมหรือข่าวสารเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมอันมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 32/4
⚪️ ขั้นตอนถัดไป:
นายกรัฐมนตรีจะนำนำร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อลงพระปรมาภิไธยโดยพระมหากษัตริย์ ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ต่อไป จากนั้นจะต้องรอกฎกระทรวง (กฎหมายลูก) ออกมารองรับการบังคับใช้ในรายละเอียดต่างๆ
สมาคมฯ คราฟท์เบียร์ ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่เสียสละเวลาทั้งแรงกายและแรงใจช่วยกันแก้ไขกฎหมายจนสำเร็จ รวมถึงแรงสนับสนุนจากทุกฝ่ายที่เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
ขอขอบคุณจากหัวใจอีกครั้งค่ะ 🍻

04/08/2025

วันนี้มีหนึ่งอย่างน่ายินดีเกี่ยวกับ กฎหมายโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ โดยในชั้นกรรมาธิการมีการโหวตผ่านกฎหมายที่กล่าวมาข้างต้น
ในมาตรา 32/1
ห้ามผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ “เว้นแต่” เป็นการให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ หรือประชาสัมพันธ์
**ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รมต.ประกาศกำหนดโดยคำแนะนำจะของคณะกรรมการควบคุม
ถึงจะดูปรับเปลี่ยนไม่เยอะ และต้องไปถกกันในกรรมาธิการเรื่องกฎหมายลูกต่าง ๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ตัวผมรู้สึกขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลักดันกฎหมาย ไม่ว่าจะแชร์โพสจวบไปจนการทำงานทางความคิด ใครเหนื่อยมากเหนื่อยน้อย ผมขอขอบคุณจากใจจริงอีกครั้งครับ
ต่อไปต้องมาลุ้นอีกทีว่า กฎกระทรวง จะออกมาแบบใด แต่อย่างน้อยเราก็ “เข้าใกล้ความฝันขึ้นอีกก้าว“
รอติดตามชมครับ
#ประชาชน
#เท่ากับประชาชน
#สุราก้าวหน้า

04/08/2025

🔻ชีวิตระหว่างบรรทัดของเจนจิรา

“หนูว่าหนูเป็นคนไทยนะ เพราะว่าเราอ่านออกเขียนได้ แล้วก็จบปริญญาตรี ทำงานได้เหมือนคนอื่นทุกอย่างตามปกติเลย ยกเว้นรับราชการ และก็ยังเกิดที่ประเทศไทยด้วย”

เจนจิรา ดาวพระแก้ว หรือ “เจน” วัย 29 ใช้ชีวิตอยู่ในจังหวัดแพร่ พ่อของเธอเป็นชาวลาว ส่วนแม่เป็นคนไทใหญ่ ทั้งสองคนเดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทำงานในสวนยางพารา ก่อนเธอเกิดและเติบโตที่จังหวัดชุมพร เจนเริ่มต้นชีวิตวัยเด็กที่นั่น จนกระทั่งแม่ล้มป่วยและเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เธอจำเป็นต้องย้ายมาอยู่กับป้าที่จังหวัดแพร่ และพลัดพรากกับพ่อหลังการจากไปของแม่

เธอประคองชีวิตจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยของรัฐ ทว่ามีบางสิ่งที่เธอยังขาดหาย นั่นคือ “สถานะบุคคลผู้มีสัญชาติไทย”

แม้กฎหมายจะกำหนดให้บุคคลที่เกิดในราชอาณาจักรและมีคุณสมบัติตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเฉพาะ มาตรา 5 และ มาตรา 17 (7) สามารถยื่นขอสัญชาติไทยได้ แต่ในทางปฏิบัติ ความซับซ้อนของบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ห่างไกล และข้อจำกัดของระบบราชการ กลับทำให้สิทธินั้นกลายเป็นเพียงความหวังที่ยังเอื้อมไม่ถึง

ความหวังที่ (ยัง) ไม่เป็นจริง

เจนเล่าว่า เธอเริ่มกระบวนการยื่นขอสัญชาติตั้งแต่ยังเรียนอยู่ระดับชั้นประถม

“ตั้งแต่เด็ก หนูเรียน ป.3 - ป.4 เท่าที่หนูจำความได้ พ่อแม่ ผู้ใหญ่บ้าน และคุณครู พยายามช่วยกันขอสถานะให้ครอบครัวเรามาตลอด แต่มันก็ล้มเหลวทุกครั้ง จนแม่เสีย หนูหาพ่อไม่เจอ หนูย้ายมาอยู่แพร่ เรียนจบ ป.ตรี และในวันนี้หนูอายุ 29 แล้ว…”

หลายครั้งที่เธอรู้สึกท้อแท้ แต่เมื่อมองเห็นคนอื่นที่ยังลำบากกว่า เธอเลือกที่จะลุกขึ้นสู้ต่อไป

“หนูท้อ เคยคิดว่าจะไม่เอาอะไรแล้ว พอมองคนที่เค้าลำบากกว่า เราก็ต้องลองสู้มันถึงที่สุด ตอนนี้รอติดตามประกาศจากมติ ครม. รู้สึกเป็นความหวังเดียวในเวลานี้”

แม้ว่าเธอจะมีความหวังที่แน่วแน่ แต่หนทางสู่การได้รับสัญชาตินั้นกลับเต็มไปด้วยอุปสรรค เธอเคยถูกปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ที่ควรเป็นผู้รับผิดชอบตาม มาตรา 5, 17 (7), และ 17 (11) ของ พ.ร.บ.สัญชาติ ซึ่งกำหนดให้มีหน้าที่รับและพิจารณาโดยตรง

“ตอนหนูเรียนอยู่ปีสอง นายอำเภอบอกกับหนูว่า ’ไม่มีผู้เชี่ยวชาญการขอสัญชาติ‘ เราอยากบอกว่า มันอาจจะเป็นแค่ข้ออ้าง เพราะมันเป็นเรื่องพื้นฐานที่เขาต้องสอบเข้ามาได้ เขาต้องมีความรู้อยู่แล้ว”

ความสับสนของสถานะที่ไม่อาจเลือกได้

การขาดความเข้าใจต่อการยื่นขอสถานะบุคคลของผู้ปกครองในช่วงที่เจนยังเป็นเด็ก ทำให้เกิดข้อผิดพลาดตั้งแต่ต้นทางของกระบวนการ

“เคยมีการสำรวจที่ชุมพรครั้งหนึ่ง พ่อกับแม่ไม่รู้ว่าคืออะไรแต่เอาชื่อของหนูไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ทำให้ช่วงเวลาหนึ่งหนูมีหลายสถานะ ปะปนหลายบัตร ทั้งแรงงานต่างด้าว คนพลัดถิ่น”

สิ่งนี้ขัดแย้งกับเจตนารมณ์ของ มาตรา 5 และ 9 (4) ซึ่งกำหนดให้เด็กที่เกิดในประเทศไทย มีสิทธิได้รับสัญชาติหากเข้าเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด

สิทธิพื้นฐานที่เข้าไม่ถึง

การไม่มีสถานะพลเมืองทำให้เธอเข้าไม่ถึงสิทธิที่ควรได้รับตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น ๆ รวมถึงมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.สัญชาติ ที่ว่าด้วยสิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการรักษาพยาบาล

“เขามีสิทธิพื้นฐานให้เรา 10 บาท ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป กรณีผ่าฟันคุด แต่สุดท้ายเราก็ต้องจ่ายเองอยู่ดี”

เธอย้ำว่า สิ่งที่เรียกร้องไม่ใช่การแย่งสิทธิใคร แต่เป็นสิ่งที่ควรมีในฐานะ “คนที่เกิดและใช้ชีวิตในแผ่นดินไทย”

“เราอยากได้สิทธิพื้นฐานที่เราควรจะได้โดยที่มันไม่ได้ไปเบียดเบียนใครเลย เราไม่ได้แย่งงานจากใคร”

เส้นทางที่ไร้จุดหมาย

แม้จะมีความรู้ทางกฎหมายและเตรียมเอกสารครบถ้วนทุกอย่างเมื่อเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย แต่ระบบราชการก็ยังไม่เปิดทางให้

“เราได้เรียนรู้เรื่องกฎหมายมากขึ้น เพราะว่าเราเรียนรัฐศาสตร์ ตอนนั้นเราเป็นแกนนำกับพี่แอน (กลุ่มพลังโจ๋) ทำงานช่วยเหลือเยาวชนกลุ่มเปราะบาง เรามีโอกาสได้เรียนรู้และเจอคนแนะนำมากขึ้น เลยรู้ว่าถ้าอยากได้สัญชาติ เราต้องเตรียมอะไรบ้าง หนูเตรียมครบทั้งหมดเลย แต่พอไปขอจริงมันไม่ได้อย่างที่หวัง”

อนาคตที่ถูกปิดกั้น

การถูกกีดกันออกจากโอกาสเล็ก ๆ ในโรงเรียน สะท้อนถึงการถูกทำให้ไร้ตัวตนในระดับโครงสร้าง โดยเฉพาะสิทธิในการศึกษา ซึ่งระบุไว้ใน มาตรา 5 และ 8 ของ พ.ร.บ.สัญชาติ และในรัฐธรรมนูญไทยเอง

“เวลามีคนจากมหาวิทยาลัยมาแนะแนว เราก็เป็นหนึ่งในที่เขาไม่ให้เข้าไปฟังแนะแนว เพราะว่าเขากลัวเราเสียใจ”

“ก็ต้องขอบคุณเขา แต่เป้าหมายของเด็กหลาย ๆ คนก็อยากจะรู้แหละว่า ต่อไปเราจะมีทางเลือกอะไรได้บ้าง”

สัญชาติและอนาคตของชาติ

เจนไม่มองว่าสัญชาติคือจุดสิ้นสุดของการต่อสู้ แต่คือประตูบานหนึ่งสู่อนาคต และหากเปิดบานประตูนี้ ให้กับคนที่เกิดและเติบโตในประเทศ การพัฒนาก็อาจเป็นผลพลอยได้ที่รัฐมองข้าม

“สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องสัญชาติ คิดว่าบางครั้งไม่ต้องพิจารณาก็ได้นะ คือคนที่ไปขอสัญชาติเขาไม่ได้ทำให้ประเทศล่มจม การที่เขาพยายามขอสัญชาติอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พัฒนาชาติให้ดีขึ้นก็ได้”

“มันไม่ได้มีแค่คนที่เป็นแรงงานอยากไปขอสัญชาติเพื่อให้เป็นคนไทยเท่านั้น แต่ยังมีเด็กบางคนที่เขารอการได้สัญชาติเพื่อที่เขาจะได้มีอนาคตที่ดี และตอบแทนกลับให้ประเทศ”

”เราเคยมีความฝันอยากสอบเข้ารับราชการเป็นครูศิลปะ แต่มันก็เป็นไม่ได้ มันไปต่อไม่ได้“

ถึงอย่างนั้นทุกวันนี้เจนก็ยังได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก เธอรับงานสอนพิเศษศิลปะให้เด็กระดับชั้นอนุบาลถึงประถม ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และทำงานวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์

เรื่องราวของเจนคือภาพสะท้อนของช่องว่างระหว่าง “หลักกฎหมาย” กับ “การปฏิบัติ” ที่ยังไม่อาจเติมเต็ม แม้เธอจะเกิดและเติบโตในประเทศไทย อ่านออกเขียนได้ ร่ำเรียนจนจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และประกอบอาชีพสุจริตไม่ต่างจากพลเมืองทั่วไป แต่กลับยังไม่มีสิทธิในฐานะ “คนไทย” อย่างสมบูรณ์ตามกฎหมาย

ปัจจุบันเจนจิรา ได้ยื่นเอกสารคำร้องขอสัญชาติไทยอีกครั้ง ณ ที่ว่าการอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ หลังจากวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ประกาศหลักเกณฑ์การเร่งรัด เพื่อแก้ปัญหาประชากรไร้รัฐไร้สัญชาติ ประมาณ 480,000 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 29 ตุลาคม 2567 สามารถยื่นคำขอสถานะต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายและสัญชาติไทยได้ที่สำนักเขต และที่ว่าการอำเภออำเภอทั่วประเทศ โดยกระบวนการนี้จะใช้เวลาดำเนินการเพียง 5 วัน จากเดิมที่ใช้เวลา 180 วัน สำหรับการยื่นขอสัญชาติไทย และ 270 วัน สำหรับการขอสถานะต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย

บทสัมภาษณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสื่อสารเพื่อลดอคติทางชาติพันธุ์ ในชื่อ Find the Tune - ตามหาเสียงที่ไม่เคยถูกรับฟัง ได้รับการสนับสนุนจาก ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร - SAC


#จังหวัดแพร่
#สัญชาติไทย
#อคติทางชาติพันธุ์

🩸ครบรอบ 123 ปี คณะผู้ก่อการกบฏเงี้ยวเมืองแพร่ลุกฮือขึ้นปลดแอกอำนาจรัฐรวมศูนย์
24/07/2025

🩸ครบรอบ 123 ปี คณะผู้ก่อการกบฏเงี้ยวเมืองแพร่
ลุกฮือขึ้นปลดแอกอำนาจรัฐรวมศูนย์

น้ำจะมาแห่มแล้วกะนิ หลาบบบบ
19/07/2025

น้ำจะมาแห่มแล้วกะนิ หลาบบบบ

🔻กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ช่วง 19-24 กรกฎาคม 2568 เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม ในหลายอำเภอ พร้อมกำชับติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และเก็บของขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย

#เฝ้าระวังน้ำท่วมแพร่68 #จังหวัดแพร่

ที่อยู่

สะเอียบ
Phrae

เบอร์โทรศัพท์

+66824449199

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Shan Spirit - เหล้ากบฏเงี้ยวผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Shan Spirit - เหล้ากบฏเงี้ยว:

แชร์

ประเภท