สนามเด็กน่ารู้ ที่อุบล, Trang (2025)

23/07/2025

เลื่อนดูภาพนี้แล้วรู้สึก... คุ้นๆ ไหมคะคุณแม่? 😂

ภาพบน (ก่อนมีลูก): กะทิในวันที่ชีวิตยังสโลว์ไลฟ์ จิบกาแฟหอมๆ อ่านหนังสือเล่มโปรดในคาเฟ่สุดชิลล์ แสงแดดอ่อนๆ ส่องกระทบหน้า... โอ๊ย! ช่างเป็นชีวิตที่สงบสุข 🥰

ภาพล่าง (หลังมีลูก): กะทิในวันนี้... กาแฟเย็นชืดไปนานแล้ว มือข้างหนึ่งอุ้มน้องขิงที่กำลังซน อีกมือกำลังจะคว้าแก้วกาแฟที่น้องค่ะอาจจะทำหกได้ทุกเมื่อ รอบกายรายล้อมไปด้วยอาณาจักรของเล่นหลากสีสัน 😅

ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมากกกกก! จากคาเฟ่เงียบสงบ กลายเป็นสนามเด็กเล่นส่วนตัว จากการนอนเต็มอิ่ม กลายเป็นการงีบหลับแบบมีสัญญาณเตือนภัยตลอดเวลา 🚨

แต่ถึงจะวุ่นวายแค่ไหน... มองหน้าลูกทีไร ก็ยิ้มออกมาทุกที 😊 ความสุขในวันนี้มันอาจจะมาในรูปแบบที่แตกต่าง แต่ก็เติมเต็มหัวใจไม่แพ้กันเนอะว่าไหมคะ? ❤️

คุณแม่คนไหนเคยมีโมเมนต์ "ก่อน vs หลัง" ที่พีคกว่านี้อีกไหมคะ? มาแชร์ให้ขำกลิ้งกันหน่อยเร็ว! 👇😂

#ก่อนมีลูกหลังมีลูก #ชีวิตแม่ฟูลไทม์ #แม่ก็คือแม่ #สตอรี่แม่ลูกอ่อน #ความเปลี่ยนแปลงของแม่ #เลี้ยงลูก #แม่และเด็ก #ชีวิตจริงของแม่ #ขำๆสไตล์แม่

22/07/2025

อยากให้ลูกมีวินัยการเงินตั้งแต่อายุยังน้อย? 💰

สรุป 3 ขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณแม่ก็ทำตามได้ เพื่อปลูกฝังนิสัยการออมและรู้จักคุณค่าของเงินให้ลูก! เซฟเก็บไว้ดูได้เลยค่ะ!

💰 เคล็ดลับที่ 1: "ค่าขนม" ไม่ใช่แค่ให้...แต่คือ "เงินเดือนฝึกหัด"
สิ่งแรกที่คุณแม่ต้องเปลี่ยนความคิดคือ เงินค่าขนมไม่ใช่อภิสิทธิ์ แต่คือ เครื่องมือการเรียนรู้ ค่ะ
• กำหนดค่าขนมที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ: เริ่มต้นด้วยจำนวนที่เหมาะสมกับวัยของลูก และให้เป็นประจำทุกวันหรือทุกสัปดาห์ เช่น วันละ 20 บาท หรือสัปดาห์ละ 100 บาท การให้สม่ำเสมอจะช่วยให้ลูกวางแผนได้
• แบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วนง่ายๆ:
1. ใช้ (Spend): ส่วนที่ลูกสามารถนำไปซื้อขนม หรือของเล่นเล็กๆ น้อยๆ ได้ทันที
2. ออม (Save): ส่วนที่ต้องเก็บไว้ในกระปุก เพื่อซื้อของที่อยากได้ในอนาคต (อาจจะกำหนดเป้าหมายร่วมกัน เช่น "เก็บไปซื้อหนังสือเล่มโปรด" หรือ "เก็บไปซื้อของเล่นชิ้นใหญ่")
3. แบ่งปัน (Share/Donate): ส่วนเล็กๆ ที่สอนให้ลูกรู้จักแบ่งปัน หรือทำบุญ (เช่น หยอดกระปุกทำบุญ หรือบริจาคของเล่นที่ไม่ใช้แล้ว)
• ให้ลูกตัดสินใจด้วยตัวเอง: ปล่อยให้ลูกตัดสินใจว่าจะใช้เงินแต่ละส่วนอย่างไรภายใต้ข้อตกลงที่กำหนดไว้ เช่น ถ้าเขาใช้เงินส่วน "ใช้" หมดเร็ว เขาก็ต้องรอจนกว่าจะได้ค่าขนมครั้งถัดไป การให้โอกาสเขาตัดสินใจและเรียนรู้จากผลลัพธ์คือสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ
ทำไมถึงได้ผล? การแบ่งเงินเป็นส่วนๆ และให้ลูกได้ตัดสินใจ จะช่วยให้ลูกเรียนรู้การวางแผน การจัดลำดับความสำคัญ และเข้าใจแนวคิดของการออมและการแบ่งปันตั้งแต่ยังเล็ก
________________________________________

💰 เคล็ดลับที่ 2: "ร้านค้าในบ้าน" - เปลี่ยนการเล่นให้เป็นการเรียนรู้เรื่องเงิน
เด็กเรียนรู้ได้ดีที่สุดจากการลงมือทำและผ่านการเล่นค่ะ!
• เปิดร้านค้าจำลอง: ใช้ของเล่นที่มีในบ้านมาเป็น "สินค้า" ตั้งราคา (เขียนป้ายราคาด้วยปากกา) แล้วให้ลูกเป็นทั้ง "คนขาย" และ "คนซื้อ" ใช้เหรียญหรือธนบัตรจำลองในการแลกเปลี่ยน
• ให้ลูกทำ "รายการซื้อของ": เวลาไปซุปเปอร์มาร์เก็ตจริง ลองให้ลูกช่วยถือลิสต์รายการ หรือชวนเขาคิดว่าต้องซื้ออะไรบ้าง และประมาณราคาคร่าวๆ
• สอน "การเปรียบเทียบราคา": ชวนลูกดูป้ายราคา ลองเปรียบเทียบว่าสินค้าชิ้นไหนถูกกว่า หรือแพ็กไหนคุ้มกว่า (สำหรับเด็กโตหน่อย) ไม่ต้องบังคับ แค่ชวนคุยสนุกๆ
• ทำ "บัญชีรายรับ-รายจ่าย" แบบง่ายๆ: อาจจะวาดตารางง่ายๆ ในสมุด ให้ลูกวาดรูปสิ่งที่ซื้อ หรือเขียนราคาลงไป (สำหรับเด็กที่เขียนได้แล้ว) เพื่อให้เขาเห็นภาพว่าเงินเข้ามาเท่าไหร่ และออกไปเท่าไหร่
ทำไมถึงได้ผล? การเล่นบทบาทสมมติจะทำให้ลูกเข้าใจกระบวนการใช้จ่ายเงินอย่างเป็นรูปธรรม และเรียนรู้แนวคิดพื้นฐานทางการเงินผ่านประสบการณ์จริงที่สนุกสนาน
________________________________________

💰 เคล็ดลับที่ 3: "ทำงานแลกเงิน" - ปลูกฝังคุณค่าของการทำงาน
เงินไม่ได้ลอยมาจากฟ้า สิ่งนี้คือบทเรียนสำคัญที่ต้องสอนลูกค่ะ
• กำหนด "งานพิเศษ" นอกเหนือจากหน้าที่ปกติ: ไม่ควรให้เงินสำหรับงานบ้านพื้นฐานที่ลูกควรทำอยู่แล้ว (เช่น เก็บของเล่น, จัดที่นอน) แต่ให้เสนอโอกาสให้ลูกได้ "ทำงานพิเศษ" เพื่อแลกเงินเพิ่มเติม เช่น ช่วยล้างรถ, ช่วยรดน้ำต้นไม้, ช่วยจัดสวนเล็กๆ น้อยๆ
• ชัดเจนเรื่องค่าจ้าง: ก่อนที่ลูกจะเริ่มทำงาน ให้บอกชัดเจนว่างานนี้จะได้ค่าตอบแทนเท่าไหร่ และเมื่อทำเสร็จ ให้จ่ายเงินตามที่ตกลงกันทันที
• ไม่จ่ายถ้าไม่ทำ: หากลูกไม่ทำหรือไม่รับผิดชอบงานที่ตกลงไว้ ก็ต้องไม่ได้รับค่าตอบแทน เพื่อให้เขาเรียนรู้ผลของการไม่รับผิดชอบ
• ชวนคุยถึง "ความเหนื่อย" ในการหาเงิน: อาจจะเล่าให้ลูกฟังว่าคุณแม่ต้องทำงานอะไรบ้าง ต้องใช้ความพยายามแค่ไหนกว่าจะได้เงินมา เพื่อให้ลูกเห็นคุณค่าของเงินและเข้าใจว่าการหาเงินนั้นไม่ง่าย
ทำไมถึงได้ผล? การทำงานแลกเงินจะช่วยให้ลูกเข้าใจถึงคุณค่าของการลงมือทำ ความพยายาม และความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเป็นผู้ใหญ่ที่มีวินัยทางการเงินที่ดีในอนาคต
________________________________________

การสอนลูกเรื่องการเงินอาจจะดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่เมื่อเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน ด้วยความสม่ำเสมอและความเข้าใจ คุณแม่ทุกคนก็สามารถปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งวินัยทางการเงินที่ดีให้กับลูกได้ค่ะ

จำไว้ว่า คุณไม่ได้กำลังสอนลูกแค่เรื่องเงิน...แต่คุณกำลังสร้างรากฐานชีวิตที่แข็งแกร่งให้เขา เพื่อให้เขาเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ และสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายนี้ค่ะ คุณแม่ทุกคนคือฮีโร่ตัวจริง!

คุณแม่มีวิธีสอนลูกเรื่องเงินแบบไหนบ้างคะ? มาคอมเมนต์แบ่งปันกันได้เลยค่ะ!

#แม่สอนลูกเรื่องเงิน #วินัยการเงิน #การออม #เลี้ยงลูก #แม่เลี้ยงเดี่ยวสายสตรอง #อนาคตการเงินลูก

#สอนลูกเรื่องเงิน #วินัยการเงิน #การออม"
#สอนลูกเรื่องเงิน #วินัยการเงิน #การออม"

21/07/2025

คุณแม่ทีมที่ลูกกินยากมารวมกันตรงนี้เลยค่ะ! 😩

เข้าใจเลยว่ามันเหนื่อยแค่ไหนกับการที่ลูกไม่ยอมกินข้าว เตรียมอาหารอย่างดี ลูกเมินใส่ หรือกว่าจะป้อนได้แต่ละคำต้องงัดสารพัดไม้เด็ด

😭 วันนี้กะทิเลยขอเอา 5 เคล็ดลับ (ฉบับลองแล้วเวิร์กจริง!)

มาแชร์ เพื่อกู้ชีวิตคุณแม่ทุกคนให้กลับมามีพลังอีกครั้ง!

✨ 1. ไม่บังคับ แต่สร้างบรรยากาศ:
บีบบังคับลูกเท่าไหร่ ยิ่งไม่อยากกิน! ลองเปลี่ยนจากบังคับเป็นการสร้างบรรยากาศการกินที่ดี ให้ลูกรู้สึกสนุก ไม่กดดัน ชวนลูกมานั่งกินพร้อมกันทั้งบ้านก็ได้ค่ะ

✨ 2. จานต้องสวย! สีต้องสด!:
เด็ก ๆ ชอบความน่ารัก! ลองจัดจานให้น่าสนใจ หั่นผักผลไม้เป็นรูปทรงต่าง ๆ หรือใช้จานชามที่มีสีสันสดใส การตกแต่งอาหารให้ดูน่ากิน ช่วยดึงดูดสายตาและกระตุ้นความอยากอาหารของลูกได้ดีเยี่ยม! (วิธีนี้ น้องขิงกับน้องค่ะชอบมาก!)

✨ 3. ให้ลูกช่วยเลือก ช่วยทำ:
ความรู้สึกเป็นเจ้าของทำให้ลูกอยากกินมากขึ้น! ชวนลูกไปเลือกวัตถุดิบง่ายๆ หรือให้เขาช่วยทำอาหารในขั้นตอนที่ปลอดภัย เช่น ล้างผัก ฉีกผัก หรือจัดจานเล็กๆ น้อยๆ ลูกจะรู้สึกภูมิใจและอยากชิมผลงานตัวเองค่ะ

✨ 4. เล่นสนุกกับอาหาร:
เปลี่ยนช่วงเวลาป้อนข้าวให้เป็นการเล่น! เช่น ทำเสียง "อืมมม...อร่อยจัง" เสียงเครื่องบินป้อนเข้าปาก หรือสร้างเรื่องราวจากอาหารชิ้นนั้น ๆ (เช่น "นี่คือยานอวกาศที่จะพาพลังงานไปสู่ท้องของเรา!") ความสนุกจะทำให้ลูกไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด

✨ 5. กำหนดเวลาชัดเจน & ไม่ตามง้อ:
ตั้งเวลากินให้ชัดเจน เช่น มื้อละ 30 นาที เมื่อหมดเวลาแล้ว หากลูกไม่กิน ให้เก็บอาหารทันที ไม่ต้องตามง้อหรือให้ขนมทดแทนในระหว่างมื้อ เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่านี่คือเวลากิน และถ้าไม่กินจะต้องรอในมื้อถัดไป (วิธีนี้ต้องใจแข็งนิดนึงนะคะ!)

หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณแม่หลาย ๆ คนหายเหนื่อย และมีรอยยิ้มกับการป้อนข้าวลูกมากขึ้นนะคะ! 😊

คุณแม่มีเคล็ดลับ "กู้ชีพ" อะไรเพิ่มเติมไหมคะ? คอมเมนต์มาแชร์กันได้เลยน้าาาา! 👇

#ลูกไม่กินข้าว #เคล็ดลับแม่ลูกอ่อน #เมนูลูกรัก #แม่และเด็ก #คุณแม่ฟูลไทม์ #ปัญหากินยาก #ชีวิตแม่ #แม่มือใหม่ #แชร์ทริค

18/07/2025

ของเล่นชิ้นเดียว พัฒนาลูก 5 ด้าน

อ่านต่อในลิงค์
✅ https://s.lemon8-app.com/s/GghMkxNrYT

#เลี้ยงลูกตามแบบเราเอง #สอนสร้างภาพนิ่ง #ภาะนิ่งสร้างรายได้

17/07/2025

ก่อนสั่ง ai สร้าง ควรรู้ว่า
“ภาพกราฟฟิกมีกี่แบบ”

กดลิงค์ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
👇
https://s.lemon8-app.com/s/GgmsRddbQT

#ภาะนิ่งสร้างรายได้ #เลี้ยงลูกเชิงบวก #สร้างภาพจาก ai

16/07/2025

ไขความลับ! "ลูกร้องไห้ ไม่ใช่แค่ดื้อ...แต่คือสัญญาณพัฒนาการที่แม่ต้องรู้!"

สวัสดีค่ะคุณแม่ทุกท่าน! แม่เชื่อว่าคุณแม่หลายคนคงเคยสงสัยว่าทำไมลูกถึงร้องไห้ไม่หยุด จนบางครั้งก็เผลอคิดไปว่า "ลูกดื้อจัง!" ใช่ไหมคะ? ในฐานะ แม่เลี้ยงเดี่ยว Fulltime 100% แม่เองก็เคยเจอสถานการณ์นั้นค่ะ

แต่จริงๆ แล้ว น้ำตาและการร้องไห้ของลูก มักเป็นสัญญาณของพัฒนาการตามวัย ที่เขากำลังพยายามสื่อสารกับเราค่ะ การเข้าใจสิ่งนี้จะช่วยให้คุณแม่ตอบสนองลูกได้ดีขึ้น ลดความเครียด และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงค่ะ เรามาดูกันว่าลูกกำลังบอกอะไรเราผ่านน้ำตาบ้าง!

1. ร้องไห้เพราะ "สมองโอเวอร์โหลด" (Overstimulation)
สิ่งที่เห็น: ลูกร้องไห้หนักมากเมื่อเจอคนเยอะๆ เสียงดังๆ หรือกิจกรรมที่กระตุ้นมากไป

ความลับ: สมองเด็กยังประมวลผลสิ่งเร้าได้จำกัด เมื่อมากเกินไป เขาจะรู้สึกท่วมท้นและร้องไห้ออกมาเพื่อระบาย

สิ่งที่แม่ควรทำ: พาออกจากสถานการณ์นั้นๆ ไปยังที่ที่เงียบสงบ กอดเขาเบาๆ เพื่อให้เขารู้สึกปลอดภัย

2. ร้องไห้เพราะ "ร่างกายกำลังเติบโต" (Growth Spurts & Developmental Leaps)
สิ่งที่เห็น: ลูกหงุดหงิดง่าย ร้องไห้บ่อย หรือกิน-นอนไม่ปกติ โดยไม่รู้สาเหตุ

ความลับ: ลูกกำลังอยู่ในช่วงที่ร่างกายเติบโตเร็วมาก หรือกำลังเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ (เช่น คลาน เดิน พูด) การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัว เหนื่อยล้า

สิ่งที่แม่ควรทำ: กอด ปลอบประโลมให้มากขึ้น เข้าใจว่านี่คือช่วงชั่วคราวที่เขาต้องการความรักและพักผ่อนเป็นพิเศษ

3. ร้องไห้เพราะ "เรียนรู้การแยกจาก" (Separation Anxiety)
สิ่งที่เห็น: ลูกร้องไห้หนักมาก ไม่ยอมให้แม่ไปไหน หรือร้องไห้เมื่อแม่เดินออกไป

ความลับ: ลูกเริ่มผูกพันกับแม่ และเริ่มเข้าใจว่าแม่หายไปได้ การร้องไห้คือความกังวลว่าแม่จะไม่กลับมา

สิ่งที่แม่ควรทำ: บอกลาและกอดลูกทุกครั้งก่อนจากไป ให้ความมั่นใจว่าแม่จะกลับมาเสมอ และทักทายอย่างอบอุ่นเมื่อกลับมา

4. ร้องไห้เพราะ "ต้องการสื่อสาร" (Communication Attempt)
สิ่งที่เห็น: ลูกร้องไห้แต่ไม่ได้เจ็บปวด หรืออาจชี้ไปที่บางอย่าง

ความลับ: ก่อนที่ลูกจะพูดได้ การร้องไห้คือภาษาของเขา เขากำลังบอกว่า "หิว" "ง่วง" "เบื่อ" "อยากเล่น" หรือ "อยากให้สนใจ"

สิ่งที่แม่ควรทำ: สังเกตท่าทางและบริบทรอบข้างเพื่อตีความสิ่งที่ลูกต้องการ ลองเสนอทางเลือกให้ทีละอย่างเพื่อตอบสนองเขา

จำไว้เสมอว่า น้ำตาของลูกคือภาษาของเขา การเข้าใจความหมายเบื้องหลังจะช่วยให้คุณแม่รับมือได้อย่างใจเย็น และเสริมสร้างความผูกพันที่ดีกับลูกค่ะ คุณแม่เก่งที่สุดแล้ว!

#พัฒนาการเด็กปฐมวัย #เข้าใจลูก #เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูก #แม่เลี้ยงเดี่ยวต้องรู้

15/07/2025

มาแชร์ 3 เทคนิคสอนเด็กให้ตั้งใจเรียน โดยไม่ต้องดุ

สวัสดีค่ะคุณแม่และคุณพ่อทุกท่าน! แม่เข้าใจดีเลยค่ะว่าหนึ่งในภารกิจที่ท้าทายที่สุดของคนเป็นพ่อแม่ คือการทำให้ลูก ตั้งใจเรียน หรือทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ โดยที่เราไม่ต้องเหนื่อยกับการ ดุ หรือ บ่นซ้ำๆ ใช่ไหมคะ?

หลายครั้งที่เราเห็นลูกไม่สนใจ ไม่ยอมทำ หรือทำอะไรช้าๆ เราก็เผลออารมณ์เสียไปบ้าง แต่เชื่อไหมคะว่ามีวิธีที่จะช่วยให้ลูกมีสมาธิ ตั้งใจเรียน และให้ความร่วมมือได้มากขึ้น โดยที่เรายังคงความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกไว้ได้ค่ะ

วันนี้แม่มี 3 เทคนิคที่แม่ใช้แล้วได้ผลจริงที่บ้านเรา มาแบ่งปันให้คุณแม่ลองนำไปปรับใช้กันดูค่ะ รับรองว่าลูกจะ Happy คุณแม่ก็จะ Happy ขึ้นเยอะเลย!

📍 เทคนิคที่ 1: "กำหนดเวลาชัดเจน...แต่ยืดหยุ่นได้"
เด็กเล็กต้องการความชัดเจนและโครงสร้าง แต่ก็ยังต้องการอิสระในการตัดสินใจบ้างค่ะ

สร้างตารางเวลาที่เป็นกิจวัตร: กำหนดเวลาที่แน่นอนสำหรับการเรียนรู้หรือทำการบ้าน เช่น "หลังกินข้าวเย็น 15 นาที เราจะมาอ่านหนังสือกัน" หรือ "ทุกวันเสาร์เช้า เราจะมาทำกิจกรรมเสริมทักษะ 30 นาที" การทำซ้ำๆ จะช่วยให้ลูกรู้ว่าถึงเวลาของกิจกรรมนั้นๆ แล้ว

ให้ตัวเลือกระหว่าง "สองตัวเลือก": แทนที่จะสั่งว่า "ไปทำการบ้าน!" ลองเปลี่ยนเป็น "ลูกอยากทำการบ้านตอนนี้ หรืออีก 10 นาทีดีคะ?" หรือ "หนูอยากเริ่มจากวิชาคณิตศาสตร์ หรือภาษาไทยก่อน?" การให้ลูกได้เลือกเองจะทำให้เขารู้สึกมีส่วนร่วมและมีความเป็นเจ้าของในการตัดสินใจมากขึ้น ทำให้เขายอมทำตามได้ง่ายขึ้น

ใช้ Timer ช่วย: สำหรับเด็กที่ชอบผัดวันประกันพรุ่ง การใช้ Timer หรือนาฬิกาทรายเป็นตัวช่วยจะดีมากค่ะ เช่น "เรามาลองอ่านหนังสือ 15 นาทีนะ พอเสียงนาฬิกาปลุกดัง หรือทรายหมด เราก็พักกัน" วิธีนี้จะช่วยให้ลูกเห็นภาพของเวลา และรู้ว่างานมีจุดสิ้นสุด ทำให้เขามีแรงกระตุ้นที่จะเริ่มทำ

📍เทคนิคที่ 2: "เปลี่ยนคำพูดให้เป็นเชิงบวก...และให้รางวัลเล็กๆ"
คำพูดของเรามีพลังมากกว่าที่คิดค่ะ และรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยสร้างแรงจูงใจได้ดี

ชมเชยในสิ่งที่ลูกทำได้: แทนที่จะโฟกัสแค่สิ่งที่ลูกยังทำไม่ได้ ให้ชมเชยความพยายามและความตั้งใจของลูก เช่น "แม่เห็นหนูพยายามอ่านคำนี้เก่งมากเลยลูก!" "หนูตั้งใจระบายสีนี้ได้สวยมากๆ เลยนะ" การชมเชยที่เฉพาะเจาะจงจะช่วยเสริมกำลังใจให้ลูกอยากทำต่อ

ใช้คำพูดเชิงบวกนำทาง: เปลี่ยนจาก "อย่าเล่นเสียงดังตอนเรียน" เป็น "ลูกช่วยใช้เสียงเบาๆ ตอนที่เราอ่านหนังสือได้ไหมคะ" หรือจาก "ทำไมไม่ตั้งใจ?" เป็น "แม่รู้ว่าหนูทำได้ดีกว่านี้ ลองตั้งใจอีกนิดนะลูก"

ให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ใช่สิ่งของ: รางวัลไม่จำเป็นต้องเป็นของเล่นราคาแพงเสมอไปค่ะ อาจจะเป็นการอนุญาตให้ลูกดูการ์ตูนเรื่องโปรด 1 ตอน การได้เล่นเกมกับแม่ 10 นาที การได้เลือกเมนูอาหารเย็น หรือแม้แต่สติกเกอร์รูปดาวที่สะสมไว้ก็ได้ค่ะ รางวัลเหล่านี้จะช่วยสร้างแรงจูงใจและทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องน่าสนุก

📍เทคนิคที่ 3: "ทำความเข้าใจและอดทน...และเป็นแบบอย่างที่ดี"
สุดท้ายแต่สำคัญที่สุด คือความเข้าใจในธรรมชาติของเด็ก และการเป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ

เข้าใจพัฒนาการตามวัย: เด็กแต่ละวัยมีสมาธิและขีดจำกัดที่แตกต่างกันค่ะ หากลูกยังเล็กมาก การให้เขานั่งนิ่งๆ เป็นเวลานานอาจเป็นเรื่องยาก ลองแบ่งการเรียนรู้เป็นช่วงสั้นๆ สลับกับการพักผ่อนหรือการเล่น เพื่อให้เขาไม่รู้สึกเบื่อหรือถูกบังคับ

อดทนและไม่เปรียบเทียบ: บางวันลูกอาจจะไม่ได้ดั่งใจ หรือทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร อย่าเพิ่งท้อแท้หรือนำลูกไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่นค่ะ ให้โฟกัสที่การพัฒนาของลูกเอง และให้กำลังใจเขาเสมอ

คุณแม่คือแบบอย่าง: หากคุณแม่เองก็แสดงให้ลูกเห็นถึงความตั้งใจในการทำสิ่งต่างๆ (เช่น การทำงานบ้าน, การอ่านหนังสือ, การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ) ลูกก็จะซึมซับและเลียนแบบพฤติกรรมเหล่านั้นไปเองค่ะ แสดงให้ลูกเห็นว่าการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและเป็นเรื่องสนุก

การสอนลูกให้ตั้งใจเรียนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปค่ะ

✔️ ลองนำ 3 เทคนิคนี้ไปปรับใช้ดูนะคะ แม่เชื่อว่าคุณแม่ทุกคนสามารถสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ดีที่บ้านได้ โดยไม่ต้องใช้วิธีการดุหรือบ่นที่อาจสร้างความอึดอัดใจให้ลูกค่ะ

หากคุณแม่มีเทคนิคดีๆ หรือประสบการณ์อื่นๆ ในการสอนลูกให้ตั้งใจเรียนโดยไม่ต้องดุ มาคอมเมนต์แบ่งปันกันได้เลยนะคะ!
*********

#เทคนิคสอนเด็ก #เลี้ยงลูกไม่ดุ #เด็กดื้อ #วินัยเชิงบวก #คุณแม่สอนลูก #แม่เลี้ยงเดี่ยวต้องรู้

14/07/2025

แชร์ 3 เคล็ดลับง่ายๆ ที่เปลี่ยนชีวิตประจำวันให้เป็นห้องเรียน 2 ภาษาของลูกเรา

สวัสดีค่ะคุณแม่ทุกท่าน! วันนี้แม่ขอมาเปิดเผยความลับจะสอนลูกให้พูดได้ถึง 2 ภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติได้ยังไง โดยที่ไม่ต้องพาไปเรียนพิเศษแพงๆ หรือคุณแม่เองก็ไม่จำเป็นต้องเก่งภาษาอังกฤษถึงขั้นเจ้าของภาษาเลยค่ะ

ความจริงแล้ว การสอนภาษาที่สองให้ลูกตั้งแต่วัยเด็ก ไม่ได้ยากอย่างที่คิดค่ะ หัวใจสำคัญคือ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการซึมซับภาษา และ ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกในชีวิตประจำวัน วันนี้แม่มี 3 เคล็ดลับง่ายๆ ที่เราใช้จริงที่บ้าน แล้วได้ผลลัพธ์น่าทึ่งมากๆ มาฝากค่ะ
--------
อ่านต่อในคอมเม้นท์

#แม่สอนลูก2ภาษา #เลี้ยงลูกเชิงบวก #ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก #เทคนิคเลี้ยงลูก

13/07/2025

บทที่ 1 การสร้างภาพนิ่ง จาก Chat GPT ฟรี !! ้างภาพนิ่ง #คลิปสร้างกระแส #คลิปสั้นครีเอเตอร์มือใหม่

06/07/2025

แจกฟรี พร้อม VDO นี้
Scene 1
[Settings / Atmosphere]
Inside a colorful, cheerful kitchen with neatly arranged cooking tools.

[Characters + Appearance + Emotion]

Main character: A middle-aged woman, 37 years old, hair tied up, loves cooking, wearing a pink apron and lace-patterned headband, fair-skinned, happy expression.

Supporting character: Fluffy white cat with a matching headband, looking curious and wide-eyed.

[Action / Pose]
Mom is holding a bowl and whisking eggs carefully. Cinematic slow-motion focusing on her hands and happy face.

[Dialogue – Thai with Lipsync]
“วันนี้แม่จะทำไข่เจียวให้ฟูฟ่องเหมือนเมฆเลยนะจ๊ะ!”
("Today, I’ll make the omelette fluffy like a cloud!")

[Audio & Effects]
Sounds of whisking eggs, soft bird chirping in the background, cheerful and cute background music.

[Visual Style]

Resolution 1080p, 24fps

Fantasy tone

Cinematic slow-motion camera

Cartoon style characters

[Ends within 8 seconds] #คลิปสร้างรายได้ครีเอเตอร์มือใหม่ #คลิปสร้างกระแส

04/07/2025

👉15 มารยาทที่พ่อแม่ต้องสอนลูก

-1. พูดจาไพเราะ ไม่พูดหยาบคาย

-2. มีสัมมาคารวะ แสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่

-3. เป็นผู้ฟังที่ดี ไม่พูดแทรก

-4. ไม่สร้างความเดือดร้อน ส่งเสียงดัง และก่อความรำคาญให้ผู้อื่น

-5. ไม่พูดจาทำร้ายความรู้สึกคนอื่น

-6. ไม่เข้าบ้านคนอื่นโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติ

-7. ใช้มือป้องปากเมื่อไอหรือจาม

-8. ไม่พูดไปกินไป

-9. พูดมีหางเสียง ครับ / ค่ะ

-10. รู้จักกล่าวคำขอบคุณ / ขอโทษ / ขออภัย

-11. ไม่แซงคิวผู้อื่น

-12. ไม่โยนสิ่งของ ขว้างปาให้ผู้อื่น

-13. งดการล้วง แคะ แกะ เกา เมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ

-14. ไม่ตะโกนโวยวายเสียงดัง พูดคุยด้วยน้ำเสียงปกติเสมอ

-15. ไม่จ้องมองผู้อื่นอย่างไม่มีเหตุผล

ขณะที่สอนให้ลูกมีมารยาทกับผู้อื่น ก็อย่าลืมสอนให้เขาเข้าใจสิทธิ์ของตน ที่จะทำหรือไม่กระทำสิ่งใดในสถานการณ์อื่นๆ ด้วย

เช่น มีมารยาทกับผู้ใหญ่ แต่ก็รู้จักปฏิเสธกรณีที่ผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จัก (หรือรู้จัก) เข้ามาจับตัว กอด หอม โดยที่ลูกไม่เต็มใจ

หรือ ไม่พูดจาทำร้ายความรู้สึกใคร แต่ในบางสถานการณ์ก็อาจต้องพูดปฏิเสธ หรือพูดตรงๆ เช่น เพื่อนหยอกล้อให้รำคาญใจ ก็กล้าที่จะพูดว่า “อย่าทำแบบนี้ เราไม่ชอบ”

ฉะนั้น การสอนให้ลูกมีมารยาท การสอนให้ลูกรู้จักสิทธิ์ของตน และเข้าใจสิทธิ์ของผู้อื่น จึงเป็นเรื่องที่ต้องสอนควบคู่กันไปค่ะ

เพราะการมีมารยาท และการวางตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จะทำให้ลูกเป็นเด็กที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ดี

แน่นอนว่า การจะสอนลูกให้เป็นเด็กมีมารยาทรู้กาลเทศะ รู้สิทธิ์ตน เข้าใจสิทธิ์ผู้อื่น นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราในฐานะพ่อแม่ก็สามารถทำได้ด้วยการเป็นต้นแบบที่ดีให้ลูก

บางเรื่องเปลี่ยนง่าย บางเรื่องปรับยาก แต่ก็ค่อยๆ บอก ค่อยๆ สอนกันไปนะคะ 🩷✌️

#มารยาทที่ดี #เลี้ยงลูกเชิงบวก #ป้ายยากับlemon8 #ลูก #เลี้ยงลูก

02/07/2025

ช่วยเสริมการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น! วันนี้เรามี แอปพลิเคชัน ที่เหมาะสำหรับการสอนภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์มาแนะนำ! 🚀

✨ แอปพลิเคชันที่แนะนำ:

Duolingo - แอปที่ช่วยในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่สนุกและมีรูปแบบการเรียนรู้ที่เข้าใจง่าย

Khan Academy - แอปที่มีบทเรียนคณิตศาสตร์หลากหลายระดับ ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง

Quizlet - แอปที่ช่วยในการสร้างแฟลชการ์ดเพื่อทบทวนคำศัพท์และเนื้อหาต่างๆ

เครื่องมือเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากมือถือ ทำให้คุณครูสามารถใช้เวลาพักในการหาความรู้ใหม่ๆ และพัฒนาแนวทางการสอนได้ตลอดเวลา! 💡

#คุณครูมือโปร #แอปการสอน #เครื่องมือการสอน #ภาษาอังกฤษ #คณิตศาสตร์

สนามเด็กน่ารู้ ที่อุบล

23/07/2025

22/07/2025

21/07/2025

18/07/2025

17/07/2025

16/07/2025

15/07/2025

14/07/2025

13/07/2025

06/07/2025

04/07/2025

02/07/2025

ที่อยู่

เบอร์โทรศัพท์

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

ทางลัด

แชร์

ประเภท