ที่นี้ มีข่าว TeeNee MeeKaow

ที่นี้ มีข่าว TeeNee MeeKaow ที่ตรงนี้มีข่าวให้คุณ

14/07/2025
14/07/2025
14/07/2025
น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มเป็นอุบัติภัยที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายต่อทั้งชีวิต และทรัพย์สิน ปภ. จึงข...
14/07/2025

น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มเป็นอุบัติภัยที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน
และเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายต่อทั้งชีวิต และทรัพย์สิน

ปภ. จึงขอแนะนำ 4 วิธีปฏิบัติตัวให้ปลอดภัย 🛡️
เมื่อเกิดน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม
🔎 สังเกตสัญญาณผิดปกติ
- อาทิ สีของน้ำ หรือมีเสียงผิดปกติจากบนเขา
🏃‍♀️ อพยพทันที
- ไปยังจุดที่ปลอดภัย พ้นจากแนวการไหลของดิน
⚠️ หากพลัดตกน้ำ ห้ามว่ายหนี
- ให้หาจุดยึดเกาะที่มั่นคง และปีนให้พ้นจากน้ำเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
🛑 ไม่กลับเข้าพื้นที่จนกว่าจะได้รับการยืนยันความปลอดภัย
- เพราะอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันหรือดินถล่มซ้ำได้
ในช่วงฤดูฝนขอให้ทุกคนติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
หากพบสถานการณ์ที่ผิดปกติสามารถติดต่อสายด่วน 📞 ปภ. 1784
เพื่อแจ้งข่าวหรือขอความช่วยเหลือได้ทันที
่วงใยความปลอดภัยคนไทยทุกคน
☎️ สายด่วน 1784
FB : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM
X :
LINE :
YouTube : DDPMNews รู้ทันภัยกับ ปภ.

13/07/2025

สมเด็จะพระเพทราชากษัตริย์หนึ่งเดียวที่ทรงมีอิทธิพลอยู่เหนือฝรั่งเศส

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2231 หลังจากฝ่ายอยุธยากับฝรั่งเศสต่อสู้กันยืดเยื้อนานถึง 4 เดือน นายพลเดส์ฟาร์จ (Chevalier Desfarges) กับนายโวลอง เดส์ แวร์แกง (Volland Des Vergens) รวมทั้งกองทหารฝรั่งเศสที่รักษาการอยู่ที่ป้อมบางกอกจำนวน 250 คน ยอมยกธงขาว นายพลเดส์ฟาร์จ จึงได้ลงนามทำสัญญาสงบศึกต่อสมเด็จพระเพทราชา

สัญญาสงบศึกของสมเด็จพระเพทราชา ปรากฏใน เอกสารของนายโวลอง เดส์ แวร์แกง ประกอบด้วย 9 ข้อ ดังนี้

๑. พระเจ้าแผ่นดินสยามจะให้ชาวฝรั่งเศสยืมเรือ ๒ ลำ พร้อมอุปกรณ์ครบเพื่อที่จะบรรทุกทหารฝรั่งเศสทั้งหมด เดินทางออกไปจากสยาม โดยฝ่ายไทยจะนำเรือมาจอดไว้ให้ฝรั่งเศสตรวจสภาพก่อนออกเดินทาง

๒. ให้ท่านสังฆราช เดอ เมเตลโลโปลิส และคณะบาทหลวง พร้อมด้วยนายเวเรต์เป็นตัวประกันจนกว่าที่เรือทั้ง ๒ ลำ จะถูกส่งกลับคืนมาและจนกว่าจะมีการส่งมอบเงินรายได้จากการค้ากับบริษัทฝรั่งเศสซึ่งฟอลคอนอ้างว่าเป็นของตน

๓. ให้กองทหารฝรั่งเศสที่รักษาป้อมออกจากป้อมได้โดยมีพิธีการตามที่ปฏิบัติกันในยุโรป และให้นำสิ่งของที่เป็นของพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสกลับไปด้วย เช่น ปืนใหญ่ ดินปืน ระเบิดมือ ฯลฯ และให้ชาวสยามจัดหาเสบียงอาหารและของจำเป็นอื่นๆ ให้เพียงพอระยะเวลา ๑ ปี โดยชาวฝรั่งเศสจะเป็นผู้จ่ายเงิน

๔. ให้บาทหลวงทำงานเผยแผ่ศาสนาต่อไปได้อย่างเสรี

๕. ให้บาทหลวงเจซูอิตเป็นผู้เลือกเองว่าจะดำเนินงานต่อไป หรือจะออกไปจากอาณาจักร โดยได้รับสิทธิพิเศษตลอดจนเกียรติยศตามเดิม

๖. ให้บริษัทการค้าฝรั่งเศสดำเนินกิจการต่อไปได้โดยได้รับสิทธิพิเศษตามเดิม

๗. เพื่อให้เกิดความมั่นใจในสัญญาและมิให้ผิดสัญญากันทั้งสองฝ่าย ให้มีตัวประกันทั้งสองฝ่าย คือ ฝ่ายไทยเป็นขุนนางระดับสูง ส่วนทางฝรั่งเศสได้แก่นายพลจากป้อมบางกอก เมอซิเยอร์ เชอวาลิเย่ร์ เดส์ฟาร์จ และนายเวเรต์

๘. ให้ตัวประกันฝ่ายสยามลงเรือลำเดียวกับนายพลเดส์ฟาร์จ ส่วนตัวประกันฝ่ายฝรั่งเศสจะลงเรืออีกลำหนึ่งตามไปในระยะไม่เกินวิถีกระสุน และการแลกเปลี่ยนตัวประกันจะกระทำเมื่อถึงด่านขนอนสุดท้ายที่ปากน้ำ

๙. ในทุกกรณี ให้นายพลเดส์ฟาร์จคืนป้อมบางกอกให้แก่พระเจ้ากรุงสยาม ตามสภาพที่เป็นอยู่ขณะนั้นพร้อมด้วยทุกอย่างที่เคยเป็นของพระเจ้ากรุงสยาม

นายพลเดส์ฟาร์จจึงคุมทหารฝรั่งเศสออกไปอย่างสันติโดยเรือ 2 ลำชื่อสยามกับละโว้ นอกจากนี้สมเด็จพระเพทราชายังทรงให้ยืมเงิน 45,000 แฟรงค์ เพื่อเป็นค่าเดินทางพร้อมปล่อยตัวบุตรชายของนายพลเดส์ฟาร์จ 2 คน และยังมีชาวฮอลันดาช่วยหาเรือและจัดเสบียงอาหารแก่พ่อค้าและบาทหลวงชาวฝรั่งเศส กองกำลังทหารฝรั่งเศสจึงได้เดินทางนอกกรุงศรีอยุธยาเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2231

แม้มีข้อสัญญาสงบศึก ปรากฏว่ามีบรรดาบาทหลวงบางส่วน และชาวคริสเตียนถูกจับขังจำนวนมาก โบสถ์คริสต์ถูกปิดและถูกปล้นทำลาย การเผยแผ่คริสต์ศาสนาที่เคยรุ่งเรืองในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชก็อยู่ในสภาพตกต่ำจนต้องล้มเลิกไปตลอดรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา มีคณะบาทหลวงฝรั่งเศสที่ยังพำนักอยู่ในกรุงศรีอยุธยา ได้เขียนบันทึกความโหดเหี้ยมทารุณกรรมนักโทษชาวคริสเตียน และยังออกไปให้ทำงานหนักหลายอย่างตั้งแต่เช้าจรดเย็น เช่น ขนดิน ขนอิฐ ขนขยะ ล้างท่อ ล้างที่ทิ้งอุจจาระ ลากเสา ลางซุง เป็นต้น

ปรากฏใน จดหมายเหตุของคณะบาทหลวงฝรั่งเศส ความว่า :-

"ในครั้งนั้นบรรดาชาวต่างประเทศมีความประหลาดใจมากที่ได้เห็นชาวยุโรปในเมืองไทย ทั้งนักเรียนอายุ ๑๓ ขวบ ๑๔ ขวบ ตลอดจนมิชชันนารีซึ่งหน้าตาแสดงความบริสุทธิ์ของตัว ต้องถูกลากไปตามถนน และถูกบีบคั้นไม่ผิดกันกับพวกผู้ร้ายอย่างสำคัญและผู้ร้ายที่ฆ่าคนตาย ถ้าพวกคริสเตียนล้มลงด้วยอ่อนเพลียเพราะความไม่สบาย หรือแดดเผาจนร้อน หรือเหน็ดเหนื่อยเต็มที ประเดี๋ยวก็ต้องลุกขึ้นได้ด้วยไม้ตี ในตอนเช้าเวลาเดินไปทำงานและตอนเย็นเวลากลับ พวกนี้ต้องขอทานตามประตูบ้านและตามร้านทุก ๆ แห่ง พวกชาวบ้านก็ให้ข้าวบ้าง ปลาเค็มบ้าง เบี้ยซึ่งใช้กันต่างเงินบ้าง และให้เหมือนกับนักโทษไทยและมอญที่ต้องร้อยโซ่ติดเป็นพวงเดียวกันไป"
อ้างอิง:"พวกคริสเตียนต้องขังคุก", ประชุมพงศาวดาร เล่ม ๒๑ (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๓๕ และ ๓๖). กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2511.
#ประวัติศาสตร์
#กรุงศรีอยุธยา
#พระเพทราชา
#ฝรั่งเศส

13/07/2025

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 มีการพบวัตถุแปลกปลอมใหม่ดวงหนึ่งด้วยกล้องโทรทรรศน์แอตลัส การศึกษาเส้นทางโคจรต่อ.....

13/07/2025

‘นิด้าโพล’ เผยผลสำรวจประชาชน 43.37% ‘แพทองธาร’ ควรประกาศ ‘ลาออก’ ขณะ 32.82% ควรดึง ’ลุงตู่‘ คัมแบคนายกฯ ส่วน 39.92% เห็นควร ’ยุบสภา‘

วันที่ 13 ก.ค. 2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “การเมืองไทย ไปต่อแบบไหนดี” เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อสถานการณ์ทางการเมืองไทยในปัจจุบัน

จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อสถานการณ์ทางการเมืองไทยในปัจจุบัน พบว่า
• ร้อยละ 42.37 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ควรประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อหานายกฯ คนใหม่ รองลงมา
• ร้อยละ 39.92 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ควรยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไป
• ร้อยละ 15.04 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ควรบริหารประเทศต่อไปเหมือนเดิม
• ร้อยละ 1.37 ระบุว่า เรียกร้องให้มีการรัฐประหาร
• ร้อยละ 0.99 ระบุว่า อย่างไรก็ได้ และร้อยละ 0.31 ระบุว่า ไม่ตอบ

ด้านบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปตามรายชื่อผู้มีสิทธิเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ต้องพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากเผชิญกับปัญหาทางการเมือง
• ร้อยละ 32.82 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
• ร้อยละ 27.94 ระบุว่า ไม่สนับสนุนใครเลยตามรายชื่อผู้มีสิทธิเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ
• ร้อยละ 11.53 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย)
• ร้อยละ 10.92 ระบุว่าเป็น นายชัยเกษม นิติสิริ (พรรคเพื่อไทย)
• ร้อยละ 9.77 ระบุว่า ใครก็ได้ตามรายชื่อผู้มีสิทธิเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ
• ร้อยละ 3.82 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ)
• ร้อยละ 1.83 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์)
• ร้อยละ 0.84 ระบุว่าเป็น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ)
• ร้อยละ 0.53 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการที่พรรคประชาชนควรร่วมลงชื่อกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อขอเปิดอภิปรายและลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ/หรือรัฐมนตรี จากสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันพบว่า
• ร้อยละ 64.43 ระบุว่า ควรลงชื่อเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และ/หรือ รัฐมนตรี รองลงมา
• ร้อยละ 26.26 ระบุว่า ไม่ควรลงชื่อเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และ/หรือ รัฐมนตรี
• ร้อยละ 7.48 ระบุว่า อย่างไรก็ได้ และร้อยละ 1.83 ระบุว่า ไม่ตอบ

13/07/2025

กฎมณเฑียรบาลว่าด้วย “ห้ามแตะต้องพระวรกาย” ใครว่ายลงไปช่วย มีโทษประหารชีวิต
(ภาคต่อจาก) อุบัติเหตุครั้งยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมพระนางเรือล่ม!
ก่อนที่เรือพระประเทียบจะพลิกคว่ำลง พระองค์เจ้าสุนันทาทรงตกพระทัยเป็นอย่างมาก เรือพระที่นั่งโคลงเคลงไปมาใหญ่ เพราะลูกคลื่นได้ซัดเข้ามา สัญชาติญาณแห่งความเป็น"แม่"พระองค์เจ้าสุนันทาทรงอุ้มพระราชธิดาเข้ามาไว้ในอ้อมกอดและตื่นเต้นกับจังหวะของเรือและแล้วน้ำก็พรั่งพรูเข้ามาทางหัวเรือ พระพี่เลี้ยงแก้วร้องไห้ด้วยความตกใจและตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก ไม่นานเรือพระประเทียบก็คว่ำลงไปทันที เรือปานมารุตที่ทำหน้าที่จูงจึงหยุดเครื่องทันที
เสียงตระเบ็งเซ็งแซ่ไม่ได้ศัพท์ดังขึ้นที่ชายฝั่งเพราะประจักษ์เหตุการณ์เฉพาะหน้าว่าอันตรายได้เกิดขึ้นกับเรือขบวนที่เพิ่งจะผ่านไปหยกๆจะเป็นเรือของใคร ไม่ว่าจะเป็นไพร่หรือเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินก็ตาม ความหมายคือการช่วยเหลือในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ข้าหลวงที่ตามเสด็จมาในเรือพระประเทียบซึ่งติดอยู่ในเก๋งเรือก็พยายามมุดหาทางออกมาจากเก๋งและว่ายน้ำไปเกาะที่เรือลำอื่นเพราะปรากฏว่าในตอนนั้นกระแสน้ำมิได้ไหลเชี่ยวประกอบกับเป็นที่ตื้น สำหรับพระองค์เจ้าสุนันทานั้นทรงว่ายน้ำเป็น แต่ปรากฏว่าขณะที่เรือล่มนั้นเจ้าฟ้าหญิงได้หลุดออกจากพระหัตถ์หายไปในทันที จึงทำให้พระองค์ไม่เสด็จออกจากเก๋งเรือ ทรงเป็นห่วงพระราชธิดา จึงได้ว่ายค้นหาอยู่ภายในเก๋งเรือจนกระทั่งหมดพระกำลังและสิ้นพระชนม์
ในขณะเรือพระประเทียบล่ม ทันใดนั้นเอง พระยามหามนตรีชูดาบขึ้น ออกคำสั่งโดยฉับพลันทันทีไม่ให้คนหนึ่งคนใดลงไปช่วยเนื่องด้วยขัดกับกฏมณเฑียรบาลแม้แต่ชาวบ้านสามัญที่ไม่รู้เรื่องว่ากฏมณเฑียรบาลคืออะไร พระยามหามนตรีออกคำสั่งเด็ดขาดไม่ให้เข้าใกล้และแตะต้องพระวรกายถึงกับชักดาบยืนตะโกนออกคำสั่งอยู่ที่หัวเรือกลไฟ พวกชาวบ้านงงงวยนักจึงทำได้เพียงช่วยพวกนางข้าหลวงนำส่งขึ้นเรือใหญ่
กฏมณเฑียรบาลซึ่งมิใช่จะประหารชีวิตผู้ทำความช่วยเหลือเท่านั้นแต่เป็นการประหารล้างโคตรจึงอาจจะกล่าวได้ทีเดียวว่าสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ สิ้นพระชนม์ไปเพราะกฏมณเฑียรบาลกฏหมายอันมีมาแต่โบราณกาลกฏมณเฑียรบาลตอนนี้มีความหมายว่า
“ถ้าเรือพระประเทียบล่ม เจ้าพนักงานในเรือต้องว่ายน้ำออกจากบริเวณรอบ ๆ เรือ ถ้ายังอยู่ในบริเวณเรือที่ล่มนั้น มีโทษประหารชีวิต ถ้าเรือพระประเทียบล่ม หรือเจ้านายตกน้ำ กำลังว่ายตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดอยู่ ให้เจ้าพนักงานในเรือที่ว่ายขึ้นฝั่งแล้วเอาไม้ยาว ๆ หรือโยนลูกมะพร้าวให้เจ้านายเกาะ ถ้าไม่มี ห้ามเจ้าพนักงานว่ายลงไปช่วยเจ้านายใครว่ายลงไปช่วยมีโทษประหารชีวิต เจ้าพนักงานคนไหนที่โยนลูกมะพร้าวให้เจ้านายเกาะแล้วรอดจะได้รางวัลขั้นต่ำเป็นเงินสิบตำลึง ถึงขั้นสูงสุดขันทองคำหนึ่งใบ แต่ถ้าคนที่โยนลูกมะพร้าวช่วยเจ้านายนั้นไม่ใช่เจ้าพนักงาน คนที่โยนนั้น มีโทษประหารยกโคตร”

(โปรดติดตามตอนต่อไป)
จากภาพด้านซ้าย พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ทรงอุ้ม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์ อรรควรราชกุมารี
จากภาพด้านขวาบน ภาพตัวอย่างลักษณะเรือเก๋งพระประเทียบ
จากภาพด้านขวาล่าง คุ้งน้ำ บางพูด อันเป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์ เรือพระประเทียบล่ม
เครดิตภาพ เพจคลังประวัติศาสตร์ไทย
เรียบเรียง เพจเกร็ดประวัติศาสตร์ v2

หมายเหตุ
ขออนุญาตสมาชิกครับสมาชิกท่านใดที่จะร่วมเป็นกำลังใจให้กับแอดมินในการทำเพจ(ทั้งนี้ไม่บังคับแต่อย่างใดนะครับ) โดยการโดเนทได้ที่ เลขที่ บช 0548325056 ธ.กสิกรไทย ชื่อ บช นายสฐาปนัท จันทร์ดิษฐ์ ทุกการโดเนทของจะเป็นค่าเดินทางหาข้อมูล รวบรวมในการเขียนบทความ และค่า copy เอกสาร หลักฐานเก่าแก่ต่างๆ แอดมินขอขอบพระคุณสมาชิกที่สนับสนุนแอดมินและเพจตลอดมาครับ

The palace rules say “Do not touch the body of the royal family.” Whoever swims down to help will be punished with death!
(Continued from) The great accident of the royal family that led to the tragedy of the royal barge capsizing!
Before the royal barge capsized, Princess Sunandha was very shocked. The royal barge rocked back and forth because of the waves that hit it. Her “motherly” instinct was to hold her daughter in her arms and was excited by the rhythm of the boat. Then, water rushed towards the bow. The nanny Kaew cried in shock and was shocked and didn’t know what to do. Not long after, the royal barge capsized immediately. The Panmarut boat that was pulling it stopped the engine immediately.
An incomprehensible noise was heard on the shore because they realized the immediate situation that danger had befallen the boat that had just passed by. It didn’t matter whose boat it was, whether it was a commoner or a prince. The meaning was to help as fellow human beings.
The courtiers who accompanied the King in the royal barge who were stuck in the cabin tried to crawl out of the cabin and swam to another boat because it turned out that the current was not strong at that time and it was shallow. As for Princess Sunandha, she could swim, but when the boat sank, the princess slipped out of his hand and disappeared immediately. Therefore, he did not leave the cabin. He was worried about his daughter, so he swam and searched inside the cabin until he was exhausted and died.
While the royal barge sank, suddenly, Phraya Mahamontri raised his sword and immediately issued an order not to let anyone go down to help because it was against the palace rules, even ordinary villagers who did not know what the palace rules were. Phraya Mahamontri gave a strict order not to go near or touch the King's body. He even drew his sword and stood shouting orders at the bow of the steamboat. The villagers were very confused, so they could only help the courtiers to send them to the big boat.
The Palace Law, which does not only execute those who help, but also the entire family, can be said that Her Majesty Queen Sunandha Kumarirat died because of the Palace Law, an ancient law. The current Palace Law means:
“If the royal barge sinks, the officers on the boat must swim out of the area around the boat. If they are still in the area of the capsized boat, they are subject to the death penalty. If the royal barge sinks or the royal prince falls into the water and is struggling to survive, the officers on the boat must swim to shore and use a long stick or throw a coconut for the prince to hold on to. If there is none, the officer is prohibited from swimming down to help the prince. Anyone who swims down to help is subject to the death penalty. Any officer who throws a coconut for the prince to hold on to and survives will receive a minimum reward of ten taels of silver, up to a maximum of one gold bowl. However, if the person who threw the coconut to help the prince is not an official, the person who threw it is subject to the death penalty for the entire family.”

(Please follow the next episode)
From the picture on the left, Princess Sunandha Kumarirat is holding Her Royal Highness Princess Princess Kannaporn Petcharat

From the top right picture, an example of the appearance of the royal barge

From the bottom right picture, Bang Phut River bend, which is the location where the royal barge capsized

Photo credit: Thai History Archive Page

Compiled by History Trivia Page v2

13/07/2025
13/07/2025

🌋ประเทศไทยโชคดีที่มี “ภูเขาไฟ” ที่ดับสนิทไปแล้ว
ในอดีตประเทศไทย มีภูเขาไฟโบราณกระจายตัวในส่วนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ลักษณะของภูเขาไฟในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็น ภูเขาไฟแบบโล่ Shield Volcano (นึกถึงโล่ของกัปตันอเมริกาในหนัง😁 ที่จะมีฐานกว้างและนูนขึ้นตรงกลางไม่สูงมากนัก) ซึ่งคุณสมบัติของลาวาจะไหลได้ง่าย หากมีการระเบิดขึ้นก็จะไม่รุนแรง และล้วนเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้วทั้งสิ้นและพบหินภูเขาไฟประเภทหินบะซอลต์เป็นส่วนใหญ่(บางแหล่งเป็นหินไรออไรท์ หินแอนดีไซต์) เช่น จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดจันทบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดลำปาง จังหวัดเพชรบูรณ์ ฯลฯ
เสาหินบะซอลต์ (Basalt) อีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการไหลของลาวาในอดีต หินบะซอลต์ ที่เกิดจากการไหลของลาวาแล้วแข็งตัวในอากาศภายนอกเปลือกโลก ทำให้เกิดการหดตัวและแตกเป็นสี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม หรือแปดเหลี่ยมบ้างตามพื้นที่ และแตกลงลึกเป็นแนวดิ่งทำให้มองเห็นคล้ายเป็นแท่งเสา เราจึงเรียกว่า “เสาหินบะซอลต์” ซึ่งกลายเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่สร้างสรรค์ขึ้นมาและหลายพื้นที่มีความสวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวในปัจจุบัน
ประโยชน์ของหินภูเขาไฟ การย่อยสลายของหินบะซอลต์จะให้ แร่ธาตุและมีดินที่อุดมสมบูรณ์ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชโดยเฉพาะผลไม้ที่ให้รสหวาน จะเห็นว่ามีความนิยมปลูกกันในพื้นที่ภาคตะวันออก ทั้ง เงาะ ทุเรียน ลองกอง สละ หรือในปัจจุบันที่เรามักได้ยินว่าทุเรียนภูเขาไฟซึ่งเจริญเติบโตได้ดีในบริเวณดินที่เกิดจากการย่อยสลายของหินบะซอลต์ และที่สำคัญหินบะซอลต์จะมีแร่ที่เป็นอัญมณี เช่น พลอย นิล ทำให้มีการทำเหมืองพลอยในหลายพื้นที่ที่เคยเป็นภูเขาไฟโบราณ เช่น จันทบุรี กาญจนบุรี เป็นต้น

#ภูเขาไฟ
#ภูมิศาสตร์กายภาพ
#ภูมิศาสตร์น่ารู้Brr

ที่อยู่

Amphoe Muang Phuket

เวลาทำการ

จันทร์ 08:00 - 18:00
อังคาร 08:00 - 18:00
พุธ 08:00 - 18:00
พฤหัสบดี 08:00 - 18:00
ศุกร์ 08:00 - 18:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ที่นี้ มีข่าว TeeNee MeeKaowผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ที่นี้ มีข่าว TeeNee MeeKaow:

แชร์

ประเภท