07/08/2025
💙
“โดราเอมอนนน ทำอะไรซักอย่างซี่!!!”
ประโยคคลาสสิคที่มาพร้อมกับภาพของ
เด็กชายจอมขี้แงเวลาพุ่งกลับบ้าน
มาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนซี้แห่งโลกอนาคต
ซึ่งถ้าพูดถึงชื่อ “โนบิ โนบิตะ” แล้ว
เราแทบจะคิดเรื่องดีๆ ที่เค้าทำสำเร็จไม่เจอเลย
เรียนไม่เก่ง สอบได้ 0 คะแนน
ว่ายน้ำไม่เป็น วาดรูปไม่เป็นรูป เล่นสกีก็หน้าทิ่ม
ตีเบสบอลก็วืดแทบทุกรอบ
เรื่องพละกำลังก็ไปไฝว้กะใครไม่ได้
แพ้ร้องลั่นขี้มูกโป่งกลับมาทุกที
ส่วนเรื่องนิสัยยังใจเสาะ เปราะบาง
ชอบคิดเล็กคิดน้อย ขี้น้อยใจ
เอาแต่ใจ ซุ่มซ่าม ขี้ลืม แถมขี้เกียจได้โล่
เวลาจะทำไรจริงจังอย่างทำการบ้าน
วันนี้ชั้นต้องทำให้ได้ พอผ่านไปซักพัก
“อืมม หัวไม่แล่นเลยแฮะ หลับซักงีบละกัน”
เข้าอีกหรอบนี้ทุกที!!
แล้วอะไรคือ “ความแข็งแกร่งภายใน” ที่โนบิตะมีไม่เหมือนคนอื่น!?
1. #ตุ๊กตาล้มลุก - สมัยยังเด็ก ตอนที่โนบิตะยังไม่ใส่แว่น แล้วเล่นซุกซนหกล้มจนร้องไห้ “คุณย่า” ก็ได้โยนตุ๊กตาล้มลุกตัวหนึ่งมาให้แล้วบอกว่า “เห็นมั้ยจ๊ะโนบิตะ? เจ้าตุ๊กตาตัวนี้มันล้มแล้วลุกใหม่ได้เสมอ ย่าอยากเห็นหลานโตมาเป็นแบบนี้นะ” ก่อนที่เด็กน้อยจะให้คำมั่นว่าผมจะต้องโตมาเป็นแบบตุ๊กตาล้มลุกให้ได้ฮะย่า และเค้าก็โตมาเป็นแบบนั้นจริงๆ ถึงจะโดนไจแอนท์ซัดเปรี้ยง! น่วมไปไม่รู้กี่รอบแบบสู้ไม่ได้ ก็ยังปัดแข้งปัดขา หยิบแว่นมาเช็ด ค่อยๆ ลุกขึ้นมาใหม่ คิดในใจ “คอยดูนะเจ้าไจแอนท์!!” ก่อนจะวิ่งแจ้นไปหาโดราเอมอน555+
หรือจะเป็นความล้มเหลวต่างๆ นานาที่เค้าได้เจอ ทั้งการสอบได้ 0 คะแนนเป็นประจำ ครูด่า แม่ดุเป็นชม. จนร้องไห้หน้าเขียว รึการถูกซึเนะโอะหยอกล้อ แถมเมินไม่ให้ไปทริปต่างอากาศด้วยเลย “โนบิตะ” ก็ยังคงลุกขึ้นใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ในแบบของตัวเอง เฟลยังไง เศร้าแค่ไหนก็ไม่เคยลืมที่จะกลับมายิ้มมีความสุขได้อีกครั้ง
2. #แคร์ความรู้สึกคนอื่นมากกว่าตัวเอง – ภายใต้ความเอาแต่ใจและรอยน้ำตา จริงๆ มันสะท้อนให้เห็นถึง “ความอ่อนไหวและใจที่อ่อนโยน” ในเวลาเดียวกัน เพราะในบรรดาเพื่อนๆ ที่เล่นกันหนุกหนานตามประสาเด็ก ไม่ค่อยคิดอะไร “โนบิตะ” กลับเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดสิ่งรอบตัวมากที่สุด ห่วงแม้กระทั้งหมา แมว ต้นไม้ใบหญ้ารอบๆ คนแก่เดินข้ามถนนก็เข้าไปช่วงพยุง
กับเพื่อนกับฝูงก็เหมือนกัน รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองตีเบสบอลไม่เอาไหน แต่พอเค้าบอก “คนขาด มาเล่นหน่อยดิ๊!” ก็ยังยอมไปเล่นแม้จะต้องโดนอัดเวลาทำพลาด ไจแอนท์ร้องเพลงห่วยแตกก็อุตส่าห์จำใจไปนั่งฟังกะทุกคน ซึเนะโอะขี้โม้ เอาของเล่นมาขิง เอาทริปครอบครัวมาเล่าก็ยังยอมยืนฟังอยู่ตรงนั้นจนจบแม้ใจจะอิจฉาแค่ไหน ก็เลือกที่จะเก็บไว้คนเดียว เพราะมีแต่โดราเอมอนที่รับฟัง
แต่มีตอนหนึ่งที่ได้ยินแมวฟ้าเพื่อนซี้บอกว่า “นายคิดดูสิ ชั้นน่ะไม่เคยมีวันหยุดเลยนะ! ต้องคอยดูแลนายทุกวันทุกคืน” โนบิตะเลยยอมให้เพื่อนได้ไปออกเดทกับมี่จังแมวสาว
แม้ว่าโดราเอมอนจะทิ้งกริ่งแจ้งเตือนไว้ให้โนบิตะกดเรียกเวลามีเหตุฉุกเฉิน แต่ไม่ว่าวันนั้นจะเจอเรื่องแย่ยังไง อยากกดกริ่งแค่ไหน พอนึกถึงหน้าโดราเอมอนที่กำลังมีความสุขกับมี่จังแล้ว เค้ากลับเลือกที่จะไม่ใช้กริ่งนั้นเลย แม้ในช่วงคับขันสุดขีดกำลังจะโดนแก๊งเด็กเกเรรุมยำ โนบิตะก็ยังใจเด็ดบอก “รอแพรพ” แล้วเอากริ่งนั้นมาเหยียบจนพัง ก่อนจะบอกว่า “เอ้า! อยากต่อยก็ต่อยมาเลย!” จนไจแอนท์และซึเนะโอะที่เฝ้าตามดูและแอบยั่วให้กดกริ่งมาตลอดยังต้องทึ่งและเปลี่ยนใจมาช่วย เพราะเห็นในความเด็ดเดี่ยวและใจสู้ที่ซ่อนอยู่ในตัวโนบิตะ
3. #หัวใจรักที่เปี่ยมล้น – นอกจากจะไม่ได้เรื่องซักทางแล้ว โนบิตะยังอาภัพรักอีก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเค้าแทบไม่มีไรจะไปพิชิตใจ “มินาโมโตะ ชิซุกะ” ได้เลย กำลังก็แพ้ไจแอนท์ ความรวยก็แพ้ซึเนะโอะ ความฉลาดก็แพ้เดคิซุงิ มองยังไงก็ไม่เห็นทางที่ผู้หญิงหน้าตาน่ารัก นิสัยดี เรียนดี ชีวิตแทบจะเพอร์เฟคอย่างชิซุกะจะหันมาชอบได้เลย
แต่สิ่งที่เค้ามีเหนือใครคือ “หัวใจรักที่เปี่ยมล้น” เพราะไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร เค้าจะคิดถึงชิซุกะเสมอ ชวนชิซุกะไปไหนดี? พาไปเล่นอะไรดี? ทำยังไงให้เธอมีความสุข? ทำยังไงเธอจะประทับใจที่สุด? ซึ่งแน่นอนล่ะผลลัพธ์มันก็ไม่ได้ออกมาสวยหรูทุกครั้ง แถมค่อนไปทางท่าดีทีเหลวมากกว่าแม้จะได้ของวิเศษช่วย55+ แต่กลายเป็นความรักอันอ่อนโยนที่ชิซุกะสัมผัสได้มาตลอดภายใต้ความไม่เอาไหน โนบิตะคือคนที่รักและทุ่มเทเพื่อคนอื่นอย่างสุดหัวใจ
เหมือนอย่างที่พ่อของชิซูกะเคยพูดเอาไว้ในคืนก่อนแต่งงานว่า “อย่ากังวลไปเลยลูก! เชื่อโนบิตะเค้าเถอะ เด็กคนนั้นคือคนที่ปรารถนาให้คนอื่นมีความสุข และเศร้าไปกับความทุกข์ของคนอื่นในเวลาเดียวกัน ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตคนเราเลยนะ”
แม้แต่ในอดีตที่โดราเอมอนต้องกลับโลกอนาคต ด้วยความรักเพื่อน อยากให้เพื่อนไปอย่างหมดห่วง ก็ไปท้าไจแอนท์ต่อยกลางดึก โดนซัดจนน่วม แต่ก็กัดฟันสู้ทั้งหยิกทั้งรั้งจนไจแอนท์ยอมแพ้ แม้แต่โดราเอมอนที่ตามมาดูยังแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองก่อนที่โนบิตะจะบอกว่า “เป็นไงล่ะ? ชั้นชนะแล้ว ชั้นอยู่ได้ นายไม่ต้องเป็นห่วงนะ!” ก่อนที่โดราเอมอนจะซึ้งจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
จากวันนั้น…ถึงวันนี้ 7 สิงหาก็วนมาอีกครั้ง ในปีที่โนบิตะมีอายุครบ 55 ปีพอดี (เกิด พ.ศ. 2507)
อดีตเด็กน้อยขี้แงในวันวาน ก็ได้ก้าวผ่านช่วงเวลามากมายกลายเป็นคนที่ “เติบโตอย่างแข็งแรง” สมดั่งชื่อโนบิ โนบิตะที่พ่อแม่ตั้งให้อย่างแท้จริง,,,
#โนบิตะ
#โดราเอมอน
