สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี องค์กรสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์ "สื่อสร้างสรรค์ รู้เท่าทันดิจิทัล"

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (31 ก.ค. 68):   ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉี...
31/07/2025

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (31 ก.ค. 68): ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า: ในช่วงวันที่ 31 ก.ค. – 6 ส.ค. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ยังคงมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง: ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักที่เกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง

สถานการณ์แผ่นดินไหว(ช่วงวันที่ 30 - 31 ก.ค. 68): ตรวจพบเหตุการณ์แผ่นดินไหว
ขนาด 4.3, 4.3, 4.5 มีศูนย์กลางอยู่ที่หมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย ขนาด 1.7 มีศูนย์กลางอยู่ที่ต.ห้วยปูลิง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน
และขนาด 2.3 มีศูนย์กลางอยู่ที่ใกล้ชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศเมียนมา ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยแต่อย่างใด

📣ด่วน ‼️ ห้ามผู้ใด "บินโดรน" ทุกวัตถุประสงค์การใช้งาน “ทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร” 📌สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (ก...
30/07/2025

📣ด่วน ‼️ ห้ามผู้ใด "บินโดรน" ทุกวัตถุประสงค์การใช้งาน “ทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร”

📌สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ออกประกาศด่วน ห้ามทำการบินหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ทุกประเภทในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

การประกาศครั้งนี้มีขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ต่าง ๆ

พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การห้ามบินโดรนในครั้งนี้สอดคล้องกับกฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งให้อำนาจ กพท. ในการระงับการใช้งานอากาศยานไร้คนขับในช่วงเวลาที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ พร้อมย้ำว่า ผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งอาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจทำลายอากาศยานได้ หากมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง

หากผู้ใดพบเห็นหรือทราบว่ามีการบังคับหรือปล่อยโดรนที่ฝ่าฝืนประกาศนี้ ให้แจ้งข้อมูล ได้แก่ วัน เวลา สถานที่ที่พบเห็น ลักษณะของโดรน และภาพถ่ายหรือคลิปวิติโอ (ถ้ามี) ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเร็วผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ดังนี้

1. กองพัฒนามาตรฐานและเทคโนโลยีระบบอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ฝ่ายมาตรฐานอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 02-568-8851 หรืออีเมล [email protected]
2. ศูนย์ต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (สตอ.น.) โทรศัพท์ 02-126-7846 หรืออีเมล [email protected]
3. ศูนย์แจ้งเหตุใกล้พื้นที่ เช่น สถานีตำรวจท้องที่ หน่วยทหาร หรือหน่วยความมั่นคงที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้น ๆ

กพท. ขอความร่วมมือประชาชน งดใช้โดรนทุกประเภทในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อร่วมกันรักษาความปลอดภัยของประเทศ และสนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนอย่างเต็มที่

#ชายแดนไทยกัมพูชา #กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

30/07/2025
กพท. ออกประกาศห้ามบินโดรนในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ช่วงสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชาพ...
30/07/2025

กพท. ออกประกาศห้ามบินโดรนในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ช่วงสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา

พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์ความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา มีการตรวจพบการใช้อากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือ โดรน ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ การรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ

กพท. จึงได้ออกประกาศ ห้ามมิให้ผู้ใดทำการบิน หรือปล่อย“โดรน” ในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ หรือกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่สำคัญ ที่จังหวัดจันทบุรี ตราด บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี สระแก้ว ลพบุรี ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครสวรรค์ ชัยนาท เพชรบูรณ์ และพิจิตร

นอกจากนี้ ยังห้ามบินโดรนทุกประเภทในรัศมี 9 กิโลเมตร หรือ 5 ไมล์ทะเล จากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวทุกแห่งโดยเด็ดขาด โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ และพระราชบัญญัติว่าด้วยการปฏิบัติต่ออากาศยานที่กระทำผิดกฎหมาย พ.ศ. 2553

#ห้ามบินโดรน #ชายแดนไทยกัมพูชา #กพท

"วินธัย" แถลงประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง    #ชายแดนไทยกัมพูชา     #กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
30/07/2025

"วินธัย" แถลงประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

#ชายแดนไทยกัมพูชา #กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

📬ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี เปิดโครงการให้ความรู้ด้านกฎหมายและการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ให้แก่นายจ้างและสถานประกอบการ เน้นย้...
30/07/2025

📬ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี เปิดโครงการให้ความรู้ด้านกฎหมายและการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ให้แก่นายจ้างและสถานประกอบการ เน้นย้ำให้ดูแลพนักงานให้เข้าถึงสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายอย่างทั่วถึง

👉วันนี้ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.30 น. นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานเปิดโครงการให้ความรู้ด้านกฎหมายและการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ และองค์กรภาคีเครือข่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีนายจ้าง/สถานประกอบการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอาสาสมัครแรงงาน จำนวน 178 คน เข้าร่วมโครงการฯ ณ โรงแรมแคนทารี่ 304 อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจ้างแรงงานต่างด้าวทำงาน ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมเน้นย้ำให้นายจ้าง/สถานประกอบการ ดูแลกวดขันไม่ให้พนักงานเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สถานประกอบการที่มีการจ้างแรงงานข้ามชาติสัญชาติกัมพูชา ขอให้ช่วยกันเฝ้าระวังไม่ให้พนักงานกระทบกระทั่งหรือรวมตัวก่อเหตุอันเนื่องมาจากปัญหาการปะทะตามแนวจังหวัดชายแดน อีกทั้งกำชับให้ดูแลพนักงานให้เข้าถึงสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

#จังหวัดปราจีนบุรี

📬รองผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี นำประชุมคณะทำงานจัดทำมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรม ประเภท 105 และ 106 หรือโรงง...
30/07/2025

📬รองผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี นำประชุมคณะทำงานจัดทำมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรม ประเภท 105 และ 106 หรือโรงงานรีไซเคิลในพื้นที่ เดินหน้าป้องกันการทุจริตในทุกมิติ

👉วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี มอบหมายให้ นายชนาธิป โคกมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานการประชุมคณะทำงานจัดทำแนวทางมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรม ประเภท 105 และ 106 หรือโรงงานรีไซเคิลในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1/2568 โดยมีคณะทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมทวารวดี (403) ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี ตำบลไม้เค็ด อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี

📌การประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามสถานการณ์เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรม ประเภท 105 และ 106 หรือโรงงานรีไซเคิลในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี รับฟังรายงานผลการดำเนินโครงการป้องปรามและลดคดีทุจริตในพื้นที่ พร้อมพิจารณาข้อเสนอแนะในการดำเนินมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรม ประเภท 105 และ 106 หรือโรงงานรีไซเคิลในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ทั้งจากหน่วยงานในพื้นที่ และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อยกระดับการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น

#จังหวัดปราจีนบุรี

📬รองผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ จังหวัดปราจีนบุรี ประจำปี 25...
30/07/2025

📬รองผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ จังหวัดปราจีนบุรี ประจำปี 2568

👉วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี มอบหมายให้ นางจารุณี กาวิล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดปราจีนบุรี ครั้งที่ 2/2568 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมสระมรกต (401) ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี ตำบลไม้เค็ด อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ จังหวัดปราจีนบุรี ประจำปี 2568 พร้อมติดตามการจัดงานวันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี 2568 นอกจากนี้ยังได้รับฟังรายงานการขอรับการสนับสนุนเงินโครงการจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ประจำปีงบประมาณ 2569 อีกด้วย

#จังหวัดปราจีนบุรี

📬ครม. อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประเทศ 🚩บทสรุป  👉คณะรั...
30/07/2025

📬ครม. อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ลดภาระค่าใช้จ่าย
ด้านพลังงานของประเทศ

🚩บทสรุป
👉คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ซึ่งพระราชบัญญัติฉบับนี้มุ่งอำนวยความสะดวกในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้า จากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) ประเภทที่อยู่อาศัย หรือสถานประกอบกิจการ ลดขั้นตอนในการขออนุญาตหรือการจดแจ้ง เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนติดตั้ง Solar Rooftop ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าของประชาชนและประเทศ ลดการพึ่งพาด้านพลังงานและการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างชาติ และสนับสนุนนโยบาย การเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทยไปสู่พลังงานสะอาดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ได้กำหนดหลักเกณฑ์การติดตั้ง การใช้งาน และบทลงโทษกรณีฝ่าฝืนไว้อย่างชัดเจน โดยจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

🚩รายละเอียด
👉(29 ก.ค. 68) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. ... และรับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงพลังงาน เสนอ
👉มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้เอในที่อยู่อาศัยหรือในสถานประกอบกิจการ โดยมุ่งเน้นให้กระบวนการติดตั้งอุปกรณ์เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว ควบคู่กับการวางกรอบการกำกับดูแลการติดตั้งและการใช้ไฟฟ้าให้เป็นไปอย่างถูกต้องและมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยและวิศวกรรม เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายกลางที่ส่งเสริมและสนับสนุนการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) เพื่อใช้เองเป็นการเฉพาะ ส่งผลให้ในการดำเนินการต่าง ๆ ต้องอ้างอิงกฎหมายและระเบียบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฉบับทำให้ขาดความเป็นเอกภาพ ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนในการขออนุญาตหรือการจดแจ้งยกเว้นเกี่ยวกับการติดตั้ง Solar Rooftop สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงพลังงานและความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ประชาชนและภาคธุรกิจแบกรับภาระด้านเวลาและค่าใช้จ่าย และยังลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประเทศ ตลอดจนลดการพึ่งพาด้านพลังงาน และการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างชาติ รวมทั้งยังช่วยให้การเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทยไปสู่พลังงานสะอาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ ยังเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการลดและปรับโครงสร้างราคาพลังงานและนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy หรือ Eco-friendly Economy) และการสานต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)
👉กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน จึงได้ยกร่างพระราชบัญญัติส่งเสริม การใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. ... ขึ้น โดยพระราชบัญญัติฉบับนี้ มีเนื้อหาสาระสำคัญทั้งหมด 5 เรื่อง ประกอบด้วย
1. การกำหนดวัตถุประสงค์ของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ที่สนับสนุนส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยหรือในสถานประกอบกิจการ เพื่อให้การติดตั้งอุปกรณ์ Solar Rooftop เป็นไปด้วยความปลอดภัย สะดวกและรวดเร็ว เป็นประโยชน์ในการรวบรวมข้อมูล สถิติ และจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในที่อยู่อาศัย หรือสถานประกอบกิจการ ซึ่งกรณีนี้ไม่ถือเป็นการประกอบกิจการพลังงานตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการพลังงาน และไม่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยโรงงาน กฎหมายว่าด้วยการผังเมือง กฎหมายว่าด้วยการพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน และไม่ถือเป็นการดัดแปลงอาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร
2. การติดตั้ง Solar Rooftop กรณีดังกล่าวไม่ต้องขออนุญาตกับหน่วยงานของรัฐ แต่ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ การติดตั้งอุปกรณ์ Solar Rooftop ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้แล้ว ไม่ต้องขออนุญาตการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าอีก การติดตั้งต้องจัดให้มีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างหลังคาหรือสิ่งคลุมสถานที่ติดตั้งว่าสามารถติดตั้งได้อย่างปลอดภัย ให้เจ้าของสถานที่ที่จะติดตั้งอุปกรณ์ระบบ Solar Rooftop แจ้งที่อยู่ของสถานที่ติดตั้ง และข้อมูลของอุปกรณ์ระบบ Solar Rooftop ที่ติดตั้ง หลักฐานการรับรองความปลอดภัย และข้อมูลอื่น ตามหลักเกณฑ์ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน กำกับให้มีการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้จาก Solar Rooftop เฉพาะในสถานที่ติดตั้งเท่านั้น ไม่สามารถจำหน่ายหรือให้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากสถานที่ติดตั้งได้ เว้นแต่เป็นการจำหน่ายหรือให้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แก่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
3. การกำกับติดตามอุปกรณ์ Solar Rooftop ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และการห้ามถอดแยกชิ้นส่วนซากอุปกรณ์ Solar Rooftop เว้นแต่ เป็นการถอดและประกอบกลับเข้าตามเดิม การซ่อมแซมเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำ การดำเนินการเพื่อการศึกษา ทดลอง และวิจัย หรือการถอดแยกของสถานกำจัดซากอุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์
4. กำหนดหน้าที่และอำนาจของเจ้าพนักงาน เพื่อการตรวจสอบและติดตามการติดตั้งอุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์
5. กำหนดบทลงโทษสำหรับการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติฉบับนี้ ดังนี้
- ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่แจ้งการติดตั้งอุปกรณ์ Solar Rooftop ภายใน 30 วัน ให้ชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 1,000 บาท จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
- ผู้ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้เกี่ยวกับการติดตั้งระบบอุปกรณ์ Solar Rooftop หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และถ้าการกระทำผิดดังกล่าวน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเกี่ยวกับการใช้และการจำหน่ายไฟฟ้าที่ได้จาก Solar Rooftop ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและปรับอีกไม่เกินวันละ 1,000 บาท จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
- ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเกี่ยวกับการกำกับติดตามอุปกรณ์ Solar Rooftop ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 1 หมื่นบาทจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
- ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเกี่ยวกับการถอดแยกชิ้นส่วนซากอุปกรณ์ Solar Rooftop ให้ชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5 หมื่นบาท
👉ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามพระราชบัญญัติฉบับนี้จะไม่กระทบต่องบประมาณและการสูญเสียรายได้ของรัฐอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ซื้อไฟฟ้าจากโรงงานไฟฟ้าเอกชนมาจำหน่ายให้ประชาชนเป็นปริมาณที่สูงกว่าการผลิตไฟฟ้าจำหน่ายเอง ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต คือ ค่าไฟฟ้าที่ซื้อจากโรงไฟฟ้าเอกชน

#ครมอนุมัติหลักการร่างพรบส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ #ติดตั้งSolarRooftop #ความมั่นคงด้านพลังงาน #กระทรวงพลังงาน #นโยบายรัฐบาล20กระทรวง

🎉✨ ขอเชิญร่วมงาน “๑ อำเภอ ๑ ลานสร้างสรรค์” ✨🎉🌸 หนุมานพาเพลินเดินตลาดรถไฟ 🌸กิจกรรมสร้างสรรค์สุดประทับใจ ณ ตลาดชุมชนสถานีร...
30/07/2025

🎉✨ ขอเชิญร่วมงาน “๑ อำเภอ ๑ ลานสร้างสรรค์” ✨🎉
🌸 หนุมานพาเพลินเดินตลาดรถไฟ 🌸
กิจกรรมสร้างสรรค์สุดประทับใจ ณ ตลาดชุมชนสถานีรถไฟกบินทร์บุรี
พบกับกิจกรรมหลากหลายที่ทั้งสนุก อิ่มอร่อย และเรียนรู้วัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด

📍 วันศุกร์ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๘
🕗 ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ น. เป็นต้นไป
📌 สถานที่: ลานกิจกรรมสถานีรถไฟกบินทร์บุรี

✨ กิจกรรมภายในงาน
🎭 การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
🍭 ชิม ช้อป อาหารพื้นถิ่น-ขนมโบราณ
🧺 เลือกซื้อสินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชน
🎶 เพลิดเพลินกับบรรยากาศตลาดวัฒนธรรมย้อนยุค

🧡 จัดโดย:
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี
ร่วมกับ อำเภอกบินทร์บุรี และเทศบาลตำบลกบินทร์

📌 มาเที่ยว มาชม มาชิม พร้อมร่วมสนับสนุนวัฒนธรรมชุมชนกันนะ

#๑อำเภอ๑ลานสร้างสรรค์ #ตลาดรถไฟกบินทร์บุรี
#สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี ีนบุรี
#กิจกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ #เที่ยวปราจีนบุรี

📬กระทรวงการคลัง ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย–กัมพูชา🚩บทสรุป👉คณะรัฐมนตรีมีมติ...
30/07/2025

📬กระทรวงการคลัง ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย–กัมพูชา

🚩บทสรุป
👉คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อปรับปรุงระเบียบเดิมพ.ศ. 2562 โดยยังคงหลักการเดิมไว้ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินทดรองราชการมีความต่อเนื่อง ชัดเจน ถูกต้อง และสอดคล้องกับสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน พร้อมทั้งปรับเพิ่มวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจำนวน 4 หน่วยงาน ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ มาตรการในระดับพื้นที่ โดยขยายวงเงินทดรองราชการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดละ 100 ล้านบาท การอำนวยความสะดวกด้านการจัดซื้อจัดจ้างในภารกิจด้านความมั่นคง และมาตรการสินเชื่อจากสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ

🚩รายละเอียด
👉(29 ก.ค. 68) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งเป็นการปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 โดยยังคงหลักการเดิม เพื่อให้การดำเนินการและการใช้จ่ายเงินทดรองราชการเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ชัดเจน ถูกต้อง และเหมาะสม รวมทั้งสอดคล้องกับสภาพการณ์ของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
👉นอกจากนี้ ยังมีการปรับเพิ่มวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 4 หน่วยงาน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน ดังนี้
1. สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท
2. สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท
3. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท
4. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด จากแห่งละ 20 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท
👉ขณะที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ มาตรการในระดับพื้นที่ และมาตรการของสถาบันการเงินของรัฐ

🔴1. มาตรการในระดับพื้นที่
1) ขยายวงเงินทดรองราชการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดละ 100 ล้านบาท และพร้อมพิจารณาขยายเพิ่มหากไม่เพียงพอ เพื่อให้จังหวัดสามารถบริหารจัดการได้อย่างคล่องตัวและตอบโจทย์ความต้องการในพื้นที่
2) อำนวยความสะดวกในการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านความมั่นคงให้สามารถดำเนินการได้อย่างเร่งด่วน ผ่านวิธีเฉพาะเจาะจง
3) เตรียมมาตรการด้านสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือประชาชนผ่านธนาคารของรัฐ เช่น ธ.ก.ส. โดยจะให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่เกษตรกร รวมถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) สำหรับผู้ได้รับความเสียหาย
🟠2. มาตรการด้านภาษี
👉เลื่อนเวลาการยื่นแบบและการชำระภาษี ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ จากเดิมระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม 2568 เป็นภายในวันที่ 30 กันยายน 2568
👉ประชาชนสามารถหักลดหย่อนค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์ความเสียหายได้ตามจริงไม่เกิน 100,000 บาท และสำหรับยานพาหนะไม่เกิน 30,000 บาท
🟡3. มาตรการจากสถาบันการเงินของรัฐ
3.1 ธนาคารออมสิน
พักชำระเงินต้นให้กับลูกหนี้ที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจนถึงงวดเดือนธันวาคม 2568 และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยบางส่วน
• สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไม่ต้องมีหลักประกัน วงเงิน 20,000 บาท/ราย ผ่อนชำระ 12 เดือน ดอกเบี้ย 0.60%/เดือน
• สินเชื่อเพื่ออาชีพ ผ่อนชำระ 60 เดือน ดอกเบี้ย 0.75%/เดือน
• สินเชื่อ SMEs ลูกค้าเดิมไม่เกิน 5 ล้านบาท รายใหม่ไม่เกิน 3 ล้านบาท ผ่อนชำระ 7 ปี ดอกเบี้ยปีแรก MLR -2.65% ปีถัดไป MLR
• ยกเว้นค่าธรรมเนียม Front End Fee (ค่าธรรมเนียมการใช้สินเชื่อ) และ Prepayment Fee (ค่าปรับจากการไถ่ถอนสินเชื่อก่อนกำหนด)
3.2 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
• สินเชื่อฉุกเฉิน วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท/ราย ดอกเบี้ย MRR (6.725%) ผ่อน 3 ปี ปลอดดอกเบี้ย 6 เดือน
• สินเชื่อฟื้นฟูชีวิตและทรัพย์สิน วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ดอกเบี้ย MRR - 2% ต่อปี ผ่อนสูงสุด 15 ปี
3.3 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
• มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ เช่น ลดดอกเบี้ยเหลือ 0.01% นาน 5 ปี
• ผู้ที่บ้านเสียหายทั้งหลัง หรือทุพพลภาพ/เสียชีวิต ได้สิทธิ์อัตราดอกเบี้ย 0.01% ตลอดอายุสัญญา
• กรณีกู้สร้างบ้านใหม่ ดอกเบี้ย 0% 6 เดือนแรก เดือนที่ 7–12 = 0.50% ต่อปี
3.4 ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME D Bank)
• พักชำระเงินต้น ลดค่างวด ขยายเวลา
• สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เช่น “ปลุกพลัง SME” และ “Beyond ติดปีก SME” ดอกเบี้ย 3% ต่อปี ผ่อน 10 ปี
• สินเชื่อรีไฟแนนซ์ SMEs เริ่มต้นที่ 2.99%
SME : ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง/ SMEs : ผู้ประกอบการหลายราย
3.5 ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank)
• ขยายเวลาชำระหนี้ 365 วัน ลดดอกเบี้ยสูงสุด 20%
• เพิ่มวงเงินชั่วคราว 1 ปี สูงสุด 30 ล้านบาท
• มาตรการเสริม เช่น เงินทุนหมุนเวียนเพื่อออกงาน, Safe Trade, Export Credit Insurance
3.6 ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (IBank)
• พักชำระเงินต้นและกำไรสูงสุด 6 เดือน ขยายได้อีก 6 เดือน
• สินเชื่อเพื่อซ่อมบ้าน เริ่มต้น 1.99% ต่อปี วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท
• สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ เริ่มต้น 3.25% วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท
3.7 บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
• โครงการ PGS11 “SMEs ยั่งยืน” ค้ำประกันรายละ 0.5-10 ล้านบาท สูงสุด 7 ปี ยกเว้นค่าธรรมเนียม 3 ปีแรก
• โครงการ SMEs Micro Biz ค้ำประกัน 10,000-500,000 บาท ยกเว้นค่าธรรมเนียม 3 ปีแรกเช่นกัน
• เปิดรับคำขอจนถึง 30 ธันวาคม 2568

#กระทรวงการคลังออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนสถานการณ์ไทยกัมพูชา #กระทรวงการคลังออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไทยกัมพูชา #สถานการณ์ไทยกัมพูชา #กระทรวงการคลัง #นโยบายรัฐบาล20กระทรวง

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (30 ก.ค. 68):  ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนั...
30/07/2025

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (30 ก.ค. 68): ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง


พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า: ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. – 5 ส.ค. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ยังคงมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยยังคงมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง: ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักที่เกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง

สถานการณ์แผ่นดินไหว(ช่วงวันที่ 29 - 30 ก.ค. 68): ตรวจพบเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขนาด 2.4, 3.9, 3.2, 4.9, 4.7, 1.9 มีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา ขนาด 4.7, 4.5, 4.4, 4.2 มีศูนย์กลางอยู่ที่หมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย
ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยแต่อย่างใด

ที่อยู่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี ถนนสุวินทวงศ์ ตำบลไม้เค็ด
Prachin Buri
25230

เวลาทำการ

จันทร์ 08:30 - 16:30
อังคาร 08:30 - 16:30
พุธ 08:30 - 16:30
พฤหัสบดี 08:30 - 16:30
ศุกร์ 08:30 - 16:30

เบอร์โทรศัพท์

+6637454058

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรีผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี:

แชร์