09/07/2025
ชาวกะเหรี่ยงจัดกิจกรรมเชิดชูต้นไม้
“พล.อ.บอจ่อแฮ”ชี้สิ่งแวดล้อมคือความมั่นคง
-------
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมที่อุทยานสันติภาพสาละวิน (Salween Peace Park) ฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ตรงข้าม อ.แม่สะเรียง และอ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีพิธีเชิดชูเกียรติแก่กองกำลังกะเหรี่ยงกอทูเล (Kawthoolei Armed Forces)ซึ่งหน่วยงานด้านทหารตามแผนการปกครองของชาวกะเหรี่ยง และ “ต้นไม้” ซึ่งถือเป็นผู้พิทักษ์ผืนดินและผู้คน โดยสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) ร่วมกับชุมชนท้องถิ่น ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ร่มเงาหรือผลผลิต แต่เพื่อความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสืบสานอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม และสันติภาพ
ในงานครั้งนี้จัดโดยสถาบันการปกครองและบริหารรัฐกิจ (School of Governance and Public Administration) โดยมีคณะกรรมการบริหารสวนสันติภาพสาละวิน ผู้นำเขตมือตรอว์ กองพลที่ 5 ของเคเอ็นยู ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง ตัวแทนชุมชนท้องถิ่น นักเรียน และองค์กรภาคประชาสังคมของชาวกะเหรี่ยงเข้าร่วม โดย “เดือนแห่งการปลูกต้นไม้ของกอทูเล” มีวัตถุประสงค์เพื่อเยียวยาผืนแผ่นดิน แสดงความเคารพต่อบรรพชน และต่อสู้เพื่ออนาคตที่เขียวขจีและเป็นอิสระ
เครือข่ายสิ่งแวดล้อมและสังคมกะเหรี่ยง (Karen Environmental and Social Action Network-KESAN) ระบุว่าความพยายามในการปลูกต้นไม้ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศของกอทูเล ที่นำโดยกองกำลัง KNU ซึ่งมีเป้าหมายในการฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรม 200,000 เฮกตาร์(2,000 ตารางกิโลเมตร) และลดอัตราการตัดไม้ทำลายป่าลง 50% เพื่อคุ้มครองผืนป่าที่ยังหลงเหลือกว่า 220,000 เฮกตาร์ อีกทั้งยังสนับสนุนการขยายการอนุรักษ์โดยชุมชนและเกษตรกรรมป่าไม้ของชนพื้นเมืองในทั้ง 7 เขตของ KNU
ทั้งนี้ในพิธีดังกล่าว พล.อ.บอจ่อแฮ รองผู้บัญชาการกองกำลังกะเหรี่ยง KNLA (Karen National Liberation Army) ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ปาฐกถาว่าถ้าต้นไม้ต้นหนึ่งถูกโค่นลง เราต้องปลูกคืนอีกสิบต้น
“เมื่อเรารับมา เราก็ต้องตอบแทนให้มากกว่า เราปลูกต้นไม้ในวันนี้ ไม่ใช่เพื่อเราเท่านั้น แต่เพื่อคนรุ่นต่อไป ต้นไม้ที่เราปลูกตอนนี้ จะกลายเป็นประโยชน์สำหรับพวกเขาในวันข้างหน้า เรามองงานสิ่งแวดล้อมเป็นงานความมั่นคง เราอยู่ในป่า อาศัยป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นความมั่นคงของเรา” ผู้นำทหารกะเหรี่ยงกล่าว
พล.อ.บอจ่อแฮกล่าวว่า ควรดูประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่ดีให้เราได้เรียนรู้หลายๆเรื่อง กรณีการมองด้านทรัพยากรธรรมชาติเป็นงานด้านความมั่นคง ชาวกะเหรี่ยงเองมีป่าและต้นไม้เป็นแหล่งอาหารและที่กำบังซึ่งเกี่ยวข้องกับด้านความมั่นคง เราควรพัฒนาประเทศในหลายๆด้าน ขณะเดียวกัน หากมองเรื่องโรงเรียนและการศึกษา ซึ่งประเทศไทยปลูกฝังให้เด็กๆทิ้งขยะเป็นที่เป็นทางและปลูกฝังเรื่องการรักษาความสะอาดตั้งแต่ยังเล็ก สิ่งเหล่านี้เราควรเรียนรู้และปลูกฝังเด็กๆของเราตั้งแต่ยังเล็กเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในการจัดกิจกรรมเป็นไปอย่างคึกคัก โดยผู้เข้าร่วมต่างร่วมงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสในชุดประจำชาติกะเหรี่ยง ทั้งนี้พื้นที่อุทยานสันติภาพสาละวินตกอยู่ในสถานการณ์การสู้รบที่รุนแรงหลังรัฐประหารในพม่า พศ.2564 โดยสภาบริหารแห่งรัฐพม่า (State Administrative Council-SAC) ได้ส่งอากาศยานโจมตีพื้นที่อย่างต่อเนื่องทำให้ประชาชนประมาณ 1 แสนคนในเขตดังกล่าวต้องเป็นผู้พลัดถิ่น ไม่สามารถอาศัยในบ้านเรือนได้ตามปกติ โรงเรียนและอาคารต่างๆ เป็นเป้าหมายของการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วน อย่างไรก็ตามชุมชนได้ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งโดยใช้การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และแม่น้ำสาละวิน เพื่อประกาศเป็นเขตสันติภาพของชนเผ่าพื้นเมือง
-----------
