Rad ri Lab THE JERNEEMA (เจอนี่มา) รวบรวมคอนเทนต์ต่างๆ ที่เราได้ไปเจอมา ทั้งร้านเด็ด สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ และคนเจ๋งๆ ที่เราอยากจะมาเล่าต่อให้ทุนคน

"Rad Ri Lab" เป็นห้องทดลองเล็กๆที่ผลิต Local contents ผ่าน ผู้คน ชุมชน วิถีชีวิต ชาติพันธุ์ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ให้คนทั้งในท้องถิ่นและต่างถิ่นได้รู้จัก ราชบุรีมากขึ้น
FB : Rad Ri Lab
Tiktok : Rad Ri Lab

08/08/2025

Live เสียงจากสวน ปัญหา และทางออกของมะพร้าวน้ำหอม
วันที่ : 8 สิงหาคม 2568
สถานที่ : ภพรัก กาแฟ

07/08/2025

สู้มา 20 ปี
เพลง: "แค่ใจที่ไม่ยอมแพ้"
ชาวบ้านน้ำพุชนะคดีสิ่งแวดล้อมประวัติศาสตร์ ศาลไม่รับฎีกา
เรื่องราวการต่อสู่ กว่า 20 ปี ของชาวน้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี กับบริษัทแว็กซ์กาเบจ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ ในคดีสิ่งแวดล้อมครั้งสำคัญของประเทศไทย

“สู้มา 20 ปี ถามว่าเหนื่อยไหม? เหนื่อย... ไม่รู้ว่าถ้าเกิดเราสู้แล้ววันนี้ ศาลมีคำตอบให้เราแบบตรงกันข้ามกับวันนี้ ไม่รู้...
06/08/2025

“สู้มา 20 ปี ถามว่าเหนื่อยไหม? เหนื่อย... ไม่รู้ว่าถ้าเกิดเราสู้แล้ววันนี้ ศาลมีคำตอบให้เราแบบตรงกันข้ามกับวันนี้ ไม่รู้พวกเราจะต้องสู้กันไปอีกแค่ไหน แล้วเราพี่น้องหมู่ 1 จะต้องตายจากกันไปอีกกี่คน แล้วจะมีคนรุ่นหลังจะมาสู้กับเราแบบนี้ไหม” นั่นคือความรู้สึกของลมัย จ้อยเล็ก ที่ปรากฏออกมาในรูปของคำถามจำนวนมาก ในฐานะโจทก์คนหนึ่ง เธอใช้เวลานับสิบกว่าปีในการเผชิญปัญหามลพิษจากโรงงาน และใช้เวลาอีกกว่า 8 ปีกับการรอคอยให้คดีนี้สิ้นสุด
สำหรับลมัย การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อเงินเยียวยา แต่เพื่อสิทธิในการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยบนผืนดินที่พวกเขาอยู่กันมาหลายชั่วอายุคน เพราะมลพิษจากโรงงานทำให้แหล่งน้ำที่เคยใช้เลี้ยงชีพปนเปื้อน การทำเกษตรกรรมอยู่บนผืนดินใกล้บ้านจึงต้องยุติลง ชาวบ้านจำนวนมากต้องย้ายถิ่นฐานออกไปทำงานต่างจังหวัด ซึ่งเธอเป็นคนหนึ่งที่ต้องทำเช่นนั้น
“น้ำในห้วยใช้ไม่ได้ พี่ก็ต้องไปหากินที่อื่น ต้องทิ้งหลานไว้... ถามว่าใช่ไหม? ผู้เป็นปู่เป็นย่าต้องทิ้งหลาน เพราะอะไรคะ? เพราะบริษัทแวกซ์กาเบ็จฯ ทำให้เราเดือดร้อน” ลมัย กล่าวทั้งน้ำตา

หลังจากการต่อสู้อย่างยาวนานกว่า 20 ปี การพิจารณาคดีแบบกลุ่ม (class action) ด้านสิ่งแวดล้อม คดีแรกของประเทศไทยก็ได้ถึงที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เมื่อศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกาของบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ทำให้คำพิพากษาของคดีนี้เป็นไปตามคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ที่ตัดสินเมื่อปี 2566 ซึ่งเป็นการยืนตามศาลชั้นต้น
ย้อนกลับไปในปี 2563 ศาลแพ่ง แผนกคดีสิ่งแวดล้อมได้พิพากษาให้บริษัทแวกซ์กาเบ็จฯ และกรรมการบริษัท ร่วมกันรับผิดชอบค่าเสียหายด้านสุขภาพแก่ชาวบ้าน ต.น้ำพุ อ.เมืองราชบุรี 650 คน จำนวนเงินรวม 13 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5.0 ต่อปี พร้อมทั้งฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของดินและน้ำ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ให้กลับมาเป็นสภาพปกติ
“สู้มา 20 ปี ถามว่าเหนื่อยไหม? เหนื่อย... ไม่รู้ว่าถ้าเกิดเราสู้แล้ววันนี้ศาลมีคำตอบให้เราแบบตรงกันข้ามกับวันนี้ ไม่รู้พวกเราจะต้องสู้กันไปอีกแค่ไหน? แล้วเราพี่น้องหมู่ 1 จะต้องตายจากกันไปอีกกี่คน แล้วจะมีคนรุ่นหลังจะมาสู้กับเราแบบนี้ไหม?” นั่นคือความรู้สึกของลมัย จ้อยเล็ก ที่ปรากฏออกมาในรูปของคำถามจำนวนมาก ในฐานะผู้ได้รับความเดือดร้อนคนหนึ่ง เธอใช้เวลานับสิบกว่าปีในการเผชิญปัญหามลพิษจากโรงงาน และใช้เวลาอีกกว่า 8 ปีกับการรอคอยให้คดีนี้สิ้นสุด
เมื่อวานนี้ (5 สิงหาคม 2568) ลมัยเดินทางมารับฟังคำสั่งที่ศาลแพ่งกรุงเทพ และกล่าวกับสื่อมวลชนพร้อมน้ำตาที่คลอเบ้าว่า
“ถามว่าวันนี้ดีใจไหม? ดีใจสุดๆ ดีใจมากๆ ดีใจแบบว่าวันนี้ที่รอคอย พี่น้องหมู่ 1 ได้รับแล้วความสำเร็จแล้ว ที่เรามาสู้ เราไม่ได้หวังเงิน เราหวังให้บ้านเราอยู่แบบเดิมๆ ไม่ต้องไปทำมาหากินต่างจังหวัด ทิ้งลูกทิ้งหลาน ทิ้งบ้านตัวเองไป มันไม่ใช่...”
สำหรับลมัย การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อเงินเยียวยา แต่เพื่อสิทธิในการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยบนผืนดินที่พวกเขาอยู่กันมาหลายชั่วอายุคน เพราะมลพิษจากโรงงานทำให้แหล่งน้ำที่เคยใช้เลี้ยงชีพปนเปื้อน การทำเกษตรกรรมอยู่บนผืนดินใกล้บ้านจึงต้องยุติลง ชาวบ้านจำนวนมากต้องย้ายถิ่นฐานออกไปทำงานต่างจังหวัด ซึ่งเธอเป็นคนหนึ่งที่ต้องทำเช่นนั้น
“น้ำในห้วยใช้ไม่ได้ พี่ก็ต้องไปหากินที่อื่น ต้องทิ้งหลานไว้... ถามว่าใช่ไหม? ผู้เป็นปู่เป็นย่าต้องทิ้งหลาน เพราะอะไรคะ? เพราะบริษัทแวกซ์กาเบ็จฯ ทำให้เราเดือดร้อน” ลมัย กล่าวทั้งน้ำตา....
เรื่องโดย พิสิทธิ์ ศรีพุ่มไข่ มูลนิธิบูรณะนิเวศ
ภาพถ่ายโดย ปุณย์ ปฏิมาประกร นักศึกษาฝึกงานมูลนิธิบูรณะนิเวศ

RadriLab ขอแสดงความยินดีกับกลุ่มชาติพันธุ์ทุกกลุ่มในประเทศไทยวันนี้ (6 สิงหาคม 2568) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ป...
06/08/2025

RadriLab ขอแสดงความยินดีกับกลุ่มชาติพันธุ์ทุกกลุ่มในประเทศไทย
วันนี้ (6 สิงหาคม 2568) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 9 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) มีมติ เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. ... ซึ่งผ่านการพิจารณาและปรับแก้โดยวุฒิสภา ด้วยเสียงเห็นชอบถึง 421 เสียง นับเป็นก้าวประวัติศาสตร์ในการตรากฎหมายคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ฉบับแรกของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรม สร้างความเสมอภาคและส่งเสริมศักยภาพของกลุ่มชาติพันธุ์ ส่งผลให้ประเทศไทยกำลังก้าวเป็นประเทศที่ 4 ในภูมิภาคอาเซียนที่มีกฎหมายคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์อย่างเป็นทางการ ต่อจากมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
ขณะที่เนื้อหาในร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ที่สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบ มีสาระสำคัญ 5 ข้อ ได้แก่
1. กำหนดหลักพื้นฐานแห่งสิทธิและการคุ้มครองสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ให้มีสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ไม่ถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมด้วยเหตุความแตกต่างทางเชื้อชาติ (มาตรา 5-12)
2. กำหนดกลไกการบริหารจัดการแบบบูรณาการ โดยมีคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนองค์กรพัฒนาเอกสาร เป็นคณะกรรมการ ทำหน้าที่กำหนดนโยบายคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ (มาตรา 13-20)
3. สร้างกลไกการมีส่วนร่วมของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยกำหนดให้จัดตั้งสภาคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์แห่งประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และแนวทางหรือมาตรการคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ (มาตรา 21-31)
4. กำหนดให้มีการจัดทำฐานข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ เป็นฐานข้อมูลกลางของประเทศ เพื่อคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ (มาตรา 32-36)
5. กำหนดมาตรการเชิงบวกในรูปแบบการจัดตั้งเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งเป็น ‘การจัดการร่วม’ (Co-management) โดยที่ยอมรับสิทธิของชุมชนในการดำรงชีวิตควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรภายใต้กฎหมายของรัฐ เปลี่ยนกระบวนทัศน์จาก ‘การเผชิญหน้า’ ไปสู่ ‘การหาทางออกร่วมกัน’ (มาตรา 37-42)
3 หลักการสำคัญของ พ.ร.บ.
ร่าง พ.ร.บ. นี้มีเจตนารมณ์ชัดเจนในการส่งเสริมสิทธิทางวัฒนธรรมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 70 โดยมีหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่:
1. คุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรม – กลุ่มชาติพันธุ์ต้องได้รับการคุ้มครองจากการละเมิดสิทธิ และสามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานอย่างเท่าเทียม
2. ส่งเสริมศักยภาพ – เพื่อสร้างโอกาสการพัฒนาอย่างทั่วถึง
3. สร้างความเสมอภาค – ยึดหลักความเท่าเทียมและเป็นธรรมสำหรับทุกคน
ขณะที่ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) (ศมส.)ในฐานะองค์กรที่ได้รับมอบหมายให้ขับเคลื่อนภารกิจนี้ และได้ทำงานเคียงข้างพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์มาอย่างยาวนาน ได้แสดงความยินดีอย่างยิ่งต่อก้าวสำคัญของสังคมไทยที่เกิดขึ้นจากพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดย ศมส.ได้รับมอบหมายจากกระทรวงวัฒนธรรมให้ขับเคลื่อนแนวนโยบายฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเลและชาวกะเหรี่ยงตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน และ 3 สิงหาคม 2553 ตามลำดับ จนได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลให้เป็นหน่วยงานเจ้าภาพหลัก ในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ฉบับนี้ให้เป็นนโยบายสำคัญของประเทศ
ขณะเดียวกัน ศมส.ยืนยันถึงความพร้อมอย่างเต็มกำลังที่จะเดินหน้าต่อไป กับภารกิจที่ท้าทายขึ้นร่วมกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ก้าวต่อไปคือการทำให้ตัวบทกฎหมายมีชีวิต เป็นหลักประกันว่า การคุ้มครองสิทธิและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ตามที่บัญญัติไว้ จะถูกนำไปปฏิบัติให้เกิดผลจริงในทุกมิติ พร้อมส่งเสริมความเข้าใจสังคมในวงกว้าง สร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ ให้สังคมไทยตระหนักและภูมิใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างสังคมที่เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และพร้อม ‘โอบรับทุกความหลากหลาย’ ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม
#พรบชาติพันธุ์ #ชาติพันธุ์ #ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร

06/08/2025

คดีกากพิษ ที่ห้วยน้ำพุ ต.น้ำพุ จ.ราชบุรี
เมื่อคืนวานนี้ (6 กรกฎาคม 2568) ข่าว3มิติ รายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีสิ่งแวดล้อมมีคำสั่งไม่รับฎีกาของบริษัทแว็กกาเบ็จฯ และกรรมการบริษัทฯ ทำให้คดีนี้ถือเป็นอันสิ้นสุด โดยมีผลตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ยืนตามศาลชั้นต้นให้จำเลยจ่ายค่าเยียวยาทางสุขภาพแก่ชาวบ้าน ต.น้ำพุ จำนวน 650 คน และฟื้นฟูสภาพธรรมชาติจาการที่จำเลยถูกพิพากษาว่า เป็นต้นเหตุทำให้ห้วยน้ำพุปนเปื้อนจากการทิ้งกากอุตสาหกรรมลงสู่แหล่งน้ำ

ชาวบ้านน้ำพุชนะคดีสิ่งแวดล้อมประวัติศาสตร์ ศาลไม่รับฎีกา ให้จำเลยชดใช้กว่า 500 ล้านบาทในห้องพิจารณาคดี บัลลังก์ 602 ศาลฎ...
05/08/2025

ชาวบ้านน้ำพุชนะคดีสิ่งแวดล้อมประวัติศาสตร์ ศาลไม่รับฎีกา ให้จำเลยชดใช้กว่า 500 ล้านบาท

ในห้องพิจารณาคดี บัลลังก์ 602 ศาลฎีกา เวลา 09.30 น. วันที่ 5 สิงหาคม 2568 บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื้นตัน ชาวบ้านตำบลน้ำพุ จังหวัดราชบุรี น้ำตาคลอ ยกมือท่วมหัว หลายคนโผเข้ากอดกัน เมื่อได้ฟังคำสั่งศาลไม่รับฎีกาของบริษัทแว็กซ์กาเบจ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำเลยที่ 1 และกรรมการบริษัท จำเลยที่ 2 ในคดีสิ่งแวดล้อมครั้งสำคัญของประเทศไทย

คดีนี้เป็นคดีแพ่งที่ชาวบ้านรวมกลุ่มกันยื่นฟ้องในรูปแบบการฟ้องกลุ่ม (Class Action) กรณีบริษัทจำเลยปล่อยสารพิษปนเปื้อนลงในห้วยน้ำพุ แหล่งน้ำสาธารณะ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินรวมกว่า 500 ล้านบาท แต่จำเลยได้ยื่นฎีกา พร้อมร้องขอให้ศาลทุเลาการบังคับคดี

จนกระทั่งวันนี้ ศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฎีกา และไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดี ส่งผลให้คดีนี้สิ้นสุด และคำพิพากษาของศาลชั้นต้นมีผลบังคับใช้ในทันที ถือเป็นชัยชนะของประชาชนในคดีฟ้องกลุ่มด้านสิ่งแวดล้อมครั้งแรกของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายหลังคำพิพากษาคือการบังคับคดีและการสืบทรัพย์สินของจำเลย เพื่อให้สามารถเยียวยาความเสียหายแก่ประชาชนได้อย่างครอบคลุมตามคำตัดสินของศาล

มีรายงานว่าปัจจุบันมีทรัพย์ในบังคับคดีที่สามารถจ่ายได้ทันทีประมาณ 22 ล้านบาท ซึ่งเตรียมเฉลี่ยจ่ายให้กับผู้เสียหายราว 650 คน โดยก่อนหน้านี้แม้เงินจำนวนดังกล่าวพร้อมจ่าย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะจำเลยยื่นขอทุเลาการบังคับคดี

นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินประเภทโฉนดที่ดินหลายแปลงที่อยู่ระหว่างการขายทอดตลาด เพื่อนำรายได้มาชดใช้ตามคำพิพากษา อย่างไรก็ตาม ทรัพย์ที่ตรวจพบยังไม่ครอบคลุมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดตามที่ศาลพิพากษา

ที่มา: Facebook มนตรี อุดมพงษ์

#กากอุตสาหกรรม #น้ำพุ #ราชบุรี

05/08/2025

📍คดีสิ่งแวดล้อม ตำบลน้ำพุ อ.เมืองราชบุรี
หนึ่งในประเด็นข่าวสิ่งแวดล้อมที่ข่าว 3 มิติ เกาะติดมาตลอด คือกรณีชาวตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี รวมตัวฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหาย จากบริษัทแวกซ์กาเบ็จ รีไซเคิล เซนเตอร์ ปล่อยกากอุตสาหกรรมมีพิษลงน้ำพุ ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ
ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ชาวตำบลน้ำพุชนะคดีแล้ว แต่บริษัทและกรรมการในฐานะจำเลยที่1 และ 2 ยื่นฎีกา

🌧️☔️เมื่อเข้าฤดูฝน สิ่งที่ทุกคนคิดถึงคืออะไรคะ? ความชุ่มฉ่ำ ต้นไม้แตกใบเขียวชอุ่ม เสียงกบเขียด กลิ่นดิน กลิ่นฝน หรืออาจเ...
02/08/2025

🌧️☔️เมื่อเข้าฤดูฝน สิ่งที่ทุกคนคิดถึงคืออะไรคะ? ความชุ่มฉ่ำ ต้นไม้แตกใบเขียวชอุ่ม เสียงกบเขียด กลิ่นดิน กลิ่นฝน หรืออาจเป็นความโรแมนติก💙
แต่สำหรับพี่น้องกะเหรี่ยง “ฝน” ไม่เพียงนำความชุ่มชื้นมาสู่ผืนดินและพืชพรรณเท่านั้น หากยังเป็นช่วงเวลาสำคัญของพวกเขา ในการเก็บเกี่ยววัตถุดิบจากธรรมชาติ เพื่อแปรรูปเป็นอาหารตามภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต ความสัมพันธ์กับธรรมชาติ และรากเหง้าทางวัฒนธรรม
📍วันนี้ (2 ส.ค. 68) Rad ri Lab เราได้มาที่ “ตลาดน่าเอ๊” ตลาดที่พี่น้องชาวกะเหรี่ยงมารวมตัวกันนำสินค้า พืชผักตามฤดูกาล มาวางจำหน่าย อยากบอกว่าตอนนี้ตลาดได้ปรับปรุงและพัฒนามีโครงสร้างสถาปัตยกรรมจากไม้ไผ่ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาจากคณะอาจารย์จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อีกด้วย🙂และความพิเศษของวันนี้คือกิจกรรม “การประกวดอาหารกะเหรี่ยงฤดูฝน” ที่พี่น้องชาวกะเหรี่ยงจากหลายหมู่บ้านมารวมตัวกันโชว์ปรุงอาหารที่ได้สืบทอดสูตรเด็ดเคล็ดลับจากรุ่นสู่รุ่นมาประชันฝีมือกัน
วันนี้จึงเป็นมากกว่าการแข่งขันทำอาหาร แต่คือลานกิจกรรมแห่งการเรียนรู้วัฒนธรรม ที่ผู้คนจากต่างพื้นที่ได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสและเข้าใจวิถีชีวิตของพี่น้องกะเหรี่ยงผ่านรสชาติ ความเรียบง่าย และความใส่ใจในแต่ละจาน
🌱“อาหารรักษาสมดุลชีวิต” ชาวกะเหรี่ยงใช้ภูมิปัญญาในการเลือกสรรอาหารให้สมดุลกับร่างกายและฤดูกาล รู้จักและเข้าใจว่าธรรมชาติมอบสิ่งใดให้ใช้ประโยชน์ ไม่เพียงเพื่ออิ่มท้อง แต่ยังเพื่อบำรุงร่างกายและป้องกันโรคภัยที่มาพร้อมความชื้นและอากาศเย็น
ในฤดูฝนของพี่น้องกะเหรี่ยงมักใช้วัตถุดิบที่หาได้ตาม ลำธาร ป่าเขา เช่น ปลาเล็กปลาน้อย หน่อไม้ ผักยอด ดอกบอน และผักพื้นถิ่นตามฤดูกาล ปรุงเพิ่มด้วยเครื่องปรุงที่ไม่ได้มากนัก เช่น เกลือ กะปิ ปลาร้า และที่ขาดไม่ได้ที่เราเห็นในทุกซุ้มแข่งขันคือ พริกพราน วัตถุดิบที่คู่ครัวกะเหรี่ยง
การปรุงอาหารไม่เน้นความซับซ้อน แต่มีความพิถีพิถันในการเลือกสรรวัตถุดิบ ความรู้ในการใช้สมุนไพร และการรักษารสชาติดั้งเดิมตามสูตรบรรพบุรุษ


กิจกรรมนี้ไม่เพียงเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ในชุมชนได้สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างชุมชน”กะเหรี่ยง” กับ “เรา” ผู้เป็นนักเรียนรู้จากภายนอก เพื่อสร้างความเข้าใจอันลึกซึ้งถึงวิถีวัฒนธรรมของกันและกัน
การได้มากินอาหารกะเหรี่ยงในวันนี้จึงเป็นเหมือนการเรียนรู้วิถีชีวิต สายใยระหว่างผู้คนกับธรรมชาติ การอยู่ร่วมกัน และการเห็นคุณค่าซึ่งกันและกัน🙂

#ราชบุรี #ศูนย์พัฒนาราษฎรพื้นที่สูงราชบุรี #สกสว #หน่วยการบริหารและจัดการทุนเพื่อการพัฒนาระดับพื้นที่ #สอวช #กะเหรี่ยงตะนาวศรี #เย่อเด๊เน่อ

หากกล่าวถึง “ลุ่มแม่น้ำแม่กลอง” ก็คงเหมือน “สายใย” ที่เชื่อมอดีตกับปัจจุบันของจังหวัดราชบุรีไว้ด้วยกัน สายน้ำสายนี้ไม่เพ...
01/08/2025

หากกล่าวถึง “ลุ่มแม่น้ำแม่กลอง” ก็คงเหมือน “สายใย” ที่เชื่อมอดีตกับปัจจุบันของจังหวัดราชบุรีไว้ด้วยกัน สายน้ำสายนี้ไม่เพียงหล่อเลี้ยงชุมชนและเกษตรกรรมมายาวนาน หากยังเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรม วิถีชีวิต และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน Rad ri Lab ชวนมาตามรอยเส้นทางความศรัทธาวิถีพุทธ ชาติพันธุ์ และภูมิปัญญาแห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง จังหวัดราชบุรีกัน
โดยเส้นทางนี้ทาง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดราชบุรี ได้ชวนเราไปร่วมจาริกเส้นทางบุญ เส้นทางที่ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวแต่คือ “การเดินทางเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิต ภูมิปัญญา และความงามของวัฒนธรรม”
🔸 วัดใหญ่นครชุมน์
เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในชุมชนชาวมอญ มาวัดนี้เราอยากชวนทุกคนมาชมอุโบสถเก่าทรงจีน หน้าบันปูนปั้นนูนต่ำลวดลายดอกไม้ หงส์ ลายประแจจีน และลายเรขาคณิตแบบจีนมีการตกแต่งด้วยเครื่องถ้วยลายคราม และเครื่องถ้วยเบญจรงค์ และชมจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถหลังใหม่ที่บอกเล่าเรื่องราวของชุมชน ที่สะท้อนการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนของสองวัฒนธรรมไทย-มอญ
🔸 วัดขนอน
“วัดขนอนหนังใหญ่” หนึ่งในคำขวัญประจำจังหวัด หากพูดถึง วัดขนอน ก็ต้องคิดถึง “หนังใหญ่” มรดกภูมิปัญญาแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง หนึ่งในศิลปะการแสดงของไทยที่ทั้งวิจิตร สง่างาม และทรงคุณค่า เปี่ยมด้วย จิตวิญญาณ ของช่างฝีมือและผู้แสดงที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ไม่เพียงแต่เป็นเวทีแสดงศิลปะ หนังใหญ่วัดขนอนยังเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเยาวชนและผู้สนใจ ผ่านพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ และกิจกรรมเวิร์คชอปที่เปิดโอกาสให้ได้สัมผัสกับศิลปะพื้นบ้านที่ยังมีลมหายใจ
🔸 วัดคงคาราม
ศิลป์พุทธแห่งราชบุรี มรดกจากอดีตสู่ปัจจุบัน เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย และเป็นศูนย์กลางศรัทธาของชุมชนมานานหลายชั่วอายุคน
สิ่งที่ทำให้วัดคงคารามโดดเด่นเป็นพิเศษ คือ จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ ที่วาดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ด้วยฝีมือช่างหลวง เป็นภาพพุทธประวัติและทศชาติชาดกที่งดงาม ละเอียด และคงสภาพสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ที่วัดยังมี “พิพิธภัณฑ์วัดคงคาราม” จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณ เอกสารเก่า ภาพถ่าย และเครื่องไม้เครื่องมือจากวิถีชีวิตคนราชบุรีในอดีต ทำให้ที่นี่เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว แหล่งเรียนรู้ และศูนย์วัฒนธรรมในเวลาเดียวกัน
ที่นี่ยังมีผ้าสไบที่มีลวดลายและเอกลักษณ์เฉพาะของชาวมอญบ้านคงคาราม ที่มักใช้ในการห่มเข้าวัดหรือในพิธีสำคัญต่างๆ โดยลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะคือลายดาวล้อมเดือน
🔸 วัดม่วง
วัดเล็กกลางชุมชนที่มี “ต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์” อายุกว่า 200 ปี ขึ้นทะเบียนเป็น “รุกขมรดกของชาติ” บรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ ที่วัดม่วงนี้ยังสามารถเรียนรู้เรื่องราวของชุมชนริมฝั่งแม่น้ำแม่กลองได้ที่ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วง อีกด้วย โดยจะเปิดให้บริการวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 น. -16.00 น.
🔸วัดหุบกระทิง
มาวันหุบกระทิง ชมความงาม “สระมุจลินท์” บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดหุบกระทิง สถานที่ที่ชาวบ้านเลื่อมใสและเชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังเยียวยาทั้งกายและใจ ชื่อ "สระมุจลินท์" มาจากตำนานพระพุทธเจ้าในช่วงที่ประทับใต้ต้นไม้และพญานาคมุจลินท์ได้แผ่พังพานปกป้องพระองค์จากพายุฝน ด้วยเหตุนี้ สระแห่งนี้จึงถูกขนานนามตามพญานาคผู้เปี่ยมเมตตา และมีการประดิษฐาน “พระพุทธรูปปางนาคปรก” ไว้กลางสระ เป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของผู้แสวงบุญ และที่นี่ยังมี คาเฟ่ มาหากาแฟ บุญ ไว้รอรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย และหากมาช่วง วันเสาร์-อาทิตย์ จะได้เดินตลาดร่มสัก ที่พี่ ป้า น้า อา ในชุมชนนำของดี ของเด่น มาวางขายกันอีกด้วย
🔸 ตลาดเก่าเจ็ดเสมียน
ไหว้พระวัดเจ็ดเสมียน เดินเล่นริมน้ำแม่กลองในชุมชนเก่าแก่กว่า 100 ปี แวะลานศิลปะกลางแจ้ง ที่ทำให้ที่นี่ไม่ใช่แค่ตลาด แต่เป็นพื้นที่ของชีวิต ศิลปะ และชุมชน
📌 ถ้ากำลังมองหาทริปเรียบง่ายที่ได้สัมผัส และเรียนรู้ไปพร้อมกัน เราเชิญชวนให้ทุกคนค่อย ๆ เดิน และรับรู้ด้วยหัวใจไปกับเส้นทางนี้กันค่ะ
#เที่ยวราชบุรี #วัดขนอน #หนังใหญ่ #วันขนอนหนังใหญ่ #วัดใหญ่นครชุมน์ #วัดหุบกระทิง #วัดม่วง #วัดคงคาราม #วัดเจ็ดเสมียน #ตลาดเจ็ดเสมียน #ราชบุรี #วัดเก่า #วัฒนธรรมไทย #ชาวมอญ #บ้านโป่ง #โพธาราม

ญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยสึนามิ สูงไม่เกิน 3 เมตร ตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกของญี่ปุ่น ช่วงเวลา 10.00-12.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หลัง...
30/07/2025

ญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยสึนามิ สูงไม่เกิน 3 เมตร ตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกของญี่ปุ่น ช่วงเวลา 10.00-12.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 8.7 ที่ประเทศรัสเซียในช่วงเช้าที่ผ่านมา

ญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยสึนามิ สูงไม่เกิน 3 เมตรตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกของญี่ปุ่น ตั้งแต่ฮอกไกโด ไปจนถึงวากายามะ ในช่วงเวลา 10.00-12.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นญี่ปุ่น หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 8.7 ทางตะวันออกของคาบสมุทรคัมชัตกา ประเทศรัสเซีย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา #สำนักข่าววันนิวส์

🌧️**“เทศกาลอาหารฤดูฝน”**🍃ชวนชิมเมนูพื้นบ้าน ประกวดอาหารกะเหรี่ยงฤดูฝน! “ไค่ จุ๊ง หล่า ค่อก” ร่วมสืบสานวัฒนธรรมกินข้าวห่อ...
29/07/2025

🌧️**“เทศกาลอาหารฤดูฝน”**🍃
ชวนชิมเมนูพื้นบ้าน ประกวดอาหารกะเหรี่ยงฤดูฝน!
“ไค่ จุ๊ง หล่า ค่อก” ร่วมสืบสานวัฒนธรรมกินข้าวห่อ
ตลาดน่าเอ๊ x ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง จ.ราชบุรี
🤝 ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

📣 ขอเชิญผู้สนใจร่วม
👀 ชม | 🍽️ ชิม | 🧑‍⚖️ ตัดสิน
✨ การแข่งขันประกอบอาหาร "เทศกาลอาหารฤดูฝน" ✨

👩‍🍳 แสดงฝีมือทำอาหารกะเหรี่ยงดั้งเดิมและประยุกต์
🏆 ชิงเงินรางวัล
🍛 พร้อมร่วม รับประทานอาหารพื้นบ้านร่วมกัน
ในบรรยากาศอบอุ่น ท่ามกลางสายฝนและรอยยิ้ม 😊
📆 2 สิงหาคม 2568
📌 ตลาดวิถีวัฒนธรรมน่าเอ๊ ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี

#ตลาดน่าเอ๊ #ศูนย์พัฒนาราษฎรพื้นที่สูงราชบุรี #สกสว #หน่วยการบริหารและจัดการทุนเพื่อการพัฒนาระดับพื้นที่ #สอวช #กะเหรี่ยงตะนาวศรี #เย่อเด๊เน่อ

เช็คระดับน้ำกันหน่อยหลังผ่านพายุวิภา ไปแล้ววันที่ 27 กรกฎาคม 2568 โครงการชลประทานราชบุรี (คป.ราชบุรี) รายงานสถานการณ์น้ำ...
27/07/2025

เช็คระดับน้ำกันหน่อยหลังผ่านพายุวิภา ไปแล้ว
วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 โครงการชลประทานราชบุรี (คป.ราชบุรี) รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ พบว่าโดยภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ อ่างเก็บน้ำห้วยสำนักไม้เต็งมีสถานการณ์น้ำน้อย
รายงานสถานการณ์น้ำจังหวัดราชบุรี อ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 4 แห่ง

- อ่างเก็บน้ำห้วยสำนักไม้เต็ง (อำเภอเมือง) มีน้ำ 5.633 ล้าน ลบ.ม. (12.39%)

- อ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย (อำเภอบ้านคา) มีน้ำ 8.137 ล้าน ลบ.ม. (34.77%)

- อ่างเก็บน้ำห้วยมะหาด (อำเภอบ้านคา) มีน้ำ 2.383 ล้าน ลบ.ม. (55.42%)

- อ่างเก็บน้ำชัฏป่าหวาย (อำเภอสวนผึ้ง) มีน้ำ 1.243 ล้าน ลบ.ม. (49.72%)

เปรียบเทียบระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำ (19 ก.ค.ก่อนมีพายุ กับ 27 ก.ค.)
อ่างเก็บน้ำห้วยสำนักไม้เต็ง (อ.เมือง)
จาก 5.588 ล้าน ลบ.ม. (12.29%) ➜ เพิ่มเป็น 5.633 ล้าน ลบ.ม. (12.39%)
ยังอยู่ในสถานการณ์น้ำน้อย

อ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย (อ.บ้านคา)
จาก 8.147 ล้าน ลบ.ม. (34.82%) ➜ ลดเล็กน้อยเป็น 8.137 ล้าน ลบ.ม. (34.77%)
สถานการณ์น้ำปกติ

อ่างเก็บน้ำห้วยมะหาด (อ.บ้านคา)
จาก 2.375 ล้าน ลบ.ม. (55.23%) ➜ เพิ่มเป็น 2.383 ล้าน ลบ.ม. (55.42%)
สถานการณ์น้ำปกติ

อ่างเก็บน้ำชัฏป่าหวาย (อ.สวนผึ้ง)
จาก 1.251 ล้าน ลบ.ม. (50.04%) ➜ ลดเป็น 1.243 ล้าน ลบ.ม. (49.72%)
สถานการณ์น้ำปกติ
แม้พายุ “วิภา” จะพัดผ่านไปโดยไม่ส่งผลให้ระดับน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำของจังหวัดราชบุรีเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ขณะนี้ อ่างเก็บน้ำห้วยสำนักไม้เต็ง ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเมืองราชบุรียังอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย (เพียง 12.39% ของความจุ) ขณะที่อ่างเก็บน้ำอื่น ๆ อยู่ในระดับปกติ ถึงแม้ยังไม่เต็มความจุ แต่ยังสามารถรองรับน้ำฝนเพิ่มเติมได้อีกมาก

ฝนที่อาจตกลงมาในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน จะเป็นช่วงเวลาสำคัญในการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนสำหรับการเกษตรในพื้นที่ รวมถึงการใช้อุปโภคบริโภคของประชาชนราชบุรีในฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง หากปริมาณฝนเพียงพอและกระจายตัวเหมาะสม ก็จะช่วยบรรเทาความเสี่ยงจากปัญหาภัยแล้งได้ในระดับหนึ่ง

#อ่างเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง #อ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย #อ่างเก็บน้ำห้วยมะหาด #อ่างเก็บน้ำชัฏป่าหวาย

ที่อยู่

173 ม. 2 ต. น้ำพุ
Ratchaburi
70000

เบอร์โทรศัพท์

+66955245910

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Rad ri Labผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Rad ri Lab:

แชร์