นิตยสารชาวสวน ChaoSuan Magazine

นิตยสารชาวสวน ChaoSuan Magazine นิตยสารด้านวิถีชีวิตชาวสวน เขา-ป่า-?

24/01/2024

เมื่อเกษตรกรรมปนเปื้อนไปด้วยไมโครพลาสติก
เมื่อหลายพันปีที่แล้วการทำเกษตรเป็นจุดเปลี่ยนของวิวัฒนาการของมนุษย์ในปัจจุบันเนื่องจากเราไม่จำเป็นต้องออกล่าสัตว์ก็สามารถมีอาหารที่มากพอจากการเพาะปลูก เราเรียนรู้ที่จะเคารพผืนดินและน้ำที่ให้ชีวิตแก่เรา ส่งผลให้เกิดอารยธรรมมากมายจนมาสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์นั้นห่างไกลจากธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
ส่งผลให้พื้นที่ทำการเกษตรนั้นเกิดขึ้นมากมายและจำนวนป่าไม้ที่ลดลง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่มากขึ้น ผลข้างเคียงของปรากฎการณ์การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือกรรมวิธีในการเพาะปลูกนั้นเน้นความรวดเร็วในการผลิตและผลการขยายตัวของเมืองจากการเพิ่มขึ้นของประชากร ทำให้มีสิ่งสังเคราะห์จากมนุษย์มากยิ่งขึ้น
ปรากฏการณ์เหล่านี้มีการใช้พลาสติกในหลายรูปแบบจนกระทั่งมันเสื่อมสลายกลายเป็น “ไมโครพลาสติก (Microplastic)”โดยทั่วไปหมายถึงอนุภาคพลาสติกที่มีขนาดเล็กกว่า 5 มม. ได้ค้นพบทางเข้าสู่ระบบนิเวศต่างๆ รวมถึงดินทางการเกษตร การแทรกซึมนี้ก่อให้เกิดภัยคุกคามที่สำคัญไม่เพียงแต่ต่อสุขภาพของดินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความปลอดภัยของอาหารและความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อมโดยรวมด้วย
การใช้พลาสติกคลุมดินอย่างแพร่หลายในการเกษตรสมัยใหม่ส่งผลให้เกิดการสะสมของไมโครพลาสติกในดินทางการเกษตร เทคนิคนี้ใช้เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของวัชพืชเป็นหลัก รักษาความชื้นในดิน ควบคุมอุณหภูมิของดิน อย่างไรก็ตาม ผลกระทบด้านลบเกิดขึ้นเมื่อฟิล์มพลาสติกเหล่านี้เริ่มเสื่อมสภาพ โดยต้องเผชิญกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น แสงแดด ความผันผวนของอุณหภูมิ ก่อให้เกิดการย่อยสลายที่ไม่สมบูรณ์ แต่กลับแตกออกเป็นชิ้นเล็กๆโดยที่ยากต่อการสังเกต ซึ่งสะสมอยู่ในดินเป็นอนุภาค ส่งผลต่อคุณสมบัติทางกายภาพของดินทั้งความพรุน การซึมผ่านของน้ำ ขัดขวางการดูดซึมสารอาหาร ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตและความเครียดของพืชที่เกิดจากปัญหาเหล่านี้สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา
การใช้กากตะกอนน้ำเสียจากโรงงานเป็นปุ๋ยก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ซึ่งมักนำไปใช้กับพื้นที่เกษตรกรรม โดยเป็นสารอินทรีย์ที่เต็มไปด้วยไมโครพลาสติกจากน้ำเสียในครัวเรือนและอุตสาหกรรม พลาสติกเหล่านี้เมื่อรวมเข้ากับดินแล้วสามารถคงอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้คุณสมบัติของดินเปลี่ยนแปลง และก่อให้เกิดความอันตรายต่อความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในดิน
ไมโครไบโอม (microbiome) หรือระบบนิเวศของจุลชีพที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลในดินมีบทบาทสำคัญในการหมุนเวียนของสารอาหารและการสลายตัวของสารอินทรีย์ น่าเสียดายที่มันกำลังถูกคุกคามจากไมโครพลาสติกเช่นกัน อนุภาคขนาดเล็กเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อจุลินทรีย์ในดิน ไมโครพลาสติกและจุลินทรีย์ในดินมักมีปฏิสัมพันธ์กัน ส่งผลให้กิจกรรมและความหลากหลายของจุลินทรีย์ลดลง สุขภาพของจุลินทรีย์ที่ลดลงนี้ อาจส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อความอุดมสมบูรณ์ของดินและสุขภาพของพืช
มลพิษจากแหล่งที่อยู่อาศัยก็เช่นกัน
ไมโครพลาสติกสามารถลอยอยู่ในอากาศและเคลื่อนที่ได้ไกลก่อนที่จะตกลงสู่พื้น ผลการศึกษาพบว่าไมโครพลาสติกสามารถขนส่งผ่านชั้นบรรยากาศและสะสมตัวผ่านฝนหรือหิมะมาสุ่พื้นที่ทางการเกษตรรวมไปถึงน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมหรือแม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองก็นำพาเข้ามา เช่น เส้นใยสังเคราะห์จากเสื้อผ้า และไมโครบีด (microbeads) จากยาสีฟันหรือเครื่องสำอาง
ไมโครพลาสติกมีอัตราส่วนพื้นที่ผิวต่อปริมาตรสูง ซึ่งทำให้มีแนวโน้มที่จะดูดซับโลหะหนักและมลพิษอินทรีย์ เช่น ยาฆ่าแมลงจากดิน ความสามารถในการดูดซับนี้เกิดจากพื้นผิวที่ไม่ชอบน้ำ ซึ่งดึงดูดสารปนเปื้อนที่ไม่มีขั้วและไม่ชอบน้ำ เมื่อไมโครพลาสติกจับกับโลหะหนัก เช่น แคดเมียม ตะกั่ว และปรอท หรือกับสารมลพิษอินทรีย์ที่ตกค้างยาวนาน เช่น ดีดีที (DDT)
พวกมันจะก่อให้เกิดสารมลพิษเชิงประกอบ การรวมกันนี้อาจเป็นอันตรายได้มากกว่าสารปนเปื้อนเพียงอย่างเดียว การมีอยู่ของไมโครพลาสติกสามารถเพิ่มความคล่องตัวและการดูดซึมของสารพิษเข้าสู่พืช สารปนเปื้อนบางชนิดเมื่อถูกดูดซับลงบนไมโครพลาสติก อาจเป็นพิษต่อจุลินทรีย์ในดินมากขึ้น ซึ่งขัดขวางกระบวนการสำคัญของดิน เช่น การหมุนเวียนของธาตุอาหารและการย่อยสลาย การหยุดชะงักนี้อาจส่งผลให้สุขภาพดินและความอุดมสมบูรณ์ลดลง ส่งผลกระทบเพิ่มเติมต่อการเจริญเติบโตของพืชและเสถียรภาพของระบบนิเวศ
ไมโครพลาสติกสามารถย่อยสลายได้โดยทางเคมี เกิดจากการสลายโพลีเมอร์พลาสติกผ่านกระบวนการออกซิเดชั่น ซึ่งมักถูกเร่งโดยการสัมผัสกับแสงแดดและมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมบางชนิด อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้โดยทั่วไปจะช้าและอาจแตกต่างอย่างมากขึ้นอยู่กับประเภทของพลาสติกและสภาพแวดล้อม การย่อยสลายทางชีวภาพซึ่งเกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์ที่สามารถบริโภคพลาสติกได้นั้น ปัจจุบันมีขอบเขตจำกัด แม้ว่าจะมีแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิดที่ทราบกันว่าสามารถย่อยสลายพลาสติกบางประเภทได้แต่ใช้เวลานาน การมีอายุยืนยาวของไมโครพลาสติกในสิ่งแวดล้อมในดินถือเป็นข้อกังวลที่สำคัญ ต่างจากมลพิษอินทรีย์อื่นๆ ที่จะย่อยสลายทางชีวภาพในที่สุด ไมโครพลาสติกสามารถคงอยู่ได้นานหลายทศวรรษหรืออาจเป็นศตวรรษด้วยซ้ำ
การตรวจจับและการหาปริมาณไมโครพลาสติกในดินถือเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับนักวิจัย เนื่องจากข้อจำกัดด้านขนาดและความจำเพาะของวิธีการปัจจุบัน การแยกออกจากอนุภาคตามธรรมชาติเป็นเรื่องยากเป็นพิเศษ การวิจัยในอนาคตควรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาวิธีการลดไมโครพลาสติกในดิน รวมถึงเทคนิคการบำบัดทางชีวภาพ การปรับปรุงดิน และแนวทางปฏิบัติทางการเกษตร ที่ลดปริมาณไมโครพลาสติก นอกจากนี้ การออกนโยบายลดการใช้พลาสติกและหันไปใช้วัสดุที่เกิดจากธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งสำคัญเพราะสิ่งสังเคราะห์ที่มนุษย์สร้างต้องใช้เวลานานนับปีกว่าจะย่อยสลาย
เพื่อต่อสู้กับการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกและรับประกันความยั่งยืนในระยะยาวของดินทางการเกษตรของเรา เราต้องเข้าใจและจัดการกับแหล่งที่มาเหล่านี้ สิ่งนี้ต้องใช้แนวทางที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงแนวทางปฏิบัติในการจัดการขยะที่ได้รับการปรับปรุง เทคนิคทางการเกษตรที่ยั่งยืน และมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการไหลของพลาสติกสู่สิ่งแวดล้อม
อ้างอิง :
https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S2468584421000830

https://www.sdgmove.com/2021/12/09/plastics-in-soil-threaten-food-security-health-and-environment-fao/

https://agriallis.com/wp-content/uploads/2022/09/THE-IMPACT-OF-MICROPLASTICS-ON-AGRICULTURAL-SOILS.pdf

31 ธันวาคม 2566 ยินดีต้อนรับ ราชินีผลไม้
31/12/2023

31 ธันวาคม 2566 ยินดีต้อนรับ ราชินีผลไม้

05/11/2023
02/11/2023

#สื่อเพื่อการขับเคลื่อน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้โลกเย็น

TAWANAOK Forum
(ตะวันออกฟอรั่ม) ครั้งที่ 2

เมื่อชาวตะวันออกขอเป็นหัวหอกให้โลกเย็นที่เป็นธรรมอย่างยั่งยืน

เชิญร่วมงานเสวนา เรื่องราวการแก้ปัญหาโลกร้อน นำโดย กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อนตะวันออก เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาวิกฤตโลกร้อน
"...ให้โลกเย็นที่เป็นธรรมอย่างยั่งยืน"

วันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2566 โรงแรมซันธารา เวลเนส รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา

สอบถามรายละเอียด
Tel. คุณฝน 061 424 4446
ลงทะเบียนออนไลน์
ผ่าน QR Code

#สื่อเพื่อการขับเคลื่อน
#ตะวันออกฟอรั่ม #โลกเย็นที่เป็นธรรม #กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม #ตะวันออก

มะพร้าวเป็นพืชเชิงวัฒนธรรม ค้ำจุนระบบนิเวศ เป็นเศรษฐกิจสำคัญของท้องถิ่น เป็นพืชสำคัญสำหรับนวัตกรรมหลากหลายด้านในอนาคต แล...
12/11/2022

มะพร้าวเป็นพืชเชิงวัฒนธรรม ค้ำจุนระบบนิเวศ เป็นเศรษฐกิจสำคัญของท้องถิ่น เป็นพืชสำคัญสำหรับนวัตกรรมหลากหลายด้านในอนาคต และสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงทางอาหารของเรา

มิติที่หลากหลาย ลงมือ สัมผัส เรียนรู้  คือ ความงดงามของพื้นที่สวนผลไม้ภาคตะวันออก จ.ระยอง
14/06/2022

มิติที่หลากหลาย ลงมือ สัมผัส เรียนรู้ คือ ความงดงามของพื้นที่สวนผลไม้ภาคตะวันออก จ.ระยอง

ชาวประมงเรือเล็กส่งมา.....ใครอยากกินปู บอกกัน ระยองวันนี้ ปูม้าน้ำเย็น จึงมีปู น้ำเย็นปูเป็น @ศิวิไล Food  อาหารทะเลตะวั...
25/05/2022

ชาวประมงเรือเล็กส่งมา.....
ใครอยากกินปู บอกกัน ระยองวันนี้ ปูม้าน้ำเย็น จึงมีปู
น้ำเย็นปูเป็น @ศิวิไล Food อาหารทะเลตะวันออก

[ ] 🐃💦รอลุ้น ‼️ไทยเสนอ “ควายน้ำทะเลน้อย”เป็นมรดกโลกทางการเกษตร"ควายน้ำทะเลน้อย" คือชื่อที่คนทั่วไปโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวใ...
23/05/2022

[ ] 🐃💦
รอลุ้น ‼️ไทยเสนอ “ควายน้ำทะเลน้อย”
เป็นมรดกโลกทางการเกษตร
"ควายน้ำทะเลน้อย" คือชื่อที่คนทั่วไป
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวใช้เรียกควายปลักทะเลน้อย
ตามหลักฐานที่ปรากฏในภาพเขียนฝาผนังวัดวัง จ.พัทลุง
คาดว่าควายมีถิ่นอาศัยแถบทะเลน้อยมากว่า 200 ปี
แต่เดิมควายถูกเลี้ยงเพื่อการใช้งานในนา แต่ต่อมาเกิดความเปลี่ยนแปลง เมื่อมีการประกาศพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยเมื่อปี 2518 จนชาวบ้านต้องเลิกทำนาไปเนื่องจากพื้นที่นาเดิมกลายเป็นเขตสงวน แต่วิถีเลี้ยงควายในเขตห้ามล่าฯ ยังคงได้รับอนุญาตให้ทำได้เป็นกรณีพิเศษ

การเลี้ยงควายเพื่อเป็นแรงงานนาเช่นในอดีตจึงเปลี่ยนมาเป็นเลี้ยงเพื่อขายเป็นควายเนื้อแทน มาจนปัจจุบัน

ดร.เชิดศักดิ์ เกื้อรักษ์
EU-SUPA Techical Researcher
และเลขาธิการมูลนิธิพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยให้ข้อมูลว่า

ส่วนใหญ่การเลี้ยงควายทะเลน้อยจะเลี้ยงในพื้นที่อนุรักษ์
บนเนื้อที่ประมาณ 2 แสนกว่าไร่ เป็นการเลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติไม่มีการสนตะพาย ซึ่งทำให้เกิดปรากฏการณ์ ที่น่าสนใจหลายประการ เช่น ควายฝูงเหล่านี้จะมีบทบาทเชิงนิเวศคล้ายสัตว์ใหญ่ในป่า ด้วยการเดินตะลุยเข้าไปในดงพืชในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยซ้ำ ๆ จนทางเดินควายกลายเป็นร่องน้ำที่เมื่อเวลาผ่านไปร่องน้ำเหล่านั้นจะขยายใหญ่และลึกมากขึ้น โดยปัจจุบันทะเลน้อยมีร่องน้ำลักษณะนี้อย่างน้อย 26 สาย

ร่องน้ำจากทางเดินควายมีบทบาทในการช่วยกระจายความชุ่มชื้นให้ทะเลน้อย ลดการเกิดไฟไหม้ เป็นทางเดินเรือของชาวบ้านทั้งเพื่อการเลี้ยงควาย และการเลี้ยงชีพอื่น ๆ เช่น หาปลา ถอนกระจูด เป็นต้น
ดร.เชิดศักดิ์ ให้ความรู้เพิ่มเติมว่า ทะเลน้อยเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ประกอบด้วยระบบนิเวศ 3 ระบบหลัก คือหนึ่ง ป่าพรุ ป่าเสม็ด ระบบที่สองคือนิเวศบึงน้ำ และสาม นิเวศทุ่งหญ้า

เมื่อควายกินหญ้า ได้ผลพลอยได้คือการควบคุมหญ้าในระบบทุ่งหญ้าให้สมดุลเพราะหากหญ้ารกเกินไป งูในพื้นที่ก็อาจมีมากขึ้น ต้องการอาหารมากขึ้น จำนวนนกน้ำอาจน้อยลง เพราะนกทะเลน้อยส่วนใหญ่อยู่ในระบบนิเวศทุ่งหญ้า

วิถีการเลี้ยงควายในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยมีศักยภาพที่จะเป็นมรดกโลกทางการเกษตรนั้น ดร.เชิดศักดิ์ให้เหตุผลว่า เนื่องจากวิถีวัฒนธรรมนี้ มีองค์ประกอบครบ 5 ด้าน ตามมาตรฐาน FAO คือ ความมั่นคงทางอาหาร วิถีชีวิตชุมชน ความหลากหลายทางชีวภาพ ภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรมของคนในภูมิสังคม และภูมิทัศน์ที่โดดเด่น
มรดกโลกทางการเกษตร (Globally Important Agricultural Heritage System หรือ GIAHS)
เกิดขึ้นเมื่อปี 2545 โดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งประชาชาติ (FAO) ปัจจุบันมีพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรที่ได้รับการรับรองจาก FAO (GIAHS site )จำนวน 62 พื้นที่ ใน 22 ประเทศ

สำหรับทวีปเอเชียมีพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร 40 แห่ง ใน 8 ประเทศและ 1 เขตดินแดนสหภาพ
ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย อิหร่าน ศรีลังกาบังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ และเขตแคว้นชัมมูและแคชเมียร์.
ประเทศไทยยื่นเอกสารข้อเสนอ (GIAHS proposal)แก่ FAO เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่า FAO จะประกาศผลพิจารณาขั้นแรกไม่เกินปลายเดือนพฤษภาคมนี้ หากผ่านขั้นตอนพิจารณาประเทศไทยต้องทำแผนงานการจัดการเพิ่มเติมโดยมีเจ้าหน้าที่ของ FAO เป็นที่ปรึกษา

ดร.เชิดศักดิ์ย้ำว่าหากวิถีควายทะเลน้อยได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางการเกษตร จะแสดงให้เห็นมาตรฐานการจัดการเรื่องควายทะเลน้อยที่ได้มาตรฐานระดับโลก และเป็นมาตรฐานที่ยั่งยืน แสดงถึงการยกระดับการจัดการทุก ๆ ด้านอีกด้วย
ภาพ : บุญเลิศ อินสุวรรณโณ

#ควายทะเลน้อย

หนอนใต้ ปัญหาของชาวสวนทุเรียน เพียงชั่วคืนหมดทั้งต้น ฝังตัวกินทุเรียนหมดสวน
18/05/2022

หนอนใต้ ปัญหาของชาวสวนทุเรียน เพียงชั่วคืนหมดทั้งต้น ฝังตัวกินทุเรียนหมดสวน

คัดสรรจัดส่งตามพรีออเดอร์...
05/05/2022

คัดสรรจัดส่งตามพรีออเดอร์...

ที่อยู่

สำนักพิมพ์ชาวสวน บ้านมาบจันทร์ เลขที่ 1 หมู่ 7 ตำบลแกลง
Rayong
21160

เบอร์โทรศัพท์

+66812052499

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ นิตยสารชาวสวน ChaoSuan Magazineผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท