FocusRayong ยินดีต้อนรับ เข้าสู่ เพจ RayongFocus โฟกัสระยอง
ติดตามเพจเพื่อไม่พลาดข่าวสารและกิจกรรมความเคลื่อนไหวในจังหวัดระยอง

01/10/2025
01/10/2025
ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย)- อบต.มาบยางพร เปิดสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล ต่อยอดโครงการ 'ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวด...
01/10/2025

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย)- อบต.มาบยางพร เปิดสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล ต่อยอดโครงการ 'ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่' มุ่งลดขยะในชุมชน-สร้างรายได้ให้คนในชุมชน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ก.ย.68 ที่ห้องประชุม อบต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง นายอภิชาติ เงินท้วม นายก อบต.มาบยางพร เป็นประธานเปิดสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล ต่อยอดโครงการ 'ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่' ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด อบต.มาบยางพร GC Youเทิร์น และThe Green มีนายยศยุต สหวัชรินทร์ รอง ปธ.บริหารอาวุโสฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และบรรษัทสัมพันธ์ บริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด และน.ส.วิภาวรรณ ทัศนปรีชาชัย รอง ปธ.บริหารฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ บริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด น.ส.ธารทิพย์ โพธิตันติมงคล รอง ผอ.ฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมพิธีเปิดฯ และพาคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล ที่มีการเปิดรับซื้อแล้วทั้งขวดพลาสติก กระดาษ และน้ำมันพืชใช้แล้ว ตั้งอยู่ภายในศูนย์ดับเพลิง ตลาดสะพานสี่ ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง

นายยศยุต เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ ได้จัดตั้งสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิลในชุมชนขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ข.ขวดหมุนเวียน เป็นขวดใหม่ ได้ริเริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2566 เนื่องจากทางบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำของไทย และของโลก ซึ่งทางบริษัทต้องการที่จะทำหน้าที่ในฐานะผู้ผลิตอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเน้นที่จะมาทำงานร่วมกับชุมชนซึ่งมีโรงงานผลิตแห่งแรกตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง และต้องการอยากมีส่วนช่วยเหลือชุมชนที่เรียกว่า การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการดังกล่าว ได้ให้ความสำคัญกับขวดพลาสติก โดยมีการสำรวจชุมชนที่จะทำการตั้งเป็นสถานีซื้อขายฯ ขึ้น ซึ่งได้พาร์ทเนอร์ทั้ง อบต.มาบยางพร, The Green และ GC YOU เทิร์น ที่มีความเชี่ยวชาญในการรีไซเคิลมาร่วมมือกัน โดยสร้างสถานีซื้อขายฯ เสร็จ เมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว และเริ่มลงมือปฏิบัติจริงโดมีคนในชุมชน 2 คนเป็นจิตอาสาประจำสถานีฯ ซึ่งมีการรับซื้อ 2 ครั้งในเดือน ก.ค.และมิ.ย.68 ที่ผ่านมา มีรายได้ 27,000 บาท ซึ่งได้ขวดพลาสติก และกระดาษ ไปอย่างละ 1,000 กก. ขวดแก้ว 1,300 กก.กระป๋อง 34 กก.และน้ำมันพืช 420 กก. ซึ่งการเกิดของสถานีซื้อขายฯ ดังกล่าว มุ่งหวังให้คนในชุมชนได้มีความรู้เรื่องการเอาขยะมารีไซเคิลมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ขอความร่วมมือสื่อมวลชนได้ช่วยประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้ชาวบ้านได้นำขยะที่บ้าน หรือเริ่มจากการคัดแยกก่อนก็ได้แล้วนำมาขาย ซึ่งทางบริษัทหวังจะได้พาร์ทเนอร์กับทางโรงเรียนด้วยซ้ำ โดยการให้ความรู้กับน้องๆ ในโรงเรียน นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีโครงการเกี่ยวกับน้ำที่ได้ทำร่วมกับชุมชนเช่นเดียวกัน ก็หวังว่าสถานีซื้อขายฯ แห่งนี้ ไปได้ดีหวังว่าจะมีโอกาสนำความรู้ หรือบทเรียนที่ได้จากความผิดพลาดร่วมกับพาร์ทเนอร์ไปขยายโอกาสและส่งเสริมเรื่องของการรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนต่างๆ ต่อไปในอนาคตอีกด้วย

น.ส.วิภาวรรณ เปิดเผยว่าวัตถุประสงค์หลักคือ อยากจะหมุนเสียนขวดกลับเข้ามาเป็นวัตถุดิบในการผลิตของทางบริษัทอีกครั้ง ซึ่งการเกิดของสถานีซื้อขายฯ ดังกล่าว มีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ 1.ลดปริมาณขยะที่จะไปลงสู่หลุมฝังกลบ 2.ต้องการเพิ่มคุณภาพตัวของขยะรีไซเคิลไม่ใช่แค่ปริมาณให้กลับเข้าสู่กระบวนการไซเคิลด้วย และ 3.สร้างรายได้ให้กับชุมชนซึ่งอาจจะไม่มากแต่จะมาเป็นขวัญถุงไว้หล่อเลี้ยงจิตอาสาที่ทำงานในสถานีซื้อขายฯ ต่อไปในอนาคต เพราะว่าทางบริษัทมุ่งหวังสร้างเป็นโมเดลให้กับชุมชนให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งบริหารงานโดยชุมชนเขาเอง

ด้านนายอภิชาต เปิดเผยว่า การจัดการขยะเป็นภารกิจหลักที่ อบต.มาบยางพร ดูแลอย่างครอบคลุม ทั้งการเก็บรวบรวม การกำจัด และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน การจัดตั้ง 'สถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล' ขึ้นใน ต.มาบยางพรดังกล่าว จะช่วยลดปริมาณขยะในพื้นที่ และสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน และปลูกฝังจิตสำนึกแนวคิดการคัดแยกขยะ และสร้างมูลค่าจากขยะ รวมทั้งช่วยลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมด้วย อีกทั้งยังช่วยลดภาระการจัดการขยะของ อบต.มาบยางพรอีกด้วย
#โฟกัสระยอง
#ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) #อบต.มาบยางพร #โครงการขอขวดหมุนเวียน #วิทยุระยอง

 #รวมใจไทยหนึ่งเดียว แม่ทัพภาคที่ 2 นำทหารกล้าร้องเพลงชาติไทย ณ ยอดภูมะเขือ ยืนหยัดปกป้องผืนแผ่นดินไทยด้วยชีวิต(28 ก.ย. ...
01/10/2025

#รวมใจไทยหนึ่งเดียว
แม่ทัพภาคที่ 2 นำทหารกล้าร้องเพลงชาติไทย ณ ยอดภูมะเขือ ยืนหยัดปกป้องผืนแผ่นดินไทยด้วยชีวิต
(28 ก.ย. 68) พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยผู้บัญชากองกำลังสุรนารี นำเหล่าทหารกล้าเชิญธงชาติและร่วมร้องเพลงชาติไทย ณ ยอดภูมะเขือ ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเป็นการสร้างความภาคภูมิใจของคนในชาติ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ
เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย (Thai National Flag Day) และสดุดีวีรชนทหารกล้า
ผู้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติไทย ธงชาติไทยที่โบกสะบัด คือสัญลักษณ์แห่งเกียรติและศักดิ์ศรี ทหารไทยจะยืนหยัดปกป้องผืนแผ่นดินนี้ด้วยชีวิต ไม่ให้สูญเสียแม้เพียงตารางนิ้ว
พลโท บุญสิน กล่าวว่า ธงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย ของแผ่นดินไทย และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 3 สี ที่เรียกว่าธงไตรรงค์ คือ สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน
สีแดง หมายถึง ชาติ เลือดเนื้อบรรพบุรุษ เลือดเนื้อวีรชนทั้งหลายที่สละชีพเพื่อชาติ ซึ่งได้มาซึ่งแผ่นดินที่เราอยู่
สีขาว หมายถึง หลักคำสอนของศาสนา ความใสบริสุทธิ์ หลักธรรมที่เราจะต้องดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้อง
สีน้ำเงิน หมายถึง สถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ท่านได้เสียสละความส่วนตัวของท่านเพื่อดูแลคุ้มครองลูกหลาน
คนไทยทั้งประเทศ ให้อยู่เย็นเป็นสุขมาแต่ช้านาน มาแต่โบราณแล้ว ซึ่งทั้งสามสีนี้รวมอยู่ในผืนธงชาติ
“วันนี้เป็นวันสำคัญยิ่ง แม่ทัพภาคที่ 2 ถือโอกาสมาเยี่ยมกำลังพลในพื้นที่ขัดแย้งไทย-กัมพูชา และมาให้กำลังใจน้อง ๆ ที่ภูมะเขือ และได้อัญเชิญธงชาติ เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทยในพื้นที่ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง
ซึ่งพวกเราได้รอมานานในพื้นที่นี้ และได้เชิญธงชาติพร้อมกับพาน้อง ๆ ได้ร้องเพลงชาติในพื้นที่นี้ ขอให้พวกเราทุกคนได้รับความภาคภูมิใจ และช่วยกันรักษาธงไตรรงค์สามสีนี้ ชั่วลูกชั่วหลานตลอดไป”
108 ปี วันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน 2568 เพราะธงชาติและเพลงชาติไทย คือ สัญลักษณ์ของความเป็นไทย คือ สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกราช ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นหรืออาณานิคมของชาติใด รวมถึงความเสียสละของบรรพบุรุษไทยทุกยุคสมัย ในการปกป้องรักษาแผ่นดินให้คงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
วันพระราชทานธงชาติไทย (Thai National Flag Day) เป็นวันที่ระลึกถึงโอกาสที่พระบาทสมเด็จ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศพระราชบัญญัติแก้ไขพระราชบัญญัติธง
พุทธศักราช 2460 โดยมีสาระสำคัญคือ การประกาศให้ธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทยสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้มีการประกาศไว้ ณ วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2460
#ร้องเพลงชาติไทยที่ภูมะเขือ
#ภูมะเขือ #ธงไตรรงค์ธงชาติไทย

ผู้ว่าฯ ระยอง ลงเรือสำรวจคลองทับมา จัดทำแผนที่ประกอบและภาพถ่ายในลำคลอง เตรียมเร่งหารือหน่วยงาน และ อปท.ที่เกี่ยวข้อง ร่ว...
30/09/2025

ผู้ว่าฯ ระยอง ลงเรือสำรวจคลองทับมา จัดทำแผนที่ประกอบและภาพถ่ายในลำคลอง เตรียมเร่งหารือหน่วยงาน และ อปท.ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแก้ไขปัญหาน้ำเอ่อจากคลองทับมาท่วมในพื้นที่ชั้นในของตัวเมืองระยองที่เกิดขึ้นซ้ำซาก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ก.ย.68 นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายอนุสรณ์ แสงกล้า นอภ.เมืองระยอง นายประสานต์ พฤกษาชาติ รองนายก อบจ.ระยอง นายจิรพงษ์ ศาสตร์แย้ม ผอ.โครงการชลประทานระยอง นายทวีชัย โชคสมุทร ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระยอง พร้อมด้วยนายสุทิน แก้วประถม นายกเทศมนตรีตำบลทับมา นายศุภชัย จิตรดล นายกเทศมนตรีตำบลเนินพระ นายประเชิญ เห่งยี้ นายกเทศมนตรีตำบลเชิงเนิน และผู้แทนเทศบาลนครระยอง ร่วมลงเรือสำรวจสิ่งกีดขวางทางน้ำ และตรวจสอบสภาพประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองทับมาตลอดแนว ทั้งนี้เพื่อดูสภาพจริงของคลอง เพื่อหาแนวแก้ไขปัญหาน้ำเอ่อจากคลองทับมาท่วมพื้นที่ขัันในของตัวเมืองระยอง ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำซากในข่วงฤดูฝน หรือฝนตกหนักในพื้นที่

นายภาสกร เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ลงสำรวจคลองทับมาตลอดแนวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง อบจ.ระยอง อปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบอุปสรรคที่กีดขวางทางน้ำ ทั้งคอสะพาน วัชพืช และมีต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นในลำคลองจำนวนมาก ซึ่งได้มีการทำแผนที่ประกอบ และรูปถ่ายจากการลงสำรวจทั้งหมด เพื่อหารือร่วมกันเพื่อมอบหมายให้ อปท.แต่ละพื้นที่ที่คบองทับมาผ่านทั้งเทศบาบนครระยอง เทศบาลตำบลทับมา เทศบาลตำบลเนินพระ และเทศบาลตำบลเชิงเนิน ในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อให้น้ำสามารถระบายได้สะดวกขึ้น ส่วนปัญหาสะพานบริเวณหมู่บ้านกรุงไทยที่ต่ำกีดขวางทางน้ำ หลังลงพื้นที่กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย เพื่อแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา ก็เห็นพ้องต้องกันที่จะต้องเร่งดำเนินการปรังปรุง ซึ่งจากสะพานข้ามคลอง 4 แห่ง แก้ไขปรับปรุงไปแล้ว 3 แห่ง โดย อบจ.ระยอง เหลือเพียงอีก 1 แห่ง คือสะพานหมู่บ้านกรุงไทยดังกล่าว ได้มีนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งล่วงล้ำลำน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้มีการอนุญาตให้ผู้ยื่นขอมีความประสงค์ยื่นขอให้ทำสะพาน และก็ยกสะพานให้ทางราชการ โดยทาง อบจ.ระยอง ได้นำเรื่องเข้าที่ประชุมสภา อบจ.อนุมัติงบประมาณในการปรับปรุงยกตัวสะพานให้สูงขึ้นแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งบริเวณสะพานดังกล่าว เป็นสาเหตุที่ทำน้ำท่วมบริเวณหมู่บ้านกรุงไทยที่ผ่านมา ซึ่งหากยกสะพานสูงขึ้นแล้ว จะให้การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ดีขึ้น
#ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง
#คลองทับมา

30/09/2025

📣เชิญเที่ยวงานตลาดในสวน @ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ ปี2568
📍พบกันในวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม - วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 07.30 - 13.00 น.
********** กิจกรรมภายในงาน ***********
▶ การแสดง "มาบข่าแดนซ์"ของชุมชนมาบข่าพัฒนา
▶ กิจกรรมสาธิตการทำผลิตภัณฑ์สมุนไพร จากวิทยากรสวนสมุนไพรฯ
▶ พบกับโซนสินค้ามือสอง งานคราฟต์ และโซนกาแฟดริปภายในสวน
▶ สินค้าชุมชน สินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์สมุนไพร งานหัตถกรรม ต้นไม้ และอาหารกว่า 120 ร้านค้า
▶ กิจกรรม “ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก” นำถุงผ้ามาใช้ในตลาดทุกเดือน เพื่อสะสมแต้มรับของรางวัลจากทางสวนสมุนไพรฯ
▶ สมุนไพรแจกฟรี (จำนวนจำกัด)
▶ ตัดผมฟรี และมีบริการนวดแผนไทยในสวน
🌿 #มาระยองครั้งใดแวะสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ🌿
📢📢 มาเที่ยวกันเยอะๆนะคะ 📢 📢
#พกถุงผ้ามาตลาดรับสติกเกอร์สะสมรับแลกของรางวัลฟรี
#ตลาดในสวน@สวนสมุนไพรสุขภาพสมเด็จพระเทพฯ
#ทุกวันเสาร์และอาทิตย์แรกของเดือน
#ตลาดสวนสมุนไพรระยอง
#พันธุ์ไม้แจกฟรี
#ตลาดระยอง
#ระยอง

SCGC เปิดบ้านต้อนรับสื่อมวลชนระยอง โชว์ศักยภาพผู้นำด้านนวัตกรรมและโซลูชัน และดิจิทัลโซลูชันอัจฉริยะแบบครบวงจรรายแรกของโล...
30/09/2025

SCGC เปิดบ้านต้อนรับสื่อมวลชนระยอง โชว์ศักยภาพผู้นำด้านนวัตกรรมและโซลูชัน
และดิจิทัลโซลูชันอัจฉริยะแบบครบวงจรรายแรกของโลก

เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ผู้นำธุรกิจพอลิเมอร์และโซลูชันครบวงจรเพื่อความยั่งยืน นำโดย นายธาร์นา เสนี ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการและนวัตกรรม – การผลิตและธุรกิจโอเลฟินส์ และ ดร.พิเชษฐ์ ตั้งปัญญารัช ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการและนวัตกรรม – การจัดการอุตสาหกรรมและความร่วมมือทางธุรกิจ พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับสื่อมวลชน จ.ระยอง เข้าเยี่ยมชมการบริหารจัดการนวัตกรรมและโซลูชัน และการจัดการโรงงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล AI ณ นิคมอุตสาหกรรม อาร์ ไอ แอล จ.ระยอง

ในโอกาสนี้ สื่อมวลชนได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดถึงกระบวนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมระดับสากลของ SCGC ที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง และการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าเพื่อความยั่งยืน ณ ศูนย์นวัตกรรมครบวงจร i2P Center” (Ideas to Products) รวมทั้งได้เยี่ยมชมดิจิทัลโซลูชันอัจฉริยะแบบครบวงจรรายแรกของโลก “DRS by REPCO NEX” (Digital Reliability Service Solutions) ที่ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญสู่การสร้างธุรกิจใหม่ ช่วยดูแลประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรแบบครบวงจร เพิ่มศักยภาพการผลิต รวมทั้งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของโรงงาน ผ่านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ณ ศูนย์บัญชาการทางดิจิทัล (Unified Operations Center: UOC)
#สื่อมวลชนระยอง #โฟกัสระยอง

AIS PLAY เตรียมยิงสด "เมืองไทย CUP" เดินหน้ายกระดับลูกหนังไทย เชื่อมทุกแมตช์สู่แฟนบอลAIS PLAY ร่วมกับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่...
29/09/2025

AIS PLAY เตรียมยิงสด "เมืองไทย CUP" เดินหน้ายกระดับลูกหนังไทย เชื่อมทุกแมตช์สู่แฟนบอล

AIS PLAY ร่วมกับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการลูกหนังไทย ด้วยการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล “เมืองไทย CUP” ตลอดฤดูกาล 2025/26 ยกระดับประสบการณ์การรับชมให้กับแฟนบอลไทยทั่วประเทศ ด้วยภาพคมชัดระดับ Full HD และเทคโนโลยีถ่ายทอดสดล้ำสมัย บนโครงข่ายอัจฉริยะของ AIS ทั้งมือถือและเน็ตบ้านครอบคลุมทั่วประเทศ

สำหรับ “เมืองไทย CUP” เป็นถ้วยที่มีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยระบบแพ้คัดออก (Knock-out) และการเปิดโอกาสให้สโมสรจากทุกลีกอาชีพของไทย ทั้ง ไทยลีก 1, ไทยลีก 2 และไทยลีก 3 ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ทำให้เกิดแมตช์สุดมันส์ที่ทีมท้องถิ่นได้ดวลกับสโมสรชั้นนำ ปลุกบรรยากาศ ปลุกพลังของฟุตบอลไทยทั่วประเทศ

นางสาวรุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ AIS กล่าวว่า “AIS รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนและถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลถ้วย 'เมืองไทย CUP' ร่วมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้ความตั้งใจในการยกระดับวงการฟุตบอลไทยอย่างยั่งยืน เราได้นำเทคโนโลยีการถ่ายทอดสดที่ทันสมัย และโครงข่ายอัจฉริยะของ AIS มาใช้ในการถ่ายทอดสดการแข่งขัน เพื่อให้ผู้ชมสามารถรับชมได้อย่างเต็มอรรถรส ภาพคมชัด ลื่นไหล และเข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์ โดยไม่จำกัดเครือข่าย

AIS มุ่งหวังให้การถ่ายทอดสด 'เมืองไทย CUP' ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญในการส่งเสริมการรับชมกีฬาไทยให้เข้าถึงคนไทยทุกกลุ่ม พร้อมร่วมเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยได้พัฒนาศักยภาพ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยในอนาคตต่อไป”

คอบอลไทยตัวจริงห้ามพลาด “เมืองไทย CUP” ฤดูกาล 2025/26 จะเปิดฉากการแข่งขันในเดือนตุลาคม 2568 ถ่ายทอดสดจัดเต็ม ดูฟรีทุกเครือข่าย พร้อมไฮไลต์และรีรัน ทาง AIS PLAY ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและตารางการแข่งขันที่ https://www.ais.th/thaileague
PLAY
#สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

มาตามนัด...ตลาดวันสุข@ PTT Auto One เนินสำลีวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 – 14.00 น.แล้วพบกันนะ...,   #ตลาดนัดวัน...
29/09/2025

มาตามนัด...ตลาดวันสุข@ PTT Auto One เนินสำลี
วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 – 14.00 น.
แล้วพบกันนะ...
, #ตลาดนัดวันสุข #ตลาดวันสุข@ PTT Auto One เนินสำลี

นายกฯ ชูความร่วมมือไทย - จีน 5 มิติ ผลักดันเป็น “สปริงบอร์ด” นำเศรษฐกิจ นวัตกรรมของภูมิภาคบทสรุปความสัมพันธ์ไทย–จีนตลอดก...
27/09/2025

นายกฯ ชูความร่วมมือไทย - จีน 5 มิติ ผลักดันเป็น “สปริงบอร์ด” นำเศรษฐกิจ นวัตกรรมของภูมิภาค
บทสรุป
ความสัมพันธ์ไทย–จีนตลอดกว่า 50 ปีได้วางรากฐานความร่วมมือที่มั่นคงทั้งด้านการค้า การลงทุน และประชาชน การจัดงาน “Thailand–China Cooperation Expo 2025” จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญ
โดยนายกรัฐมนตรีปาฐกถาพิเศษ แสดงความเชื่อมั่นต่อโอกาสใหม่ในอนาคต พร้อมชูความร่วมมือ 5 มิติ ได้แก่ 1. โครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ 2. เศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาด 3. เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล 4. เกษตรและความมั่นคงทางอาหาร 5. การแลกเปลี่ยนประชาชน โดยเน้นย้ำไทยมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และนวัตกรรมของภูมิภาค ร่วมมือกับจีนอย่างใกล้ชิด ปรับปรุงกฎระเบียบ และเพิ่ม
ความสะดวกทางธุรกิจ เพื่อให้ภาคเอกชนเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง งาน Expo จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26–28 กันยายน 2568 ณ ชาแลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีผู้ประกอบการ นักลงทุน ผู้นำเข้า–ส่งออก และผู้ค้าจากไทย จีน และนานาชาติ เข้าร่วมเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายและผลักดันไทยสู่ Global Supply Chain Hub ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม

รายละเอียด
(26 ก.ย. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “Thailand–China Cooperation Expo 2025” โดยมีพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธาน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายนฤตม์ เทิดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย คณะกลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย–จีนอย่างยั่งยืน (TCTM) ได้แก่ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน นายหลิว เฉวียนเหลย นายกสมาคมการค้าวิสาหกิจจีนในไทย รวมทั้งนักลงทุนและผู้ประกอบการชั้นนำของไทยและจีนเข้าร่วม
พลเอก สุรยุทธ์ กล่าวเปิดงานว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นเครื่องสะท้อนถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้น ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ และความร่วมมือรอบด้านที่ไทยและจีนสั่งสมมายาวนาน ความสัมพันธ์ในระดับประมุขแห่งรัฐได้รับการสืบทอดอย่างมั่นคงจากพระราชสำนักของทั้งสองประเทศตั้งแต่อดีต อันเป็นรากฐานของความไว้วางใจและความซื่อสัตย์ที่ดำเนินต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันในระดับรัฐต่อรัฐ ทั้งสองฝ่ายยึดมั่น
การเคารพและให้เกียรติโดยไม่แทรกแซงกิจการภายในกันและกัน ขณะที่ระดับประชาชนมีความใกล้ชิด
เสมือนครอบครัวเดียวกันดังคำกล่าว “จีน–ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ส่วนในระดับภาคเอกชน ทั้งสองประเทศได้ร่วมกันขับเคลื่อนด้านธุรกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการถ่ายทอดเทคโนโลยี เปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้คนรุ่นหลังได้ต่อยอด ในปีอันเป็นมงคลนี้ ไทยและจีนยังได้ร่วมกันจัดกิจกรรมสำคัญอีกหลายโครงการ
เพื่อยืนยันพลังแห่งมิตรภาพและการก้าวเดินไปข้างหน้าร่วมกันอย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานในวาระครบรอบ 50 ปี
แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้ร่วมกัน
สร้างรากฐานความร่วมมือที่มั่นคงในทุกมิติ ทั้งด้านการค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่ารากฐานนี้จะนำไปสู่โอกาสใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยจีนได้พิสูจน์ให้โลกเห็นถึง
พลังแห่งการพัฒนา โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจดิจิทัล และการเป็นผู้นำในพลังงานสะอาด ขณะเดียวกันประเทศไทยก็กำลังยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและระบบเศรษฐกิจเพื่อตอบโจทย์การเติบโต
ในอนาคต การบรรจบกันของศักยภาพทั้งสองประเทศจึงเป็นโอกาสทองที่จะร่วมกันสร้างความเจริญรุ่งเรือง
ในหลายมิติ
นายกรัฐมนตรีได้เสนอทิศทางความร่วมมือไทย–จีนในอนาคต ซึ่งครอบคลุม 5 มิติสำคัญ ได้แก่
1. การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ เช่น การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีน ซึ่งไม่เพียงเชื่อมโยงสองประเทศ แต่ยังเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่เชื่อมอาเซียนกับจีนตอนใต้ สร้างเครือข่ายการค้า และการท่องเที่ยวไร้รอยต่อ
2. เศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาด ไทยพร้อมเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีแบตเตอรี่ โดยมีจีนเป็นพันธมิตรหลัก นอกจากนี้ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ไทยและจีนยังได้ร่วมกันกำหนดแผนพัฒนาการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจฉบับใหม่ ระยะ 5 ปี ช่วง พ.ศ. 2568-2572 เพื่อขยาย
ความร่วมมือสู่สาขายุทธศาสตร์ใหม่ ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ แบตเตอรี่ การผลิตสีเขียว เพื่อการพัฒนา
อย่างยั่งยืน
3. เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ทั้งสองประเทศจะสร้างแพลตฟอร์มเศรษฐกิจดิจิทัล เชื่อมโยงระบบการเงิน การค้าข้ามพรมแดน และการวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SME และสตาร์ทอัพเข้าถึงตลาดใหม่ได้สะดวกยิ่งขึ้น
4. การเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งสำคัญมากกับประเทศผู้ผลิตอย่างไทย และประเทศที่มีประชากรมหาศาลอย่างจีน
5. การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ครอบคลุมการศึกษา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว เช่น
การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ การแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากรวิชาชีพ ตลอดจนการเรียนรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ไทย–จีน มีความแน่นแฟ้นอยู่บนรากฐานของความเข้าอกเข้าใจ ต่อยอดจากมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษของทั้งสองประเทศได้สืบสานมายาวนาน
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยมุ่งมั่นจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และนวัตกรรมของภูมิภาค โดยจะร่วมมือกับจีนอย่างใกล้ชิด พร้อมเดินหน้าลดอุปสรรค ปรับปรุงกฎระเบียบ และเพิ่มความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ภาคเอกชนทั้งสองประเทศเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง
โดยประเทศไทยจะพิสูจน์ว่า เราไม่ได้เป็นเพียงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ แต่จะเป็นประตูบานสำคัญที่จะเปิดไปสู่ความร่วมมืออื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ เพื่อให้มิตรภาพที่มีต่อกันมายาวนานระหว่างไทยและจีน เป็นเหมือน *“สปริงบอร์ด (Springboard)” ที่จะนำสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติต่อไป *(Springboard) ตัวช่วยหรือเครื่องมือสำคัญที่ เช่น เรื่องสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ BOI ใช้ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตและประสบความสำเร็จ
สำหรับงานแสดงสินค้า Thailand–China Cooperation Expo 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26–28 กันยายน 2568 เวลา 10.00–18.00 น. ณ อาคารชาแลนเจอร์ ฮอลล์ 2–3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “50 ปี ความสัมพันธ์ไทย–จีน : ก้าวสู่ความรุ่งเรืองร่วมกัน” โดยมีผู้ประกอบการ นักลงทุน ผู้นำเข้า–ส่งออก ผู้ค้า และผู้นำธุรกิจจากไทย จีน และนานาประเทศ เข้าร่วม เพื่อสร้างการเชื่อมโยงและขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นห่วงโซ่อุปทานโลก (Global Supply Chain Hub) ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม
ทั้งเทคโนโลยีและนวัตกรรม การค้าและการลงทุน พลังงานสีเขียวและเกษตรเพื่อความยั่งยืน ยานยนต์ และ EV โลจิสติกส์ และห่วงโซ่อุปทาน รวมถึง อาหารและเครื่องดื่ม

แนวทางการสื่อสาร
1. นำเสนอนายกรัฐมนตรีปาฐกถาพิเศษในงาน “Thailand–China Cooperation Expo 2025” เน้น
ความร่วมมือ 5 มิติ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน–โลจิสติกส์ เศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาด เทคโนโลยีดิจิทัล เกษตรและความมั่นคงทางอาหาร และการแลกเปลี่ยนประชาชน พร้อมผลักดันไทย–จีนเป็น “สปริงบอร์ด” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและนวัตกรรมภูมิภาค
2. นำเสนอความสัมพันธ์การค้าไทย–จีนตลอด 50 ปี สะท้อนความมุ่งมั่นสร้างโอกาสร่วมกัน ไทยพร้อมก้าวสู่ศูนย์กลางการค้า การลงทุน และนวัตกรรมของภูมิภาค ปรับปรุงกฎระเบียบ อำนวยความสะดวกทางธุรกิจ หนุนภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายเติบโตไปด้วยกันในทุกมิติ
3. ประชาสัมพันธ์งาน “Thailand–China Cooperation Expo 2025” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26–28 กันยายน 2568 ที่ชาแลนเจอร์ ฮอลล์ 2–3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีผู้ประกอบการ นักลงทุน จากไทย จีน และนานาชาติครอบคลุมหลายอุตสาหกรรมเข้าร่วม

แฮชแท็กเพื่อการสื่อสาร
#นายกชูความร่วมมือไทยจีน5มิติผลักดันเป็นสปริงบอร์ดนำเศรษฐกิจนวัตกรรมของภูมิภาค #ไทยจีน #กระทรวงพาณิชย์ #สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน #นโยบายรัฐบาล20กระทรวง
#สมาคมวิทยุระยอง

ระยอง จัด 'Rayong Log Jam 2025' แข่งกีฬา SUP Surfing-ดนครี เที่ยวกระตุ้นท่องเที่ยว- เชิญชวนจัดกีฬาเชิงท่องเที่ยวจ.ระยอง ...
27/09/2025

ระยอง จัด 'Rayong Log Jam 2025' แข่งกีฬา SUP Surfing-ดนครี เที่ยวกระตุ้นท่องเที่ยว- เชิญชวนจัดกีฬาเชิงท่องเที่ยว

จ.ระยอง เปิดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยว 'Rayong Log Jam 2025' จัดแข่ง SUP Surfing-คอนเสิร์ต หนุนกิจกรรมเชิงกีฬา-โปรโมทการท่องเที่ยวระยองให้เป็นที่รู้จักของ นทท.-พร้อมเชิญชวนจัดแข่งขันกีฬาเชิงท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 27 ก.ย.68 ที่บริเวณชายหาดอ่าวไข่ ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง นายกัฬชัย เทพวรชัย รอง ผวจ.ระยอง เป็นประธานเปิดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยว 'Rayong Log Jam 2025' ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง มีนายประสานต์ พฤกษาชาติ รองนายก อบจ.ระยอง นางกัญญ์ชลา สุขิตรกูล ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง นางจุฑารัตน์ ขาวคม ผช.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง นางจิระประภา เอี่ยวเจริญ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดระยอง นายคีรีวัฒน์ อ้นพร้อม ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง นางพิมพิงฟ้า โชคระพิณภัสส์อารยา รอง ผอ.ททท.สำนักงานระยอง พ.ต.ท.วิโรจน์ แก้วอนันต์ สวป.สภ.กร่ำ นางสุวรรณา โดตี้ รอง ปธ.สมาคมสมาพันธ์การท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (ภาคตะวันออก) นายวิรัตน์ มีทรัพย์ทอง นายกสมาคมการค้าท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อสุขภาพโดยชุมชน นางทรรศนีย์ เป้าหิรัญ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดระยอง และนางศิรินันท์ เตจ๊ะลือ นายกสมาคมร้านอาหารและเครื่องดื่มจังหวัดระยอง ร่วมเป็นเกียรติฯ และมีนักกีฬา SUP Surfing ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ภายในงานนอกจากจะมีการแข่งขันกีฬาเชิงท่องเที่ยว SUP Surfing และมอบรางวัลให้ผู้ชนะแล้ว ยังมีการแสดงดนตรีมินิคอนเสิร์ต เพื่อสร้างความสนุกให้ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมสนุก และการจำหน่ายอาหารทะเลปรุงสด และอาหารพื้นถิ่นอีกด้วย

ทั้งนี้งานดังกล่าว จัดขึ้นมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาในพื้นที่จังหวัดระยองให้มีความหลากหลาย รวมทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดระยองให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และเชิญชวนจัดแข่งขันกีฬาเชิงท่องเที่ยวอีกด้วย
Log Jam 2025
#กีฬาSUP Surfing-ดนครี

ศูนย์การค้าแพชชั่นฯ ระยอง ชวนมันส์! “Mayong Music Fest” รวมศิลปินดัง 15 พ.ย.นี้เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 กันยายน ที่ศ...
27/09/2025

ศูนย์การค้าแพชชั่นฯ ระยอง ชวนมันส์! “Mayong Music Fest” รวมศิลปินดัง 15 พ.ย.นี้

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 กันยายน ที่ศูนย์การค้าแพชชั่น ช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น ระยอง อ.เมือง จ.ระยอง คุณวิภาดา ล้วนแก้ว และคุณขจรศักดิ์ จงวิลัยเกษตร ผู้จัดงานคอนเสิร์ต เปิดแถลงข่าวการจัดงาน “Mayong Music Fest” ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป

ภายในงานพบกับทัพศิลปินชื่อดังมากมายที่จะมาสร้างความสนุกสุดมันส์ อาทิ LIPTA, Stamp, iBoss, Drama Stream, DJ Shockko และ DJ WARA พร้อมระบบแสง สี เสียงสุดอลังการเต็มรูปแบบ บรรยากาศกระหึ่มในฮอลล์ใหญ่ศูนย์การค้าแพชชั่นฯ ที่สามารถรองรับผู้ชมได้กว่า 3,000 คน

คุณวิภาดา ล้วนแก้ว ผู้จัดคอนเสิร์ต เปิดเผยว่า ตนและทีมงานเป็นคนที่ชื่นชอบการดูคอนเสิร์ต จึงอยากมอบประสบการณ์ความมันส์ให้ชาวระยองและพื้นที่ใกล้เคียงได้สนุกไปกับศิลปินคุณภาพท่ามกลางโปรดักชันจัดเต็ม

สำหรับบัตรเข้าชม มีโปรโมชั่นพิเศษ
บัตรเดี่ยว ราคา 790 บาท

บัตรคู่ “ฟิวแฟน” ราคา 1,499 บาท (จากปกติ 1,580 บาท) พร้อมรับฟรีเครื่องดื่ม 1 กระป๋อง

บัตรแก๊ง 4 ใบ ราคา 2,999 บาท (จากปกติ 3,160 บาท) พร้อมรับฟรีเครื่องดื่ม 4 กระป๋อง
สนใจสามารถซื้อบัตรได้ที่ คลิกที่นี่ https://line.me/R/ti/p/
Stream Shockko WARA Music Fest

ที่อยู่

ถนน หลังวัด
Rayong
21000

เบอร์โทรศัพท์

+66815729870

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ FocusRayongผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง FocusRayong:

แชร์

d2b

ครีเอเตอร์วีดีโอ