U-Car-Doll กำลังใจ ไอเดียใหม่ๆ ความคิดสร้างสรรค์ และความสนุก ทุกสิ่งที่เป็นเชิงบวกรวมอยู่ที่นี่

แจก prompt ทำภาพโมเดลแบบนี้ใน Gemini 2.5"Use the nano-banana model to create a 1/7 scale commercialized figure of the ch...
31/08/2025

แจก prompt ทำภาพโมเดลแบบนี้ใน Gemini 2.5

"Use the nano-banana model to create a 1/7 scale commercialized figure of the character in the illustration, in a realistic style and environment. Place the figure on a computer desk, using a circular transparent acrylic base without any text. On the iMac screen, display the Blender modeling process of the figure. Next to the computer screen, place a TAKARA-TOMY-style toy packaging box printed with the original artwork."

Brian May มือกีตาร์วง Queen (เล่นดนตรีกับ Freddy Mercury)จบป.ตรี mathematics and physics จาก Imperial Collegeและ ป.เอก P...
17/02/2025

Brian May มือกีตาร์วง Queen (เล่นดนตรีกับ Freddy Mercury)
จบป.ตรี mathematics and physics จาก Imperial College
และ ป.เอก PhD degree in astrophysics from Imperial College

https://en.wikipedia.org/wiki/Brian_May

Brian May เป็นนักศึกษาทางฟิสิกส์ดาราศาสตร์ และเล่นดนตรีในผับร่วมกับโรเจอร์เทเลอร์ และจอห์นเดียร์ค่อน โดยใช้ชื่อวงว่า Smile ก่อนจะรับ Freddy Mercury ร่วมวงแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น The Queen และได้เคย เล่นสดที่อิมพีเรียลคอลเลจลอนดอนด้วย

ต่อมาเมื่อวงเริ่มมีชื่อเสียง ไบรอันจึงจำเป็นหยุดการทำดุษฎีนิพนธ์ เพื่อไปสร้างวงดนตรีร็อคที่ดีที่สุดในโลกจนสำเร็จ

ในอัลบั้ม A Night at the Opera เขาได้แต่งเพลง '39 ซึ่งกล่าวถึงผลกระทบของการเดินทางเหนือแสงต่อการบิดเบี้ยวของเส้นเวลาตามทฤษฎีสัมพัทธภาพ (ต่อมาคริสโตเฟอร์ โนแลน ได้สร้างภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันคือเรื่อง Interstellar)

หลังการเสียชีวิตของเฟรดดี้เมอร์คิวรี่ ไบรอันได้กลับมา ศึกษาและทำดุษฎีนิพนธ์ต่อจนสำเร็จ จนได้รับปริญญาเอกทางด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2550

Sir Brian Harold May (born 19 July 1947) is an English musician, songwriter, record producer, animal welfare activist and astrophysicist. He achieved worldwide fame as the lead guitarist and backing vocalist of the rock band Queen, which he co-founded with singer Freddie Mercury and drummer Roger Ta...

ก้าวเล็ก ๆ ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ในกระบวนการโค้ช “One step at a time and keep constantly moving” สะท้อนแนวคิดสำค...
08/02/2025

ก้าวเล็ก ๆ ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ในกระบวนการโค้ช

“One step at a time and keep constantly moving”

สะท้อนแนวคิดสำคัญของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในกระบวนการโค้ชอย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนไม่ได้เกิดจากการทำทุกอย่างในคราวเดียว แต่คือ การก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องทีละขั้น แม้จะเล็กน้อย แต่เต็มไปด้วยความหมาย ลองพิจารณาแนวคิดสำคัญ 3 ข้อต่อไปนี้ที่สามารถนำไปใช้ในการโค้ชได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. การเปลี่ยนแปลงไม่จำเป็นต้องทำในคราวเดียว

การเปลี่ยนพฤติกรรมหรือการพัฒนาสิ่งใหม่มักเป็นเรื่องท้าทาย หากตั้งเป้าหมายให้ต้องสำเร็จในทันที อาจสร้างความเครียด ความกดดัน และความรู้สึกท้อแท้ให้โค้ชชี่ แต่หากแบ่งเป้าหมายออกเป็น ก้าวเล็ก ๆ หรือเป้าหมายย่อย จะช่วยให้โค้ชชี่รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ทำได้จริงและไม่เกินความสามารถ

เปรียบเทียบ:
การเปลี่ยนแปลงเหมือนการอ่านหนังสือเล่มหนา คุณไม่จำเป็นต้องอ่านจบในวันเดียว แต่เพียงอ่านทีละบท สุดท้ายคุณจะสามารถอ่านจบทั้งเล่มได้

คำถามโค้ช:
• “คุณคิดว่าเป้าหมายเล็ก ๆ ที่ทำได้วันนี้คืออะไร“
• “หากเราลองแบ่งเป้าหมายใหญ่ออกมา คุณอยากเริ่มจากส่วนไหนก่อน”

2. ความสม่ำเสมอสำคัญกว่าความรวดเร็ว

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต้องอาศัย ความสม่ำเสมอมากกว่าความรวดเร็ว เหมือนการเดินขึ้นบันไดทีละขั้น แม้จะใช้เวลา แต่คุณจะไปถึงจุดหมายได้อย่างมั่นคง การทำสิ่งเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่องจะสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ในระยะยาว

เปรียบเทียบ:
การเปลี่ยนแปลงเหมือนการปลูกต้นไม้ คุณต้องรดน้ำทุกวัน ต้นไม้ถึงจะเติบโตแข็งแรง การรดน้ำมากเกินไปในวันเดียวไม่สามารถทดแทนความสม่ำเสมอได้

คำถามโค้ช:
• “คุณสามารถเริ่มทำอะไรได้ทุกวันเพื่อก้าวสู่เป้าหมายของคุณ“
• “อะไรจะช่วยให้คุณเดินหน้าได้อย่างสม่ำเสมอในทุกวัน”

3. การสร้างความคิดแบบ Agile (Agile Mindset)

แนวคิดแบบ Agile เป็นหัวใจสำคัญในกระบวนการโค้ช หมายถึง การเปิดใจพร้อมรับความยืดหยุ่น ทดลอง และปรับตัว การก้าวเล็ก ๆ ช่วยให้โค้ชชี่เรียนรู้จากประสบการณ์และปรับเปลี่ยนวิธีการให้เหมาะสมโดยไม่รู้สึกว่าภาระหนักจนเกินไป

เปรียบเทียบ:
การเปลี่ยนพฤติกรรมเหมือนการสร้างโปรแกรมใหม่ คุณต้องทดลอง แก้ไข และปรับปรุงจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

คำถามโค้ช:
• “ถ้าสิ่งที่คุณลองทำไม่ได้ผล คุณจะปรับเปลี่ยนมันอย่างไร“
• “อะไรคือสิ่งเล็ก ๆ ที่คุณสามารถทดลองทำได้วันนี้”

การประยุกต์ใช้ในกระบวนการโค้ช

เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โค้ชสามารถใช้แนวทางเหล่านี้:
• ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ: ช่วยโค้ชชี่กำหนดเป้าหมายที่ทำได้จริงในระยะสั้น เพื่อสร้างความมั่นใจและแรงจูงใจ
• สร้างแรงจูงใจ: ช่วยให้โค้ชชี่มองเห็นความสำเร็จเล็ก ๆ ในแต่ละก้าว เพื่อเสริมพลังในการเดินหน้าต่อ
• ส่งเสริมการเรียนรู้: กระตุ้นให้โค้ชชี่สะท้อนถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้จากแต่ละก้าว เพื่อปรับปรุงและพัฒนาในครั้งต่อไป

ตัวอย่างคำถามโค้ช:
• “อะไรคือก้าวแรกที่จะช่วยให้คุณไปสู่เป้าหมายใหญ่ได้ง่ายขึ้น“
• “เมื่อมองย้อนกลับไป คุณเรียนรู้อะไรจากก้าวเล็ก ๆ ที่ผ่านมา”

กระบวนการโค้ชไม่ใช่การเร่งโค้ชชี่ให้เปลี่ยนแปลงในทันที แต่คือ การเดินทีละก้าวอย่างมั่นใจและสม่ำเสมอ การช่วยโค้ชชี่มองเห็นพลังของก้าวเล็ก ๆ และปรับตัวด้วยความคิดแบบ Agile จะทำให้การเปลี่ยนแปลงดูไม่ยากจนเกินไป

เพราะในที่สุดแล้ว ทุกการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ เริ่มต้นจากก้าวแรกเสมอ และในฐานะโค้ช เรามีหน้าที่ช่วยให้โค้ชชี่เชื่อมั่นในก้าวเล็ก ๆ ของตัวเอง พร้อมที่จะเดินหน้าต่ออย่างต่อเนื่องและมั่นคง

#สถาบันโค้ชไทย

เปรียบเทียบ AI Chatbots ชื่อดัง: ChatGPT, DeepSeek, Claude, และ Gemini
04/02/2025

เปรียบเทียบ AI Chatbots ชื่อดัง: ChatGPT, DeepSeek, Claude, และ Gemini

หนังสั้น Reality+ สำหรับคนชอบหนังแนววิทยาศาตร์ ต้องไม่พลาด https://youtu.be/91mBNofKBmo
03/02/2025

หนังสั้น Reality+
สำหรับคนชอบหนังแนววิทยาศาตร์ ต้องไม่พลาด https://youtu.be/91mBNofKBmo

เมื่อ AI สร้างคนโบราณให้กลับมามีชีวิต
02/02/2025

เมื่อ AI สร้างคนโบราณให้กลับมามีชีวิต

2.5M followers, 6.6M likes, 57.3K comments

Chulalongkorn University ในฐานะพันธมิตรหนึ่งเดียวจากประเทศไทยของ World Economic Forum ของการทำวิจัย Future of Jobs 2025 ...
09/01/2025

Chulalongkorn University ในฐานะพันธมิตรหนึ่งเดียวจากประเทศไทยของ World Economic Forum ของการทำวิจัย Future of Jobs 2025 ได้เผยทักษะสำคัญที่จะมีบทบาทในการทำงานปี 2030 รวมทั้งชี้ความแตกต่างระหว่างไทย-โลกที่มีนัยน่าสนใจ

จากข้อมูลที่ ศาสตราจารย์ ดร. วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้นำเสนอนั้น พบว่า Fastest Growing Skills 2030 ของไทยและทั่วโลกนั้นมีความสอดคล้องกันเป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีแตกต่างกันในรายละเอียดในเรื่องลำดับ หรือบางทักษะที่ถูกให้ความสำคัญต่างไป

🔥 ทักษะด้าน AI & Big Data ทะยานขึ้นเป็นทักษะแรกที่ถูกมองว่าจะมีความสำคัญสูงขึ้นมากที่สุด ซึ่งก็อยู่ในลำดับเดียวกันลำดับของทั่วโลก

🔥 กลุ่มทักษะสำคัญในลำดับบนจะผสมกันระหว่าง Cognitive Skills และ Technology Skills โดยในผลสำรวจระดับโลกนั้นจะเน้นไปที่ด้าน Technology มากกว่า

🔥ทักษะใหม่ที่กลุ่มตัวอย่างในไทยให้ความสำคัญและเพิ่มเข้ามาในการทำวิจัยรอบนี้คือ Network and Cybersecurity, Empathy and active listening และ Motivation and self awareness (สองทักษะหลังไม่ปรากฎใน Top 10 ผลวิจัยของทั่วโลก)

🔥 กลุ่มทักษะที่ถูกให้ความสำคัญของคนไทยจะเน้นไปที่ Head Skills และ Heart Skills ในขณะที่ถ้าเป็นของทั่วโลกจะมีมุมมองของการเป็น Hand Skills และ Head Skills

มิตรภาพ..ชั่วนิรันดร์
04/12/2024

มิตรภาพ..ชั่วนิรันดร์

#ไวรัลวันนี้ มาจากประเทศอังกฤษค่ะ

1- เมื่อปี 1972 เด็กสาววัย 17 ปี 4 คน คือ มาเรียน, ซู, แครอล และแมรี่ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน พากันไปเที่ยวเมืองทอร์คีย์ เมืองชายทะเลของอังกฤษ

2- วันนั้นพวกเธอมีความสุขกันมาก และถ่ายรูปไว้หลายรูป แต่มีอยู่รูปหนึ่งที่พวกเธอชอบมากที่สุด นั่นก็คือรูปนี้

3- พวกเธอเอาแต่พูดว่า “สักวันเราจะไปเที่ยวทอร์คีย์ด้วยกันอีก และถ่ายรูปแบบนี้ด้วยกันอีกนะ” แต่พวกเธอก็ไม่เคยได้กลับไปที่นั่นจริง ๆ เสียที

4- เวลาผ่านไปหลายปี พวกเธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ กลายเป็นภรรยา เป็นแม่ เป็นคุณย่าคุณยาย บางคนหย่าร้าง บางคนสูญเสียคู่ชีวิต พวกเธออยู่เคียงข้างกัน ก้าวผ่านช่วงเวลาทั้งดีและร้ายมาด้วยกัน

5- กระทั่งในปี 2024 เด็กสาววัย 17 ในวันนั้นกำลังจะอายุ 70 แล้ว พวกเธอคิดว่า ”ถ้าเราไม่กลับไปถ่ายรูปที่ทอร์คีย์ด้วยกันตอนนี้ แล้วจะได้ไปตอนไหนล่ะ เราอาจจะตายปีหน้าแล้วก็ได้นะ“

6- ตุลาคม 2024 มาเรียน, ซู, แครอล และแมรี่ กลับไปเที่ยวทอร์คีย์ด้วยกันอีกครั้ง พวกเธอเตรียมเสื้อผ้าคล้ายชุดที่เคยใส่เมื่อ 52 ปีที่แล้วไปด้วย และรีครีเอทรูปนี้ด้วยกันอีกครั้ง

7- สามีของแครอลส่ง 2 รูปนี้ไปตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น และมันกลายเป็นไวรัลในอังกฤษ มิตรภาพที่เหนียวแน่นของพวกเธอสร้างความประทับใจและแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากมาย แม้แต่ CNN ยังต้องโทรมาสัมภาษณ์สาว ๆ แก๊งนี้

8- “ฉันไม่เห็นความแตกต่างของ 2 ภาพนี้เลย ฉันเห็นแต่เด็กสาววัย 17 สี่คน ที่สดใสและมีความสุขเท่านั้น” คอมเมนต์หนึ่งกล่าว

🎯10 ข้อคิด จากหนังสือ "51 วิธีคิดของหัวหน้าที่ลูกน้องอยากทำงานด้วย"1. การให้ก่อนที่จะได้รับ หัวหน้าที่ดีไม่ได้คาดหวังแค่...
26/10/2024

🎯10 ข้อคิด จากหนังสือ "51 วิธีคิดของหัวหน้าที่ลูกน้องอยากทำงานด้วย"

1. การให้ก่อนที่จะได้รับ

หัวหน้าที่ดีไม่ได้คาดหวังแค่ความสำเร็จจากลูกน้อง แต่พร้อมที่จะเป็นคนให้คำแนะนำ ให้การสนับสนุน และช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จไปด้วยกัน การให้กำลังใจและการมองเห็นคุณค่าของทีมจะทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาเป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จนั้น

2. ฟังด้วยใจ ไม่ใช่แค่หู

การฟังอย่างลึกซึ้งเป็นหนึ่งในทักษะที่หัวหน้าที่ดีต้องมี ลูกน้องอยากได้ยินว่าเสียงของพวกเขามีค่า และหัวหน้าที่ฟังด้วยความเข้าใจจะสามารถรับมือกับปัญหาและข้อเสนอแนะได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. สื่อสารอย่างโปร่งใส ชัดเจน และตรงประเด็น

หัวหน้าที่ดีไม่ใช่แค่ให้คำสั่ง แต่ต้องสื่อสารด้วยความชัดเจน ความตรงไปตรงมา ไม่ปิดบังข้อมูลหรือความคาดหวัง ลูกน้องจะทำงานได้ดีขึ้นเมื่อพวกเขารู้ว่าเป้าหมายคืออะไร และวิธีการที่ถูกต้องในการไปถึงมัน

4. สร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเติบโต

สถานที่ทำงานที่ดีไม่ใช่แค่มีบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ต้องเป็นที่ที่พนักงานรู้สึกว่าพวกเขาสามารถเติบโตได้ มีอิสระในการแสดงความคิดสร้างสรรค์ และได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้าเสมอ

5. ให้คำชมอย่างสม่ำเสมอ

ลูกน้องต้องการการยอมรับและคำชมเชยเมื่อทำงานได้ดี หัวหน้าที่รู้จักให้คำชื่นชมเมื่อเห็นผลงานที่ดีจะช่วยให้พนักงานรู้สึกมั่นใจและมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น

6. จัดการความขัดแย้งอย่างชาญฉลาด

ความขัดแย้งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุกทีม แต่หัวหน้าที่ดีรู้ว่าจะจัดการอย่างไรให้ความขัดแย้งนั้นกลายเป็นโอกาสในการพัฒนาทีม การเผชิญหน้ากับปัญหาและการหาทางแก้ไขที่ดี จะช่วยให้ทุกคนเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน

7. นำด้วยตัวอย่าง

หัวหน้าที่ดีไม่ใช่แค่สั่งงาน แต่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงาน ความมีวินัย ความมุ่งมั่น และความตั้งใจที่หัวหน้าแสดงออก จะทำให้ทีมยอมรับและเต็มใจที่จะทำตาม

8. สร้างความไว้วางใจให้กับทีม

ความไว้วางใจเป็นสิ่งที่ต้องสร้างอย่างต่อเนื่อง หัวหน้าที่เปิดเผย ซื่อสัตย์ และเคารพความคิดเห็นของลูกน้อง จะสร้างความไว้วางใจที่มั่นคงในทีม และทำให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

9. การเป็นหัวหน้าคือการเป็นผู้นำ ไม่ใช่ผู้ควบคุม

การสั่งการและควบคุมอย่างเดียวไม่ได้ทำให้คุณเป็นหัวหน้าที่ดี หัวหน้าที่ดีคือผู้นำที่สนับสนุนลูกน้อง ช่วยให้พวกเขาเติบโต และสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกัน

10. การปรับตัวและพัฒนาอยู่เสมอ

โลกของการทำงานเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หัวหน้าที่ดีต้องไม่หยุดที่จะเรียนรู้และปรับตัว การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องจะทำให้หัวหน้าสามารถนำทีมไปสู่ความสำเร็จได้ในทุกสถานการณ์

หัวหน้าไม่ใช่แค่ผู้สั่งงาน แต่เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างทีมที่แข็งแกร่งและมีความสุข การนำแนวคิดทั้ง 10 ข้อนี้ไปปรับใช้จะช่วยให้คุณเป็นหัวหน้าที่ลูกน้องรักมากขึ้น และอยากทำงานด้วยเสมอ

หากคุณต้องการเป็นหัวหน้าที่ลูกน้องรักมากขึ้น ลองอ่านเล่มนี้ดู

ที่อยู่

Rayong
21000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ U-Car-Dollผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์