หนังสือพิมพ์ เพื่อปวงชน, วัดมาบตาพุด, Rayong (2025)

Q: ที่อยู่อะไร?

วัดมาบตาพุด

25/11/2025

#ไออาร์พีซี สนับสนุนประเพณีท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 น.ส.ตรีนุช บุญคุณ เจ้าหน้าที่บริหารเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี และชุมชนสัมพันธ์ ร่วมกิจกรรมและมอบเงินสนับสนุนงบประมาณโครงการแข่งขันเรือพายประจำปีตำบลเชิงเนิน โดยมีนายประเชิญ เห่งยี่ นายกเทศมนตรีตำบลเชิงเนิน เป็นผู้รับมอบและประธานในการเปิดงาน ณ ศาลาสุชินธรรมเจริญ ม.5 ต.เชิงเนิน โดยจัดการแข่งขันเรือพาย ประเภท 7 ฝีพาย และการแข่งขันพายเรือ ประเภท หัวใบ้ท้ายบอด ณ บริเวณแม่น้ำระยอง ระหว่างวันที่ 22 - 23 พฤศจิกายน 2568 มีประชาชนตำบลเชิงเนิน ทั้ง 7 หมู่บ้าน ร่วมส่งทีมเข้าแข่งขัน จำนวน 20 ทีม โครงการแข่งขันเรือพายประจำปีตำบลเชิงเนิน เป็นโครงการเพื่ออนุรักษ์ สืบสาน ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม เสริมสร้างความสามัคคีของชุมชน ส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

ไออาร์พีซี มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยความห่วงใย แบ่งปัน และใส่ใจ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนตลอดไป

25/11/2025

จัดโครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “GULF” นำโดย นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร พนักงาน จัดพิธีอุปสมบทหมู่พนักงานกลุ่มบริษัทกัลฟ์ จำนวน 64 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย โดยมี พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าคณะภาค 11 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร

สำหรับโครงการอุปสมบทหมู่ จาริกแดนพุทธภูมิสังเวชนียสถานของกลุ่มบริษัทกัลฟ์ จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย โดยมีคณะผู้บริหารและพนักงานกลุ่มบริษัทกัลฟ์ เข้าร่วมอุปสมบทจำนวน 64 รูป และมีอุบาสก อุบาสิกา จำนวน 30 คน ที่จะร่วมปฏิบัติธรรม – ศึกษาพระธรรมวินัย ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีการสวดพระพุทธมนต์เจริญภาวนาถวาย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร

หลังจากนั้นคณะจะเดินทางจาริกไปยังแดนพุทธภูมิสังเวชนียสถาน 4 แห่ง ประเทศอินเดียและเนปาล ได้แก่ สถานที่ประสูติ ‘สวนลุมพินีวัน’ สถานที่ตรัสรู้ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ‘พุทธคยา’ สถานที่แสดงปฐมเทศนาธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ‘สารนาถ’ และสถานที่ปรินิพพาน ‘กุสินารา’ ระหว่างวันที่ 23 พ.ย. - 5 ธ.ค. 2568

กลุ่มบริษัทกัลฟ์ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และร่วมธำรงรักษาพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่สังคมไทย
# # #

25/11/2025

มอบเงิน 1.3 ล้านบาท ช่วยเหลือทหารเหยียบกับระเบิด พื้นที่ห้วยตามาเรีย ชายแดนไทย – กัมพูชา จ.ศรีสะเกษ

บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF นำโดย นายสิตมน รัตนาวะดี ผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เยี่ยมให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดในขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 4 ราย ได้แก่ จ่าสิบเอก เทิดศักดิ์ สมาพงษ์ ที่ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าขวาท่อนล่างขาด รวมถึง พลทหาร วชิระ พันธนา, พลทหาร อภิรักษ์ ศรีชมไชย และ พลทหาร อนุชา สุจารี ที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1.3 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้มาจาก ‘กองทุน 100 ล้านบาท’ ที่ GULF จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมี พันเอก สุรังค์ วิทยาวงศรุจิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ให้การต้อนรับ ณ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี

นายสิตมน รัตนาวะดี ผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หลังจากได้ทราบข่าวพี่ ๆ ทหารแนวหน้าได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ผมรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก ภารกิจที่พวกเขาทำเพื่อปกป้องประเทศคือหน้าที่ที่หนักและเสี่ยง แต่เต็มไปด้วยความเสียสละ ผมจึงตั้งใจเดินทางมาเยี่ยมด้วยตัวเอง พร้อมกับมอบเงินเช่วยเหลือจากกองทุน 100 ล้านบาทที่ GULF ได้จัดตั้งขึ้น เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่เหล่าพี่ ๆ ทหาร และครอบครัวให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเข้มแข็ง”

สำหรับกองทุน 100 ล้านบาท ที่ GULF ได้จัดตั้งเพื่อช่วยเหลือและเยียวยาทหารที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปัจจุบันได้มอบเงินเยียวยาให้ครอบครัวทหารกล้าที่สละชีวิตแล้วรวม 17 ครอบครัว ครอบครัวละ 1 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 17 ล้านบาท ทั้งยังได้ช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บไปแล้วรวม 10.5 ล้านบาท และมอบเครื่องมือทางการแพทย์มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี รวมยอดการช่วยเหลือจากกองทุนแล้วกว่า 30 ล้านบาท

นอกจากภารกิจมอบเงินช่วยเหลือกองทุน 100 ล้านบาท GULF ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากภารกิจความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการมอบถุงยังชีพ ‘GULF Care’ จำนวนกว่า 2,000 ชุด แก่ทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบในศูนย์พักพิงตามจังหวัดต่าง ๆ การสนับสนุนงบประมาณให้ศูนย์พักพิง รวมถึงการผนึกกำลังกับบริษัทในเครือ เพื่อนำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารและดาวเทียมมาช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น GULF มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยเชื่อว่าความมั่นคงของชาติจะเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง
# # #

25/11/2025

GC จับมือ กระทรวง อว. ต่อยอด โครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” สู่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สร้างเครือข่าย คนรุ่นใหม่ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำอาเซียน

กรุงเทพฯ – 14 พฤศจิกายน 2568 – บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล และผู้ผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) เชิงพาณิชย์รายแรกของไทย ประกาศความร่วมมือกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในโครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” เพื่อขยายจุดรวบรวมน้ำมันพืชใช้แล้ว (Used Cooking Oil: UCO) สู่เครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ มุ่งสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ คนรุ่นใหม่ในการขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ ความร่วมมือนี้ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการนำร่องในช่วงเดือนสิงหาคม - ตุลาคม 2568 โดย GC ร่วมกับภาคีเครือข่าย ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิลและพันธมิตรกว่า 22 แห่งในจังหวัดระยองและจังหวัดใกล้เคียง สามารถรวบรวม UCO ได้ 7.09 ตัน นำไปผลิตเป็น SAF ได้ 1.75 ตัน สร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชนกว่า 215,000 บาท และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 5,654.98 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า การขยายความร่วมมือสู่สถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศครั้งนี้ จึงนับเป็นก้าวสำคัญในการขยายเครือข่ายจุดรับคืน UCO จากปัจจุบันที่มีอยู่ 56 แห่งทั่วประเทศ ให้ครอบคลุมและเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการจัดการของเสียอย่างเป็นระบบตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และสนับสนุนเป้าหมายผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น "ศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำ ของอาเซียน" (ASEAN Low-Carbon Aviation Hub) ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า “กระทรวง มีนโยบายขับเคลื่อน “มหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University)” โดยให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งทั่วประเทศมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมาย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล การผนึกกำลังกับ GC ครั้งนี้สอดคล้องกับภารกิจสร้างความตระหนักรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดย อว. จะสนับสนุนการขยายจุดรวบรวม UCO ไปยังเครือข่ายมหาวิทยาลัย เบื้องต้นตั้งเป้านำร่องกว่า 20 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ซึ่งจะประเมินตามความพร้อมของแต่ละสถาบันต่อไป นี่คือการสร้างต้นแบบการจัดการของเสียในสถาบันอุดมศึกษาที่จะขยายผลสู่สังคมวงกว้าง”
คุณณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GC เปิดเผยว่า “GC เชื่อมั่นในพลังของคนรุ่นใหม่และสถาบันการศึกษา ความร่วมมือกับกระทรวง อว. วันนี้ คือการนำศักยภาพของ GC ในการเปลี่ยนน้ำมันพืชใช้แล้วให้เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงอย่าง SAF มาผสานกับเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษา เพื่อมุ่งสร้างคุณค่าร่วม (Creating Shared Value) ระหว่างภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษา และชุมชน อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเราไม่เพียงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่กำลังสร้างวัฒนธรรมแห่งความยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริงในกลุ่มเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไป”
ภายใต้ความร่วมมือนี้ GC และ กระทรวง อว. จะร่วมกันส่งเสริมการจัดตั้งจุดรวบรวม UCO ในมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีจัดการน้ำมันพืชใช้แล้ว ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อขยายพลังแห่งความยั่งยืนจากภาคอุตสาหกรรมสู่สถาบันการศึกษา และสร้างแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ประเทศไทยก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero และเป็นศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำของอาเซียน
โครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโรงกลั่นชีวภาพ (Biorefinery) ของ GC ที่สามารถผลิตได้ทั้ง SAF เคมีภัณฑ์ชีวภาพ (Biochemicals) และพลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) ซึ่งสามารถต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์หลากหลายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน สะท้อนความมุ่งมั่นของ GC ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และสร้างความแตกต่างอย่างยั่งยืน

23/11/2025

#สระบุรี - สถานพินิจฯจังหวัดสระบุรี จัดกิจกรรม1สถานพินิจ6สถานศึกษา เริ่มที่โรงเรียนหนองโดนวิทยา เป็นโรงเรียนแห่งแรก

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ที่โรงเรียนหนองโดน อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี นายสุภกฤษ นิติชูวงศ์ ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวนจังหวัดสระบุรีได้มอบหมายให้นางสิริรัชนีญ์ พรมจันทร์ นักจิตวิทยาคลินิกชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งนักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพชำนาญการพิเศษ หัวหน้าสถานแรกรับเด็กและเยาวชนจังหวัดสระบุรี พร้อมคณะเจ้าหน้าที่และกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสำหรับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสระบุรีและเครือข่ายการทำงานเข้าร่วมในการจัดโครงการ 1 สถานพินิจ6สถานศึกษา ตามโครงการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในการป้องกันปัญหาพฤติกรรมและกระทำผิดของเด็กและเยาวชน กิจกรรมเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงและเสริมสร้างปัจจัยปกป้องให้กับนักเรียนภายใต้ใครงการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในการป้องกันปัญหาพฤติกรรมและการกระทำผิด ของเด็กและเยาวขน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันปัญหาพฤติกรรมและการกระทำผิดของเด็กและเยาวขนที่เข้าร่วมกิจกรรม และเพื่อให้เกิดกลไกการดำเนินงานด้านการป้องกันปัญหาพฤติกรรมและการกระทำผิดในสถานศึกษา ซึ่งกำหนดดำเนินกิจกรรม ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2568 ถึงเดือนมกราคม 2569 ในกิจกรรมได้เชิญวิทยากรมาบรรยายโดยนายวิเชียร บุญสืบวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการและเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี(นายสัญญา บุญ-หลง) บรรยายให้คำแนะนำ“พฤติกรรมและการคำเนินชีวิตของนักเรียน” ร.ต.อ.สราวุธ เกษแจ่ม รอง สวป.สภ.บ้านหมอ บรรยายกิจกรรมกลุ่มให้ความรู้ในเรื่อง“กฎหมายสู่จิตใจ:สร้างวินัยด้านคอร์รัปชัน” นายตรีณรงค์ ปั้นหุ่น นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการโรงพยาบาลหนองโดน บรรยายกิจกรรมกลุ่มให้ความรู้ในเรื่อง“การรู้เท่าทันและห่างไกลจากยาเสพติด” นางสาวลักษิกา พระอภัยวงค์ หัวหน้าส่วนป้องกันสงเคราะห์และประสานเครือข่ายสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสระบุรี บรรยายให้ความรู้ในเรื่อง“ปัจจัยปกป้องการกระทำความผิด ตามหลักการมีชีวิตที่ดี(Good Life Model) ประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจร่วมกับโรงเรียนในเรื่อง การช่วยเหลือนักเรียนG
********
กฤษฎา สมมาตร รายงาน

23/11/2025

#แรงงานจังหวัดสระบุรี จัดประชุมมอบหมายงานและพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการด้านแรงงานของอาสาสมัครแรงงานจังหวัดสระบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.30 น. นายนาฏราช ธงศรี แรงงานจังหวัดสระบุรี เป็นประธานการประชุมมอบหมายงานและพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการด้านแรงงานของอาสาสมัครแรงงานจังหวัดสระบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 (อาสาสมัครแรงงานในพื้นที่อำเภอพระพุทธบาท อำเภอบ้านหมอ อำเภอหนองโดน อำเภอดอนพุด และอำเภเฉลิมพระเกียรติ) ณ เทศบาลตำบลหนองแก ตำบลหนองแก อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เพื่อให้อาสาสมัครแรงงานได้มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถปฏิบัติภารกิจด้านแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มพูนทักษะการให้บริการด้านแรงงานในพื้นที่ นอกจากนี้ได้ให้ความรู้ในการป้องกันไม่ให้ถูกหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย
โดยในที่ประชุมได้ยืนสงบนิ่งถวายความอาลัยเป็นเวลา 93 วินาที แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมทั้ง ทีมงานกระทรวงแรงงานและอาสาสมัครแรงงานในพื้นที่ จำนวน 60 คน ร่วมดื่มนมโคแท้ 100% อร่อยและดี เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพ และสนับสนุนกิจการโคนมของจังหวัด ให้สอดคล้องกับโครงการสระบุรีแซนด์บ็อกซ์ (SANDBOX) กินได้ คุณภาพชีวิตดี คนสระบุรีไม่ทอดทิ้งกัน
สำหรับอาสาสมัครแรงงาน มีหน้าที่เป็นสื่อกลางประชาสัมพันธ์ความรู้ด้านแรงงาน ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และการป้องกันการถูกหลอกลวง รวบรวมข้อมูลความเคลื่อนไหวด้านแรงงาน และประสานงานระหว่างประชาชนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายบริการครอบคลุมทุกพื้นที่ สำหรับจังหวัดสระบุรีมี 13 อำเภอ 111 ตำบล โดยมีอาสาสมัครแรงงาน 111 คน ครอบคลุมทุกพื้นที่ทุกตำบล

ทั้งนี้ สำนักงานแรงงานจังหวัดสระบุรี ได้ลงพื้นที่จัดประชุมรูปแบบสัญจรให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในจังหวัดสระบุรี รวม 4 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอเสาไห้ และอำเภอหนองแซง
ครั้งที่ 2 วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 อำเภอพระพุทธบาท อำเภอบ้านหมอ อำเภอหนองโดน อำเภอดอนพุด และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ
ครั้งที่ 3 วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 อำเภอแก่งคอย อำเภอมวกเหล็ก และอำเภอวังม่วง
ครั้งที่ 4 วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 อำเภอหนองแค และอำเภอวิหารแดง
******
กฤษฎา สมมาตร รายงาน

18/11/2025

#สมาคมเพื่อนชุมชน เปิดคอร์สติวเข้มสานต่อ “เพื่อนชุมชนติวเตอร์” ปีที่ 15 สร้างโอกาสทางการศึกษา พลิกอนาคตเยาวชนระยองร่วมพัฒนาบ้านเกิด

#ระยอง – 18 พฤศจิกายน 2568 – สมาคมเพื่อนชุมชน องค์กรภาคเอกชนต้นแบบ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนระยองอย่างต่อเนื่อง จัดโครงการ “เพื่อนชุมชนติวเตอร์” ปีที่ 15 ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “ACCELERATE TO THE NEXT STEP! เร่งฝีเท้า เข้าสู่เส้นชัย สู่ก้าวใหม่ของชีวิต” เพื่อเพิ่มศักยภาพเยาวชน เตรียมความพร้อมสู่การสอบเข้ามหาวิทยาลัย (TCAS) อย่างเท่าเทียม โดยมี นายศักดาวุธ ศักดิเศรษฐ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระยอง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดร่วมกับ ดร.พิเชษฐ์ ตั้งปัญญารัช อุปนายกสมาคมเพื่อนชุมชน โดยในงานมี Guest Speaker มาพูดคุยสร้างแรงบันดาลใจ “ก้าวสู่เส้นชัย มหาวิทยาลัยในฝัน” และจัดติวเข้ม 7 สาขาวิชาทั้งรูปแบบ Onsite และ Online เปิดโอกาสเยาวชนระยองและทั่วประเทศร่วมกิจกรรม ณ ศูนย์การค้าแพชชั่น ช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น จังหวัดระยอง
ดร.พิเชษฐ์ ตั้งปัญญารัช อุปนายกสมาคมเพื่อนชุมชน เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 15 ปี (2554–2568) โครงการ “เพื่อนชุมชนติวเตอร์” ของสมาคมเพื่อนชุมชน ยังคงเดินหน้าสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชนในจังหวัดระยองอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งยกระดับความพร้อมของนักเรียนในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย (TCAS) ผ่านการติวเข้มจากทีมติวเตอร์และผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ ครอบคลุม 7 กลุ่มสาระวิชา โดยตลอด 15 ปีที่ผ่านมา มีเยาวชนที่ได้เข้ารับการติวมาแล้วกว่า 45,000 คน
“ปี 2568 สมาคมเพื่อนชุมชนได้ก้าวสู่มิติใหม่ของการเรียนรู้ ด้วยการปรับรูปแบบโครงการเป็น Hybrid Learning ผสานการเรียนในห้องเรียนเข้ากับระบบออนไลน์ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของเยาวชนยุคดิจิทัล และแนวโน้ม Digital Transformation ทางการศึกษาที่เปิดกว้างและเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น” ดร.พิเชษฐ์ กล่าว
นอกจากการติวเข้มเพื่อเตรียมสอบ TCAS แล้ว สมาคมเพื่อนชุมชนยังให้ความสำคัญกับการแนะแนวศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา และการสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เยาวชน โดยมอบทุนการศึกษาปริญญาตรีต่อเนื่อง ทุนสนับสนุนบุคลากรด้านสาธารณสุข และทุนระดับ ปวช.ต่อเนื่อง เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ปูเส้นทางอาชีพที่มั่นคงอย่างเท่าเทียม และลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม
ทั้งนี้ ทางสมาคมเพื่อนชุมชน ได้มีการเชิญนักแสดงและอินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ อาทิ คุณโอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ (ศิษย์เก่าคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) และคุณนัททยา เพ็ชรวัฒนา มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และกลยุทธ์เตรียมสอบ TCAS69 รวมถึงการติวภาษาอังกฤษกับครูพี่หนู – กฤติกา ปาลกะวงศ์ เพื่อสร้างทั้งองค์ความรู้และแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนระยองได้ก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นใจ
สมาคมเพื่อนชุมชน มุ่งมั่นเดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนจังหวัดระยอง รวมถึงเยาวชนจากพื้นที่อื่น ๆ ที่เข้าร่วมผ่านระบบออนไลน์ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่อนาคตอย่างมั่นใจ สมาคมฯ เชื่อมั่นว่าการศึกษาคือรากฐานสำคัญของการพัฒนาชุมชนและประเทศ ขอเป็นกำลังใจให้เยาวชนทุกคนได้นำความรู้ที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา และการนำความรู้กลับมาพัฒนาชุมชนของตนเอง เพื่อร่วมสร้าง “บ้านน่าอยู่ สังคมยั่งยืน” อย่างแท้จริง
นายศักดาวุธ ศักดิเศรษฐ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระยอง กล่าวเสริมว่า “โครงการเพื่อนชุมชนติวเตอร์ที่ดำเนินต่อเนื่องกว่า 15 ปี ไม่เพียงสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชนระยองทั้งในระดับอุดมศึกษา อาชีวศึกษา และหลักสูตรด้านสาธารณสุขให้กับเยาวชนพื้นที่ในจังหวัดระยอง แต่ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและพัฒนาจังหวัดอย่างยั่งยืนเนื่องจากเยาวชนสามารถนำความรู้กลับมาประกอบอาชีพและพัฒนาจังหวัดระยองได้ ผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วนและการเรียนรู้ที่เข้าถึงได้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ส่งผลให้เยาวชนมีส่วนร่วมและเข้าถึงระบบการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมเพิ่มขึ้นทุกปี”

17/11/2025

#สระบุรี - “ส.ส.อั๋น”ประธานทอดผ้าป่าพัฒนาการศึกษา ร.ร.วัดพระพุทธบาทน้อยมิตรภาพที่69
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 ที่โรงเรียนวัดพระพุทธบาทน้อยมิตรภาพที่69 พระครูนิทัศนศีลโสภิต เจ้าคณะตำบลสองคอน ประธานฝ่ายสงฆ์ นายอรรถพล วงษ์ประยูร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรีเขต2 ประธานฝ่ายฆราวาสพร้อมด้วยนายจิรัญชัย อาทิตย์นพชัย นายอำเภอแก่งคอย รองประธานฝ่ายฆราวาส นายนิวัฒน์ วงค์สวาสดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพระพุทธบาทน้อยมิตรภาพที่69 นายสุชาติ แก้วกล้า กำนันตำบลสองคอน นายดำริห์ กาวิละ ผู้ใหญ่บ้านหมู่10 ตำบลสองคอน นายภูตะวัน เทียนกระจ่าง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารครู อาจารย์ กรรมการสถานศึกษาขัันพื้นฐาน ผู้ทรงคุณวุฒิ อดีตข้าราชการครูและศิษย์เก่าโรงเรียนวัดพระพุทธบาทมิตรภาพที่69 ประชาชนในพื้นที่ตำบลสองคอน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี มาร่วมทำบุญครบรอบ 78 ปี โรงเรียนวัดพระพุทธบาทมิตรภาพทีี 69 และร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าเพื่อพัฒนาการศึกษาจัดจ้างครูและบุคลากร พัฒนาสถานที่ของโรงเรียน
*********
กฤษฎา สมมาตร รายงาน

15/11/2025

💥 #รีบจองเลย...ได้รถก่อนปีใหม่ กับราคาสุดคุ้ม
New Hilux TRAVO & New Hilux Travo-e BEV
แกร่ง ล้ำ หน้าทุกเส้นทาง พร้อมขุมพลังใหม่สุดเท่
⚡🔥 #รับจองแล้ว ที่ #โตโยต้าวิชั่น
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร. 038-915-777
📱สอบถามรถใหม่หรือนัดหมายเข้าศูนย์บริการ
https://lin.ee/hVqHsag
📱สอบถามต่อประกัน/ตัวถังและสี
https://lin.ee/nWxzeIo
📱สอบถามโปรโมชั่นศูนย์บริการ
https://lin.ee/r25dFgz
📱สอบถามอะไหล่
https://line.me/ti/p/VuhPXqgrHA
📍เส้นทาง : https://goo.gl/maps/2wTi6W5UWzPJC7Ye6
#โตโยต้าวิชั่นเปิดให้บริการคุณลูกค้าทุกวัน
📍เวลา 08.00 น.-17.00 น.
*
#โตโยต้าวิชั่น

14/11/2025

#เทศบาลตำบลทับมา จัดกิจกรรม 'Dementia Café' มุ่งส่งเสริมสร้างเครือข่ายสัมพันธภาพของครอบครัวและผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 พ.ย.68 นายสุทิน แก้วประถม นายกเทศมนตรีตำบลทับมา เป็นประธานเปิดโครงการสร้างเครือข่ายและสัมพันธภาพของครอบครัวและผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม ผ่านกิจกรรม 'Dementia Café' ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2569 ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์บริการและฟื้นฟูสำหรับผู้สูงอายุในชุมชน เทศบาลตำบลทับมา มี น.ส.เรวีญา ขจิตเนติธรรม ปลัดเทศบาลตำบลทับมา พร้อมผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการเทศบาลตำบลทับมา ร่วมเป็นเกียรติฯ โดยโครงการดังกล่าวได้มีการนำผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมร่วมกิจกรรมสันทนาการผ่อนคลายความเครียด และกิจกรรมเสริมสร้างให้ความรู้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ เพื่อเพิ่มความเข้าใจการดูแลอย่างถูกวิธี และการพบปะพูดคุยระหว่างผู้ดูแลและครอบครัว เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนและสร้างเครือข่ายสนับสนุนสร้างสัมพันธภาพของครอบครัวและผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมดังกล่าว โดยได้พาผู้สูงอายุ เดินทางร่วมกิจกรรมนอกสถานที่ ณ มาร์กาเร็ต ไพรเวท วิลล่า คาเฟ่ ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง โดยชวนผู้สูงอายุทำกิจกรรม 'ดองน้ำเลม่อนน้ำผึ้ง' ชื่นชม ดมกลิ่น-เลม่อนน้ำผึ้ง' กิจกรรมฟื้นฟูสมอง 'คำถามเชาว์ปัญญา' กระตุ้นสมอง และ 'กิจกรรมผู้บริหารพบผู้สูงอายุ'

สำหรับโครงการ 'Dementia Café' ของเทศบาลตำบลทับมาจัดขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม รวมถึงผู้ดูแลและคนในครอบครัวสามารถรับรู้ปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุ พร้อมทั้งมีโอกาสร่วมกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียด และสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมต่อไป

14/11/2025

#สระบุรี -รมช.ศึกษาเปิดโครงการลูกเสือจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ "ทำดี ทำได้ ทำทันที" ที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 นายองอาจวงษ์ประยูร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดกิจกรรมลูกเสือจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ ทำดี ทำได้ ทำทันที ครั้งที่ 2/2568 ที่บริเวณโรงเรียนอนุบาล
พระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีโดยมีข้าราชการ บุคลากรทางการศึกษาคณะลูกเสือจากโรงเรียนต่างๆ พร้อมบุคลากรจาก สพป.สระบุรี เขต 1 สพป.สระบุรี เขต 2 สพม.สระบุรี สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดสระบุรี สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดสระบุรี กองการศึกษาเทศบาลเมืองแก่งคอย ศึกษาธิการจังหวัดสระบุรี สำนักงานลูกเสือแห่งชาติโรงเรียนอนุบาลวัดพระพุทธบาดพระพุทธบาท เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ประมาณ 1,000 คน พร้อมเยี่ยมชมบูธกิจกรรมที่หน่วยงานและโรงเรียนต่างๆนำผลงานมาแสดง โดยก่อนเริ่มกิจกรรมรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้นำคณะลูกเสือ และผู้บังคับบัญชาถูกเสือ คณะผู้บริหาร ร่วมกิจกรรมพิธีถวายความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงนายวรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวง
ศึกษาธิการ ทำหน้าที่เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กล่าวว่า ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเยาวชนให้เป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพ ยึดมั่นในอุดมการณ์ลูกเสือ และพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ จึงได้ริเริ่มโครงการลูกเสือจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ "ทำดี ทำได้ ทำทันที" ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อส่งเสริมให้ลูกเสือ เนตรนารี ทั่วประเทศ ได้ตระหนักถึงการบำเพ็ญประโยชน์ และการช่วยเหลือผู้อื่นตามกฎและคำปฏิญาณฏิญาณของลูกเสือ เพื่อปลูกฝังคุณลักษณะนิสัย ในการมีความรับผิดชอบต่อตนเองสังคม และส่วนรวม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และโอกาสให้ลูกเสือได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อย่างต่อเนื่องและทันท่วงที ตามแนวคิด "ทำดี ทำได้ ทำทันที" และเพื่อเฉลิมพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทรงเป็นองค์ประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ
นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดทำ ระบบบันทึก
ความดีออนไลน์ (scoutDD)เพื่อให้ลูกเสือ
สามารถบันทึกและแบ่งปันเรื่องราวการทำความดีของตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งช่วยสร้างแรงจูงใจและขยายผลการทำความดี สู่สาธารณชนได้อย่างกว้างขวาง คณะผู้จัดทำโครงการฯ มีความมุ่งมั่นที่จะขยายผลโครงการนี้ให้ครอบคลุมสถานศึกษาทั่วประเทศ โดยคาดหวังว่าลูกเสือทุกคนจะนำเอาแนวคิด"ทำดี ทำได้ ทำทันที" ไปใช้ใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริงและเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ และมีจิตสาธารณะพร้อมที่จะบำเพ็ญประโยชน์ เพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องด้านนายองอาจ วงศ์ประยูร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่เราได้มาพร้อมกัน เพื่อตอกย้ำถึงภารกิจอันยิ่งใหญ่ของคณะลูกเสือแห่งชาติ นั่นคือ การสร้างพลเมืองที่ดี มีคุณภาพ และพร้อมรับใช้สังคมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กิจการลูกเสือได้ทำหน้าที่ในการปลูกฝังคุณธรรมและทักษะชีวิตให้กับเยาวชนไทยได้อย่างดียิ่ง แต่ในยุคปัจจุบัน ที่สังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจึงต้องปรับวิธีการทำงานให้เท่าทัน การเปลี่ยนแปลงและเป็นรูปธรรรมยิ่งขึ้น ผมขอเน้นย้ำว่า หลักการของลูกเสือ ไม่ใช่แค่การท่องจำคำปฏิญาณที่ว่า "ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ"แต่ต้องถูกแปลงเป็นการกระทำที่เป็นจริงและทันเวลาด้วยเหตุนี้เอง สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ จึงขอมอบนโยบายสำคัญ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนิน
งานลูกเสือทั่วประเทศให้เข้มแข็ง และเป็นที่
ประจักษ์ นั่นคือ นโยบาย"ลูกเสือช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ ทำดี ทำได้ ทำทันที"จากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการและคณะลูกเสือได้ร่วมเดินทางไปบำเพ็ญประโยชน์ ทำความสะอาดพัฒนาพื้นที่บริเวณวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
*******
กฤษฎา สมมาตร รายงาน

14/11/2025

GC ผนึกกำลัง “จังหวัดระยอง” และ “ประชารัฐรักสามัคคีระยอง” ประกาศโครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” รับน้ำมันพืช ใช้แล้วผลิตเป็นเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน สร้างรายได้ให้ชุมชน ขับเคลื่อนจังหวัดระยองสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศต้นแบบ

ระยอง – 11 พฤศจิกายน 2568 – บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล และผู้ผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) เชิงพาณิชย์รายแรกของประเทศไทย ร่วมกับ จังหวัดระยอง โดยสำนักงานพัฒนาชุมชน และบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีระยอง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ประกาศความร่วมมือในการขยายโครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” ครอบคลุมพื้นที่ 8 อำเภอทั่วจังหวัดระยอง เพื่อรวบรวมน้ำมันพืชใช้แล้ว (Used Cooking Oil: UCO) จากภาคครัวเรือน มาผลิตเป็น SAF ที่เป็นพลังงานสะอาด ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมสร้างรายได้ให้กับชุมชนและขับเคลื่อนจังหวัดระยองสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศต้นแบบ
โครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” สานต่อความสำเร็จของ GC ในการผลิต SAF จากน้ำมันพืชใช้แล้ว ซึ่งไม่เพียงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมการบิน แต่ยังเป็นการนำ ของเสียกลับมาสร้างคุณค่าใหม่ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยได้ดำเนินโครงการนำร่อง ภายใต้ความร่วมมือของภาคีเครือข่าย ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล และพันธมิตรรวมกว่า 22 แห่งในจังหวัดระยองและจังหวัดใกล้เคียง ระหว่างเดือนสิงหาคม - ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา สามารถรวบรวม UCO ได้ 7.09 ตัน ผลิตเป็น SAF ได้ 1.75 ตัน สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 215,000 บาท และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 5,654.98 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
คุณสลารีวรรณ ทัพทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า “จังหวัดระยองยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นความร่วมมือที่เข้มแข็งนี้ โครงการนี้สอดคล้องกับนโยบายของจังหวัดในการจัดการขยะและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี การขยายจุดรวบรวมไปยัง 8 อำเภอทั่วทั้งจังหวัด โดยมีกลไกของประชารัฐรักสามัคคีและเครือข่ายพัฒนาชุมชนเป็นผู้ขับเคลื่อน จะช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของ คนระยองไปพร้อมกัน”
คุณสิริเดช คุ้มวงศ์ดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาด พาณิชยกิจ และบริหารจัดการแผนการผลิต GC กล่าวว่า “ความร่วมมือในวันนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงศักยภาพของ GC ในการนำนวัตกรรมมาช่วยสร้างคุณค่าร่วมระหว่างภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ และชุมชน โครงการความร่วมมือ ‘จากครัว...สู่เครื่อง’ มุ่งนำของเสียจากครัวเรือนกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เปลี่ยนเป็นพลังงานสะอาดอย่าง SAF ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมสร้างรายได้ให้กับชุมชนในจังหวัดระยอง อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศต้นแบบ
ความร่วมมือนี้ จะมีการจัดตั้งจุดรวบรวม UCO จำนวน 34 แห่ง กระจายใน 8 อำเภอทั่วจังหวัดระยอง และขยายผลผ่านเครือข่ายสำคัญในพื้นที่ เช่น คณะกรรมการพัฒนาสตรี อาสาพัฒนาชุมชน (อช.) และเครือข่าย OTOP เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืนตั้งแต่ระดับครัวเรือน และเป็นก้าวสำคัญของจังหวัดระยองในการสร้างต้นแบบเพื่อขยายผลสู่พื้นที่อื่น ๆ ได้ในอนาคต เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย Net Zero
นับจากนี้ จุดรวบรวม UCO ใน 8 อำเภอของจังหวัดระยอง จะเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่คุณค่า ที่เชื่อมโยงไปยังโรงกลั่นชีวภาพของ GC ซึ่งไม่เพียงผลิต SAF ได้เท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยี Co-processing หน่วยผลิตเดียวกันจึงสามารถผลิตเคมีภัณฑ์ชีวภาพ (Biochemicals) และพลาสติกชีวภาพ (Biopolymers) มูลค่าสูงได้อีกด้วย สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ GC ที่มุ่งพัฒนาธุรกิจมูลค่าสูง-คาร์บอนต่ำ เพื่อรองรับการเติบโต

หนังสือพิมพ์ เพื่อปวงชน

25/11/2025

25/11/2025

25/11/2025

25/11/2025

23/11/2025

23/11/2025

18/11/2025

17/11/2025

15/11/2025

14/11/2025

14/11/2025

14/11/2025

ที่อยู่

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

ทางลัด

แชร์

ประเภท