สมุทรปราการ press

17/09/2025

6.00 น.เกิดเหตุรถกระบะพุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วงที่จอดเสียอยู่ บริเวณทางด่วนกาญจนาภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าด่านเทพารักษ์ ช่วงก่อนถึงด่านปากน้ำ ทำให้กีดขวาง 2 ช่องทางซ้าย การจราจรติดขัดต่อเนื่อง

แม้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่รถกระบะได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรอรถยกเข้ามาเคลื่อนย้าย คาดว่าการจราจรจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในช่วงเช้า

14/09/2025

ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าสถานีดับเพลิงย่อยบางน้ำจืด ต.บางโฉลง อ.บางพลี สมุทรปราการ จับภาพวินาทีระทึก รถกระบะอีซุซุสีบรอนซ์ของนายฐิติพงษ์ อายุ 30 ปี เสียหลักพุ่งข้ามเลนชนแท็กซี่เขียวเหลืองกลางถนน ก่อนหมุนพุ่งต่อเข้าหน้าวินจักรยานยนต์รับจ้าง ทำให้คนขับวินหลายคนต้องกระโดดหนีตายกันอลหม่าน ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บรวม 4 ราย ทั้งผู้โดยสารแท็กซี่ คนขับแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์

14/09/2025

หนุ่มโรงงานถูกเพื่อนร่วมงานแทงคอ ดับสลดต่อหน้าเพื่อน เหตุแค่มองหน้า

สมุทรปราการ – เรื่องราวความขัดแย้งเล็กน้อยกลับกลายเป็นเหตุสุดสะเทือนใจ หนุ่มโรงงานวัย 34 ปี ถูกเพื่อนร่วมงานแทงคอเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนร่วมงานหลายคน ขณะกำลังเดินไปตรอกบัตรเลิกงาน ภาพเหตุการณ์สร้างความตกใจและความเศร้าสลดให้กับทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ

เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 กันยายน 2568 ศูนย์กู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการได้รับแจ้งจากสายด่วน 1669 ว่ามีคนถูกแทงบาดเจ็บสาหัสภายในโรงงานแห่งหนึ่งในซอย 5B นิคมอุตสาหกรรมบางปู ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อนร่วมงานรีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลศิครินทร์บางปู แต่สุดท้ายแพทย์ยืนยันว่าไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

ผู้เสียชีวิตคือนายณัฐพล อายุ 34 ปี ทำงานอยู่ในแผนกเดียวกับนายวีระวิทย์ อายุ 31 ปี ผู้ก่อเหตุ จากการสอบถามเพื่อนร่วมงานให้ข้อมูลว่า ทั้งคู่มีปัญหาเขม่นกันมาตั้งแต่ช่วงบ่าย เพียงเพราะเรื่องมองหน้าและมีปากเสียงกันหลายครั้ง จนกระทั่งช่วงเลิกงาน นายณัฐพลเดินไปที่เครื่องตรอกบัตร นายวีระวิทย์เดินตามมาและใช้มีดพับแทงเข้าที่ลำคอเต็มแรงต่อหน้าเพื่อนร่วมงานหลายคน ทำให้นายณัฐพลทรุดลงนอนจมกองเลือด ท่ามกลางเสียงร้องตกใจของเพื่อนที่พยายามช่วยชีวิต แต่ไม่ทันการณ์

หลังเกิดเหตุ นายวีระวิทย์เดินไปหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงงานอย่างเยือกเย็น พร้อมพูดเพียงว่า “เดี๋ยวจะกลับมา ให้ตำรวจรออยู่ที่โรงงาน” ก่อนออกไปพักใหญ่ แล้วกลับเข้ามามอบตัวในที่สุด

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู ควบคุมตัวนายวีระวิทย์ พร้อมแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

14/09/2025

ปราบเว็บพนันไม่ได้
แต่มาอายัดบัญชีชาวบ้านแม่ม ง่ายดี..

13/09/2025

จากกรณี ชาวบ้านชุมชนตรอกถ่านกว่า 100 คน รวมตัวประท้วงหน้าวัดพิชัยสงคราม ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 13 กันยายน 2568 เพื่อเรียกร้องให้เจ้าอาวาสวัดออกมาชี้แจง หลังไม่พอใจเรื่องการเก็บเงินต่างๆ ภายในวัด และการแต่งตั้ง–ปลด นายประเทือง ตรุษจา ออกจากตำแหน่งไวยาวัจกรโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนที่ชาวบ้านจะมาถือป้ายเรียกร้องให้ “บิ๊กเต่า” เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย ก่อนที่จะเกิดเหตุชุลมุนวางมวยกันทั้งสองฝ่าย

ล่าสุด หลังจากชาวบ้านยืนกดดันหน้ากุฏิอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง กระทั่งทางไวยาวัจกรชุดใหม่ ได้เชิญตัวแทนชาวบ้านเข้ามาพูดคุยกับ พระมหาธีรานนท์ จิรฏฐิโก เจ้าอาวาสวัดพิชัยสงคราม มีนายประเทือง ตรุษจา อดีตไวยาวัจกร และนางสาวปริตตา ตรุษจา ตัวแทนชาวบ้าน เข้ามาหารือเพื่อหาทางยุติปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ตัวแทนจากสำนักพุทธ และสื่อมวลชน เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

บรรยากาศการพูดคุย ทางฝ่ายของนายประเทืองได้ซักถามข้อสงสัยประเด็นที่เจ้าอาวาสปลดนายประเทือง รวมถึงการเก็บเงินค่าจอดรถสนามพระ สัญญาเช่าที่ของชาวบ้านที่เช่าอยู่ในที่ดินของวัด รวมไปถึงการบริหารจัดการค่าเช่าช่วงงานเจดีย์ นอกจากนี้ ชาวบ้านยังซักถามถึงกรณีมี เจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาอาศัยอยู่ภายในวัด และเดินเข้าไปในชุมชน เกรงว่าจะเป็นการเตรียมการขับไล่ชาวบ้านที่เช่าที่วัดอยู่

ภายหลังจากหารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง พระมหาธีรานนท์ จิรฏฐิโก ออกมาประกาศผ่านไมค์ให้ชาวบ้านที่มายืนประท้วงทราบถึงสาเหตุที่ปลดนายประเทือง โดยให้เหตุผลสั้นๆ ว่า “ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้” ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ ตะโกนขับไล่เจ้าอาวาสด้วยความโมโห ก่อนที่นายประเทืองจะขอให้ทุกคนแยกย้ายกลับบ้านโดยไม่มีเหตุรุนแรง ส่วนเรื่องอื่นๆ จะขอตรวจสอบต่อไป

ขณะที่ชาวบ้านได้พาผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบบริเวณโรงเรียนประสาทวิทยาคุณ ซึ่งอยู่ภายในวัด พบว่ามีคนพักอยู่จริง และมีชุดทหารแขวนอยู่ แต่เมื่อสอบถามทางวัด กลับให้ข้อมูลว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาพักอยู่ตามที่ชาวบ้านอ้าง

นางสาวปริตตา กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านมาวันนี้ ต้องการทราบว่า พ่อของตนซึ่งเป็นไวยาวัจกร ถูกปลดออกจากตำแหน่งเพราะเหตุใด ทั้งที่พ่อไม่ได้โกงหรือทำผิดกฎหมาย พ่อก็เป็นตัวแทนของชุมชนและอยู่ในชุมชนมานาน หากพ่อไม่ได้เป็นไวยาวัจกรแล้ว ใครจะมาดูแลเรื่องต่างๆ ในชุมชน ทั้งนี้ตนเองก็อยากให้พ่อออกอยู่แล้ว หากไม่เหมาะสมก็ไปทำอย่างอื่นดีกว่า และอยากขอความเป็นธรรมเรื่องการตรวจสอบความโปร่งใส ชุมชนอยากรู้ว่าเงินที่ทำบุญและเงินค่าที่จอดรถมีจำนวนเท่าไร และไปอยู่ที่ใคร หลังจากนี้จะร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาตรวจสอบวัดต่อไป

นายภูษิต เกิดพระจีน ทนายของวัดพิชัยสงคราม ชี้แจงว่า การปลดนายประเทืองเป็นอำนาจหน้าที่ของวัด และสามารถทำได้ ส่วนกระแสข่าวที่ว่าทางวัดจะขึ้นค่าเช่าจากตารางเมตรละ 8 บาท เป็น 15 บาทนั้น ไม่เป็นความจริง หลังจากนี้จะมีการติดป้ายประกาศให้ชาวบ้านทราบ ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการบริหารไม่โปร่งใส ชาวบ้านสามารถไปร้องเรียนได้ และทางวัดก็ยินดีที่จะไปชี้แจง

สำหรับกรณีที่มีข้อมูลว่าไวยาวัจกรคนใหม่เป็นทหารนั้น ทนายยืนยันว่ากฎหมายไม่ได้ห้าม สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ส่วนกรณีทหารเดินตรวจในชุมชน ทางวัดไม่ทราบเรื่อง และกรณีปลดนายประเทืองนั้น เนื่องจากมีความประพฤติไม่เหมาะสมและไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ส่วนผลประโยชน์จากงานเจดีย์นั้น วัดยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

13/09/2025

ชาวบ้านฮือประท้วงวัด เรียกร้องขับไล่เจ้าอาวาส ปมจัดการผลประโยชน์ไม่โปร่งใส เรียก ‘’บิ๊กเต่า’’มาตรวจสอบ

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 13 กันยายน 2568 ชาวบ้านชุมชน 100 คน รวมตัวประท้วง วัดแห่งหนึ่งย่าน ปากน้ำ เพื่อเรียกร้องให้เจ้าอาวาสวัดออกมาชี้แจง และขอให้มีการตรวจสอบการบริหารจัดการผลประโยชน์ของวัด หลังไม่พอใจเรื่องการเก็บเงินต่างๆ ภายในวัด และการแต่งตั้ง–ปลดไวยาวัจกรที่มองว่าไม่ชอบธรรม

ผู้ชุมนุมชูป้ายข้อความ เช่น “อยากเจอบิ๊กเต่า”, “หยุดคุกคามชุมชนตรอกถ่าน”, “พระจับเงินไม่ได้” พร้อมตะโกนเรียกร้องให้เจ้าอาวาสออกมาพบประชาชน บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด มีชาวบ้านบางส่วนปะทะคารมกับกลุ่มผู้สนับสนุนเจ้าอาวาส โชคดีที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ เข้าระงับเหตุทัน ไม่ให้บานปลาย

นางสาวปริตตา ตรุษจา อายุ 29 ปี ตัวแทนชาวบ้าน ระบุว่า “สาเหตุที่มาประท้วงวันนี้ เพราะอยากให้การบริหารวัดโปร่งใส โดยเฉพาะเงินค่าบริการจอดรถ เงินกฐิน และรายได้ส่วนอื่น ๆ ที่ไม่เคยมีการชี้แจง อีกทั้งชุมชนยังไม่เคยพบเจ้าอาวาสตลอด 4 ปีที่ผ่านมา และไม่เข้าใจเหตุผลที่มีทหารมาอยู่ในวัด”

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปจากทั้งสองฝ่าย ตำรวจยังคงตรึงกำลังดูแลความสงบในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง

13/09/2025

เต้นมันเกินเบอร์! แขนพลาดโดนหัวสาวโต๊ะข้าง แฟนไม่พอใจ ขวดลอยมาแบบไม่ทันตั้งตัว

สมุทรปราการ – เมื่อเวลาเที่ยงคืนยี่สิบนาที วันที่ 13 กันยายน 2568 เกิดเหตุชุลมุนกลางร้านเหล้า ย่านถนนศรีนครินทร์ หลังหนุ่มสายแดนซ์ “อินเนอร์มาเต็ม” ลุกขึ้นเต้นเพลงมันส์เกินต้าน แขนดันไปสะกิดหัวสาวโต๊ะข้างๆ จนแฟนหนุ่มของเธอหัวร้อน ชวนออกไปเคลียร์นอกร้าน แต่ยังไม่ทันก้าวพ้นประตู ขวดก็มาก่อนแล้ว!

ผู้บาดเจ็บคือนายณัฐพล อายุ 36 ปี มีบาดแผลแตกที่ศีรษะและมือด้านขวา กู้ชีพรีบปฐมพยาบาลแล้วส่งโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ส่วนคู่กรณีเป็นชาย 1 ราย การ์ดร้านจับตัวได้เรียบร้อยก่อนจะมี “ภาคสอง”

เพื่อนสาวของผู้บาดเจ็บเล่าว่า “พวกเราก็แค่สนุกกันปกติ พี่ณัฐพลลุกเต้น เพลงมันกำลังถึงท่อนเดือด แขนดันไปโดนหัวสาวโต๊ะข้างเท่านั้นแหละ…แฟนเขาลุกปรี๊ด! เรียกเคลียร์นอกร้าน แต่ยังไม่ทันออก ก็โดนขวดไปหนึ่งดอกซะก่อน”

ตำรวจคุมตัวผู้ก่อเหตุไปโรงพักเรียบร้อย พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิด หวังปิดเคสไม่ให้มีภาคต่อ

11/09/2025

10/09/2025

ความคืบหน้าเหตุวัยรุ่นรุมแทงเสียชีวิตที่บางเสาธง – ผู้ก่อเหตุ 3 คนเข้ามอบตัว ตำรวจแจ้งข้อหาหนัก

จากกรณีเหตุการณ์สุดสลด กลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุใช้มีดจ้วงแทง “น้องตัง” วัย 17 ปี นักเรียน ปวช.ปี 2 สาขาช่างกลโรงงาน เสียชีวิตบริเวณหน้าตลาดนางรำ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงสายวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ล่าสุด

เมื่อเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน ฝ่ายสืบสวน สภ.บางเสาธง ได้ประสานผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่นที่ปรากฏในภาพวงจรปิด พาบุตรชายทั้ง 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางเสาธง พร้อมหลักฐานสำคัญ ทั้งมีดสั้นซามูไรที่ใช้ก่อเหตุ เสื้อผ้า รองเท้า และหมวกกันน็อกที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ

จากการสอบถามเบื้องต้น “นายเล็ก” (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ผู้ก่อเหตุหลัก ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนใช้มีดแทงผู้ตายจริง โดยเล่าว่าก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์สวนทางกับกลุ่มของน้องตัง และเกิดการเขม่นกัน ตนจึงชักมีดโชว์ ทำให้คู่กรณีจอดรถดักหน้าและเดินเข้ามาหา เมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนมีปืนปากกา จึงรีบวิ่งไปหลบในร้านสะดวกซื้อ ต่อมาทั้งสองฝ่ายแยกย้ายกัน แต่ไม่นานมีคนตะโกนบอกว่ากลุ่มน้องตังขี่รถย้อนกลับมา ตนจึงชักมีดวิ่งเข้าไปหา ขณะนั้นน้องตังยกเท้าถีบจนรถล้ม ตนจึงแทงหลายครั้งจนล้มฟุบ โดยอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจให้ถึงตาย

ส่วนเพื่อนอีก 2 คนที่ร่วมก่อเหตุคือ “นายเวียน” อายุ 18 ปี และ “นายเก่ง” อายุ 17 ปี (นามสมมุติ) ยอมรับว่ามีส่วนร่วมรุมทำร้ายและเตะซ้ำน้องตัง โดยอ้างว่าไม่คิดว่าจะทำให้ถึงแก่ชีวิต และสำนึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมฝากขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิต

ด้านผู้ปกครองของกลุ่มผู้ก่อเหตุ เปิดใจกับทีมข่าวว่า รู้สึกช็อกและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เคยทราบว่าลูกมีปัญหากับใคร เพราะปกติทำงานรับจ็อบในคลังสินค้า พอทราบเรื่องก็ตัดสินใจพาลูกเข้ามอบตัวทันที

พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.บางเสาธง เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยมีอาวุธจนถึงแก่ความตาย” และ “พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” พร้อมเตรียมนำตัวทั้งหมดสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ ก่อนฝากขังดำเนินคดีตามกฎหมาย

10/09/2025

ยังไม่ทันได้ประกันตัวลูกเขย รถบรรทุกพุ่งชน ขณะนั่งวินมาโรงพัก ดับสลด 2 ศพ

เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 10 กันยายน 2568 พ.ต.อ.วัชระ เทพเสน ผกก.สภ.บางปู รับแจ้งเหตุรถบรรทุกสิบล้อชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดบนถนนสุขุมวิท ขาเข้ากรุงเทพฯ หน้าสถานีตำรวจภูธรบางปู ต.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการและตำรวจ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบศพ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ นายอานันต์ ภุมเรศ อายุ 56 ปี ซึ่งสวมเสื้อวินจักรยานยนต์ วินมิตรธนสาร เทศบาลสมุทรปราการ หมายเลข 7 นอนแน่นิ่งกลางถนน ส่วนผู้โดยสารเป็น นางสาวเอมอร พร้อมสมุทร อายุ 41 ปี พนักงานบริษัท N.R. Jewelry นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตใกล้กัน พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสีเขียว ทะเบียน 1 กข 2768 สมุทรปราการ สภาพพังยับ ส่วนรถบรรทุกฮีโน่ 6 ล้อ สีขาว ทะเบียน 73-0795 สมุทรปราการ จอดริมทาง สภาพด้านหน้าฝั่งขวาพัง กันชนหลุด ไฟหน้าตกแตก

จากการสอบสวนเบื้องต้น คนขับรถบรรทุกทราบชื่อว่า นายวรุต อายุ 30 ปี ให้การว่า ขณะขับมาตามถนนมุ่งหน้าไปทางแยกตำหรุ เห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพยายามเลี้ยวขวาเข้าซอย จึงได้บีบแตรเตือน แต่รถจักรยานยนต์ได้หักออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้เบรกไม่ทันและพุ่งชนเข้าอย่างจัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบหญิงสาวคนหนึ่งร่ำไห้อยู่หน้าสถานีตำรวจ ทราบว่าเป็นลูกสาวของนางสาวเอมอร เปิดเผยว่าผู้ตายเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาทำเรื่องประกันตัวแฟนหนุ่มที่ถูกจับกุม แต่ยังไม่ทันได้พบกันก็เกิดอุบัติเหตุสลดขึ้นตรงหน้าโรงพัก

10/09/2025

แม่ใจสลาย ลูกชายคนเดียวถูกรุมแทงดับขณะเดินทางไปสอบ

เกิดเหตุสลดกลางตลาดนางรำ ตำบลบางเสาธง เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 กันยายน 2568 ขณะที่ “น้องตัง” หรือ นายสุธิมนต์ อายุ 17 ปี นักเรียนช่างกลของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางไปสอบ แต่กลับถูกรุมทำร้ายและถูกแทงเสียชีวิตท่ามกลางสายตาชาวบ้านจำนวนมาก

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าตลาดบันทึกวินาทีสลด น้องตังพยายามขี่รถหนีแต่ถูกวัยรุ่นถีบรถจนล้ม ก่อนจะถูกรุมแทงไม่ยั้งหลายครั้งที่สีข้าง ใต้ราวนม ต้นขา และข้อมือ จนร่างฟุบจมกองเลือด ยังไม่พอ ผู้ก่อเหตุยังเตะซ้ำก่อนพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ขณะที่ชาวบ้านพากันร้องตะโกนห้ามเสียงดังลั่นตลาดแต่ไม่เป็นผล

เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยบางเสาธงเร่งทำ CPR ยื้อชีวิต ก่อนนำส่งโรงพยาบาลบางเสาธง แต่สุดท้ายน้องตังทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

เสียงสะเทือนใจจากเพื่อน เพื่อนผู้ตายให้การทั้งน้ำตาว่า ตอนเช้าพวกตนขี่รถออกจากบ้านเพื่อไปสอบ ระหว่างทางสวนกับกลุ่มวัยรุ่นที่ชักมีดใส่ จึงขับไล่กลุ่มนั้นไปแต่คิดว่าเรื่องจบแล้ว ทว่าอีกฝ่ายกลับย้อนมา พร้อมพวก และลงมือก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม

แม่ค้าภายในตลาดเล่าว่า น้องตังพยายามยกมือไหว้ขอชีวิตแล้ว แต่กลับถูกเตะซ้ำจนล้มแน่นิ่งต่อหน้า

แม่ใจสลาย – ร้องไห้จนแทบขาดใจ
นางศรีสมร มารดาผู้ตายวัย 46 ปี เดินทางมาถึงโรงพยาบาลเพื่อตามดูลูกชาย แต่ต้องทรุดลงร้องไห้ระงมเมื่อทราบข่าวร้าย เล่าทั้งน้ำตาว่า ลูกชายเป็นลูกคนเดียว เพิ่งขอเงินไปโรงเรียนเช้านี้เพียง 40 บาท เธอโอนให้ 50 บาท โดยไม่คิดว่านั่นจะเป็นการคุยครั้งสุดท้าย

“แม่มีลูกคนเดียว ต้องทำงานเป็น รปภ.ทุกวัน กว่าจะได้คุยกันก็ตอนส่งข้อความถามลูกว่าอยู่ไหน… ไม่คิดว่าลูกจะต้องมาตายแบบนี้” แม่กล่าวทั้งเสียงสั่น ก่อนจะตะโกนเรียกลูกชายกอดร่างไร้วิญญาณท่ามกลางความสะเทือนใจของเจ้าหน้าที่และผู้พบเห็น

ความคืบหน้าคดี
ตำรวจเปิดเผยว่าทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว คาดเป็นวัยรุ่นที่ทำงานรับจ้างในละแวกดังกล่าว กำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก

10/09/2025

พบศพลอยน้ำชายทะเลบางปู – ตำรวจเร่งตรวจสอบหาสาเหตุ

วันที่ 10 กันยายน 2568 เวลา 09.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู รับแจ้งเหตุพบศพลอยน้ำภายในซอยเทศบาลบางปู 126 (คลองตาก๊ก) ตำบลบางปู จังหวัดสมุทรปราการ

เมื่อเจ้าหน้าที่และมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางไปตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30-40 ปี สวมกางเกงบ๊อกเซอร์สีน้ำเงินลาย ไม่สวมเสื้อ นอนคว่ำหน้าอยู่บนโขดหินริมชายทะเล ไม่พบเอกสารหรือบัตรยืนยันตัวตนในที่เกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเก็บหลักฐานและนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่นิติเวช รพ.รามา เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

หากใครมีญาติพี่น้องสูญหาย หรือรู้จักผู้ตายที่มีลักษณะตรงตามนี้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถานีตำรวจภูธรบางปู