ตรงประเด็นข่าว

ตรงประเด็นข่าว 0892528110

ผู้ว่าฯ นำทีมผนึกกำลังภาครัฐและเอกชน จัดงาน “Samutsakhon Expo 2025” ณ เซ็นทรัล มหาชัย ยกขบวนสินค้าดี สินค้าเด่นกว่า 200 ...
30/08/2025

ผู้ว่าฯ นำทีมผนึกกำลังภาครัฐและเอกชน จัดงาน “Samutsakhon Expo 2025” ณ เซ็นทรัล มหาชัย ยกขบวนสินค้าดี สินค้าเด่นกว่า 200 ร้านค้า มาให้ได้เลือกช้อปถึง 3 กันยายนนี้
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดงาน “Samutsakhon Expo 2025” ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพการจำหน่ายสินค้าและบริการ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไปร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ ลานกิจกรรม หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล มหาชัย
นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสาคร เป็นหนึ่งในศูนย์กลางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ ด้วยทำเลที่ตั้งติดชายฝั่งอ่าวไทย เป็นประตูสำคัญเชื่อมโยงเส้นทางการค้าทางทะเลและโลจิสติกส์ มีอุตสาหกรรมอาหารทะเลครบวงจร โรงงานแปรรูปสินค้ามาตรฐานสากล อุตสาหกรรมการผลิตและการส่งออกที่มีศักยภาพสูง รวมถึงสินค้าขึ้นชื่อจากวิสาหกิจชุมชนและ OTOP ที่สะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งนี้การจัดงาน Samutsakhon Expo 2025 จึงไม่เพียงแต่เป็นการรวบรวมสินค้าและบริการคุณภาพจากผู้ประกอบการในจังหวัดเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีสำคัญในการสร้างโอกาสทางการตลาด เชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขาย ขยายช่องทางสู่ทั้งตลาด ในประเทศและต่างประเทศ พร้อมยกระดับเศรษฐกิจชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับบรรยากาศภายในงาน ก็มีผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ นำสินค้าเด่นและของดีของจังหวัดสมุทรสาครมากกว่า 200 ร้านค้ามาจำหน่าย ครอบคลุมทั้งสินค้าอุตสาหกรรมส่งออก อุตสาหกรรมแปรรูป อาหารแช่แข็ง อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง สินค้าเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ของใช้เบ็ดเตล็ด รวมถึงอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) การแสดงศิลปวัฒนธรรม มินิคอนเสิร์ท และกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อสร้างสีสันและดึงดูดใจ นักช้อปทุกวันตลอดการจัดงาน
“ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกท่าน มาร่วมสัมผัสสินค้าดี สินค้าเด่น และสินค้านวัตกรรม ของจังหวัดสมุทรสาคร ภายในงาน Samutsakhon Expo 2025 และร่วมเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวทิ้งท้าย

ผวจ.เชิญชวนสัมผัสความยิ่งใหญ่ “Samutsakhon Expo 2025” ยกทัพสินค้ามาให้ช้อปอย่างจุใจ 28 ส.ค. – 3 ก.ย.นี้ ห้ามพลาด เมื่อเว...
25/08/2025

ผวจ.เชิญชวนสัมผัสความยิ่งใหญ่ “Samutsakhon Expo 2025” ยกทัพสินค้ามาให้ช้อปอย่างจุใจ 28 ส.ค. – 3 ก.ย.นี้ ห้ามพลาด
เมื่อเวลา 16.30 น.ของวันที่ 22 สิงหาคม 2568 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานแถลงข่าวจัดงาน “Samutsakhon Expo 2025” โดยมี ดร.อัจฉรีย์ งามพร้อมสกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และ นายนคร หาญไกรวิไลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมแถลงข่าว ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล มหาชัย ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยในการแถลงข่าวครั้งนี้ก็ได้เกียรติจากนางอำไพ หาญไกรวิไลย์ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้ริเริ่มจัดงาน Samutsakhon Expo ครั้งที่ 1 ดร.อภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง ผอ.ททท.สนง.สมุทรสงคราม สมาชิกวุฒิสภา ส.ส.สมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนผู้ที่สนใจ และสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก
นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า การจัดงาน Samutsakhon Expo 2025 ครั้งนี้ มุ่งส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสาคร ภายใต้แนวคิด “SUSTAINABLE and SMART” เพื่อตอกย้ำศักยภาพของสมุทรสาครในฐานะ “เมืองเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ” ที่ผสมผสานนวัตกรรมการผลิต ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์เอกลักษณ์ท้องถิ่น ด้วยการยกทัพผู้ประกอบการกว่า 200 ราย จากกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อาหารทะเลแปรรูป อาหารทะเลแช่แข็ง ยางและชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ พลาสติก โลหะ สิ่งทอและเครื่องแต่งกาย ของใช้สำหรับเด็ก สิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนสินค้าเกษตร สินค้า OTOP/SMEs และวิสาหกิจชุมชน นำมาจำหน่ายในราคาโรงงาน เพื่อสร้างโอกาส เพิ่มช่องทางการตลาด และยกระดับมาตรฐานการแข่งขันของผู้ประกอบการสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพการจำหน่ายสินค้าและบริการ
นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดเตรียมพื้นที่สำหรับการเจรจาธุรกิจ (Business Matching) เพื่อเปิดช่องทางการตลาดใหม่ให้กับผู้ประกอบการ โดยใช้เครือข่ายของหอการค้าจังหวัดและสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ ในการประชาสัมพันธ์ รวมทั้งมีกิจกรรมเสริมทักษะสำหรับเด็กและเยาวชน มินิคอนเสิร์ต พร้อมกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ และลุ้นรับของรางวัลมากมายภายในงาน
“งานนี้ทุกท่านจะได้พบกับของดีกว่า 200 ร้านค้า ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมหลัก สินค้า SMEs OTOP และวิสาหกิจชุมชน ที่เราภูมิใจนำเสนอในคุณภาพ มาตรฐาน และเอกลักษณ์เฉพาะของจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ก็ขอเชิญทุกท่านมาร่วมสัมผัสความยิ่งใหญ่ของงานได้ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม ถึง 3 กันยายน 2568 บริเวณลานอเนกประสงค์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล มหาชัย แล้วท่านจะได้เห็นว่า...นี่แหละคือ สมุทรสาคร งานดีที่ห้ามพลาด” นายนริศฯ ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวเชิญชวนทิ้งท้าย

30/07/2025

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474

เภสัชกร “ ชี้” กระท่อมไม่เพียงเป็นแค่ยาเสพติด ยังเป็นตัวก่ออาชญากรรมจี้ปล้น แถมหาซื้อง่ายเยาวชนติดงอมแงม

เภสัชกรยูลัยละห์ หะยีเปาะหะ ประธานกรรมการ บจ.มาลายันกรุ๊ป เครือร้านศูนย์สุไหงโก-ล กล่าวว่า ในส่วนของใบกระท่อมเรื่องของเสรีหรือไม่เสรีที่ควบคุมนั้น ส่วนตัวคิดว่าเดิมทีที่มันไม่ได้ถูกกฎหมายมันก็มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างนี้ แต่พอมันเสรีแล้วมันมีปัญหาเยอะกว่าเดิม เหมือนที่บอกว่าหลายตัวเราขายสินค้าไม่ได้ คือเราไม่ได้ไม่อยากขายแต่ว่าพอขายแล้วมันเกิดปัญหาหลายเรื่อง มันเกิดการซื้อเป็นวงจร ว่ามีการเอาไปขายต่อในราคาที่สูงขึ้น เพราะฉะนั้นเดิมทีแล้วแม้แต่ยาที่ขายกันปกติมันไม่ควรเข้าถึงได้ง่าย อย่างเช่นไปซื้อตามร้านชำซึ่งไม่ควรอยู่แล้ว เพราะว่ามันต้องมีวิธีการกิน แล้วพอมาเป็นกลุ่มยาพวกนี้ เพราะมันไปมีผลต่อสมองทำให้คุณภาพของคนเสียหายไปแล้วมันกู้ยาก บางคนเคยเจอชักในร้าน เพราะว่าเค้าขาดยา ทีนี้พอมันกลายเป็นว่าเสรีเมื่อไหร่ แต่ประเด็นคือเขาไม่ได้กินน้ำกระท่อมแบบเดี่ยวๆเขาต้องกินคู่กับยาประเภทสารเสพติดอาทิยาแก้ไอหรือยาแก้แพ้เข้าไปเพิ่มอีก ก็ไปกดสมองเข้าไปอีก พอกินเข้าไปในระยะเวลาหนึ่งมันจะไปทำลายสมอง ซึ่งเราเห็นหลายประเภท มันก็เลยไม่แปลกที่จะเกิดปัญหาในเรื่องของอาชญากรรม การปล้น การขโมย ซึ่งแม้แต่เด็กๆก็จะถูกชักจูงไปด้วย เพราะสังคมมันพาไป สิ่งแวดล้อมที่มันเยอะและหาซื้อง่ายเขารู้ว่าจะซื้อที่ไหนอย่างไร ซึ่งเมื่อก่อนต้องมีการซื้อ แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องแอบซื้อ เพราะมีขายอยู่ทั่วไป แต่ประเด็นคือมันไม่ได้จบที่น้ำกับท่อม ซึ่งตรงที่เขาขายกระท่อมมันมีขายสารเสพติดตัวอื่นอยู่ด้วย โดยที่เอาน้ำกระท่อมมาเป็นตัวเปิด ซึ่งส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการที่กระท่อมเสรี ไม่ว่าจะเป็นกระท่อมหรือกัญชาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะถึงอย่างไรวัตถุประสงค์ของการใช้กระท่อม เขาใช้เพื่อสารเสพติด ซึ่งน้อยมากที่จะใช้เพื่อบรรเทาอาการปวด ซึ่งเมื่อก่อนจะเห็นได้ว่าคนแก่จะใช้จริงมีการปลูกอยู่บ้าง แต่ปัจจุบันไปดูคนขายได้เลยว่าอยู่ลักษณะอย่างไร ซึ่งเราเห็นภาพตรงนั้นแล้วมันไม่ควรที่จะเปิดอย่างเสรี ซึ่งมีแทบจะทุกหมู่บ้าน เพราะฉะนั้นควรจะเอากลับไปเป็นยาควบคุมพิเศษเหมือนเดิมดีกว่า

30/07/2025

จังหวัดสมุทรสาคร เชิญชวนร่วมบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบความไม่สงบชายแดนไทย - กัมพูชา

25/07/2025

จังหวัดสมุทรสาคร เชิญชวนชมไฟประดับ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองฯ ตลอดถนนเส้นทางสายหลักใน 3 อำเภอจังหวัดสมุทรสาคร และสถานที่สำคัญรอบอำเภอตลอดเดือน กรกฏาคม - สิงหาคม 2568

“ผวจ.นริศ” ลุยยามดึก เร่งรัดขุดร่องน้ำ ถ.พระราม 2 แก้ปัญหา “น้ำท่วม – รถติดหน้าตลาดทะเลไทย” เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ของว...
25/07/2025

“ผวจ.นริศ” ลุยยามดึก เร่งรัดขุดร่องน้ำ ถ.พระราม 2 แก้ปัญหา “น้ำท่วม – รถติดหน้าตลาดทะเลไทย”
เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายอนุตร ปางพุฒิพงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร นายนคร หาญไกรวิไลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร และ นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม ส.ส.สมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าในการขุดลอกร่องน้ำกลางถนนและเก็บสิ่งกีดขวางทางน้ำไหลออกจากจุดรับน้ำบนถนนพระราม 2 เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่บริเวณเชิงสะพานแม่น้ำท่าจีน เรื่อยมาจนหน้าตลาดทะเลไทย ซึ่งพบว่า ทางบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง กำลังดำเนินการใช้รถแบ็คโฮขุดร่องกลางถนนตามแนวทางที่ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการไว้ โดยทางผู้ว่าฯ ก็กำชับกับผู้รับเหมาก่อสร้าง ต้องเร่งทำให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะช่วงนี้ไปจนถึงช่วงปลายเดือนจะมีน้ำทะเลหนุนสูงประกอบกับฝนที่ตกลงมาในระยะนี้ หากมีร่องน้ำกลางถนนก็จะทำให้น้ำที่ท่วมขังบนถนนพระราม 2 สามารถไหลลงไปได้ เป็นการช่วยบรรเทาสภาพปัญหารถติดได้ในระดับหนึ่ง
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัด ยังได้เดินเท้านำไปดูการเคลื่อนย้ายท่อประปาขนาด 1,000 มม.ของเทศบาลนครสมุทรสาคร ออกจากแนวเดิม บริเวณ กม.29+300 - 29+420 หน้าบิ๊กซ้ง ถนนพระราม 2 เพราะเป็นแนวก่อสร้างทางยกระดับบนถนนพระราม 2 ของกรมทางหลวง โดยได้มีการพูดคุยและสอบถามความก้าวหน้าในการทำงานจากนายชุมพล(ตู่) จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร และนายธนวัฒน์ เลิศศรีนภาพร รองนายกฯ ที่ลงพื้นที่มาติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฯ เช่นกัน ทั้งนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้ขอให้นายกเทศมนตรีฯ ช่วยกำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้ลุยงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้การทำงานแล้วเสร็จภายในวันที่ 28 กรกฎาคมตามระยะเวลาเดิมที่ได้กำหนดไว้
นอกจากนี้ยังได้ดูปัญหาสำคัญอีกหนึ่งเรื่องที่มีพี่น้องประชาชนแจ้งผ่านช่องทางสื่อโซเชียลต่างๆ เป็นจำนวนมาก คือ สภาพรถติดบริเวณดังกล่าว ซึ่งก็พบว่า แม้จะเข้าสู่ช่วงกลางคืนและค่อนข้างดึกแล้ว แต่ปริมาณรถก็ยังคงหนาแน่น เพราะเดินรถได้แค่ช่องทางคู่ขนานเพียงช่องทางเดียวเท่านั้น โดยทราบว่าสภาพเช่นนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเลยหน้าวัดพรหมคุณาราม(บางตะคอย) มาประมาณ 100 เมตร มีการปิดช่องทางหลักเพื่อทำงานก่อสร้างทางยกระดับฯ จึงบังคับให้รถทุกคันใช้ทางเบี่ยงออกคู่ขนาน ประกอบกับปัจจัยหลายๆ อย่างที่ทำให้เกิดปัญหารถติดร่วมด้วย เช่น น้ำท่วมขังบนพื้นผิวถนนบางช่วงเพราะฝนตกหรือน้ำทะเลหนุนสูง,พื้นผิวถนนขรุขระ หรือ ไม่สม่ำเสมอกันทำให้รถต้องชะลอความเร็วลง รวมถึงช่วงขึ้นลงสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนด้วย นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการย้ายท่อประปาในฝั่งขาเข้า และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะมากหรือน้อย สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยทำให้รถเกิดการสะสม และติดต่อเนื่องยาวนาน
สำหรับการลงพื้นที่ของผู้ว่าฯนริศ,ส.ส.ฟลิ้นท์,หัวหน้าฯ ปภ.สมุทรสาคร,ประธานหอการค้าจังหวัด รวมถึง คณะผู้บริหารเทศบาลนครสมุทรสาครนั้น ก็เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนพระราม 2 บริเวณดังกล่าว ซึ่งไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครหรือฝนที่ตกลงมาอย่างหนักนั้น ผลที่ได้จะต้องออกมาเหมือนกันคือ การทำให้น้ำบนถนนแห้งลงได้เร็วที่สุด เพื่อคืนผิวจราจรให้แก่พี่น้องประชาชนได้สัญจรไปมาอย่างสะดวกและปลอดภัย ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องร่วมมือกันทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ นั่นก็คือ การหาแนวทางแก้ไขสภาพการจราจรติดขัดบริเวณหน้าตลาดทะเลไทยให้ได้เร็วที่สุด โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงค่ำไปจนถึงช่วงเช้า เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสาครให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากตลาดทะเลไทยเป็นศูนย์กลางการค้าสัตว์น้ำและอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในแต่ละวันจะมีพ่อค้าแม่ค้าจากต่างจังหวัดเดินทางมาซื้อขายสินค้ากันตั้งแต่ประมาณเที่ยงคืนไปจนถึงเช้ามืด ดังนั้นความสะดวกในการเดินทางจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การค้าขายภายในตลาดทะเลไทยยังคงเดินหน้าต่อไปได้ จนกว่าการก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 จะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้กล่าวไว้

สืบกระทุ่มแบน ตามรวบหนุ่มขโมยรถยนต์ หนีหมายจับกว่า 10 ปี อีกไม่ถึงเดือนจะขาดอายุความ   กล่าวคือ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.58 นา...
25/07/2025

สืบกระทุ่มแบน ตามรวบหนุ่มขโมยรถยนต์ หนีหมายจับกว่า 10 ปี อีกไม่ถึงเดือนจะขาดอายุความ
กล่าวคือ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.58 นายณัฐวัศห์ หรือน้อย (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา ได้ออกอุบายว่าจ้างรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลพร้อมคนขับ จาก จ.ชุมพร เพื่อไปบรรทุกรถจักรยานยนต์ในเขต อ.กระทุ่มแบน เมื่อมาถึง ผู้ต้องหาได้หาข้ออ้างเพื่อขับรถยนต์คันดังกล่าวออกไปคนเดียว และได้หลบหนีไป ผู้เสียหายพยายามติดต่อแล้วไม่สามารถติดต่อได้ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.กระทุ่มแบน และพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติต่อศาลจังหวัดสมุทรสาครออกหมายจับที่ 502/2558 ลงวันที่ 20 พ.ย.58 และหมายจับดังกล่าวจะขาดอายุความในวันที่ 25 ส.ค.68 ที่จะถึงนี้
ซึ่งตามนโยบายของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 และ พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 ที่เน้นการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้างเก่า โดยเฉพาะคดีที่ใกล้หมดอายุความ
ทาง ภ.จว.สมุทรสาคร นำโดย พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และ พ.ต.อ.สร ซื่อตรงพานิช ผกก.สภ.กระทุ่มแบนได้สั่งการให้ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ชูบุญเรือง รอง ผกก.สส.สภ.กระทุ่มแบน, พ.ต.ท.สุเชาว์ เหมือนมิ่ง สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน และ ร.ต.อ.ภรบัญชา ช่างเกวียนดี รอง สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน ทำการสืบสวนจนพบเบาะแสว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกจนกระทั่งวันที่ 24 ก.ค.68 เวลา 11.30 น.จึงได้นำกำลังบุกจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณสวนยางพารา ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จว.ตราด โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าได้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปจำนำกับคนรู้จักได้เงินมาจำนวน 30,000 บาท พร้อมระบุว่าไม่คิดว่าตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมตัวได้เนื่องจากเวลาผ่านไปนานหลายปี ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474 สามัคคีเพื่อชาติ!!ทหาร นักศึกษา และประชาชน แห่บริจาคเลือด ช่ว...
25/07/2025

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474

สามัคคีเพื่อชาติ!!ทหาร นักศึกษา และประชาชน แห่บริจาคเลือด ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา สะท้อนน้ำใจคนไทยไม่ทอดทิ้งกัน”

วันนี้ (25 กรกฎาคม 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่ทหาร กรมทหารราบที่ 151 ค่ายกัลยาณิวัฒนาและค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมด้วยนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และประชาชนหลากหลายพื้นที่ ร่วมใจกันบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งต่อพลังใจให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา สะท้อนถึงน้ำใจของคนไทยที่ไม่ทอดทิ้งกันในยามวิกฤต

ทั้งนี้แม้สถานการณ์ชายแดนจะยังคงตึงเครียด แต่สิ่งที่ชัดเจนคือพลังน้ำใจของพี่น้องชาวนราธิวาส ที่ยังคงหลั่งไหลไม่หยุด ไม่นิ่งเฉย เมื่อเพื่อนร่วมชาติเดือดร้อน เพื่อยืนหยัดเคียงข้างกันในยามที่ประเทศต้องการความร่วมมือมากที่สุด ด้วยความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และหน่วยทหารจากค่ายกัลยาณิวัฒนาฯเพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดน และเพื่อสำรองโลหิตในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งยังคงมีผู้ได้รับบาดเจ็บต่อเนื่องจากเหตุปะทะในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับทุกหยดเลือดที่ให้ คือสัญลักษณ์ของความเสียสละ และทุกมือที่ยื่นออกไปในวันนี้ คือพลังแห่งความหวังที่ยังคงงดงามในใจคนไทยเสมอ ถึงแม้จะอยู่แนวหลัง แต่ทุกคนต่างตระหนักว่าการเสียสละไม่จำเป็นต้องถืออาวุธในแนวหน้า ซึ่งวันนี้ชาวนราธิวาสขอใช้หัวใจและหยาดเลือด เป็นอีกหนึ่งพลังในการยืนหยัดเคียงข้างเพื่อนร่วมชาติ เพราะน้ำใจ คืออาวุธที่ทรงพลังที่สุดของคนไทย และท่ามกลางความตึงเครียดของสถานการณ์ชายแดน เสียงหัวใจของผู้ให้ยังคงเต้นด้วยความหวัง ให้ประเทศไทยก้าวข้ามช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน

นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าว่าในฐานะที่เราเป็นคนไทย
ก็ได้มาบริจาคเลือดให้กับคนไทยที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่ง พอทราบข่าวจากทีวีเลยชักชวนเพื่อนๆกันมาบริจาคเลือด และรู้สึกภูมิใจที่วันนี้ได้มาบริจาคเลือด ก็อยากเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งและต่อสู้เพื่อคนไทย

ด้านสิบตรีสรยุทธ์ หมุดตะเหล็ง กล่าวว่าก่อนอื่นก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่สูญเสียและได้รับบาดเจ็บ และขอส่งกำลังใจให้พี่ๆทหารทุกนายที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา และขอให้ปลอดภัยแคล้วคลาดทุกคน ซึ่งพอได้ทราบเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ทหารก็ชวนกันมาบริจาคเลือด เพื่อส่งกำลังใจให้คนไทยที่อยู่ชายแดน ซึ่งเท่าที่ทราบก็มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหลายคน

ด้านสิบตรีอภิสิธร์ เพ็ชรศรีจันทร์ กล่าวว่าในฐานะที่เป็นทหารด้งยกัน วันนี้ก็ได้มาบริจาคเลือดและส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทหารที่ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสีย

ขณะที่นายหิรัณย์ ขานโบ กล่าวว่าพวกเราทุกคนก็ขอเป็นกำลังใจให้ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตอนนี้ก็ได้เกิดการสูญเสียซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้เกิด และวันนี้ก็ได้มาบริจาคเลือด เพื่อฝากเลือดให้กับพี่น้อง ที่ต้องการใช้เลือดในยามวิกฤตครั้งนี้

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474 พ่อเมืองนราฯคาดโทษ อส.ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดและใบกระท่อมจะดำเนินค...
25/07/2025

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474

พ่อเมืองนราฯคาดโทษ อส.ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดและใบกระท่อมจะดำเนินคดี
ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส กล่าวถึงกรณีการปราบปรามใบกระท่อม 120 วัน ว่า บรรดาส่วนราชการไม่ว่าจะเป็น อส. ชรบ.หรือใครก็แล้วแต่ ถ้าไปใช้บริการตรงนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด นอกเหนือจากการปราบปรามตรงนี้แล้ว การป้องปรามคือการตรวจปัสสาวะของข้าราชการ อส. ตรงนี้ผมดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ถ้าพบกระทำความผิดก็คุยกันก่อน พร้อมกลับตัวกลับใจไปบำบัดมั๊ย ถ้า 1 ครั้งแล้วให้โอกาสเป็นครั้งที่ 2 ถ้าไม่ยอมเลิกอย่างเด็ดขาดผมก็ต้องดำเนินคดี ถ้ายังข้องแวะโดยเฉพาะ อส.ถ้าข้องแวะกับยาเสพติดตั้งแต่กระท่อมมา ผมก็ไม่รับเข้าทำหน้าที่ อันนี้ผมให้นโยบายอย่าชัดเจนตั้งแต่เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ และขณะเดียวกันหลังรับเข้ามาแล้วจะมีการตรวจเรื่อพวกนี้ต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของข้าราชการเดี๋ยวประชุมข้าราชการช่วงสิ้นเดือน จะมีการตรวจปัสสาวะทุกคน รวมถึงผู้ว่าด้วย
/////////////////////////// 25 กรกฎาคม 2568

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474 เกษตรจ.นราฯเดินหน้าอบรมเกษตรกรแปลงใหญ่ สร้างความตระหนักรู้ด้า...
25/07/2025

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474

เกษตรจ.นราฯเดินหน้าอบรมเกษตรกรแปลงใหญ่ สร้างความตระหนักรู้ด้านสุขอนามัยพืช และมาตรฐาน GAP มุ่งยกระดับมาตรฐานผลไม้ไทยสู่ตลาดส่งออก

วันนี้ (24 กรกฎาคม 2568) ที่ หอประชุมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 39 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดกิจกรรมอบรมเกษตรกรภายใต้โครงการสร้างความตระหนักรู้เกษตรกรแปลงใหญ่ด้านสุขอนามัยพืชในการส่งออกผลไม้ปี 2568 โดยมีนายวิมุตติ อำนักมณี นายอำเภอระแงะ พันเอกสุรศักดิ์ พึ่งแย้ม ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 45 พ.ต.อ.ศุภชัช ณ พัทลุง ผกก.สภ.ระแงะ นายจตุรงค์ พรหมวิจิต เกษตรจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนเกษตรกรในพื้นที่ 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาสเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้

สำหรับการอบรมเกษตรกร “โครงการสร้างความตระหนักรู้ เกษตรกรแปลงใหญ่ ด้านสุขอนามัยพืช ในการส่งออกผลไม้ ปี 2568 ” เพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่เกษตรกร แปลงใหญ่ด้านสุขอนามัยพืชในการส่งออกผลไม้ ตามแนวทางของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ได้แก่ ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ พัฒนาคุณภาพมาตรฐาน ตรงตามความต้องการของตลาด การรวมกลุ่มการผลิต มีการบริหารจัดการร่วมกัน และสร้างเครือข่าย ที่มีการเชื่อมโยงและเกื้อกูลกัน ภายใต้การ สนับสนุนของทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนโยบายตลาดนำการผลิต ซึ่งจังหวัดนราธิวาสกำลังเข้าสู่ฤดูการผลิตผลไม้ (ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง) ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงตุลาคม โดยเฉพาะทุเรียนเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญในปัจจุบัน มีเนื้อที่ยืนต้น 31,900 ไร่ เนื้อที่ให้ผล 28,400 ไร่ ปริมาณผลผลิตที่จะออกในปีนี้ ประมาณ 9,300 ตัน จากแผนบริหารจัดการผลไม้ จังหวัดนราธิวาส มีการกระจายผลผลิต เพื่อการส่งออก จำนวน 740 ตัน คิดเป็นร้อยละ 7.90 ของผลผลิตทั้งหมด โดยผู้ส่งออกจะต้องมี ใบรับรอง GAP และใบรับรองโรงคัดบรรจุที่ออกโดยกรมวิชาการเกษตร เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพผลผลิตก่อนการส่งออก ดังนั้นเพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพทุเรียนให้มีประสิทธิภาพจึงต้องมีการสร้างความเข้าใจด้านสุขอนามัยพืชให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรกรแปลงใหญ่ให้เกิดความเข้าใจในการดำเนินการอย่างถูกต้องต่อไป

การอบรมเกษตรกรเพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านสุขอนามัยพืช ในการส่งออกผลไม้ มีกิจกรรมประกอบด้วย การบรรยายทางวิชาการเรื่อง การ ปรับตัวการผลิตพืช ให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพ ภูมิอากาศ หรือ (Climate Change) และการใช้สิทธิ์รับรอง GAP อย่างถูกต้อง การละเมิด การป้องกันการ สวมสิทธิ์ กฎหมายที่ควรรู้เกี่ยวกับ GAP และการจัดการศัตรูพืช ที่มีประสิทธิภาพ (หนอนเจาะเมล็ดทุเรียน) การมอบใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร แก่เกษตรกร จำนวน 10 ราย มอบเมล็ดพันธุ์ผัก แก่ตัวแทนเกษตรกร 300 ราย และ นิทรรศการให้ความรู้ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกิจกรรม Big Cleaning Day (สวนทุเรียน) และหารเก็บตัวอย่างดินและน้ำตรวจวิเคราะห์ ณ สวนทุเรียนพิธาน นราธิวาส ตำบลบาโงสะโต อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส

ด้านว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่าสำหรับการจัดงานฯ ในวันนี้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นโอกาสที่ดีของการสร้างความตระหนักรู้เกษตรกรแปลงใหญ่ด้านสุขอนามัยพืชในการส่งออก ผลไม้คุณภาพในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เสริมสร้างภาพลักษณ์ผลไม้คุณภาพดี ของจังหวัดนราธิวาสให้เป็นที่รู้จัก และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคในการซื้อสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพปลอดภัย รวมถึงการบริหารจัดการสวนทุเรียน เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตอบรับความต้องการของตลาด เกิดการสร้างเครือข่าย ด้านการตลาด การผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทั้งผู้ผลิตทุเรียน และผู้ซื้อใน พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพผลผลิตก่อนการส่งออก

และการจัดการอบรมเกษตรกร “โครงการสร้างความ ตระหนักรู้เกษตรกรแปลงใหญ่ด้านสุขอนามัยพืชในการส่งออกผลไม้ ปี 2568" เป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ผลไม้คุณภาพดีของจังหวัดนราธิวาส ให้เป็นที่รู้จัก และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคในการซื้อสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพปลอดภัย รวมถึงการบริหารจัดการสวนทุเรียนเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตอบรับ ความต้องการของตลาด สร้างรายได้ และผลตอบแทนให้แก่เกษตรกร ได้เป็นอย่างดี สามารถขยายผลให้พี่น้องเกษตรกรผู้ผลิตทุเรียนรายอื่นในพื้นที่ผลิต ทุเรียนคุณภาพ สร้างความเข้มแข็ง และพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474 “พื้นที่กลาง สร้างความปรองดอง” ผอ.ศูนย์สันติวิธี เปิดศูนย์ไกล...
25/07/2025

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474

“พื้นที่กลาง สร้างความปรองดอง” ผอ.ศูนย์สันติวิธี เปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน (ศกช.) ลดความขัดแย้ง เพิ่มการพูดคุย สร้างสมานฉันท์อย่างสันติ

ในปัจจุบันความขัดแย้งในสังคมเกิดขึ้นหลายระดับ ทั้งในครอบครัว ชุมชน หรือการประกอบอาชีพ การมีพื้นที่กลางสำหรับการไกล่เกลี่ยหรือการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะยุติปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมได้ และการมีพื้นที่กลางสำหรับการไกล่เกลี่ยนั้น จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่จะสะท้อนภาพการร่วมใจกันแก้ปัญหาของทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นแนวทางสำคัญของ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4

วันนี้ (24 กรกฎาคม 2568) เวลา 10.30 น. ที่ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน (ศกช.) ประจำศูนย์สันติวิธี ภายในค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลตรี เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี เป็นประธานในพิธีเปิดป้าย ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน (ศกช.) ประจำศูนย์สันติวีธี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าในการพัฒนา “กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์” ให้มีบทบาทในระดับชุมชนต่อไป โดยมี นายธีรเดช แสงจันทร์ ยุติธรรมจังหวัดปัตตานี, พันโท ประภัทร กุหลาบ ประธานคณะทำงานศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ตลอดจนส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธีด้วยความอบอุ่น

โอกาสนี้ พลตรี เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กล่าวว่า “จากสภาพปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน การจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของพี่น้องคนไทยทุกคน ที่เน้นความเข้าใจ การให้อภัย และการหาทางออกร่วมกัน มากกว่าการใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียว
ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน (ศกช.) ประจำศูนย์สันติวิธี จึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ ที่สร้างความสมานฉันท์โดยเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งศูนย์สันติวิธี สำนักงานยุติธรรมจังหวัดปัตตานี ผู้นำชุมชน อาสาสมัคร และภาคประชาชน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันจัดตั้งศูนย์แห่งนี้ขึ้น เพื่อให้กำลังพล ครอบครัว และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ได้เข้าถึงกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทอย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่มีค่าใช้จ่าย และเป็นธรรมกับทุกคน

ซึ่งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน (ศกช.)
ประจำศูนย์สันติวิธีแห่งนี้ เป็นศูนย์ไกล่เกลี่ยแห่งแรกของประเทศไทยที่อยู่ภายใต้การปฏิบัติงานของทหาร และเชื่อมั่นว่าศูนย์ฯ แห่งนี้จะเป็นพื้นที่กลางที่สร้างคาวมเข้าใจ ส่งเสริมการพูดคุย การปรึกษาหารือ และการสร้างความปรองดองในชุมชน เป็นกลไกสำคัญในการลดภาระของศาล และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนประชาชนในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง”

25/07/2025

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474

ผู้ว่านราฯยันหลายพื้นที่มีการจับกุมน้ำกระท่อมแล้ว เตรียมลงพื้นที่จัดระเบียบหน้าสถานศึกษา

ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส กล่าวถึง กรณีการปราบพืชกระท่อม ใน 120 วัน ตามนโยบายของ รมว.ยุติธรรม ผมได้มอบนโยบายตรงนี้ไปในส่วนของอำเภอ ประสานงานร่วมกับทางตำรวจและทหาร โดยการเอกซเรย์เบื้องต้นก็สืบทราบให้ได้ว่ามีจำนวนผู้ค้าเรื่องของน้ำกระท่อมมีอยู่จำนวนเท่าไรในแต่ละอำเภอ 2.สถานที่ตั้งหากอยู่หน้าโรงเรียนสถาศึกษา ที่เด็กเยาวชนเข้าไปข้องแวะต้องจัดการโดยเด็ดขาด 3.ในเรื่องของการที่มีการนำโค้ก ยาแก้ไอหรือรับผสมต้องจัดการ เพราะถือว่าละเมิดแล้วถ้าเป็นน้ำกระท่อมเพียวๆไม่ได้มีผลกระทบต่อใดๆ อันนี้เราก็ต้องว่าไปตามกฎหมายที่ตอนนี้เปิดช่องให้เขาอยู่ ส่วนเรื่องที่เราเน้นย้ำนโยบายตรงนี้ ผมได้มีการติดตามทางงอำเภอโดยมอบให้ทางปลัดจังหวัดเป็นหัวหน้าในการดำเนินการ สอดส่องดูแลอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ทราบว่าได้มีการดำเนินการไปแล้วในหลายส่วน โดยเฉพาะการขายบริเวณสถานศึกษาในเรื่องนี้ผมให้ความสำคัญมาก ถ้ามีเด็กเยาวชนไปข้องแวะต้องปราบปรามอย่างเด็ดขาด หลังเอกซเรย์เรารู้จำนวนร้านค้าแล้ว เดี๋ยวจะดูรายทางว่าตรงนั้นมันมีความเหมาะสมหรือไม่ แล้วจะมีการจัดระเบียบตรงนี้อีกทีให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรี
///////////////////////// 24 กรกฎาคม 2568

ที่อยู่

88/949 หมู่5 ต. อ้อมน้อย อ. กระทุ่มแบน
Samut Sakhon
74130

เบอร์โทรศัพท์

+66892528110

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ตรงประเด็นข่าวผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ตรงประเด็นข่าว:

แชร์