02/09/2025                                                                            
                                    
                                                                            
                                             #สมุทรสงคราม ในรายงานเอกสารอยู่ลำดับที่ 107 ร่วมกับ  #สมุทรสาคร
เปิดเอกสาร โครงการ “Anywhere Anytime” 22,585.23 ล้านบาท
สพฐ. เช่าระบบ/แท็บเล็ต 607,655 เครื่อง
โครงการ “Anywhere Anytime” (โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ทุกเวลา) เป็นนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ตามนโยบายรัฐบาล จัดหาอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น แท็บเล็ตสำหรับครูและนักเรียน (1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต) 
มีเป้าหมายให้ผู้เรียนและครูสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ดิจิทัล เช่น E-Book, วิดีโอ, แบบฝึกหัดออนไลน์, เกมการศึกษา ผ่านแพลตฟอร์มที่เข้าถึงได้ง่าย “ทุกที่ ทุกเวลา” 
แบ่งเป็น 2 ระยะ
📍ระยะที่ 1 – ปีงบประมาณ 2567
มีวงเงิน 482.26 ล้านบาท  เน้นการพัฒนาระบบนิเวศดิจิทัล (Digital ecosystem):
เช่าใช้ระบบคลาวด์ระดับ ศธ. (วงเงิน 36.38 ลบ.)
จ้างที่ปรึกษา NDLP (200.88 ลบ.)
วิจัยและพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ดิจิทัล (245.00 ลบ.) 
📍ระยะที่ 2 – ปีงบประมาณ 2568–2572
ครม. อนุมัติวงเงินรวม 22,102.97 ล้านบาท (ผูกพัน 5 ปี) 
แบ่งเป็น:
พัฒนาระบบนิเวศดิจิทัล และเช่าใช้ระบบคลาวด์ (6,531.08 ล้านบาท)
จัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอน (Tablet/Notebook/Chromebook) จำนวน 607,655 เครื่อง ใช้ระยะเวลา 60 เดือน (5 ปี) วงเงิน 15,491.90 ล้านบาท 
พัฒนาระบบและแพลตฟอร์มการเรียนรู้
ใช้แพลตฟอร์ม NDLP (National Digital Learning Platform) เป็นหัวใจสำคัญของการศึกษาแบบดิจิทัล เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้ง่ายทุกที่ทุกเวลา 
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้กำหนด TOR สำหรับเช่าอุปกรณ์การเรียนการสอน (แท็บเล็ต, โน้ตบุ๊ก ฯลฯ) ด้วยสเปก
CPU อย่างน้อย Core 2 Duo (3.0 GHz) หรือ Core 2 Quad (2.4 GHz)
RAM DDR5/LPDDR5 อย่างน้อย 6 GB
Storage อย่างน้อย 128 GB, ช่อง Cloud 5 GB
หน้าจอทัชสกรีน ≥ 10 นิ้ว, รองรับปากกาเขียนหน้าจอ
กล้องอย่างน้อย 720p, USB-C, Wi-Fi 802.11ax, Bluetooth 5.2, LTE/eSIM 4G
แบตเตอรี่ใช้งาน ≥ 8 ชั่วโมง, ระบบปฏิบัติการอัปเดตความปลอดภัย, โปรแกรมพื้นฐาน (อีเมล, เอกสาร, สเปรดชีต, จดบันทึก), Serial Number และชิปความปลอดภัย
อุปกรณ์เสริมครบ: ปากกา, สายชาร์จ USB-C, คู่มือไทย, คีย์บอร์ดภาษาไทย–อังกฤษ (หากเป็นแท็บเล็ต)
มีเงื่อนไขรับประกัน เปลี่ยนเครื่องให้ทันทีหากเสีย/ชำรุดโดยไม่ใช่กรณีทุจริต 
มีการประชุมคณะกรรมการกำหนดราคากลางและร่าง TOR ในช่วงเดือนสิงหาคม 2568 โดยให้ *สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.)  #แต่ละแห่งพิจารณาสเปกให้สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่
ต้นทุนค่าเช่าอุปกรณ์ต่อเครื่อง ในแบบแผนใหม่ที่ปรับจากเดิม โดยให้สพท.ดำเนินการเอง พบว่า:
จำนวนอุปกรณ์: 617,250 เครื่อง (นักเรียน 557,647 เครื่อง และครู 59,603 เครื่อง)
งบผูกพัน 5 ปี (2568–2574): ประมาณ 14,647 ล้านบาท
ค่าเช่า: 395.50 บาทต่อเดือนต่อเครื่อง (รวม 60 เดือน = 5 ปี) โดยรวมเป็น 23,730 บาทต่อเครื่อง ตลอดสัญญา
โครงการ Anywhere Anytime ภายใต้แนวคิด “ส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ทุกเวลา” ฟังดูสวยหรู แต่เมื่อเจาะรายละเอียด กลับพบคำถามใหญ่ที่ไม่อาจมองข้าม
📍 การจัดสรรสิทธิ์
ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องสเปคของเครื่อง แต่คือการ “จัดสรร” ว่า จังหวัดไหนจะได้ยี่ห้อใด ใครเป็นผู้ขาย — มันลงตัวกันอย่างบังเอิญหรือมีการตกลงล่วงหน้า?
📍 คุณสมบัติผู้แข่งขัน
TOR กำหนดเงื่อนไขที่ทำให้ผู้เข้าแข่งขันต้องมี “คุณสมบัติขั้นเทพ” จนแทบไม่มีใครสู้ได้ แบบนี้จะเรียกว่าเป็น การล็อกสเปกยุคใหม่ หรือไม่?
📍 ภาระที่ตกสู่ผู้ปกครอง
ตลอดระยะเวลา 5 ปีของการเช่า โรงเรียนต้องรับผิดชอบ แต่ในความจริงแล้ว โรงเรียนก็มักผลักภาระนี้ไปที่ผู้ปกครอง
 • ถ้าเครื่องพังในปีท้าย ๆ ค่าเสียหายอาจสูงถึง สองหมื่นบาท
 • ถ้าเหตุผลคือ “เสียหายไม่ใช่จากการผลิต” ผู้ปกครองต้องควักจ่ายเอง ทั้งที่รายได้หลายครอบครัวแทบไม่พอเลี้ยงชีพ
⚠️ แบบนี้เป็นธรรมกับครอบครัวฐานรากหรือไม่?
เงินภาษีถูกใช้ไปจำนวนมาก แต่ภาระกลับไปตกอยู่ที่ผู้ปกครองและโรงเรียน นี่คือโครงการเพื่อการศึกษา หรือโครงการเพื่อธุรกิจของใครบางคน?
⸻
📢 ถึงเวลาที่ต้องตั้งคำถามว่า “Anywhere Anytime” ที่บอกว่าเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา จริง ๆ แล้วใครได้เรียน ใครได้กำไร และใครกำลังถูกทิ้งไว้ข้างหลัง?
ช่วยกันติดตาม
ศูนย์ปฏิบัติการSTRONGประเทศไทย