
11/08/2025
#เรื่องราวเล่าเรื่อง_พ่อแม่ของผม
\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\||\\|\|\|\|\|\|\|\|\|
“ทำไมแม่ถึงทิ้งผม?
“แม่ไม่รักผมใช่ไหม?”
“แม่ไม่พร้อมที่จะมีผมใช่ไหม?”
“แล้วให้ผมลืมตามาดูโลกที่โหดร้ายเพื่ออะไร?”
“แม่รู้ไหม ผมลำบากแค่ไหน?”
เป็นคำถามที่คอยวกวนทำร้ายผมเสมอมาเป็นเวลาเกือบ30ปี
พ่อแม่ของผมเป็นใคร?
แม่ต่าย(ที่เก็บผมมาเลี้ยง)บอกกับผมว่า เจอผมถูกทิ้งไว้ที่ข้างถนนตอนเช้ามืดของวันหนึ่ง
ไม่มีอะไรที่พอจะสืบเสาะว่าผมเป็นใครมาจากไหน เป็นลูกหลานของใคร แต่แม่ต่ายรู้สึกถูกชะตา จึงเก็บผมมาเลี้ยงเป็นลูก
แม่ต่ายไม่ได้แต่งงาน
ท่านจึงรักผมเหมือนลูกแท้ๆของท่าน ท่านบอกผมเสมอว่า
“ภาสคงเป็นลูกที่พรัดหลงกับแม่ในอดีตชาติ ชาตินี้จึงได้มาเป็นลูกของแม่อีกครั้ง ให้แม่ได้ดูแลภาสทดแทนที่ไม่ได้ดูแลในอดีตชาติ”
แม่ต่ายตั้งชื่อให้ผมว่า “ประภาส” แปลว่าแสงสว่าง เพราะท่านพบผมตอนเช้าตรู่ ท่านหวังว่าชีวิตของผมจะสว่างไสวเหมือนคบเพลิง เป็นแสงสว่างนำทางชีวิตของผมให้เจริญ
แต่ปมที่อยู่ในใจ ทำให้ใจผมมืด ทำให้ผมมองไม่เห็นความรักที่แม่ต่ายมอบให้ผมมาโดยตลอด
ผมคบเพื่อน ผมเสพยา ผมเล่นการพนัน ผมเที่ยวกลางคืน สิ่งที่แม่ต่ายห้าม ผมทำหมด มันไม่ใช่ว่าเพราะผมไม่รักดี แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมต้องทำอย่างนี้
แม่ต่ายใจเย็นกับผมมาก แม่ไม่เคยพูดให้ผมเจ็บช้ำน้ำใจ แม่ได้แต่อดทนกับพฤติกรรมแย่ๆของผม จนตากับยายมักจะตำหนิแม่ต่ายเสมอว่า
“เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแกแล้วใช่ไหม? เอาลูกเขามาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอม ลูกเสือลูกโจรหรือเปล่าก็ไม่รู้?”
แล้วจุดเปลี่ยนของชีวิตผมก็เกิดขึ้น
วันที่ยายเสีย แม่ต่ายขอร้องให้ผมบวชให้ยาย เมื่อครบกำหนด
ผมตัดสินใจขอบวชต่ออีก3เดือน ช่วงนี้นี่เองที่ทำให้ผมเห็นอะไรชัดเจนขึ้น
ผมเห็นความเลวที่ผมทำกับแม่ต่าย
ผมเห็นความทรพีของตัวเองที่ทำให้ผู้มีพระคุณต้องร้องไห้ครั้งแล้วครั้งเล่า
ผมเห็นความจริงของโลกใบนี้ว่า
“ทุกสิ่งยุติธรรมเสมอ”
แต่ไม่ใช่ยุติธรรมในมาตรฐานของตัวเราเอง แต่เป็นมาตรฐานของกฎแห่งกรรม
พระอาจารย์สอนผมว่า
“ที่ชีวิตของเธอเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่ความผิดของพ่อแม่เธอเพียงฝ่ายเดียว แต่เธอก็มีส่วนผิดด้วย มันผิดตั้งแต่อดีตชาติ อย่าได้แต่โทษพ่อแม่
พ่อแม่ของเธอผิดที่ไม่เลี้ยงดูเธอ
แต่เธอผิดที่ไม่รักดี ไม่กตัญญูต่อแม่ผู้เก็บเธอมาเลี้ยง จำไว้นะ ชีวิตของเธอ เธอคือผู้ลิขิต จะสูงจะต่ำ จะดีจะเลว จากนี้ไปอยู่ที่ตัวเธอ เธอคือคนกำหนด!”
หลังจากสึกออกมาจากการบวชในครั้งนั้น ผมจึงพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมมองสิ่งที่ผมมี พยายามลืมในสิ่งที่ผมขาด
ผมดูแลแม่ต่ายและตามากยิ่งขึ้น จนถึงวันนี้ ผมมีครอบครัวแล้ว ผมมีลูกชายน่ารักน่าชังหนึ่งคน ลูกและภรรยาของผมคือส่วนเติมเต็มคำว่าครอบครัวให้ผมและแม่ต่าย แม่ดูมีความสุขมากที่เห็นผมเริ่มเป็นผู้เป็นคน เริ่มก่อร่างสร้างตัว
เช้าวันนี้ หลังจากทำบุญใส่บาตรกับแม่ต่ายและภรรยาและก็เจ้าตัวเล็กแล้ว ผมก็นำพวงมาลัยดอกมะลิ2พวงเดินเข้าไปที่ห้องพระ
“พ่อครับแม่ครับ ลูกจะไม่โทษพ่อกับแม่อีกแล้ว บุญแค่ไหนที่พ่อกับแม่ให้กำเนิดผมมา หากพ่อกับแม่ยังมีชีวิตอยู่ โปรดอโหสิกรรมให้ลูกเลวๆคนนี้ด้วยเถิด หากพ่อกับแม่ตายจากโลกนี้ไปแล้ว ชาติหน้ามีจริง ผมจะขอมาเกิดเป็นลูกของพ่อกับแม่อีกครั้ง ผมจะขอเป็นคนเลี้ยงดูพ่อกับแม่ในชาติหน้านะครับ”
ผมวางพวงมาลัยไว้ที่พาน หวังว่าสิ่งที่ผมได้เอ่ยอธิษฐานจะดลบันดาลให้พ่อกับแม่ของผมได้รับรู้
จากนั้นผมเชิญแม่ต่ายให้นั่งบนเก้าอี้ ผมนำพวงมาลัยอีกพวงยกพนมขึ้นกับอก
“ลูกขอมอบพวงมาลัยพวงนี้ เป็นตัวแทนคำขอขมาที่ลูกได้ทำไม่ดีกับแม่ต่ายไว้ครับ”
แม่ต่ายรับพวงมาลัยไว้ แล้วมองมาที่ผมด้วยสายตารักและเอ็นดู
“แม่ต่ายครับ ลูกคนนี้ไม่กล้าขอให้แม่ต่ายยกโทษให้ บุญคุณที่แม่ต่ายเก็บผมมาเลี้ยง ชาตินี้ผมก็ทดแทนไม่หมด ต่อจากนี้ไป ผมจะขอแก้ไขในสิ่งที่ผมทำไม่ดีกับแม่ต่าย ผมจะเป็นลูกที่ดีของแม่ จะกตัญญูต่อแม่ครับ”
ผมก้มลงกราบที่เท้าของแม่ต่าย น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่หยดลงที่เท้าของแม่ ประหนึ่งว่า “ขอเอาน้ำตาของลูกลบล้างความผิดบาปที่เคยทำให้แม่ชอกช้ำเสียใจ”
แม่ลูบหัวของผมและกอดผมไว้ ปากก็พูดแต่คำว่า
“ภาส หนูคือลูกของแม่ จำไว้นะลูก หนูคือ #ลูกของแม่”
\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\|\||\\|\|\|\|\|\|\|\|\|
***หมายเหตุ เป็นเรื่องแต่ง ชื่อในบทความ เป็นชื่อสมมุติ ไม่ได้หมายถึงบุคคลใดโดยเฉพาะ ***
เครดิตเรื่อง : นุสนธิ์บุคส์
เครดิตภาพ :
https://images.app.goo.gl/kssCtvu59sg6YvEfA