05/10/2025
#ซื้อบ้านเก่าหรือบ้านมือสองไม่ควรมองข้าม‼️
"ระบบไฟฟ้าในบ้านเก่า"▪️การเปลี่ยนระบบไฟฟ้าในบ้านเก่าที่นำมารีโนเวทใหม่ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร เพื่อชีวิตที่ปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว.
⏰ บ้านเก่า/บ้านรีโนเวทสวยมีสเน่ห์ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ และความเสี่ยงอันดับหนึ่งที่ต้องรีบจัดการ คือ "ระบบไฟฟ้า" ที่เสื่อมสภาพตามกาลเวลา การปรับปรุงระบบไฟฟ้าในบ้านเก่าจึงไม่ใช่แค่การ "ซ่อม" แต่คือการ "ลงทุนที่สำคัญที่สุด" เพื่อความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตในระยะยาวของคุณและครอบครัว.
#การประเมินและวางแผนระบบ (จุดเริ่มต้น) ประเมินความต้องการไฟฟ้าปัจจุบันและอนาคต👉 คุณจะมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสูงอะไรบ้าง? (เช่น เครื่องปรับอากาศหลายเครื่อง, เครื่องทำน้ำอุ่น, เตาไฟฟ้า, รถยนต์ไฟฟ้า) 👉 วางแผนจำนวนและตำแหน่งของปลั๊กไฟ (เต้ารับ) และสวิตช์ไฟใหม่ให้เพียงพอและสะดวกต่อการใช้งาน (สำคัญมาก) ปลั๊กไฟในบ้านเก่ามักมีจำนวนน้อยเกินไป.
ตรวจสอบและอัปเกรดมิเตอร์ไฟฟ้า 👉 ปรึกษาการไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบว่ามิเตอร์ไฟฟ้าเดิม (เช่น 5(15A) เพียงพอหรือไม่ หากต้องใช้ไฟมากขึ้น ควรเปลี่ยนเป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้น (เช่น 15(45A) หรือ 30(100A) เพื่อรองรับการใช้ไฟรวมทั้งหมด.
#การเปลี่ยนอุปกรณ์ควบคุมหลัก
เปลี่ยนตู้ควบคุมไฟฟ้า (ตู้ Consumer Unit) ใหม่/ทิ้งคัตเอาต์เก่า 👉 ตู้คัตเอาต์หรือตู้ควบคุมไฟฟ้ารุ่นเก่าที่ใช้ฟิวส์แบบละลาย (Fuse) ควรเปลี่ยนเป็น ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต (Consumer Unit) หรือ ตู้โหลดเซ็นเตอร์ (Load Center) ที่ได้มาตรฐาน.
ติดตั้งเบรกเกอร์ป้องกันไฟรั่ว (RCD/RCBO) 👉 ตู้ใหม่ควรมี เมนเบรกเกอร์ (Main Circuit Breaker) และเบรกเกอร์ย่อยที่สามารถตัดไฟเมื่อเกิด ไฟฟ้าลัดวงจร และที่สำคัญคือ เบรกเกอร์กันดูด (Residual Current Device - RCD) หรือ RCBO (Residual Current Breaker with Overcurrent protection) เพื่อป้องกันไฟดูด
ติดตั้งระบบสายดิน (Grounding System) ให้ครบถ้วน.
👉 บ้านเก่าจำนวนมากไม่มีระบบสายดิน นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำในการรีโนเวท ติดตั้ง หลักดิน (Ground Rod) และเดินสายดินเชื่อมต่อกับตู้ควบคุมไฟฟ้า และ เต้ารับทุกจุดที่มีโอกาสใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโครงโลหะ (เช่น ห้องน้ำ, ห้องครัว, เครื่องทำน้ำอุ่น, เครื่องซักผ้า).
#การเดินสายไฟและการเลือกใช้อุปกรณ์ใหม่
เปลี่ยนสายไฟทั้งหมด (หากเป็นไปได้) 👉 ถ้าสายไฟเดิมมีอายุเกิน 15-20 ปี หรือฉนวนเริ่มแข็ง/เปื่อยยุ่ย ควรเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยสูงสุด.
การเดินสาย 👉 แนะนำให้เดินสายแบบ ร้อยท่อฝังผนัง (ใช้ท่อ PVC สีเหลือง หรือท่อโลหะ) เพื่อความสวยงามและความปลอดภัยของฉนวนสายไฟ. 👉 ถ้าไม่สามารถฝังผนังได้ ควรเดินสายแบบร้อยท่อลอยตามผนัง หรือเดินในรางเก็บสายไฟที่มีฝาปิดมิดชิด ไม่ควรตีกิ๊บเปลือย.
เลือกขนาดสายไฟให้ถูกต้องตามมาตรฐาน 👉 สายเมน : เลือกขนาดให้สัมพันธ์กับขนาดมิเตอร์และเมนเบรกเกอร์ที่ติดตั้ง
สายวงจรย่อย :
แสงสว่าง: มักใช้ขนาด 1.5 sq.mm. (ตร.มม.) และเบรกเกอร์ 10 A
เต้ารับทั่วไป: มักใช้ขนาด 2.5 sq.mm. (ตร.มม.) และเบรกเกอร์ 16 A
เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูง (แอร์, เครื่องทำน้ำอุ่น): ต้องมีวงจรแยกและใช้สายไฟขนาดที่เหมาะสมกับกำลังวัตต์ และเบรกเกอร์เฉพาะจุด
เปลี่ยนอุปกรณ์ปลายทาง : เปลี่ยน สวิตช์ไฟและเต้ารับ เก่าที่หลวมหรือชำรุดทั้งหมด ให้เป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน มอก. เต้ารับใหม่ควรเป็นชนิด มีสายดิน (3 รู) ทุกจุด.
#ทดสอบระบบหลังจากติดตั้งเสร็จ
การทำงานของ : เบรกเกอร์ทุกตัว (ทดสอบการตัดไฟอัตโนมัติ), เบรกเกอร์กันดูด (กดปุ่ม T Test)