ByMinne story นามปากกาผกายมาสกับธัญญวรินทร์
นามปากกาที่เคยใช้ ByMinne กับ ม่านฟ้า

จะเป็นเพจที่ลงนิยายและแชร์นิยายทั้งเก่าและใหม่ให้ค่ะ นามปากกาByMinne ผกายมาส ธัญญวรินทร์ ม่านฟ้า

บทที่ 7 เลือกผู้ชายโห ไม่คิดจะปรึกษาคนหมั้นเลยเหรอ? ผ่านแม่ตลอด สรุปเขาจะหมั้นกับแม่หรือกับเธอกันแน่!“ งั้นก็ขอไอดีไลน์ก...
30/09/2025

บทที่ 7 เลือกผู้ชาย

โห ไม่คิดจะปรึกษาคนหมั้นเลยเหรอ? ผ่านแม่ตลอด สรุปเขาจะหมั้นกับแม่หรือกับเธอกันแน่!

“ งั้นก็ขอไอดีไลน์ก็ได้ค่ะ เผื่อฉันอยากคุยกับคุณ ”

“ แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุย ”

“ อ้าว ”

“ ฉันงานยุ่ง ต้องรีบเคลียร์ทางนี้ให้เสร็จ แล้วกลับไปบ้าน ”

“ กลับบ้านหลังหมั้นเหรอ? ”

“ ใช่ ”

“ แล้วฉัน… ”

“ เธอต้องไปด้วย เพราะฉันจะย้ายกลับไปอยู่ใกล้พ่อแม่ ส่วนธุรกิจทางนี้ ฉันจะส่งต่อให้น้องชายมาดูแลแทน ”

“ บ้านคุณอยู่ไหนเหรอ ”

“ ภาคใต้! ”

“ เมืองเถื่อน! ”

“ เธอว่าอะไร ”

“ ปะ…เปล่าค่ะ ”

“ เมืองเถื่อนเหรอ? เธอไปได้ยินใครพูดมา ”

“ ก็เพื่อนฉันไปอยู่กับแฟนเธอที่นั้นมาสองปีแล้ว เธอบอกคนใต้ชอบพูดจาห้วน ๆ ใส่ ”

👇👇👇อ่านต่อเนื่องได้ที่

> ลิงก์ธัญวลัย <

http://www.tunwalai.com/story/863278

>> ลิงก์รี้ดอะไรท์

https://www.readawrite.com/a/8db49cea1c0dfc055c07f0713640d6b3

 #เรื่องอ้อนรักพ่อเลี้ยงเดี่ยว เป็นนิยายรัก โรแมนติก ตลก ดราม่านิด ๆ
29/09/2025

#เรื่องอ้อนรักพ่อเลี้ยงเดี่ยว เป็นนิยายรัก โรแมนติก ตลก ดราม่านิด ๆ

บทที่ 6 ยอมเป็นหมาให้เขาขี่หนึ่งเดือนต่อมา...“ ยัยรสา! ทำไมแกเพิ่งกลับถึงบ้านฮะ ”“ อ้าว ก็หนูเมาไงเลยไม่ได้กลับเมื่อคืน ...
28/09/2025

บทที่ 6 ยอมเป็นหมาให้เขาขี่

หนึ่งเดือนต่อมา...

“ ยัยรสา! ทำไมแกเพิ่งกลับถึงบ้านฮะ ”

“ อ้าว ก็หนูเมาไงเลยไม่ได้กลับเมื่อคืน ”

“ ฉันโทรหาแกกี่สายแล้วฮะ ทำไมแกไม่ยอมรับสาย ยี๋~ ตัวเหม็นเหล้ามาก ” แม่เดินมาใกล้ได้เพียงชั่วครู่ถึงกับต้องถอยห่างไป

“ โห แม่ ตอนนั้นหนูกำลังแดนซ์อยู่กับเพื่อน ๆ ไง ไม่มีเวลาจับมือถือหรอก เพื่อนแต่งงานทั้งที ต้องฉลองกันให้สุดสิ ”

“ ก่อนจะออกจากบ้านฉันพูดกับแกว่าไงฮะ แกลืมแล้วเหรอ? ”

“ บอกว่าอย่ากลับดึก ”

“ ใช่ แกก็จำได้นี่ แล้วทำไมไม่ปฏิบัติตาม ”

“ จำได้สิ ก็นี่ไงหนูไม่ได้กลับดึก แต่กลับเช้าแทน หนูทำตามที่แม่บอกแล้วนะ ”

“ ยัยรสา! แกนี่เถียงคำไม่ตกฟากจริง ๆ เลยนะ ” แม่ง้างมือขึ้น เธอก็ถอยหลังอย่างเร็ว

“ โธ่แม่ ปล่อยหนูบ้างเหอะ ให้อยู่แต่บ้าน หนูก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ ”

“ แหม่ ๆ แกพูดเหมือนตัวเองอยู่ติดบ้านเลยว่างั้น ”

“ แต่เดือนก่อนทั้งเดือน หนูไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ออกไปข้างนอกแค่ชั่วโมงสองชั่วโมงเองนะ แม่ไม่เห็นจะเยินยอหนูบ้างว่าเป็นเด็กดีแล้ว พอหนูออกไปดื่มแค่วันเดียว แม่ก็เริ่มบ่นเลยอะ ”

“ ฉันละปวดหัวกับแกมาก ๆ รีบไปอาบน้ำแต่งตัวซะ เดี๋ยวจะมีคนมาหาที่บ้าน ”

“ ใครอีกละแม่ หนูบอกแล้วไง คนที่หนูชอบและจะแต่งงานด้วยมีแค่พ่อรูปหล่อลูกติดคนนั้นคนเดียว ”

“ คุณสรุจจะมาที่บ้าน บอกว่าจะมาคุยเรื่องสู่ขอ ”

“ ฮะ สู่ขอ? ยัยรดาเหรอ แม่อ่า ทำกับหนูแบบนี้ได้ไง หนูบอกแล้วไงว่าหนูชอบเค้า หนูไม่ยอม อย่างอื่นหนูยอมได้หมด แม่จะให้น้องอะไรก็ได้ แต่ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ หนูไม่ยอม! ”

“ ยัยนี่ แกจะออกนอกหน้าเกินไปแล้วนะ ”

“ ... ” ไม่ตอบเพราะกำลังโกรธอยู่ แย่งของยังไม่โกรธเท่ากับแย่งคนหล่อเลยนะ

ไอ้เราอุตส่าห์ไปหาเขาแทบจะทุกวัน วันละชั่วโมงสองชั่วโมง อยู่ดี ๆ จะมายกให้เป็นสามีน้องสาวไปได้ไง

“ แกไม่ต้องมาโกรธฉัน ฉันพูดตอนไหนว่าเขาจะมาสู่ขอยัยรดาฮะ ”

“ งั้นเขามาสู่ขอใครล่ะ ”

ตื่นเต้นแล้วอะ ใจเต้นตึกตักๆเลย หรือจะเป็นเพราะเดือนก่อนที่เธอไปเหมากิ๊บร้านเขาเกือบทุกวัน เขาเห็นว่าเธอเป็นสายเปย์ เขาเลยอยากจะครอบครองเธอเป็นคนของใจ ฮ่า ๆ กรี๊ดด~

“ แกไม่ต้องดีใจขนาดนั้น เขามาสู่ขอป้าปริกโน่น ”

“ อ้าว ป้าปริกอยู่ไหน หนูว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน พูดให้เคลียร์ ”

“ แกอย่ามาแกล้งโง่ ”

“ เขามาสู่ขอหนูใช่ไหมแม่ บอกหนูมาสิ ”

“ ถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นหมาที่ไหนอีกล่ะ ”

“ หนูยอมเป็นหมา เป็นหมาให้เขาขี่ เอ๊ง เอ๊ง เอ๊ง ” ทำท่าทางไปด้วย พร้อมร้องออกไปเสียงดัง คนเป็นแม่เอือมระอาไม่ไหวเผลอมือฟาดไปที่ไหล่มนทำเอาอีกคนหยุดการกระทำ แต่ใบหน้ายังคงยิ้มไม่หุบ

“ โอ๊ย ยัยบ้านี่ แกเก็บอาการหน่อย รีบไปอาบน้ำอาบท่า แต่งตัวให้เรียบร้อยด้วยล่ะ อีกอย่าง แกพูดต้องมีหางเสียงกับเขาด้วยนะ ห้ามพูดคำที่เขาไม่ชอบออกไปล่ะ ไม่อย่างนั้นถ้าเขาหนีไปอีก แกต้องกลับไปเรียนหนังสือ เรียนคณะตามใจฉัน ”

“ รับแซ่บ! ” เธอพูดจบวิ่งขึ้นชั้นบนไปทันที

17 : 00 น.

“ คุณสรุจมาแล้ว ป้าปริกรีบไปเตรียมน้ำเตรียมขนมมาเสิร์ฟแขกเร็ว ”

“ ได้ค่ะ คุณนาย ”

ไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะ คนเขาอุตส่าห์แต่งตัวรอตั้งแต่เก้าโมง นี่เพิ่งจะมาถึงกัน จากที่นั่งยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมในตอนแรก กลายเป็นหุบยิ้มไปแล้ว ไม่ได้งอนเขาหรอกนะ เหงือกแห้งต่างหากล่ะ ก็เล่นยิ้มปากฉีกเห็นฟันครบทุกซี่ขนาดนั้น ไม่แห้งให้มันรู้ไป

“ สวัสดีครับ ขออภัยด้วยนะครับที่ให้รอนาน พอดีผมติดประชุมครับ ”

“ ไม่เป็นไรค่ะ รสาไปตามพ่อภพมาสิ ” โหแม่ คนเขากำลังสำรวจใบหน้าหล่อเหลาอยู่นะ ใช้อีกแล้วอะ

“ สวัสดีค่ะคุณสรุจ สวัสดีค่ะคุณ...เอ่อ... ” มีผู้ชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งที่มาพร้อมกับเขาด้วย เธอพนมมือค้างไว้เพราะไม่รู้จักชื่อของอีกคน

“ นี่อาของผม ชื่อสุชาติ วันนี้ผมจะให้อามาสู่ขอแทนพ่อแม่ เพราะพ่อแม่ของผมท่านไม่สะดวกที่จะเดินทางไกลครับคุณฉวี ” อ้าว ควรบอกเธอสิ นี่อะไรตบท้ายประโยคกลายเป็นชื่อแม่เธอเฉยเลย

“ ค่ะ เชิญนั่งก่อนค่ะ ” แม่พูดพร้อมรอยยิ้ม แล้วกวักมือเรียกให้ป้าปริกเอาของว่างมาเสิร์ฟ

“ สวัสดีค่ะคุณอาสุชาติ เชิญนั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูขอตัวไปตามพ่อก่อนค่ะ ”

ลุกขึ้นยืนก้มหน้าลงนิด ๆ ผ่านตัวเขา พ่อรูปหล่อ กลิ่นหอมโชยติดจมูกเลยอะ น้ำหอมยี่ห้ออะไรเนี่ย? ทั้งหล่อทั้งล้ำ แถมขาวอีกต่างหาก หึ๋ย!

เธอรีบเดินไปหาพ่อภพที่ห้องทำงานทันที ตอนที่ก้มหน้าโค้งตัวนิด ๆ ตอนเดินต่อหน้าเขาและอาของเขา และพูดมีหางเสียงอันไพเราะ เพิ่งโดนคนเป็นแม่สอนมาสด ๆ ร้อน ๆตอนสามชั่วโมงก่อนหน้าเลย ไอ้เราที่อยากได้เขาเป็นสามี เลยไม่เกี่ยงที่จะจดจำแล้วนำมาใช้

พอพ่อภพออกมา พวกเขาก็เริ่มคุยเรื่องการสู่ขอ ค่าสินสอดบลา ๆ คงมีแค่เธอที่นั่งเงียบ มองหน้าคุณสรุจเป็นพัก ๆ จนเกือบจะเก็บอาการไม่อยู่

ในชีวิตเธอพบเจอคนหล่อ คนหน้าตาดีน้อยมาก แต่ไม่คิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะได้เป็นว่าที่ภรรยาคนที่มีหน้าตาดีอย่างกับดารา

ภายในใจก็รู้สึกปลื้มปริ่มเป็นอย่างมาก ในหัวก็เริ่มวาดฝันอนาคตของครอบครัวที่อบอุ่นขึ้นมาแล้ว

“ วันหมั้นผมให้พ่อหามาให้แล้วครับอีกสองวัน ฤกษ์งามยามดี ว่าแต่คุณรณภพกับคุณฉวีวรรณ คิดว่ามันเร็วเกินไปไหมครับ ”

“ ผมกับคุณฉวีไม่มีปัญหาหรอกครับ ไม่รู้รสาจะรู้สึกไม่ดีหรือเปล่า เพราะมันกระทันหันเกินไป ”

“ รสา รสา ลูกว่าไง ”

“…”

“ รสา ”

“ โอ๊ย อุ้ย…คะ แม่ว่าอะไรเหรอ? ” เพราะโดนหยิกที่เอวบางทำเอาสะดุ้งหันมองแม่ผู้ให้กำเนิดที่นั่งข้าง ๆ ทันที

“ อีกสองวันจะหมั้นเลย ลูกมีข้อขัดแย้งอะไรหรือเปล่า ” เป็นพ่อภพที่ถามขึ้น

“ มะ…ไม่มีค่ะ แต่งเลยก็ได้ หนูไม่เกี่ยงค่ะ ” พูดจบยิ้มแป้น

“ หมั้นก่อนแล้วกัน ฤกษ์แต่งยังไม่มี ผมก็ไม่รีบด้วย ”

แต่ถ้าแต่งงานกัน เธอก็จะได้ครอบครองเขาเต็มตัว ถ้าเขาคิดจะหย่า เธอไม่ยอมเด็ดขาด โห เสียดาย หมั้นกันมันก็ต้องมีวันถอนหมั้นสิ

“ เอาเป็นว่าตามนี้นะครับ ผมผู้เป็นอาที่ทำหน้าที่แทนพ่อแม่ของหลาน ผมสัญญาว่าสินสอดจะครบตามที่คุยกันไว้ ส่วนเรื่องสถานที่ผมก็จะจัดการเอง ส่วนเรื่องของแขกที่มาร่วมงาน ถ้าฝ่ายคุณรณภพจะเชิญมาก็ได้ครับ แต่ช่วยแจ้งทางผมด้วยนะครับ จะได้จัดโต๊ะถูก ”

“ ได้ครับ ”

“ งั้นผมกับอาต้องขอตัวก่อนนะครับ ”

“ จ้ะ ๆ ขับรถกันกลับดี ๆ นะคะ ” เป็นแม่ที่พูดขึ้น

แหม่ มาทั้งที มาคุยแค่เนี่ย แล้วกับเธอไม่ต้องคุย ไม่ต้องทำความรู้จักให้มากหน่อยเหรอ อีกสองวันจะหมั้นกันแล้วนี่น่า

“ รสา ลูกไปส่งคุณสรุจสิ ”

“ ค่ะ แม่ ” เธอลุกขึ้นยืนเดินตามทั้งสองคนไป

“ คุณสรุจคะ ” เธอเดินไปยืนขวางหน้าเขา จนเขาหยุดเดินและมองหน้าเธอ คนเป็นอาก็ขอตัวไปรอที่รถทันที

“ เอ่อ…ขอเบอร์โทรคุณหน่อยได้ไหม ”

“ เอาไปทำไม ”

“ จะหมั้นกัน ไม่คิดจะติดต่อกันไปลองชุดเหรอคะ ”

“ ฉันให้เลขาจัดการให้แล้ว ”

“ แล้วรู้ไซซ์ฉันเหรอคะ ”

“ เมื่อวานฉันให้เลขาโทรหาคุณฉวีแล้ว คุยกันเรื่องชุดเรียบร้อยแล้วด้วย ”

❤️_________❤️

นามปากกาธัญญวรินทร์

บทที่ 5 รั้งสิเส้นดายชอปตรงหน้าคือร้านขายของแบบกิฟต์ชอป เป็นร้านที่ใหญ่มาก คนเข้าออกพลุกพล่านแม่บอกว่าลูกของคุณสรุจชื่อเ...
26/09/2025

บทที่ 5 รั้งสิ

เส้นดายชอป

ตรงหน้าคือร้านขายของแบบกิฟต์ชอป เป็นร้านที่ใหญ่มาก คนเข้าออกพลุกพล่าน

แม่บอกว่าลูกของคุณสรุจชื่อเส้นดาย ร้านนี้ก็คงตั้งชื่อลูก และลูกเขาก็มักจะอยู่ที่ร้านนี้ เขารักลูกสาวมาก ก็คงมาเฝ้าร้านกับลูกแหละ ดูสิลูกเขาจะน่ารักเท่าเธอหรือเปล่า? เด็กนั้นอายุน่าจะ15-16 แล้วแหละ ว่าแต่คุณสรุจมีลูกตอนอายุเท่าไหร่เนี่ย หรือเขาจะอายุมากแล้ว หน้าตาที่ดูอ่อนกว่าวัยก็คงไปศัลยกรรมมาแหละ คนรวยก็แบบนี้แหละ เงินเยอะไม่รู้จะใช้จ่ายอะไรดี เพราะใช้ยังไงก็ไม่มีวันหมด

ก้าวแรกที่เหยียบเข้าไปในร้าน หัวใจก็เต้นแรงมาก เพราะมาหาผู้ชายโดยเฉพาะ และเขาคนนั้นก็หล่อมากด้วย อยากได้มานอนกอดจัง!

‘ พรึ่บ ’

“ โอ๊ย ” เด็กน้อยล้มลงก้นจ้ำเบ้า

“ ยัยเด็กนี่เดินยังไงฮะ ไม่ดูตาม้าตาเรือเลย ” ผู้หญิงวัยกลางคนพูดขึ้น ก็คือคนที่เด็กวิ่งมาชน แถมยังยืนเท้าสะเอวมองหน้าเด็กอย่างโมโหอีก

“ แง่ ๆ หนูเจ็บ เจ็บ ” เด็กน้อยร้องไห้เริ่มมีน้ำตาไหลออกมา

“ เธอวิ่งมาชนฉันเองนะ เธอควรจะขอโทษฉันสิ แล้วนี่พ่อแม่ไปไหน ถึงปล่อยให้มาเดินคนเดียวฮะ ทำคนอื่นเดือดร้อนไปเสียหมด ” หญิงวัยกลางคนก็เอาแต่พูดป่าว ๆ แต่ไม่ยอมช่วยเด็กให้ลุกขึ้น

แหม่ ๆ คุณป้าคนนี้ ก็เห็นว่าอีกคนเป็นแค่เด็กเอง ก็แค่ช่วยมันจะตายเหรอ? หึก คนดีแบบเธอที่สวยทั้งร่างกายต้องออกโรงปกป้องแล้วสิ!

“ หนูเป็นอะไรหรือเปล่า? ” จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงอีกคนเดินเข้ามา ตัดหน้าเธอไปเฉยเลย เหอะ!

“ หนู ฮึก เจ็บค่ะ แง่ ๆ ”

“ โอ๋ ๆ พ่อแม่หนูอยู่ไหนจ๊ะ เดี๋ยวน้าจะพาไปหา ”

“ เดี๋ยวสิ หล่อนเป็นอะไรกับเด็กคนนี้เหรอ? ”

“ เปล่าค่ะ ฉันแค่เห็นเธอร้องไห้ก็เลยจะเข้ามาช่วยค่ะ ”

“ เสนอหน้าว่างั้น ”

โอ๊ย อีป้านี่ ปากไม่ดี ทำไมไม่อยู่บ้าน มาเหามาหอนอยู่นอกบ้านทำไม?

“ เด็กคนนี้ยังไปไหนไม่ได้ เพราะวิ่งมาชนฉันจนเจ็บ ฉันจะเรียกค่ารักษาพยาบาล ”

หน็อย! คนดีอย่างเธอคงทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว เดินเข้าไปอย่างสวยๆ เชิดหน้าไปหนึ่งกรุบ มองหน้ายัยป้าคนนั้นแบบจิก

“ ป้าแหกตาดูกล้องวงจรปิดบ้างเนอะ! มันมีหลักฐานนะ ว่าป้าเจ็บจริงหรือปลอม มากล่าวหาว่าเด็กทำให้เจ็บ มันถูกแล้วเหรอ? ”

“ หล่อนเป็นใครอีกล่ะฮะ หรือเป็นแม่ของเด็กคนนี้ ”

“ เป็นคนสวยไง ไม่เห็นเหรอ? ” พูดจบหมุนตัวให้ดูหนึ่งรอบ

“ สก๊อยสิไม่ว่า ”

“ เออ สก๊อยแล้วไง วันนี้จะถอนหงอกป้าให้ดูเอาไหมล่ะ ”

” ฉันสามารถแจ้งความจับเธอได้เลยนะ ข้อหาทำร้ายร่างกายอะ ”

” โห ยังไม่ทำอะไรเลย จะโดนข้อหาแล้ว งั้นทำก่อนแล้วกัน ให้คุ้มกับข้อหาทำร้ายร่างกาย ป้าจะได้ไม่ถูกข้อหาแจ้งความเท็จ เอาไหมล่ะ ” ยกมือขึ้นชูกำหมัดให้ดู ยัยป้าถอยห่างทันที

“ ฉันพูดจริง ยัยเด็กคนนั้นวิ่งมาชนฉัน ไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำเอาฉันปวดท้องมาก ๆ เลย ฉันแค่ต้องการค่ารักษาพยาบาล ฉันผิดเหรอ? ” พูดไป พร้อมงอตัวเล็กน้อยให้ดูว่าตัวเองเจ็บ ทั้งที่ก่อนหน้ายืนเท้าสะเอวว่าเด็กอยู่เลย

“ แหม่ ไปหาหมอดูก่อนเถอะ ค่ารักษาพยาบาลมันจะสักแค่ไหนกันเชียว ดูป้าก็แต่งตัวดีมีฐานะอยู่นะ จะมาหากินกับเด็กตาดำ ๆ ไม่อายบ้างเหรอ? ”

“ พวกเธอคิดจะรังแกคนแก่อย่างฉันสินะ ”

“ พวกเราแค่พูดความจริงค่ะ ” ผู้หญิงที่ช่วยเด็กในตอนแรก พูดแทรกขึ้น

“ โอ๊ย เจ็บ ” การแสดงสุด ๆ ยัยป้าคนนี้

“ ป้าจะเรียกค่ารักษาพยาบาลกี่บาท บอกมาหน่อยสิ ” คนเริ่มมุง เธอก็ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงแล้ว เพราะเป้าหมายที่มาวันนี้คือผู้ชาย ไม่ได้มาเพื่อมีปัญหากับยัยป้าคนนี้สักหน่อย

“ หนึ่งพันบาท ”

“ โห เยอะไปนะ ”

“ เดี๋ยวฉันจ่ายเองค่ะ ” ผู้หญิงอีกคนเสนอทันที

“ ทำไมยอมจ่ายง่าย ๆ เด็กไม่ได้ทำรุนแรงขนาดนั้นเลยนะ ” เธอหันไปพูดกับผู้หญิงอีกคนทันที

“ ถ้าไม่จ่าย ฉันคิดว่าเรื่องคงไม่จบ ถือว่าฉันช่วยเด็กคนนี้แล้วกันค่ะ ” นี่คือความคิดของผู้หญิงคนนั้น แต่มันไม่ใช่กับเธอไง

“ ป้า เอาเบอร์โทรมาสิ ฉันจะได้โทรหาถามถึงอาการว่าหายดีหรือนอนโรงพยาบาล ”

“ นังคนนี้ หล่อนแช่งฉันเหรอ? ”

“ เปล่านะ เผื่อได้นอนโรงพยาบาล เพราะอาการตอแหลคงโคม่าน่าดู ”

“ อี... ” ยัยป้าพูดไม่ออก ลมออกหู ใบหน้าที่แสดงออกมาโมโหจัด ก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีออกไปจากร้านโดยที่ไม่รับเงินหนึ่งพันบาท

“ เหอะ! ” เธอยักไหล่แบบไม่ยี่หระ ก่อนจะหันไปหาอีกสองคน

“ ขอบคุณ คุณน้าทั้งสองคนด้วยนะคะ ที่ช่วยหนู ” เด็กหญิงพนมมือน้อย ๆ ขึ้นไหว้อย่างอ่อนน้อม

“ ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ พ่อแม่หนูอยู่ไหนเหรอ เดี๋ยวน้าพาไปหา ” ผู้หญิงอีกคนที่ดูอ่อนโยนลูบหัวเด็กน้อยไปด้วย ส่วนเธอแค่ยืนมองเด็กพร้อมพยักหน้ารับ

“ หนูมาที่นี่กับคุณอาค่ะ ”

“ อ่อ งั้นคุณอาหนูอยู่ไหนเหรอ? ”

“ สายไหม! ” น้ำเสียงนี้เรียกสายตาเธอให้หันไปมอง

“ คุณอาสรุจ ” เด็กคนนี้เป็นหลานพ่อคนหล่อนี่เอง

“ คุณอาขาเมื่อกี้หนูชนผู้หญิงคนหนึ่งค่ะ หนูล้มลงเจ็บมาก ” คนเป็นอานั่งยอง ๆ เพื่อจะคุยและลูบหัวหลานสาวไปด้วย

“ แล้วหนูเจ็บไหม ”

“ ไม่ค่ะ ป้าคนนั้นใจร้ายมาก โชคดีที่คุณน้าทั้งสองคนช่วยไว้ค่ะ ” สิ้นเสียงเด็กน้อย คนเป็นอาก็เงยหน้ามองเธอกับผู้หญิงอีกคนทันที ไอ้เราก็เขินนะสิ! คนอะไรหล่อเป็นบ้าเลย ><

“ ผมขอบคุณพวกคุณแทนหลานสาวด้วยนะครับ ”

“ ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว งั้นน้าขอตัวก่อนนะ ” ผู้หญิงข้าง ๆ พูดขึ้น

“ อย่าเพิ่งกลับนะครับ ผมขอเลี้ยงข้าวตอบแทนแล้วกัน ” มีรั้งไว้ด้วยแฮะ แล้วถ้าเกิดเป็นเธอที่ขอตัวกลับ เขาจะรั้งไว้ไหมน่า

“ เอ่อ...ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ สายไหมไว้เจอกันใหม่นะ ” ออกตัวล้อฟรี อย่าให้ต้องผิดหวังนะพ่อรูปหล่อ รั้งเธอสิ!!!

“ งั้นพวกเราไปกันแค่นี้ก็ได้ครับ ถ้าใครไม่ไปก็ช่างเขา ” อะ...อ้าว แล้วไง!!

“ ... ” ก่อนเธอจะเดินออกไป ทำหน้ามุ้ยใส่เขาแล้วสะบัดบ็อบ เดินออกไปทันที

“ คุณน้าคะ ” มือเล็กมารั้งเธอไว้

“ นี่คะ หนูให้กิ๊บติดผม ” มือน้อยแบออกมีกิ๊บติดผมสองอันยื่นให้เธอ

“ ขอบใจหนูมากนะ แต่คราวหลังถ้าเจอกันอีก เรียกฉันว่าพี่รสานะ ”

“ ค่ะพี่รสา ”

หึก! คนอย่างเธอหน้าแตกแล้ว คงไม่ทนอยู่ต่อหรอก เอาไว้วันหลังค่อยมาหาใหม่ วันนี้ไปหาความหวานเติมเข้าเส้นก่อนดีกว่า เผื่อจะอารมณ์ดีกว่านี้

สรุจมองหลังบางที่เดินไปไกล ก่อนจะล้วงเอามือถือออกมากดโทรหาลูกน้องคนสนิท

(“ ติดตามอย่าให้ห่าง คอยถ่ายรูปส่งมาให้ฉันด้วยนะพล ”)

(” ครับ นายหัว ”)

❤️______❤️
นามปากกาธัญญวรินทร์

บทที่ 4 กาหัว / แบล็กลิสต์วันต่อมา...‘ ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ ’‘ แกร๊ก ’ ประตูถูกเปิดออก หลังจากเคาะเรียกได้ไม่นาน “ คุณหนูคะ คุณ...
25/09/2025

บทที่ 4 กาหัว / แบล็กลิสต์

วันต่อมา...

‘ ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ ’

‘ แกร๊ก ’ ประตูถูกเปิดออก หลังจากเคาะเรียกได้ไม่นาน

“ คุณหนูคะ คุณนายให้มาเรียกค่ะ ”

“ งื้อ~ หนูง่วง ขอนอนต่อ ป้าปริกบอกแม่ไปนะว่าหนูจะตื่นเอง ” น้ำเสียงที่เปล่งออกงัวเงียสุดๆ

“ คุณนายบอกว่า ถ้าคุณหนูไม่ตื่น ให้ป้าเอาน้ำสาดเลยค่ะ ”

“ อะ...อ้าว ” เธอลุกขึ้นนั่งทันที มือทั้งสองข้างขยี้ตาไปด้วย

“ คุณหนูลุกขึ้นอาบน้ำเถอะ เชื่อป้านะ เดี๋ยวถ้าคุณนายขึ้นมาเองจะเป็นเรื่องอีก ”

“ ยังเช้าอยู่เลยนะ จะให้รีบตื่นไปไหนกัน ”

“ สิบเอ็ดโมงแล้วค่ะ ”

“ อ้าวเหรอ? ”

“ ก็เพราะว่าห้องคุณหนูใส่ผ้าม่านปิดทึบแบบนี้ไงคะ เลยไม่รู้ว่ามันเที่ยงแล้ว ” ป้าปริกพูดจบเดินไปเปิดผ้าม่าน แสงก็สอดส่องเข้ามาทัน ทำเอาแสบตา ปรับไม่ทันกันเลยทีเดียว

“ โอเค ๆ เดี๋ยวหนูอาบน้ำแต่งตัวเสร็จจะรีบลงไปเลย ”

“ ค่ะ อย่าช้านะ อย่าให้ป้าต้องมาเรียกอีกครั้งล่ะ ”

“ ค่า ”

11 : 59 น.

“ ฉันให้ป้าปริกไปเรียกแกตั้งนานแล้วนะ ”

“ ใช่ หนูก็ตื่นแล้ว แต่งตัวอาบน้ำเรียบร้อยแล้วนี่ไง ”

” แกไม่ลงมาบ่ายโมงเลยล่ะ ”

“ อ้าว แล้วก็ไม่บอก งั้นหนูไปนอนต่อนะแม่ ” เธอหันหลังกลับเดินไปเพียงสองก้าว หมอนอิงที่วางบนโซฟาก็ลอยลิ้วมาปะทะศรีษะเล็กของเธอทันที

“ โห เรียกดี ๆ ก็ได้นะแม่ นี่ลูกแท้ ๆ เลยนะ ไม่ใช่ลูกเลี้ยงสักหน่อย ”

“ ฉันไม่เอาไม้ฟาดแกก็ดีแค่ไหนแล้วยัยรสา ”

“ ใจร้ายจัง ”

“ มานั่งนี่ ”

“ มีอะไรอีกล่ะ ”

“ ฉันเอือมระอาแกมากๆ ฉันเป็นแม่แก มีอายุมาก เรียกว่าเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งเลย... ”

“ แล้ว? ” พอนั่งลง เธอก็เลิกคิ้วสูง มองหน้าแม่อย่างสงสัย

“ แกควรจะเคารพ และมีมารยาทกับฉันให้มากกว่านี้นะ ”

“ อ้าว หนูผิดอะไรอีก ”

“ แกควรจะพูดจาให้ไพเราะและดูมีมารยาทหน่อยนะ เรื่องแบบนี้เขาไม่สอนกันตอนโต ๆ แล้วนะ เพราะเขาสอนมาตั้งแต่เล็ก ๆ แล้ว กับอีแค่คำว่า คะ ค่ะ แกพูดออกมาไม่ได้เลยเหรอ ? เวลาพูดกับผู้ใหญ่ควรมีหางเสียงด้วยสิ! ”

“ ก็ได้นะ หนูพูดอยู่ เวลาคุยกับพ่อภพอะ ”

“ แล้วกับฉันแกไม่ต้องพูดเหรอ? ”

“ ก็พูดอยู่นะบางครั้งอะ ”

” แกควรจะพูดทุกครั้งสิ ”

“ จิ๊! ”

“ ทำไม รำคาญฉันเหรอ? ”

“ เปล่า...ค่ะ ”

“ แกช่วยเชื่อฟังฉันบ้างเถอะ ขอร้องล่ะ ”

“ ไม่ ๆ ไม่ได้นะแม่ อย่า ๆ ” พูดพร้อมโบกไม้โบกมือ ใบหน้าตื่น

“ แกเป็นอะไร? ” แม่มองอย่างงงงงวย

“ ก็แม่จะขอร้องอะ หนูว่าไม่ดีนะ เพราะเขาบอกว่าถ้าทำแม่ร้องไห้ จะบาปหนัก หนูกลัวบาปนะสิ จู่ ๆ แม่จะมาร้องไห้ใส่หนูอะ ”

“ โอ๊ยยย ฉันจะบ้าตาย ”

“ แม่เป็นอะไร ” เธอตกใจเหมือนกัน จู่ ๆ แม่ก็ร้องเหมือนเจ็บปวด

“ คุณนาย ๆ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ โดนอะไรกัดหรือเปล่า ” ป้าปริกวิ่งมาจากไกลด้วยใบหน้าตื่น

“ เปล่า ๆ ฉันแค่ปวดหัวกับลูกคนนี้เอง ป้าปริกช่วยไปหยิบยาดมให้ฉันหน่อยสิ ”

“ ได้ค่ะ คุณนาย ”

“ สรุปแม่เป็นอะไรเหรอ? ”

“ ฉันขอร้องให้แกเชื่อฟัง ทำตามให้มีมารยาท ไม่ใช่ขอร้อง ที่หมายความว่า ฉันจะร้องไห้กับแกสักหน่อยยัยรสา ! ”

“ อ่อ... ”

“ แกแกล้งโง่หรือแกโง่จริงๆ ฉันแยกไม่ออกแล้วนะยัยรสา ”

“ หนูเป็นคนซื่อ คิดช้าไปหน่อย แม่อย่าทำเหมือนไม่รู้สิ หนูเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะ ”

“ ฉันละปวดหัวกับแกจริง ๆ แล้วนี่แกแต่งตัวจะไปไหน ”

“ ปกติหนูก็แต่งแบบนี้อยู่บ้านนะแม่ ”

“ เสื้อเกาะอก กางเกงขาสั้น แต่งหน้าจัด แบบนี้เหรอ ปกติของแกอะ ”

“ ใช่ไง แม่อย่าถามเหมือนไม่เคยเห็นสิ ”

“ แกไปแต่งตัวใหม่ แต่งตัวให้ดูดีมีราคาหน่อย ไปสิ อย่าแต่งตัวเหมือนสก๊อยแบบนี้ ฉันไม่ชอบ ”

“ แม่จะพาหนูไปไหนอีกเหรอ ”

“ ไปทานข้าวกับคุณพิทักษ์ ”

“ ใครเหรอ? ”

“ ลูกชายเพื่อนพ่อภพ ”

“ ดูตัวเหรอ ? ”

“ ใช่ ”

“ อ้าว ก็เมื่อวานดูไปแล้วนี่ ”

“ คุณสรุจดูท่าจะไม่ชอบแก ”

“ ทำไมอะ แต่หนูชอบเขา เขาหล่อ ”

“ ก็แกเองที่ทำเสียอะ ฉันบอกแล้วให้กินอะไรที่เขาสั่งไปก็จบ ๆ แกก็ดันไม่ยอม ดันไปทำตรงข้ามกับสิ่งที่เขาไม่ชอบ สมน้ำหน้า ”

“ แม่ เขารวยนะ แม่ไม่อยากได้เขาเป็นลูกเขยเหรอ? ”

“ อยากได้สิ แต่เขาไม่อยากได้แกเป็นเมียนี่น่า ฉันจะทำไงได้ ”

“ เขาอยู่ที่ไหน หนูจะไปหาเขาเอง ”

“ แกไม่ต้องพยายามหรอก คนอย่างแก เขาคงไม่ชอบ กาหัว แบล็คลิสต์แล้วแหละ ”

“ ไม่ตื้อแล้วจะรู้เหรอ? ”

❤️________❤️
นามปากกาธัญญวรินทร์

เรื่อง อ้อนรักพ่อเลี้ยงเดี่ยว
24/09/2025

เรื่อง อ้อนรักพ่อเลี้ยงเดี่ยว

บทที่ 3 ทะลึ่งภัตตาคารหรูย่านดัง“ แม่คะ ก่อนจะแต่งงานหนูขอเช็กของก่อนได้ไหมอะ ” “ เช็กของอะไรของแกอีก ตอนพบคุณสรุจแกช่วย...
24/09/2025

บทที่ 3 ทะลึ่ง

ภัตตาคารหรูย่านดัง

“ แม่คะ ก่อนจะแต่งงานหนูขอเช็กของก่อนได้ไหมอะ ”

“ เช็กของอะไรของแกอีก ตอนพบคุณสรุจแกช่วยพูดจาดีหน่อยนะ อะไรที่ไร้สาระก็ไม่ต้องพูดออกไป ”

“ ก็ไอ้นั่นของผู้ชายอะ ”

‘ เพี๊ยะ ’

“ โอ๊ยแม่ ตีแขนหนูทำไมเนี่ย ”

“ ทำไมแกถึงพูดจาทะลึ่งแบบนี้ฮะ เดี๋ยวใครจะว่าเอาได้นะว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนอะ ”

“ ถ้าใครว่า หนูก็น้อมรับนะ เพราะหนูไม่มีใครสั่งสอนจริงๆ ”

“ ยัยนี่ แกจะเถียงฉันให้ได้เลยใช่ไหมฮะ ”

“ ก็มันจริงนี่น่า แม่ตามพ่อภพไปอยู่ต่างประเทศตั้งสามปี ปล่อยให้หนูอยู่กับพี่เลี้ยง หนูก็ไม่มีคนคอยสั่งสอน หนูพูดผิดเหรอ ”

“ ตอนนั้นแกอายุสิบห้าปีแล้วนะ แกโตแล้ว รู้จักผิดชอบชั่วดีมีความคิดเป็นของตัวเอง แกก็เรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ เพราะก่อนหน้านั้นฉันก็สั่งสอน อบรมมารยาทแกตลอด แค่เพียงเวลาสองที่ห่างกัน แกถึงกับโทษว่าฉันไม่สั่งสอนแกเลยเหรอ? ”

“ ใช่ แม่ไม่รู้เหรอว่าช่วงนั้น เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ หนูก็ไม่ได้รู้ผิด รู้ถูกไปซะทุกเรื่องนะ หนูก็ขาดความอบอุ่นเป็นเวลาสองปีสำหรับแม่อาจจะแป๊บ ๆ แต่สำหรับหนูมันยาวนานมาก หนูต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ตื่นเช้าไปโรงเรียน ตอนเย็นเลิกเรียกก็กลับบ้าน วันหยุดก็อยู่แต่บ้าน แถมพี่เลี้ยงที่แม่จ้างอะ เธอไม่ได้ดีกับหนูอย่างที่ทุกคนเห็นเลย เธอใจร้ายมาก ๆ เธอไม่สนใจหนูด้วยซ้ำ ”

“ แล้วทำไมแกไม่พูดบอกฉันล่ะ ตอนที่ฉันโทรหา ”

“ ก็ยัยพี่เลี้ยงมันเฝ้าหนูตลอดอะ ใครจะกล้าพูด ”

“ ฉันรู้แล้ว ที่แกทำตัวเกเรไม่ตั้งใจเรียนตอนขึ้นม.ปลายเพราะแกกำลังประชดฉันใช่ไหม แกกำลังเรียกร้องความสนใจจากฉันใช่หรือเปล่า? ”

“ เปล่า หนูไม่ชอบการเรียนเอง ไม่ได้ประชด ไม่ได้เรียกร้องความสนใจอะไรเลย ”

“ ก่อนหน้าที่ฉันจะไปต่างประเทศ แกเรียนได้เกรดเฉลี่ยดีมาตลอดนะ แต่พอเริ่มเรียนม.ปลายแกก็เกรดตกเรื่อย ๆ ตอนที่ฉันกลับมาอยู่บ้าน แกก็เปลี่ยนไปอย่างคนละคนเลย ”

“ วันเวลาผ่านไป ขนาดร่างกายของคนยังมีการเปลี่ยนแปลง นับประสาอะไรกับหนูที่อายุเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง ”

“ ตั้งแต่ที่ฉันกลับมา ฉันก็คอยอบรมสั่งสอนแกนะ แต่แกดื้อรั้นไม่ฟัง เอาแต่ใจ เอาแต่ความคิดตัวเอง ไม่ฟังความเห็นของใครเลย ”

“ มันเกินวัยแล้วค่ะคุณแม่ จะมาสั่งสอนตอนโต มันก็ไม่ใช่เรื่องแล้วมั้ง ”

“ ยัยนี่ แกเงียบปากไปเลย เดินตามฉันมา เดี๋ยวพอเจอคุณสรุจ แกก็ยิ้มหวาน ๆ พูดจาให้นุ่มนวลด้วยล่ะ ”

“ โอเค ”

“ แกห้ามพูดว่าโอเค แกต้องตอบว่าค่ะ ”

“ เรื่องเยอะจังแม่ หนูกลับบ้านทันไหมเนี่ย ”

“ แกลืมไปแล้วเหรอว่าแกอยากได้รองเท้าส้นสูงรุ่นลิมิเต็ด ถ้าแกไม่เชื่อฟังฉัน แกจะอดนะ ”

“ โอเคๆ ”

‘ พรึ่บ ’

“ อะ…โอ๊ย แม่ หยิกแขนหนูทำไมอีก ชอบทำร้ายร่างกายลูกสาวคนนี้จริง ๆ เลย ”

“ แกพูดค่ะสิ ”

“ ค่ะ ค่ะ ค่ะ ค่ะ ค่ะ ค่ะ โอ๊ยยย แม่ ” คราวนี้แม่ยื่นมือมาบิดที่เอวบางอย่างแรง

“ แกไม่ต้องมาประชดประชันฉัน รีบเดินตามฉันมาเลย ”

“ ค่ะๆ ”

และแล้วก็ถึงห้องอาหารแสนหรู เป็นห้องส่วนตัวไปอีก เงียบเหงาแน่ ๆ มากินกันสามคนไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องจองห้องใหญ่ด้วย จะอวดรวยว่างั้น!

“ มาไวจังเลยนะคะคุณสรุจ ” พอเข้าห้องมา แม่ก็เอ่ยทักก่อน อีกฝ่ายกำลังอ่านเมนูอาหารด้วยการตั้งหนังสือเมนูบังหน้า เธอเลยอดมองหน้า

สมองคิดวิเคราะห์ทันที สงสัยจะแก่ และมีอายุมากด้วย ถ้ามีลูกแล้วอะ แม่คงไม่เลือกคนดี ๆ ให้ลูกชังคนนี้หรอก

“ มาแล้วเหรอครับ สวัสดีครับคุณฉวีวรรณ ” สมุดเมนูอาหารถูกวางลงราบบนโต๊ะ เผยให้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายทันที

ทำเอาเธอสตั๊นไปชั่วขณะ เหมือนจะหยุดหายใจเลย เพราะคนตรงหน้าไม่ได้เป็นตามที่เธอคิด เขาหล่อมาก ยังหนุ่มยังแน่น อกแกร่งแน่นเปรี๊ยะ

ถ้าได้ลูบสัญญาว่าจะเป็นดี อื้ม~ นี่เหรอพ่อหม้ายลูกติด ทามมายหล่อขนาดนี้ ไม่ไหวแล้ว งื้อ~ ชอบเค้าอะ

“ ยัยรสา แกทำหน้าให้มันดี ๆหน่อย จะเคลิ้มอะไรขนาดนั้นฮะ มันน่าเกียจ แกรู้ไหม ”

“ เอ่อ…ฮายคุณสรุจ ฉันรสาค่ะ ” เธอเดินไปใกล้เขา แล้วยื่นมือไปหวังจะจับมือเขา หวังจะลูบไล้ แตะอั๊งอีกฝ่ายในทันที

“ ครับ ” เขาพูดแค่นั้น สายตาที่จ้องมองเธอในตอนแรก ก็หันกลับไปจ้องที่เมนูอาหารตามเดิมทันที แป๋ว แบบนี้เรียกหน้าแตกหรือเปล่า? หยิ่งชะมัด!

“ เอ่อ…ขอโทษคุณสรุจด้วยนะคะดิฉันสอนลูกมาไม่ดีเอง เลยไม่มีมารยาทนิดหน่อย ”

“ อ่อ ครับ ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่โทษคุณฉวีวรรณหรอกครับ อายุปูนนี้แล้วน่าจะคิดเองได้แหละ ”

อะไรของเขา งงมาก ฉันไม่มีมารยาทตรงหน้า ฉันก็แค่อยากทักทายด้วยกันจับมือเชคแฮนด์เองนะ มันผิดด้วยเหรอ ?

“ รสามานั่งสิ ” แม่พูดขึ้น

“ โอเค ”

“ รสา! ” แม่พูดเหมือนกัดฟัน

“ อ่อ ค่ะ ”

“ คุณฉวีวรรณ จะสั่งอะไรดีครับ ”

“ เรียกดิฉันว่า ฉวีก็ได้ค่ะคุณสรุจ ”

“ ครับ คุณฉวีอยากทานอะไรก็สั่งได้เลยครับ ”

“ ค่ะ ”

แม่หยิบสมุดเมนูอาหารขึ้นมาแล้วเปิดดู

“ แม่ ทำไมมีแต่อาหารไทย ๆ ล่ะคะ ภัตตาคารหรูแบบนี้ ต้องมีอาหารต่างชาติบ้างสิ ”

“ คุณสรุจเขาไม่ชอบอะไรที่เป็นของต่างประเทศ ต่างชาติ เขาเคร่งมากเลย แกอย่าหลุดพูดโอเคไปอีกล่ะ ”

เดี๋ยวนะ คนแบบนี้มีด้วยเหรอ เขาจะรักชาติไปถึงไหนเนี่ย! หรือเกิดมามีดีแค่รวยเลยไม่เคยลิ้มลองของอร่อย ๆ จากต่างประเทศ หึก! มันจะต่างอะไรจากคนไม่มีอันจะกินล่ะ เอ๊ะ หรือเขาเป็นคนงก ขี้เหนียว

“ ฉันอยากกินสเต็กค่ะ สั่งได้ไหมคะ ” มองหน้าอีกฝ่ายพร้อมเลิกคิ้วท้าทาย

“ ยัยรสา! ” แม่มองหน้าเธอ แล้วกัดฟันพูดอีกครั้ง

“ ผมจะสั่งแกงเหลืองยอดมะพร้าวอ่อน คุณฉวีกินได้ไหมครับ ” ดูสิ เขาเมินเธออีกแล้วอะ

“ กินได้ค่ะ ขอเผ็ดนิดหน่อยพอนะคะ ”

“ ได้ครับ งั้นผมขอสั่งหมูสามชั้นคั่วพริกเกลือหนึ่งที่ด้วยนะครับ ”

“ ได้ค่ะ แล้วแต่คุณสรุจเลย พวกเราทานได้หมด ”

“ แม่ หนูทานไม่ได้ หนูไม่เคยกินของแบบนั้น หนูสั่งสปาเก็ตตี้ได้ไหม ”

“ เอ่อ… คุณฉวีครับ ผมขอสั่ง ปลาหมึกต้มมะนาวและปลาอินทรีย์ย่างน้ำปลาหวานยำหัวปลี ด้วยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณฉวีทานได้ไหมครับ ” ดูสิ เขาไม่ฟังที่เธอพูดเลย สั่งอะไรก็ไม่รู้

“ ได้ค่ะ ”

“ ผมว่ามันน้อยไปนะ ผมขอสั่ง ต้มยำทะเลน้ำใสเห็ดโคนด้วยแล้วกัน คุณฉวีมีแพ้อะไรไหมครับ ” สรุปพาใครมาดูตัวกันเนี่ย ไม่ถามเธอสักคำว่ากินได้ไหม เหอะ!

“ ไม่มีแพ้ค่ะ รสาเองก็ไม่แพ้ ทานได้ค่ะ เอ่อ..ฉันขอสั่งไข่เยี่ยวม้าลูกเขยด้วยนะคะ ”

“ ได้ครับ แล้วของหวานจะรับอะไรดีครับ ”

“ ข้าวเหนียวเปียกลำไยมะพร้าวอ่อนค่ะ รสาลูกอยากกินอะไร ” ว้าว วันนี้แม่เห็นเธอเป็นลูกหนึ่งวันสินะ

“ หนูไม่ทานของหวานค่ะ เดี๋ยวอ้วน ”

“ ผมสั่งให้นะครับ ของคุณรสาเอาเป็นสาคูข้าวโพดมะพร้าวอ่อน ของผมเป็นสาคูเปียกลำไย ”

อะไรวะเนี่ย ตอนที่เธอสั่งเขาไม่คิดจะฟัง แล้วนี่มาคิดเองเออเองแทนเธออีก เขาเป็นคนแบบไหนกันแน่

❤️_______❤️

นามปากกาธัญญวรินทร์

>> ลิงก์รี้ดอะไรท์

https://www.readawrite.com/a/8db49cea1c0dfc055c07f0713640d6b3

> ลิงก์ธัญวลัย <

http://www.tunwalai.com/story/863278

ที่อยู่

Songkhla

เบอร์โทรศัพท์

+66654132453

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ByMinne storyผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ByMinne story:

แชร์