เว็บไซต์คืออะไร?

https://www.facebook.com/346175386180024/

จารย์หล่อบอกต่อครับ

หน้าหลัก
ประเทศไทย
Surat Thani
จารย์หล่อบอกต่อครับ

สิ่งที่มองไม่เห็นคือใจคน สิ่งที่ต้องอดทนคือใจเรา

12/12/2024

17 ข้อคิดจากหนังสือ
วิธีพูดให้คนชอบคุณ ใน 1 นาที

1. ถ้าคุณคิดว่าความสามารถ
ในการพูดให้ชนะใจคนคือสิ่งท้าทาย
จงรู้ไว้ว่าความสามารถในการฟัง
คือสิ่งที่ท้าทายยิ่งกว่า

2. ถ้าคุณอยากสร้างความประทับใจครั้งแรก
ให้ใครบางคน
คุณต้องทำอะไรพิเศษ
ยิ่งกว่าแค่การเป็นตัวของตัวเอง

3. จงเปิดบทสนทนาด้วยเรื่องที่เขาอยากคุย
ไม่ใช่เรื่องที่คุณอยากคุย

4. ถ้าคุณเข้าหาคนที่อยากทำความรู้จัก
แล้วเขาแสดงท่าทีปฏิเสธ
อย่าพยายามหาเรื่องคุยต่อ
เพื่อทำให้เขาประทับใจ
แต่จงทำให้เขาประทับใจ
ด้วยความมั่นใจในตัวเองของคุณ
แต่อย่าตัดโอกาสสร้างความสัมพันธ์
จงทิ้งนามบัตรไว้เสมอ

5. ความสัมพันธ์เป็นเรื่องของจังหวะ
โอกาส และความรู้สึกที่ใช่
แม้คุณจะเป็นคนที่ดูดีที่สุดในโลก
ก็มีโอกาสถูกปฏิเสธได้

6. ยิ่งคุณพูดน้อย
สิ่งที่คุณพูดยิ่งสำคัญ

7. คำนึงถึงความรู้สึก
และผลประโยชน์ของคู่สนทนา
ไม่ว่าจะสนทนากับใคร
นี่คือหนึ่งในคุณสมบัติของมืออาชีพ
ของคนที่จะชนะใจผู้คน

8. พูดเก่งให้เขาประทับใจ
แต่อย่าพูดมากเพราะจะทำลาย
ความประทับใจเสียมากกว่า

9. จงทำให้เขารู้สึกว่าเป็นคนสำคัญ
- จดจำชื่อคนที่รู้จักเป็นครั้งแรก
- พูดสิ่งที่เขาเคยพูดในครั้งก่อน

10. เป็นผู้ฟังที่ดี
- อย่าพูดแทรกหรือขัดจังหวะ
- อย่าพูดขัดแย้งหรือเถียง
- อย่าพูดตัดบทหรือเปลี่ยนเรื่อง

11. ถามคำถามเพื่อขับเคลื่อนบทสนทนา เช่น
เขา : ผมชอบอ่านหนังสือ
แนวโปรดของผมคือ นวนิยายสืบสวนสอบสวน
คุณ : อ้อ เล่มโปรดของคุณคือเล่มไหนล่ะ

12. แม้คุณจะมีจุดยืนของตัวเอง
ในการจะคิดอย่างไรหรือเชื่ออะไร
แต่คุณเลือกที่จะไม่ตัดสินคนอื่น
เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้คุณเปิดกว้าง
และดึงดูดความสัมพันธ์ รวมทั้งโอกาสดีๆ
เข้ามาในชีวิตคุณได้มากกว่า

13. จงมีคาแรคเตอร์ของคนที่
อยากรู้อยากเห็นหรือชอบที่จะฟัง
ความคิดเห็นของคนอื่น

14. คนฉลาดมักแกล้งโง่
คนเขลามันอวดฉลาด

15. คำชมเบสิกอาจทำให้ใครบางคนรู้สึกดีมาก ๆ
เช่น วันนี้คุณดูดีมาก , คุณหน้าเด็กจัง
คุณดูมีพลังมากเลยวันนี้

16. วิธีที่จะรุกความรู้สึกอีกฝ่ายได้เร็วที่สุด
คือบอกเขาว่า เขาพิเศษและแตกต่างจากคนอื่นตรงไหน

17. ในขณะที่คนทั่วไปชอบวิจารณ์คนอื่น ชมตัวเอง
คุณจงเป็นคนที่วิจารณ์ตัวเอง และชมคนอื่น

16/06/2024

"คนเราควรมีรายได้ 2ทาง
ทางแรกจากเงินเดือนประจำ
ทางที่สองจากการถูกหวย"

16/06/2024

20 ข้อคิดที่ชอบ
ที่ได้จากหนังสือ
จงอย่าใช้ชีวิตวันนี้
ด้วยความรู้สึกของเมื่อวาน

1. ชีวิตที่ได้รับความสุขเพียงพอ
คือ ชีวิตที่ประสบความสำเร็จแล้ว

2. สิ่งๆ หนึ่ง มีทั้งข้อดีข้อเสีย
ไม่มีอะไร ดีไปเสียหมด หรือแย่ไปเสียหมด

3. ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นได้เฉพาะกับ
คนที่เอาชนะขีดจำกัดตัวเอง

4. มนุษย์เราแค่ได้ยินเสียงคนที่คิดถึง
ก็ช่วยปลอบโยนหัวใจได้แล้ว

5. การเป็นผู้ใหญ่หมายถึง
การรู้วิธีแก้ปัญหาต่าง ๆ
ที่ชีวิตกำลังเผชิญหน้าอยู่
เรียนรู้ และใช้วิธีที่เหมาะสม

6. เรียนรู้ที่จะปฏิเสธให้เป็น

7. ความมั่นคงอาจไม่มีอยู่จริง
เพราะชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ

8. จงมีความหวัง
และเชื่อมั่นถึงความเป็นไปได้

9. ไม่ว่าจะทำอะไร จงพอใจ
และสนุกในจุดทื่ตัวเองทำได้

10. ถามตัวเองว่า อะไร
เป็นสิ่งที่เราอยากทำกันแน่
และอย่าหาข้ออ้าง จงลงมือ
ลองทำดูสักครั้งหนึ่ง

11. มีสิ่งดี ๆ มากมายเมื่ออายุมากขึ้น
อาจเชื่องช้าลงเล็กน้อง ก็ต้องใจกว้าง
ขึ้นอีกหน่อย รอคอยขึ้นอีกนิด
เป็นสิ่งที่เราควรปฏิบัติต่อตนเอง

12. สิ่งที่ดีที่สุดคือการลืมเลือนอดีต
ทว่าไม่มีใครลืมมันได้แน่นอน
ดังนั้นเพียงหยิบมันออกมาเล่นเป็นบางครั้ง

13. เรามักเสียดายในสิ่งที่ไม่ได้ทำ
มากกว่าสิ่งที่ทำพลาด

14. การมองโลกในแง่ดี
ไม่ใช่ยอมรับว่าสิ่งที่แย่
เป็นสิ่งที่ดี หากแต่คือ
การยอมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
พร้อมกับหาทางแก้ไข เป็นพลัง
ขับเคลื่อนให้ชีวิตไปสู่ทิศทางที่ดี

15. การแข่งขันกับคนอื่น
โดยที่ไม่รู้จักตัวเอง จนต้อง
เดินในแนวทางของคนอื่น
จะทำให้เราเสียดายเวลาที่ผ่านมา

16. อย่าสละชีวิตของเรา
เพื่อความสุขของคนอื่น

17. จดจำข้อดีของอีกฝ่าย
จะทำให้ความสัมพันธ์ง่ายขึ้น

18. ชีวิตที่เรียบง่ายนั้น
เป็นสิ่งที่วิเศษไม่ใช่น้อย

19. จงจดไดอารี่ ถึงเรื่องดี ๆ
ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ

20. ช่วงเวลาขณะนี้ นาทีนี้
คือเวลาที่เราควรมีความสุข
กับมันมากที่สุด

หนังสือเล่มนี้ยังมีข้อคิดอีกมาก
หากสนใจสั่งซื้อได้ที่
Shopee : https://shope.ee/4V7Macpveb
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.P0Tp1?cc

02/05/2024

ฉันจะไม่ลืมคนที่เข้ามาส่องสว่างให้ฉันในยามที่ฉันอยู่ในความมืด

06/03/2024

การฝึกหายใจ

เปิดเทคนิค การฝึกหายใจ ช่วยให้ผ่อนคลาย คลายเครียด และคลายกังวล
การฝึกหายใจ ทำง่าย คลายเครียด ช่วยสุขภาพดี
การฝึกหายใจ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยรับมือกับความเครียดที่เข้ามาหาเราได้ทุกรูปแบบจริง ๆ ค่ะ ความเครียดเกิดขึ้นได้จากปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจมาจากงาน เงิน เพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก ผ่านชีวิตประจำวันของเรา หลายต่อหลายครั้งความเครียดก็ก่อตัวจนกลายเป็นความวิตกกังวล ที่ทำอย่างไรก็ไม่หายสักที

ปัญหาเหล่านี้จะคลี่คลายไปได้ เมื่อใช้เทคนิคการหายใจ 3 รูปแบบของ ดร.แอนดรูว เวล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด ผู้สนับสนุนการแพทย์ทางเลือกและการแพทย์ผสมผสาน ที่จะมาช่วยให้ทุกคนนผ่อนคลายลงได้นั่นเอง

รูปแบบที่ 1 : การกระตุ้นลมหายใจ หรือ การหายใจแบบสูบลม (The Stimulating Breath or the Bellows Breath)
การกระตุ้นลมหายใจเป็นเทคนิคการหายใจแบบโยคะ มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มพลังงานและความตื่นตัวให้ได้เหมือนไปออกกำลังกายมา

วิธีการฝึกหายใจ

การกระตุ้นลมหายใจสามารถฝึกหายใจในท่าไหนก็ได้ ไม่มีการจำกัดท่าว่าต้องนั่งหรือนอน

ADVERTISEMENT

1. หายใจเข้าและออกผ่านทางจมูกเร็ว ๆ โดยที่ปากของคุณปิดสนิทอยู่ หายใจสั้น ๆ และรวดเร็ว ในระยะเวลาที่เท่า ๆ กัน

2. หายใจรูปแบบนี้เป็นเซท ๆ 1 เซท หายใจให้ได้ 3 ครั้งใน 1 วินาที หลังจากที่หายใจรูปแบบนี้เสร็จในแต่ละรอบให้หายใจตามปกติ

3. ครั้งแรกที่ฝึกหายใจรูปแบบนี้ ห้ามทำนานเกิน 15 วินาที สามารถเพิ่มเวลาในแต่ละเซทได้เซทละ 5 วินาทีหรือมากกว่านั้น จนกว่าจะครบ 1 นาที

ADVERTISEMENT

การฝึกหายใจ
รูปแบบที่ 2 : การหายใจแบบ 4-7-8 หรือการผ่อนคลายลมหายใจ (The 4-7-8 (or Relaxing Breath) Exercise)
การหายใจแบบ 4-7-8 เป็นยากล่อมประสาทตามธรรมชาติสำหรับระบบประสาท โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความเครียด ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หรือช่วยในการทำให้ผ่อนคลายได้ขณะที่เกิดความตึงเครียดขึ้นมากะทันหัน เหมือนการนับ 1 – 10 เพื่อให้เราใจเย็นลง

วิธีการฝึกหายใจ

การหายใจแบบ 4-7-8 ควรนั่งหลังตรง และวางปลายลิ้นไว้ตรงเหงือกหลังฟันหน้าข้างบนค้างไว้ตลอดการฝึกหายใจ

1. หายใจออกแรง ๆ โดยการเป่าลมออกทางปาก ให้มีเสียงดัง ฟู่!

2. ปิดปากให้สนิท แล้วหายใจเข้าผ่านทางจมูก นับ 1 – 4 ในใจ

3. กลั้นหายใจ นับ 1 – 7 ในใจ

4. หายใจออกแรง ๆ โดยการเป่าลมออกทางปาก ให้มีเสียงดัง ฟู่! นับ 1 – 8 ในใจ

5. หายใจรูปแบบนี้เสร็จนับเป็น 1 เซท ทำซ้ำไปอีก 3 เซท รวมเป็นทั้งหมด 4 เซท

การฝึกหายใจรูปแบบนี้ให้ได้ 2 ครั้งต่อวัน ในเดือนแรกที่คุณฝึกทำ ใน 1 ครั้งห้ามหายใจรูปแบบนี้เกิน 4 รอบ และในครั้งแรกที่ฝึกหายใจรูปแบบนี้ถ้าคุณรู้สึกเหมือนจะหน้ามืด ไม่ต้องกังวล มันจะหายไปเอง

รูปแบบที่ 3 : การนับลมหายใจ (Breath Counting)
การนับลมหายใจเป็นเทคนิคการหายใจง่าย ๆ ที่นิยมใช้ในพุทธศาสนนิกายเซน ตามหลักการแล้วจะหายใจแบบเงียบและช้า แต่ความลึกและจังหวะอาจแตกต่างกันไป โดยการนับลมหายใจสามารถใช้เพื่อฝึกสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบได้ อาจนับลมหายใจไปพร้อมกับ การนั่งสมาธิ หรือ ฝึกการนับลมหายใจเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำกัดท่าหรือสถานที่

การนับลมหายใจ เป็นการฝึกหายใจผ่านทางจมูก ควรนั่งในท่าที่สบาย จากนั้นนั่งหลังตรง ศีรษะเอียงไปข้างหน้าเล็กน้อย หลับตาและหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นหายใจตามปกติ

วิธีการฝึกหายใจ

1. รอบแรกหายใจออกนับ 1

2. หายใจออกครั้งที่ 2 นับ 2

3. หายใจรูปแบบนี้วนไปเรื่อย ๆ จนถึงหายใจออกนับ 5

4. เริ่มหายใจออกนับ 1 รอบที่ 2

การนับลมหายใจห้ามนับเกิน 5 และนับเฉพาะตอนที่หายใจออกเท่านั้น ลองฝึกหายใจรูปแบบนี้ให้ได้ 10 นาที

และนอกจาก 3 วิธีนี้แล้ว ก็ยังมีการหายใจอีกรูปแบบที่เรียกว่า ฝึกหายใจที่เรียกว่า deep breathing exercise ที่เหมาะมากสำหรับผู้ที่ปัญหาเรื่องการหายใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีภาวะลองโควิด

Deep Breathing Exercise คือ
เป็นการหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อกระบังลม (Deep breathing exercise) ซึ่งจะช่วยฟื้นฟู และเสริมความแข็งแรงให้กับปอด และยังช่วยลดความเครียด ทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้เต็มที่อีกด้วยค่ะ

สำหรับการฝึกทำได้ไม่ยาก เลย คือ วางมือตรงหน้าท้องและหน้าอกเพื่อรับรู้ลมหายใจ การฝึกทำได้ไม่ยาก ด้วยการหายใจเข้าทางจมูกให้ท้องป่อง เป่าลมออกทางปากท้องยุบ ทำ 5 ครั้งต่อรอบ วันละ 3-4 ครั้ง

deep breathing exercise คือ
การฝึกหายใจร่วมกับเพิ่มความเคลื่อนไหวของทรวงอก (Chest Trunk Mobilization)

ท่าที่ 1 ไขว้มือข้างหน้า สูดหายใจเข้าพร้อมกางแขนออกและยกแขนขึ้น หายใจออก แล้วค่อย ๆ เป่าลมออกทางปาก พร้อมลดแขนลง ทำช้าๆ 5 ครั้งต่อรอบ

ท่าที่ 2 หายใจเข้า กางแขนข้างใดก็ได้ออกข้างลำตัว พร้อมเอียงตัวไปฝั่งตรงข้าม หายใจออก แล้วค่อย ๆ เป่าลมออกทางปากพร้อมลดแขนลง ทำช้าๆ 5 ครั้งต่อรอบ

ข้อควรระวัง
หยุดฝึกทันที หากมีอาการเหล่านี้

เหนื่อยหอบมาก
หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ
หายใจสั้นหรือถี่มากๆ
(อัตราการหายใจมากกว่า 22 ครั้ง/นาที หายใจเข้าและออก นับเป็น 1 ครั้ง)

ขอบคุณ Suparada Aroonrungsikul