Eh Gon

🌏" อดีตไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้"🌏
( แต่ )"อนาคตอยู่ในมือของคุณ"
🕺🕑 "จนใช้ชีวิตด้วยมีความฝัน"🕜🕺
ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้
ขึ้นอยู่กับตัวคน

မဂၤလာပါ ခင္ဗ်ား
ကၽြန္ေတာ္ကို အားေပးတဲ့သူေတြအားလုံး ေက်းဇူးတင္ပါတယ္။

28/10/2025

“เหนื่อย ไม่ได้แปลว่า ไปผิดทาง”
สิ่งที่มีค่าจริง มันเหนื่อยเสมอ
เพราะคุณกำลังเดินในทางที่สำคัญ
ขอบคุณตัวเองที่ยังไม่หยุด
แม้ไม่มีใครมองเห็น
#พ่อมดคอนเทนต์ #โจ๋วชยพัทธ์

26/10/2025

ပညာ

24/10/2025

#ขอพระองค์ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย…

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันศุกร์ ที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เวลา ๒๑ นาฬิกา ๒๑ นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ ๙๓

ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอาลัย
และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ 🙏🏻🖤😭

21/10/2025

เทคนิคการผ่านระบบสร้างรายได้ของ Facebook #เทคนิคการผ่านเครื่องมือสร้างรายได้

✅ 1. Facebook ดูอะไรเป็นอันดับแรก
สิ่งที่ Facebook ตรวจ อธิบายแบบง่ายๆ
ความเป็นเจ้าของเนื้อหา (Originality) เนื้อหาต้องมีหน้าเรา เสียงเรา หรือเราถ่ายเอง/พูดเอง ชัดเจนว่าเป็น “งานของเรา” ไม่ใช่ของที่หยิบมาจากเน็ต
ความสม่ำเสมอ ลงคลิปอย่างน้อย วันละ 1–2 คลิปช่วงเริ่มต้น ให้ระบบเห็นว่าเราคือ "คนทำคอนเทนต์จริงๆ" ไม่ใช่แค่โพสต์เล่นๆ
การมีส่วนร่วมจริง (Real Engagement) คนดู / คอมเมนต์ / แชร์ / กดหัวใจ ต้องมาจากคนจริง ไม่ใช่กดเองวนๆ หรือโดน AI มองว่าเป็น Engagement ปลอม
ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น กดแชร์เข้ากลุ่มเยอะเกิน, คอมเมนต์รัวๆ, ใช้คำหยาบ, ล่อซื้อ, กระตุ้นให้กดไลก์แบบสั่งตรง ("กดแชร์เดี๋ยวนี้!")
🎥 2. เทคนิคตอนโพสต์คลิปให้ปลอดภัยและผ่านไว
ทำแบบนี้ โอกาสผ่านสูง
คลิปเปิดตัวให้ เห็นตัวตน / หน้าคน ชัดเจนช่วง 3 วินาทีแรก
มี บทพูด เสียงบรรยาย หรือข้อความแบบเราเขียนเอง
ใส่บริบท เช่น การเล่าเรื่อง, อธิบาย, ทำให้ดูมี "คุณค่า" ไม่ใช่แค่คลิปตัดแปะ
จบคลิปให้มี คำพูดสรุป / ปิดแบบเป็นคอนเทนต์ เช่น “ฝากไว้เท่านี้นะครับ/ค่ะ….”
🚫 3. สิ่งที่ทำแล้วระบบมองว่า “ไม่ใช่คอนเทนต์จริง”

คลิปไม่มีเสียงเรา ไม่มีบทพูด เป็นแค่ภาพ

ใช้คลิปสต็อกหรือภาพจากเน็ตมาตัดต่อ

เปิดคลิปแล้วไม่เห็นคนเลย มีแต่ตัวหนังสือเต็มจอ

ใช้คำแบบ “แจก, ลุ้น, รับฟรี, แชร์ให้ไว, กดไลก์เดี๋ยวนี้” → AI มองเป็น Spam หรือการปั่นระบบ

โยนคลิปเข้ากลุ่มทีเดียว 20–30 กลุ่ม → โดนมองว่าปั่นยอด

🎯 4. สูตรสร้างเนื้อหาให้ Facebook ชอบ

“เห็นหน้า - มีเสียง - มีความคิดเรา - มีเรื่องเล่า” = โอกาสผ่านสูง

ไม่ต้องโปรดักชั่นเทพ แค่ จริงใจ + ชัดเจนว่าเป็นคอนเทนต์ของเราเอง

ระบบ AI ของ Facebook แยกได้ว่า “คลิปที่ตั้งใจทำ” กับ “คลิปที่ปั่นเพื่อให้ได้รายได้”

🔥 5. โพสต์แบบ Creator มืออาชีพทำกัน
ระดับ สิ่งที่ควรทำ
เริ่มต้น โพสต์วันละ 1–2 คลิปให้ระบบมองเห็น
สร้างฐาน ตอบคอมเมนต์คนดู เพื่อให้ระบบเห็นว่า “เพจนี้มีการพูดคุยจริง”
เตรียมขอ Monetize เช็คให้ครบ ✅ 1,000 ผู้ติดตาม ✅ 60,000 นาทีดู ✅ ไม่มีเตือนเรื่องเนื้อหา
ก่อนกด “ขอสร้างรายได้” ไล่ลบโพสต์เสี่ยงทั้งหมด เช่น Meme, ภาพแชร์ต่อ, ข่าวจากเพจอื่น
💡 สรุปแบบเข้าใจง่ายที่สุด

“อย่าเป็นคนเอาคลิปมาลง… ให้เป็นคนเล่าเรื่องผ่านคลิป”
เพจที่พูดเอง อธิบายเอง มีความเป็น human touch → ผ่านง่ายที่สุด

21/10/2025

เราไม่จำเป็นต้องกลัว AI มันเป็นแค่เป็ดตัวนึงในมือถือ ที่จะมาทำงานที่น่าเบื่อแทนเรา
ถ้าเราพูดถึงเรื่อง AI และการทำธุรกิจเนี่ย คงไม่พูดถึงคนนี้คงจะไม่ได้ คุณ CK Cheong, CPA CEO Fastwork นั่นเอง คนที่ออกมาให้สัมภาษณ์มากมาย และแชร์มุมมองต่าง ๆ ที่ดุเดือด ตรงไปตรงมา และน่าสนใจมาก ปกติผมติดตามฟังหลายรายการที่คุณ CK ไปออก ก็ไปเจอคลิปจากงาน GCNT Expo 2025 เมื่อเดือนที่ผ่านมา ใน session “Conversation with CK Cheong” ซึ่งก็มีประเด็นที่พูดถึงเรื่อง AI disruption และแนวทางการทำธุรกิจในยุคอินเตอร์เน็ต
หลายคนบ่นยาวเกินไม่อ่าน 555 ได้ครับ วันนี้จะพยายามสรุปให้แต่ละหัวข้อสั้นลงนะครับ แล้วก็อาจจะมีพ่วงความเห็นส่วนตัวเข้าไปด้วยนิดหน่อย จะเป็นยังไงไปดูกันครับ
มนุษย์ vs AI

คุณ CK บอกว่า AI จะกินงานรูทีน เหลือพื้นที่ที่มนุษย์ชนะคือ “รสนิยม” และ “การตัดสินคุณภาพ” คนรู้กว้าง (มนุษย์เป็ด) แต่ตื้นจะถูกแทนที่ เพราะ AI คือ เป็ดที่เก่งที่สุดที่อยู่ในมือถือเราอยู่แล้ว ไม่จำเป็นว่าเราต้องเป็นเป็ดอีก ให้ AI ทำงานที่น่าเบื่อไป ผู้ชนะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แยกคำตอบดี ไม่ดีออกจากกันได้ ไม่ใช่แค่ตอบอะไรกว้าง ๆ แต่ไม่ลึก
ส่วนตัวผมก็คิดว่าใช่ครับ AI ทุกวันนี้มันยังไปไม่ถึงขั้นที่จะทำงานแทนคนได้ 100% หรือ สามารถทำการคิดวิเคราะห์อะไรเองได้อย่างแม่นยำ นั่นเป็นเหตุผลที่เรายังไม่ตกงาน ณ ตอนนี้เนอะ 555 ซึ่ง คุณ CK ก็โฟกัสในจุดที่มนุษย์ได้เปรียบจริง และเป็นแนวคิดที่ทำให้เราใช้ AI ได้อย่างถูกที่ถูกทางถูกวัตถุประสงค์
แต่ผมยากเสริมเรื่องมนุษย์เป็ดนิดนึงครับ ถ้าเป็นมนุษย์เป็ด โดยที่ทำอะไรไม่ได้ดีเลยสักอย่าง หรือไม่โฟกัสที่เป้าหมายอะไรสักอย่าง ทำอะไรได้อย่างละนิดอย่างละหน่อย ก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีครับ แต่หากเป็นมนุษย์เป็ดที่ดี หรือที่เราเรียกว่า Generalist ที่สามารถสร้างรายได้จากหลายวิธี รู้จักการ merge skills ต่าง ๆ มาสร้างรายได้ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจนะครับ

=====

ผู้เชี่ยวชาญเกิดจาก “พลาดมากกว่า แต่ไม่พลาดซ้ำ”

คุณ CK บอกว่าห้องเรียนปั้น “เป็ด” แต่สนามจริงปั้น “ผู้เชี่ยวชาญ” วิธีเก่งขึ้นคือยอมพลาดให้เยอะกว่าคนอื่น แล้วไม่พลาดแบบเดิมรอบสอง ในการสัมภาษณ์ มีการยกตัวอย่าง Elon Musk ที่ล้มแล้วลุกเร็ว นี่คือความต่างของคนเก่งคือรับรู้ความผิดพลาดไว และแก้ทัน
เห็นด้วยว่าโรงเรียนสร้างเป็ดที่ไม่คุณภาพครับ ผมว่าผมเข้าใจระบบการศึกษาระดับนึงเนอะ ว่าทำไมถึงให้เรียนอะไรเยอะแยะ บางอย่างก็ยอมรับว่ามันมีประโยชน์ในการใช้ชีวิตจริง ๆ แต่หลายอย่างก็ไม่รู้มีทำไม 555 ถ้าโรงเรียนเน้นไปให้ความสำคัญกับเด็กแต่ละคนได้มากกว่าเดิมบ้าง และพยายามสอนให้เขาเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” ที่ดีได้ ก็น่าสนใจครับ
การเรียนรู้จากความผิดพลาดเป็นสิ่งสำคัญครับ และเป็นอาวุธลับของการพัฒนาตัวเองเลย ถ้าล้มแล้ว รีบเก็บไปพิจารณา และไม่ให้เกิดซ้ำอีก และจะดีขึ้นไปอีกถ้าเราสามารถหาก framework ของความผิดพลาดเจอก่อนที่จะเริ่มลงมือทำ เพราะบางครั้งการจะกลับมาลุกขึ้นอีกครั้งอาจจะใช้เวลา และ ทรัพยากรต่าง ๆ สูง ถ้าหากทำได้และมีเวลามากพอ การศึกษาหาทางรับมือกับความล้ม หรือป้องกันข้อผิดพลาด ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

=====

ทำงานหนัก–แลก–เบิร์นเอาต์ และโอกาสการเริ่มธุรกิจในมุม CK

CK มองว่าคำว่า “เบิร์นเอาต์” เพิ่งเกิดในยุคที่เรามีทางเลือกมากขึ้น เขาย้ำว่าถ้าอยากเปลี่ยนชีวิต ต้องยอมเหนื่อยและยอมแลก โดยเฉพาะช่วงอายุยังมีภาระน้อย เขาเชียร์ให้ทำงานเสาร์–อาทิตย์ ถ้าต้องการ “โดดเด่น” เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ทำ คนที่พูดถึง Work-life-balance ไม่มีทางทำอะไรได้ดีสักอย่าง เพราะมันจะครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไปหมด เราต้องยอมเหมือนตอนนี้ เพื่อสบายทั้งชีวิต นี่ต่างหากที่เรียกว่า Work-life-balance ที่แท้จริง
ห้องเรียนให้เกรด แต่ตลาดให้เงิน ยุคนี้ช่องทางหาเงินเปิดกว้าง ไม่ว่าจะเป็น ฟรีแลนซ์, คอนเทนต์, อีคอมเมิร์ซ ไลฟ์ขายของ ทำแอฟฟิลิเอต ทุกอย่างเป็นไปได้หมด ถ้ายังไม่เริ่ม ให้ถามตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่

เห็นด้วยครับ จะเกิดก็ต้องยอมแลก 555 อยากพิเศษ อยากเก่งกว่าคนอื่น ก็ต้องทำให้มากกว่าคนอื่น อันนี้ผมว่าคนที่กำลังตามเป้าหมายของตัวเองเข้าใจเรื่องนี้ดี อีกอย่างที่ผมชอบคือคำพูดที่คุณ CK บอกว่า เราเกิดมาในยุคอินเตอร์เน็ต เราโชคดีขนาดไหนแล้ว เพราะตอนนี้เรามีเครื่องมือที่สามารถหาเงินได้หลากหลายวิธี มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสารพัด พร้อมให้เราลงมือทำได้โดยไม่ต้องเสีย effort มากจนเกินไป มีเวลาโฟกัสกับสิ่งที่สามารถขับเคลื่อนทุกอย่างไปข้างหน้าได้จริง ๆ อย่างที่ผมพูดทุกวัน ตัวอย่างที่ชัดที่สุด ก็คือ AI นี่แหละ ใช้ให้เป็น ใช้ให้ถูก มันก็คืออุปกรณ์การทำงานที่มีประสิทธิภาพตัวนึงเลยล่ะ และ การทำงานหนักของคุณจะลดลงได้ไม่มากก็น้อยผมรับประกัน

=====

รสนิยมคือ Differentiator / AI คือ “ตั๋วเข้าแข่ง”

คุณ CK พูดว่า AI เป็นเหมือนสมาร์ตโฟนหรือ TikTok ทุกคนมีได้ ไม่ได้ทำให้ชนะเอง จุดตัดสินคือ “วิธีใช้” และ “รสนิยม” แรง เขายกตัวอย่างงาน consult ที่ยังต้องการมนุษย์เพราะมี accountability และลูกค้าซื้อ “รสนิยม/สายตา” ของคนทำ ไม่ใช่แค่เวลา Graphic designer คนจ้างเพราะ “รสนิยม” ไม่ใช่แค่ลงมือวาด (พูดง่าย ๆ คือจ้าง รสนิยมนั่นแหละ) Software Engineer ใช้ prompt engineering ได้ แต่ยังต้อง “ดูโค้ด ปรับแก้” ให้เข้ารสนิยม/มาตรฐานตัวเองอยู่
ถ้า “ไม่มี AI” = ยังไม่มีตั๋วเข้าแข่ง (เหมือนยังใช้ฟีเจอร์โฟน/ไม่มี TikTok → ด้อยกว่า) ถ้า “มี AI แต่ไม่มีรสนิยม” = ผลงานไม่โดดเด่น เพราะเครื่องมือเหมือนกันทั้งสนาม ความต่างจะมาจากการตั้งคำถามลึก การเอาใจใส่ และ ความทุ่มเท Fastwork “ยืนข้างมนุษย์” เพราะสุดท้ายก็ต้องจ้างคนมาตัดสินคุณภาพ/ปรับแต่งงาน ไม่ได้จ้างหุ่นยนต์ล้วน
ผมชอบคำว่า ตั๋วเข้าแข่ง มาก สำหรับใครที่ยังไม่มีตั๋ว หรือไม่คิดจะหาตั๋วมาเป็นของตัวเอง ผมบอกเลยว่าคุณจะตกขบวนแน่นอนครับ จริงอยู่ครับ ผมเสพสื่อ และรับข่าวสารเรื่อง AI มาเยอะมาก และตอนนี้ผมก็กลัวมาก ยอมรับเลย 555 แต่ผมไม่หันหลังให้มันครับ เพราะไม่ว่าจะได้ยินมาว่ามันจะมาแทนที่เรายังไง มันจะเก่งกว่านี้อีกกี่เท่า แต่ผมยังเชื่อว่า ถ้าเรารู้จักมันมากพอ เราจะมีวิธีที่เราจะเป็นคนใช้งานมัน มากกว่าให้มันมาแทนที่เรา ผมเลยกำลังพยายามเก็บตังซื้อตั๋วใบนี้อยู่ครับ

=====

ปักหมุดชีวิต และ “โต๊ะกินข้าว”

คุณ CK ชวนตั้งเป้าให้ชัดเหมือนปักหมุดในแผนที่ หมุดผิดยังยูเทิร์นได้ แย่สุดคือไม่มีหมุดเลย เขามีการยกตัวอย่างการให้ทุกคนลองจิตนาการว่า ถ้าเราขึ้นทางด่วน ปิดแมพ แล้วขึ้นตรงไปเรื่อง ๆ เป็นเวลา 20 นาที เราจะกลัว เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะไปไหน นั่นคือการใช้ชีวิตแบบไม่มีหมุดหมาย ขนาดขับรถคุณยังกลัว แล้วทำไมในการใช้ชีวิต คุณถึงไม่กลัวล่ะ?
คุณ CK พูดย้ำว่าคนรอบโต๊ะมีผลต่อวิธีคิด โต๊ะที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดจะดึงความกลัว โต๊ะที่เต็มไปด้วยโอกาสจะผลักให้ลงมือ ช่วงเปลี่ยนโต๊ะจึง “เหงา” แต่คือช่วงโตจริง
ผมเคยอยู่ในโต๊ะแบบนั้นครับ แต่สุดท้าย ขอบคุณตัวเองที่ยอมเปลี่ยนโต๊ะและเปิดใจที่จะเริ่มทำอะไรของตัวเองสักที เพจนี้เป็นเพจเล็ก ๆ ที่ผมโคตรจะภูมิใจ มันไม่ได้มีชื่อเสียง ไม่ได้แมส หรอกครับ สิ่งที่สำคัญคืออย่างน้อย วันนี้ผมทำมันแล้ว ทำมันโดยที่ไม่มีข้ออ้าง ไม่มีความกลัว และผมจะทำมันต่อไปเรื่อย ๆ คอยหาวิธีจนกว่าผมจะทำมันให้สำเร็จครับ ผมจะไม่เอาชีวิตไปขึ้นบนทางด่วนที่ไม่รู้ว่าจะไปไหน

=====

Q&A ที่น่าสนใจ

“มีดใบแรกต้องคม” ก่อนจะสะสมสกิลอื่น เริ่มจากสิ่งที่เลี้ยงชีพได้จริง ผู้ประกอบการไม่มีวัน “พร้อม” ต้องโดดเข้าไฟ แต่ให้ทำของที่ตลาดยังไม่มีหรือ สิ่งที่เราทำได้ดีกว่าในตลาด เลือกงานจากสิ่งที่ “คนอื่นชื่นชม” ไม่ใช่แค่สิ่งที่เราชอบ จัดการคนที่ไม่ชอบเรา และโฟกัสทำแต่สิ่งที่ดี สุดท้าย สูตร 3 อย่าง: กล้าเริ่ม, สมองเรียนรู้ไว, ใจไม่ยอมแพ้
เหมือนคำขวัญวันเด็กดี ผมชอบ 555 ง่าย ๆ ได้ใจความครับ แค่กล้าเริ่มกล้าทำ ก็สำเร็จไปครึ่งนึงแล้วครับ ขอหนุนใจทุกคนที่กำลังมีเป้าหมาย ที่กำลังอยากจะเริ่มทำอะไรสักอย่าง หรือกำลังคิดว่าขอหาแผนสำรองสำหรับทุกอย่าง รอให้ทุกอย่างพร้อมก่อน อย่างกลัวครับ ลงมือทำก่อนเลย เพราะถ้าไม่ลงมือทำ เราไม่เห็นปัญหาครับ ไม่มีทางที่เราจะปิดทุกอย่างได้ครบ ปัญหานี่แหละทำให้เราเติบโต และไปในทางที่ถูกต้องต่อไปได้ ไม่รู้ผิด ก็ไม่มีทางรู้ถูกครับ เป็นกำลังให้ทุกคนครับ

=====

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งจากคลิปเต็มนะครับ ใครมีเวลาสามารถไปตามที่ช่อง UN Global Compact Network Thailand เลยนะครับ ผมจะทิ้งลิงก์ไว้ให้ด้านล่าง หากมีข้อมูลตรงไหนผิดพลาด ขออภัยด้วยนะครับ แสดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่ครับ แต่ขอให้อยู่ความสุภาพ และใช้เหตุผลคุยกันนะครับ
ก่อนไปขอฝากหน่อยค้าบ ตอนนี้ TrendTech เรามีกลุ่มแล้วนะครับ เป็นกลุ่มที่เราจะแชร์ความรู้ IT หรือ AI ทุกรูปแบบ รวมไปถึงแชร์วิธีกระโดดมาทำงานสาย IT ด้วย ใครสนใจก็สามารถเข้ากลุ่มได้เลยครับผม
https://www.facebook.com/groups/1429602182250879