20/07/2023
รีวิว Kuzu no Honkai (ความปราถนาของพวกสวะ)
เรทติ้งและคำเตือน: เหมาะสำหรับผู้ชมอายุ 16+ , มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศและการใช้ภาษา
• สวัสดีครับผู้ติดตามทุกท่าน วันนี้ทางแอดมินเพจ Senpai Say ได้มีโอกาสรับชมอนิเมะเรื่องนึงจากปี 2017 ซึ่งก็คือเรื่อง Kuzu no Honkai หรือ Scum's wish ที่ออกฉายทาง Netflix ล่ะครับ และโดยส่วนตัวแล้วแอดมินรู้สึกชื่นชอบเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นอนิเมะเรื่องนึงที่สร้างจุดเด่นของตัวเองได้อย่างชัดเจนมากๆ และจุดเด่นที่ว่ามาก็มักจะไม่พบบ่อยตามอนิเมะทั่วๆ ไปด้วย แอดมินเลยอยากจะนำอนิเมะเรื่องนี้มานำเสนอพร้อมกับการรีวิวไปพร้อมกันในบทความนี้
- ทางแอดมินจะพยายามนำเสนอโดยให้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญน้อยที่สุด หากแต่ถ้าผู้ติดตามทุกท่านไม่อยากเสี่ยงต่อการโดนสปอยล์ ทางเราแนะนำให้ทุกท่านกลับไปรับชมก่อน แล้วจึงมาอ่านโพสต์นี้ที่หลังครับ
- ต่อไปนี้จะเข้าสู่ช่วงของการรีวิว โปรดเลื่อนไปยังด้านล้างหากท่านต้องการจะอ่านต่อ
• ว่าด้วยเนื้อเรื่องของ Kuzu no Honkai หรือ Scum's wish เรื่องราวของเด็กนักเรียนม. ปลาย ชายหญิงคู่นึง ที่ต่างคนต่างเคยมีตำหนิในเรื่องของความรักและความสัมพันธ์ ทั้งสองคอยวิ่งไล่ตามชิ้นส่วนของความสัมพันธ์ในอดีตที่หายไป จนได้มาพบกันโดยบังเอิญ ในรั้วโรงเรียนเดียวกันเพราะความเกี่ยวพันธ์บางอย่างที่ทั้งคู่มีจนทำให้ต้องพยายามหาทางออกไปด้วยกัน เนื้อหาจะเป็นแนว เลิฟ ดราม่า ที่มีความซีเรียสสูง แต่ก็มีโมเมนท์อบอุ่น + เลิฟซีนที่ตั้งใจใส่มาเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของปมเนื้อเรื่อง แต่ก็เป็นช่วงจังหวะเวลาที่ดีที่จะใส่ลูกเล่นต่างๆ ลงในฉาก ช่วยให้สามารถดึงดูดอารมณ์คนดูให้อินตามได้ง่ายๆ โดยเฉพาะเมื่อเรื่องนี้ที่มีการเน้นเล่าเรื่องผ่านฉากเกี่ยวกับเรื่องทางเพศอย่าง ห นั ก ห น่ ว ง จึงไม่แปลกที่ทำให้แอดมินที่เป็นวัยรุ่นอินตามได้อย่างง่าย ซึ่งก็เป็นที่ประจักษ์ได้เลยว่าทำไมถึงได้เรทติ้ง 16+ แต่ส่วนตัวแอดมินยกให้อยู่ในระดับ 20+ ไปเลย ไม่ใช่แค่เพราะเนื้อหาทางเพศ แต่เพราะอีกจุดเด่นนึงที่อยู่ในเนื้อเรื่องคือหลักการใช้ภาษาและวิธีการเล่าเรื่องทึ่ต้องใช้การคิดตาม ถึงผู้ชมจะไม่ต้องตีความแนวคิดเชิงนามธรรมอะไร แต่เนื้อเรื่องของเรื่องนี้มีสิ่งที่ดูจบแล้วได้ฝากให้เราไปเอากลับไปคิดต่อนอกจอ ซึ่งส่วนตัวแอดมินมองว่าถ้าเก็บกลับไปคิดต่อ คงจะเป็นอะไรที่หนักเกินพลังความคิดของผู้ชมในช่วงอายุ 16+ ไปหน่อยนึง ส่วนนึงที่ทำให้เนื้อเรื่องถูกเล่าออกมาได้ดีก็เป็นผลมาจากการใช้ภาษาในบทพูดที่สละสลวยและคมคาย เป็นบทพูดธรรมดาที่ตรงไปตรงมาแต่สามารถส่งสารตรงถึงใจผู้ชมที่กำลังคล้อยตามเนื้อเรื่องได้อย่างน่าประหลาด เมื่อเนื้อเรื่องถูกเล่าออกมาพร้อมกันผ่านทั้งฉากและบทพูด มันชื่นไหลขวนให้ติดตามากๆ ทำเอาแอดมินเองก็ดูเพลินจนลืมเวลาเลยล่ะ ส่วนตอนจบของเรื่องนี้ก็เป็นการรวบเก็บเนื้อหาปลายปิดได้อย่างเนี๊ยบ คลี่คลายทุกปมที่ก่อไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องจนหมด และมีฉากที่ใส่เข้ามาเพื่ออธิบายสถานการณ์ยิบย่อยที่ดำเนินอยู่เบื้องหลังไปพร้อมกับเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องหลัก ถึงสุดท้ายปลายทางจะไม่หวานหอมแบบอนิเมะเลิฟดราม่าเรื่องอื่นๆ แต่ก็ถือเป็น Good ending ที่จบตอนได้อย่างสมเหตุสมผลไม่มีอะไรค้างคา ซึึ่งแอดมินรู้สึกพึงพอใจในจุดนี้ เพราะนี่ก็เป็นอีกจุดเด่นนึงของอนิเมะเรื่องนี้เหมือนกัน การขายความไม่เหมือนใครในแบบที่ทุกคนยอมรับได้ ซึ่งแอดมินก็แอบหวังว่าจะได้เห็นอนิเมะแนวนี้อีกเยอะๆ
•ต่อมาก็จะขอพูดถึงส่วนของงานภาพของอนิเมะเรื่องนี้กันบ้าง เนื่องจากเป็นอนิเมะที่เกิดในปี 2017 การทำงานภาพไม่ว่าจะเป็นลายเส้น สัดส่วนตัวละคร ท่าทางในแต่ละอริยบทการกระทำ ฉากหลังและการลงสีจึงถือได้ว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว เป็นงานภาพแบบที่เรียกได้ว่ายืนบนเส้นมาตรฐานงานภาพอนิเมะสมัยใหม่ได้อย่างมั่นคง โดยเมื่อพูดถึงการใช้ลายเส้นก็เป็นอะไรที่เจ๋งเหมือนกันที่ได้เห็นการตัดเส้นและลงสีตัวละครที่กำลังมีบทพูดในฉากนั้นๆ ให้เด่นกว่าตัวละครอื่นๆ ถึงแม้จะเป็นตัวละครหลักเช่นกันก็ตาม และการลงสีฉากก็เป็นสิ่งที่ช่วยเร่งให้อารมณ์และความรู้สึกของเนื้อเรื่องมันชัดเจนและเข้มข้น รวมทั้งเทคนิคการตัดสลับฉากด้วยการค่อยๆ แทรกฉากที่มีสีตรงข้ามกับอารมณ์ของฉากเก่าเข้ามาจนเต็ม เป็นการตัดเปลี่ยนฉากที่ไม่ทำให้ผู้ชมเสียอารมณ์ร่วมที่กำลังอินกับฉากเก่า แล้วยังดึงดูดความอินนั้นให้จดจ้องเฝ้ารอสิ่งที่จะเกิดต่อไปในฉากใหม่ ซึ่งบางครั้งก็จะมีการแทรกกรอบ story board แล้วทำการเล่นฉากเหตุการณ์ที่สำคัญต่อเนื้อเรื่องในกรอบนั้นเพื่อเพิ่มความโฟกัสของคนดูโดยให้พื้นหลังที่เหลือเป็นภาพ Background ที่ทำให้ทางแอดมินรู้สึกว่ามันจะมีหรือไม่มีก็ไม่ได้ส่งผลรบกวนการโฟกัสเนื้อเรื่องในกรอบ story board แต่ก็เป็นสิ่งที่ถ้าเลือกได้ก็ใส่มาเถอะ มัน Nice to have เหมือนกัน โดยด้านงานภาพจะมีข้อที่ต้องติอยู่บ้างเหมือนกัน อย่างการตัดเส้นตัวละครที่ทำให้ตัวละครที่กำลังเป็นจุดสนใจของฉากนั้นดูเด่น แต่กลับกันการลงสีและองค์ประกอบบางอย่างในฉากที่ไม่มีน้ำหนักมากพอทำให้ฉากมันดูเลือนลางออกไปจากตัวละคร ให้ความรู้สึกแปลกแยก ทั้งที่ตัวละครยังอยู่ในฉากนั้นแต่กลับดูเลื่อนลอยเหมือนเหตุการณ์นั้นกำลังเกิดขึ้นใน space ที่เป็นอากาศแสนว่างเปล่า และอีกอย่างที่ถ้าไม่สังเกตุจะไม่เห็น แต่ถ้าเห็นแล้วเราจะมัวจับผิดมัน คือการใส่เอฟเฟคต์พิเศษ ซึ่งในเมื่อเรื้อเรื่องของอนิเมะเรื่องนี้มันเป็น Realistic ไม่มีความแฟตาซี ความจำเป็นในการใส่เอฟเฟคต์พิเศษประดับฉากจึงมีน้อยมาก แต่เมื่อฉากกำลังเล่าภาพฝัน ความทรงจำในอดีต หรือความคิดในอนาคตของตัวละครต่างๆ มันกลับใส่เอฟเฟคต์พิเศษมาน้อยไปหน่อย แต่รวมๆ แล้วงานภาพคือดี ดูฟินๆ อินองค์ประกอบศิลป์ไปพร้อมเนื้อเรื่องแน่นอน
•ในด้านของงานเสียง อนิเมะเรื่องนี้ทำการแคสต์และพากย์เสียงตัวละครได้ดีมาก ทั้งในด้านของเสียงพูด เสียงคราง เสียงการกระทำ และเสียงในความคิดของตัวละครต่างๆ การใช้เสียงพากย์ที่ดีจะส่งผลในด้านการดึงดูดอารมณ์ของคนดูให้จดจ้องอยู่กับเรื้อเรื่องได้มากกว่า ในส่วนของเพลงอินโทรและเอาท์โทรมีแค่เพลงเดียวตลอดทั้ง 12 ตอน แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรก็ด้วยความเพราะ ฟังแล้วช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของเนื้อเรื่องแถมยังใส่มาเพื่อเติมเต็มช่องว่างการตัดสลับฉากที่ว่างเปล่าจากเนื้อเรื่องในตอนก่อนสู่ตอนปัจจุบันได้อย่างสวยงาม และสุดท้ายในส่วนของเสียงประกอบฉากหลังทั้งแบบที่เป็น Background music และ Background situation sound ก็มีการใส่เข้ามาเบาๆ คลอไปกับเนื้อเรื่องตลอด ถือว่าเป็นส่วนที่ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีอย่างงานภาพ ทางแอดมินยังรู้สึกว่าขาดอะไรไปหลายอย่าง เหมือนกับมันยังไม่สุด มันยังมีอะไรให้ใส่ลงไปและขัดเกลาให้งดงามกว่าที่เป็นอยู่ได้อีกมากมายเลยทีเดียว ซึ่งนี่เป็นตัวที่หักคะแนนตัวใหญ่ของเรื่องเลยล่ะ
•ต่อมาก็จะเข้าถึงช่วงของการสรุป ถ้าผู้ติดตามทุกท่านกำลังหาอนิเมะเลิฟ ดราม่า เรื่องนึงที่มีจุดเด่นไม่เหมือนใคร เนื้อเรื่องให้ครบทุกอารมณ์แถมใส่จัดเต็มไม่กั๊กทั้งสุขและเศร้า แล้วแทรกด้วยฉากของเนื้อหาทางเพศอันเร่าร้อนถูกใจผู้ชมวัยรุ่น วัยกลางคน ทางแอดมินก็ยินดีนำเสนอ Kuzu no Honkai เป็นอย่างมาก แล้วยิ่งหากผู้ติดตามทุกท่านเป็นคนที่ชอบการเก็บปมอะไรสักอย่างกลับไปคิดต่อหลังดูจบ ห้ามพลาดเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง!
•ทางแอดมินขอจบการรีวิวอนิเมะเรื่อง Kuzu no Honkai หรือ Scum's wish (ความปราถนาของเหล่าสวะ) ไว้เพียงเท่านี้ ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะครับ
ถ้าผู้ติดตามรู้สึกชอบสามารถกดไลค์ และกดแชร์ไปแนะนำเพื่อนๆ ได้นะครับ จะช่วยให้เพจ Senpai Say ของเราเติบโตต่อไปได้
