ยาไทยเล่าเรื่อง

ยาไทยเล่าเรื่อง ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก ยาไทยเล่าเรื่อง, ครีเอเตอร์ดิจิทัล, Thung Wa.
(3)

สูตรสมุนไพรต่างๆ และประโยชน์ของสมุนไพร สูตรพื้นบ้าน สูตรโบราณ ‼️ไม่อนุญาติให้ก๊อปข้อความเพื่อไปสร้างรายได้ เป็นลิขสิทธิ์สำหรับเพจนี้เท่านั้น‼️https://collshp.com/4ocsiyknpz

14/10/2025

“สูตรสมุนไพรหลับฝันดี” อิงภูมิปัญญาไทย–จีนแบบโบราณ เหมาะสำหรับคนที่ นอนหลับยาก หลับไม่ลึก หรือตื่นกลางดึกบ่อย 👇

ต้มไข่ให้อร่อยและ “ได้ยา” แบบภูมิปัญญาไทยนั้น มีอยู่หลายสูตรเลยค่ะ 🌿🥚สมุนไพรบางชนิดเมื่อต้มรวมกับไข่ จะช่วยปรับสมดุลธาตุ...
14/10/2025

ต้มไข่ให้อร่อยและ “ได้ยา” แบบภูมิปัญญาไทยนั้น มีอยู่หลายสูตรเลยค่ะ 🌿🥚
สมุนไพรบางชนิดเมื่อต้มรวมกับไข่ จะช่วยปรับสมดุลธาตุ บำรุงเลือด บำรุงไต ล้างสารพิษ หรือช่วยย่อยได้ดีมาก ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่าง “สมุนไพรที่นิยมใส่ตอนต้มไข่” พร้อมสรรพคุณ 👇

---

🫚 1. ขิง

ใส่: ขิงแก่ 4–5 แว่น ลงไปในน้ำต้มไข่

สรรพคุณ:

ช่วยขับลม แก้แน่นท้อง

อุ่นร่างกาย บำรุงม้ามและไต

ช่วยย่อยไข่ ทำให้กินแล้วไม่แน่นท้อง

เหมาะกับ: คนธาตุเย็น มือเท้าเย็น ระบบย่อยไม่ดี

---

🌾 2. ตะไคร้

ใส่: ทุบตะไคร้ 1–2 ต้น ใส่ลงไปพร้อมน้ำต้ม

สรรพคุณ:

ขับลม ลดอาการจุกแน่น

ช่วยให้กลิ่นไข่ไม่แรง

มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียอ่อน ๆ

เคล็ดลับ: เหมาะกับคนที่ชอบกิน “ไข่ยางมะตูม” หรือไข่ต้มไม่สุกจัด จะช่วยลดกลิ่นคาวได้มาก

---

🌿 3. ใบเตย

ใส่: ใบเตยมัดเป็นปม 1–2 ใบ

สรรพคุณ:

กลิ่นหอม ช่วยผ่อนคลาย

บำรุงหัวใจและไต

ปรับสมดุลร่างกายแบบอ่อนโยน

เหมาะกับ: คนที่อยากได้ “กลิ่นหอม–รสละมุน” และช่วยให้ไข่ย่อยง่าย

---

🧄 4. กระเทียม

ใส่: กระเทียมบุบ 3–4 กลีบ

สรรพคุณ:

ช่วยฆ่าเชื้อในทางเดินอาหาร

ลดไขมันในเลือด

กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

เคล็ดลับ: เหมาะกับคนวัย 40+ ที่อยากบำรุงเลือดลม และล้างหลอดเลือด

---

🍃 5. สมุนไพรฤทธิ์ร้อนรวม (สูตรยา)

สำหรับบางพื้นที่ เช่น ภาคเหนือ/อีสาน จะต้มไข่กับสมุนไพรหลายชนิดพร้อมกัน เช่น

ขิง + ตะไคร้ + ชะเอมเทศ (เล็กน้อย) + กระวาน
👉 กลายเป็น “น้ำต้มยา” กลิ่นหอม ออกหวานอ่อน ๆ
👉 พอไข่สุก จะได้ทั้งไข่สมุนไพร และน้ำยาสมุนไพรไว้ดื่มอุ่น ๆ อีกแก้ว

---

🌟 เทคนิคพิเศษแบบคนโบราณ

ไข่สมุนไพรแบบยางมะตูมยา: ต้มไข่ 5–6 นาทีในน้ำสมุนไพร → แช่ต่อในน้ำต้มยาอุ่น ๆ 10–15 นาที → เปลือกไข่ดูดน้ำยาเข้าไปเล็กน้อย ไข่จะมีกลิ่นสมุนไพรและรสละมุน

แบบแช่ค้างคืน (คล้ายไข่พะโล้ยา): ต้มไข่ให้สุก → เคาะเปลือกเบา ๆ → แช่ในน้ำสมุนไพรที่ต้มไว้ทั้งคืน → เช้ากินได้ทั้งไข่และน้ำยา

---

❌ ข้อควรระวัง

ไม่ควรใช้สมุนไพรแรงหรือมากเกินไป (เช่น กานพลูในปริมาณเยอะ) เพราะอาจทำให้รสขมและกระทบกระเพาะ

คนที่เป็นโรคไต ควรเลือกสมุนไพรที่ไม่ขับปัสสาวะมาก เช่น ใบเตย ขิง (ในปริมาณพอดี)

นี่คือตำรับสมุนไพร “บรรเทาเจ็บ–แสบ–ร้อนทรวงอกเวลาทานอาหาร” สำหรับคนที่มีภาวะกรดเกินหรือกรดไหลย้อนแบบเรื้อรัง — เป็นสูตรโ...
14/10/2025

นี่คือตำรับสมุนไพร “บรรเทาเจ็บ–แสบ–ร้อนทรวงอกเวลาทานอาหาร” สำหรับคนที่มีภาวะกรดเกินหรือกรดไหลย้อนแบบเรื้อรัง — เป็นสูตรโบราณที่ผสมผสานสมุนไพร 3 ชนิด ที่ ไม่ค่อยถูกเผยแพร่ทั่วไป (สูตรนี้เน้น “สมานเยื่อบุ + ลดกรด + ฟื้นหลอดอาหาร”) 🌿✨

---

🌿✨ ตำรับลับ: “สมานหลอดอาหาร – ลดกรด – เคลือบกระเพาะ”

> 🪄 สูตรนี้ต่างจากสูตรทั่วไปตรงที่ใช้ “ฝักเพกาแก่” และ “เปลือกหว้า” คู่กับ “กล้วยดิบ” → 3 ตัวนี้เสริมฤทธิ์กันพอดี: ฝักเพกาเคลือบหลอดอาหาร, เปลือกหว้าเป็นยาเย็นฝาดสมาน, กล้วยดิบเคลือบและลดกรด

🧂 ส่วนผสม

ฝักเพกาแก่แห้ง (หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ) 👉 1 ฝัก

เปลือกต้นหว้า (ตากแห้ง) 👉 1 ช้อนโต๊ะ

กล้วยน้ำว้าดิบ (ฝานบาง ตากแดดให้แห้ง) 👉 1 ลูก

> 📝 ทั้ง 3 ตัวนี้ควรเป็นแบบแห้ง เพราะจะทำให้สารสำคัญเข้มข้นและเก็บได้นาน

---

🍵 วิธีต้ม

1. ใส่สมุนไพรทั้งหมดลงในหม้อดินหรือหม้อสแตนเลส

2. เติมน้ำสะอาด 5 ถ้วย (ประมาณ 1.25 ลิตร)

3. เคี่ยวไฟอ่อน 20–25 นาที จนน้ำเหลือประมาณ 3 ถ้วย

4. กรองเอาแต่น้ำ พักให้อุ่น

---

🕰 วิธีดื่ม

ดื่มครั้งละ ½ ถ้วย (100–120 มล.)

ก่อนอาหาร เช้า–กลางวัน–เย็น (วันละ 3 เวลา)

ดื่มต่อเนื่อง 7–14 วัน → จะรู้สึกว่าอาการ “แสบกลางอก” และ “จุกแน่นหลังกิน” ลดลงชัดเจน

---

🌿🩺 สรรพคุณเชิงลึกของแต่ละตัว

1. ฝักเพกาแก่ 🌱

มีเมือกธรรมชาติที่ช่วยเคลือบหลอดอาหารและเยื่อบุกระเพาะ

ลดการระคายเคืองจากกรดย้อนขึ้น

มีฤทธิ์เย็นอ่อน ๆ → ช่วยดับไฟในกระเพาะ

2. เปลือกต้นหว้า 🌳

มีแทนนินสูง → ฝาดสมานเยื่อบุ ช่วยห้ามการอักเสบเล็ก ๆ ในหลอดอาหาร

ลดอาการแสบ–จุก–แน่นที่เกิดจากการระคายเคือง

เป็นยาเย็นธรรมชาติ → ลดกรดโดยไม่ทำลายสมดุลในกระเพาะ

3. กล้วยดิบ 🍌

เคลือบกระเพาะ ลดกรดส่วนเกิน

มีสารแทนนินและไฟเบอร์ที่ช่วยฟื้นเยื่อบุ

กระตุ้นการหลั่งเมือกธรรมชาติ → ป้องกันการกัดกร่อนจากกรด

---

⚠️ ข้อควรระวัง / เคล็ดลับ

ถ้ามีอาการท้องอืด ให้ลดปริมาณกล้วยดิบลงครึ่งหนึ่งในช่วงแรก

ไม่ควรแช่ค้างคืน ควรต้มวันต่อวันเพื่อคุณภาพดีที่สุด

ผู้ที่มีความดันต่ำ ควรดื่มแบบอุ่น ไม่เย็นจัด เพราะตำรับนี้มีฤทธิ์เย็นเล็กน้อย

ถ้ามีแผลในกระเพาะจริง ควรดื่มช้า ๆ ไม่รวดเดียว

---

✅ จุดเด่นของสูตรนี้:

ไม่ใช่ตำรับที่เห็นบ่อยในตำราแพทย์แผนไทยทั่วไป

ผสมตัวยา “เคลือบ + สมาน + เย็น” อย่างลงตัว

เหมาะกับคนที่มีอาการหลังกินอาหารทันที เช่น แสบร้อนกลางอก จุกแน่น คอขม กรดไหลย้อนกลางคืน

14/10/2025

🌿 1. สูตรล้างสารพิษตับ–เลือด–ไต (ตำรับโบราณ)

🍵 เหมาะสำหรับคนที่มีอาการตัวบวม เหนื่อยง่าย ผิวหมอง น้ำเหลืองไม่ดี ระบบขับถ่ายติดขัด

🔸 ส่วนผสม

ใบเตย 5 ใบ (ช่วยขับปัสสาวะ ล้างไต)

ขิงสด 5–7 แว่น (กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ขับของเสีย)

ตะไคร้ 2 ต้น (ขับลม–ล้างระบบน้ำเหลือง)

ลูกเดือย 2 ช้อนโต๊ะ (บำรุงไต–ขับของเสียออกทางปัสสาวะ)

ชะเอมเทศ 1 ชิ้นเล็ก (ช่วยตับและระบบย่อย)

น้ำสะอาด 2 ลิตร

🫕 วิธีทำ

1. ล้างสมุนไพรให้สะอาด

2. ต้มทุกอย่างรวมกันจนเดือด แล้วเคี่ยวต่อ 15–20 นาที

3. กรองเอาแต่น้ำ ดื่มอุ่น ๆ ระหว่างวัน (วันละ 3–4 แก้ว)

📌 คำแนะนำ

ดื่มติดต่อกัน 3–7 วันเพื่อให้ระบบขับสารพิษเริ่มทำงาน

งดอาหารแปรรูป–น้ำตาล–แอลกอฮอล์ในช่วงนี้เพื่อช่วยให้ร่างกาย “คลีน” จริง

14/10/2025

“สมุนไพรแต่ละต้นมีคุณค่าในแบบของมัน…เช่นเดียวกับคน ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจ”

✨ ความลับของ ผักชีใบเลื่อย (หรือที่บางพื้นที่เรียกว่า ผักชีฝรั่ง, ผักหอมเทศ) ที่คนรู้น้อยมาก---🌱 เรื่องที่คนไม่ค่อยรู้1....
14/10/2025

✨ ความลับของ ผักชีใบเลื่อย (หรือที่บางพื้นที่เรียกว่า ผักชีฝรั่ง, ผักหอมเทศ) ที่คนรู้น้อยมาก

---

🌱 เรื่องที่คนไม่ค่อยรู้

1. ไม่ใช่ผักตระกูลเดียวกับผักชีไทย
ถึงจะชื่อ “ผักชี” แต่จริง ๆ แล้วผักชีใบเลื่อยไม่ได้อยู่ในตระกูลเดียวกับผักชีล้อม (Coriander) แต่เป็น Eryngium foetidum อยู่ในวงศ์ Apiaceae เช่นเดียวกับขึ้นฉ่ายและแครอท

2. เป็นผักพื้นถิ่นอเมริกากลาง
เดิมทีมีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของอเมริกากลางและแคริบเบียน ก่อนจะแพร่เข้ามาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คนไทยเลยคุ้นเคยใช้ในอาหารอีสานและภาคเหนือ

3. กลิ่นแรงกว่าผักชีธรรมดาหลายเท่า
สารหอมหลักคือ E-2-alkenals และ aldehydes หลายชนิด ทำให้กลิ่นฉุนและติดทนนาน บางประเทศใช้แทนผักชีปกติในอาหารสตูว์และแกงเผ็ด

---

🥗 ประโยชน์ที่คนไม่ค่อยพูดถึง

ขับลม แก้ท้องอืด : หมอพื้นบ้านใช้ต้มน้ำดื่มหรือใส่ในแกงเพื่อลดอาการแน่นท้อง

สมานแผล และแก้อักเสบ : ใบสดตำพอกแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือแผลสดเล็ก ๆ

แก้ไอเรื้อรัง : ต้มน้ำดื่มกับเกลือเล็กน้อย เชื่อว่าช่วยละลายเสมหะ

ลดความดัน : ในบางตำราพื้นบ้าน มีการใช้ผักชีใบเลื่อยต้มน้ำดื่มเพื่อลดความดันโลหิต

---

🍲 การใช้แบบลับ ๆ ในครัว

คนอีสานนิยมใส่ ลาบ น้ำตก ก้อย ต้มยำ เพราะกลิ่นแรงช่วยดับคาว

ชาวละตินอเมริกาเรียกว่า Culantro ใช้ปรุงซุป Sancocho หรือใส่ถั่วดำต้ม

ใบแก่แม้จะแข็ง แต่ถ้า ตากแห้งแล้วบดผง จะเก็บกลิ่นหอมได้นานกว่าผักชีไทย

---

🌿 เคล็ดลับเพิ่มเติม

ปลูกง่ายในกระถาง แต่ถ้าเก็บบ่อย ๆ ควรเหลือโคนไว้สัก 2–3 ใบเพื่อให้แตกยอดใหม่เร็ว

ไม่ควรใส่ในอาหารตอนเดือดนาน ๆ เพราะจะทำให้กลิ่นหอมหายไป ควรโรยตอนใกล้ยกลง
#สมุนไพรไทย #สมุนไพรพื้นบ้าน #ผักชีใบเลื่อย

🌱 ความลับของใบเตยที่คนรู้น้อย1. น้ำใบเตยดิบกับตับมีรายงานแพทย์แผนไทยพื้นบ้านบางพื้นที่ ใช้ น้ำคั้นใบเตยสด (ดิบ ๆ) เพียงเ...
14/10/2025

🌱 ความลับของใบเตยที่คนรู้น้อย

1. น้ำใบเตยดิบกับตับ

มีรายงานแพทย์แผนไทยพื้นบ้านบางพื้นที่ ใช้ น้ำคั้นใบเตยสด (ดิบ ๆ) เพียงเล็กน้อยผสมกับน้ำอุ่น ดื่มแก้อาการ ตับร้อน–ตับอักเสบเบื้องต้น

ต้องใช้ในปริมาณน้อยมาก เพราะฤทธิ์เข้มเกินไปอาจทำให้คลื่นไส้

---

2. ช่วยปรับคลื่นสมอง (Relaxing effect)

งานวิจัยใหม่ ๆ พบว่า กลิ่นสาร 2-acetyl-1-pyrroline ในใบเตย (คือกลิ่นหอมเฉพาะตัว) สามารถทำให้ คลื่นสมองอัลฟา เพิ่มขึ้น → ร่างกายเข้าสู่โหมดสงบ คลายเครียด คล้ายการทำสมาธิ

จึงมีการทดลองใช้ “น้ำมันหอมใบเตย” สำหรับผู้มีปัญหานอนไม่หลับ

---

3. ดูดซับกลิ่นพิษ–สารเคมีในบ้าน

คนสมัยก่อนมัดใบเตยใส่ตู้เย็น ตู้กับข้าว ไม่ใช่แค่ดับกลิ่น → แต่จริง ๆ แล้วใบเตยมี สารโพลีฟีนอล ที่ช่วยดูดซับกลิ่นแอมโมเนีย–กลิ่นฉุนจากอาหารหมักได้จริง

ปัจจุบันยังไม่ค่อยมีใครแชร์เชิง “วิทยาศาสตร์” แบบนี้

---

4. น้ำใบเตยอุ่นแก้บ้านหมุน

หมอพื้นบ้านภาคใต้บางแห่งใช้ น้ำใบเตยอุ่น ๆ ดื่มแก้อาการ เวียนหัว บ้านหมุน จากความดันขึ้น–ลง

แต่ต้องกินร่วมกับ ขิงแว่นเล็กน้อย เพื่อปรับสมดุล

---

5. สารต้านเบาหวานที่ซ่อนอยู่

มีสาร “C-glycosyl flavones” ในใบเตยที่ช่วยชะลอการย่อยแป้ง–น้ำตาล → ทำให้น้ำตาลในเลือดค่อย ๆ ขึ้น ไม่พุ่งสูง

งานนี้เป็นความลับที่แทบไม่ถูกพูดถึงบนโซเชียล แต่เริ่มมีนักวิจัยไทยศึกษาแล้ว

---

💡 วิธีใช้แบบลับ ๆ

ชงชาใบเตย–ขิง ดื่มก่อนนอน → หลับสบาย + บรรเทาเวียนหัว

ใบเตยตำพอก ผสมน้ำมันมะพร้าว → ใช้ทาเท้าคนเป็นเบาหวาน ช่วยลดการอักเสบเล็ก ๆ

น้ำคั้นใบเตยสด 1–2 ช้อนชา → ผสมน้ำอุ่น ดื่มเฉพาะเวลารู้สึกตับร้อน

14/10/2025

⚠️4 สัญญาณเตือนสำคัญของ “พังผืดทับเส้นประสาทมือ”
(ภาวะนี้มักเกิดบริเวณ “ข้อมือ” โดยเฉพาะเส้นประสาทมีเดียน → Carpal Tunnel Syndrome)👇

14/10/2025

สูตรดื่มสมุนไพร เพื่อช่วยให้ติ่งเนื้อ (skin tags) ค่อย ๆ ยุบหรือไม่เกิดซ้ำ เป็นแนวทางแบบ “บำรุงจากภายใน” ซึ่งสำคัญไม่แพ้วิธีแต้มภายนอกเลยค่ะ👇

14/10/2025

อาการ “เส้นเลือดฝอยอักเสบ” (Capillaritis / Vasculitis บางชนิด) มักเกิดจากการอักเสบของหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ 👇👇👇สูตรช่วยบรรเทา

14/10/2025

5 สัญญาณเตือนว่า “ไตกำลังพัง” แบบเงียบ ๆ
หลายคนมักไม่รู้ตัว เพราะอาการจะค่อย ๆ แสดงแบบแผ่วเบา จนกว่าจะเข้าสู่ระยะรุนแรง ⚠️👇

สูตรต้ม “ฝ้ายผี (หรือ ชะมดต้น)” ที่คนโบราณใช้ ต้านและยับยั้งมะเร็ง จะเน้นการ “ขับพิษ–ลดการอักเสบ–เสริมภูมิคุ้มกัน” ของร่...
14/10/2025

สูตรต้ม “ฝ้ายผี (หรือ ชะมดต้น)” ที่คนโบราณใช้ ต้านและยับยั้งมะเร็ง จะเน้นการ “ขับพิษ–ลดการอักเสบ–เสริมภูมิคุ้มกัน” ของร่างกาย 🌿
ตำรับนี้นิยมในภาคเหนือและอีสาน ใช้เป็นน้ำสมุนไพรดื่มประจำวันช่วงฟื้นตัวหรือควบคุมโรค

---

🫕✨ สูตรต้มต้านมะเร็งจากฝ้ายผี

> 🌿 เน้นต้านอนุมูลอิสระ ลดอักเสบภายใน ฟื้นระบบเลือด–ตับ–ม้าม

🌿 ส่วนผสม

รากฝ้ายผี (ชะมดต้น) 1 กำมือ (ประมาณ 25 กรัม)

ขมิ้นชันสด 4–5 แว่น → ต้านการอักเสบ / ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ผิดปกติ

ตะไคร้ 2 ต้น → ขับพิษระบบเลือด–ตับ

น้ำสะอาด 2 ลิตร

---

🪄 วิธีต้ม

1. ล้างสมุนไพรทั้งหมดให้สะอาด ทุบรากฝ้ายผีและขมิ้นพอแตก

2. ใส่หม้อ เติมน้ำ 2 ลิตร ต้มไฟกลางจนเดือด

3. ลดไฟอ่อน เคี่ยวต่อ 25–30 นาที

4. กรองเอาแต่น้ำ พักให้อุ่น เก็บใส่ขวดแก้ว

---

🍵 วิธีดื่ม

ดื่มครั้งละ 150–200 มล. (ประมาณ 1 แก้วเล็ก)

วันละ 2 ครั้ง → เช้า – เย็น ก่อนอาหาร

ดื่มติดต่อกัน 5–7 วัน แล้วเว้น 2–3 วันก่อนเริ่มรอบใหม่

---

🌟 สรรพคุณที่โดดเด่น

🧹 ขับพิษและสารตกค้าง ออกจากเลือดและตับ

🌿 ลดการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเซลล์ผิดปกติ

🩸 ปรับสมดุลเลือดและภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกายฟื้นตัวได้เอง

🌱 งานวิจัยพื้นบ้านพบว่า รากฝ้ายผีมีสารต้านอนุมูลอิสระ และต้มรวมกับขมิ้น–ตะไคร้ จะช่วย “เสริมฤทธิ์” กัน

---

⚠️ ข้อควรระวัง

🚫 ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์หรือผู้ที่กำลังให้นมบุตร

⏳ ไม่ควรดื่มติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์โดยไม่มีผู้เชี่ยวชาญกำกับ

หากมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ หรือถ่ายเหลว → ให้หยุดดื่มทันที

สูตรนี้เป็นตำรับพื้นบ้าน “เสริมสุขภาพ” ไม่ใช่การรักษามะเร็งแทนแพทย์

ที่อยู่

Thung Wa
91120

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ยาไทยเล่าเรื่องผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์