Trang Variety เสนอข้อมูลข่าวสารเรื่องราวต่างๆ

04/09/2025

หอการค้าจังหวัดตรัง จัดงานหอการค้าแฟร์@ตรัง ครั้งที่ 5 ประจำปี 2568 ส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวและบริการ

(พฤหัสบดีที่ 4 กันยายน 2568) นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดงาน “หอการค้าแฟร์@ตรัง ครั้งที่ 5 ณ ลานหน้าศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ตรัง โดยมีนายสุธรรม เศรษฐพิศาล ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง กล่าวรายงาน

หอการค้าจังหวัดตรังกำหนดจัดกิจกรรม หอการค้าแฟร์@ตรัง ครั้งที่ 5 ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 3-7 กันยายน 2568 บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ตรัง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวและบริการ ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างช่องทางการตลาดของผู้ประกอบการให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

ในงานได้จัดให้มีการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าชุมชน สินค้า OTOP ข้าวของเครื่องใช้จากผู้ประกอบการในจังหวัดตรังและจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีการแสดงยานยนต์รุ่นใหม่จากบริษัท ผู้จำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมร้านค้าทั้งสิ้นจำนวน 150 บูธ โดยในงานได้ให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาด อาหารปลอดภัย ถูกสุขอนามัย ตลอดจนคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ที่มาเที่ยวงาน จึงได้จัดพื้นที่ให้เป็นระเบียบและกว้างขวาง มีโต๊ะรับประทานอาหารสามารถรองรับผู้ที่นั่งรับประทานอาหารได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้บนเวทีได้เปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน และประชาชนได้แสดงความสามารถด้านต่างๆ เป็นประจำทุกวัน

ด้วยพันธกิจหลักของหอการค้าคือการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็ง และมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน หอการค้าจังหวัดตรังจึงมีความมุ่งหวังว่าการจัดกิจกรรม หอการค้าแฟร์@ตรัง ในครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปในการเพิ่มโอกาสในการค้าขาย ส่งผลให้เศรษฐกิจของจังหวัดตรังมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ดังภารกิจของหอการค้าที่มีว่า ส่งเสริมการค้า พัฒนาเศรษฐกิจ สร้างคุณค่าชีวิต คือภารกิจหอการค้า

ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า งานหอการค้าแฟร์@ตรัง ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้นับเป็นปีที่ 5 แล้ว ได้แสดงถึงเจตนารมน์อันดีของคณะกรรมการจัดงานหอการค้าแฟร์@ตรัง ครั้งที่ 5 ที่ต้องการสนับสนุนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ให้มีการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้า ผลผลิตทางการเกษตร อาหาร ผลิตภัณฑ์ชุมชน และสินค้าอื่นๆ หอการค้าเกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของนักธุรกิจเพื่อดำเนินงานด้านส่งเสริมการค้าและพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหอการค้าจังหวัดตรังนั้นสามารถรวมตัวกันได้อย่างเข้มแข็ง ซึ่งผมขอแสดงความชื่นชมที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หอการค้าจังหวัดตรังได้จัดกิจกรรมทำให้จังหวัดตรังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง การจัดงานหอการค้าแฟร์@ตรัง ครั้งที่ 5 เป็นกิจกรรมจะที่ส่งผลให้มีการกระจายรายได้ไปยังผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ตลอดจนเป็นการสร้างการเรียนรู้ และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวและบริการของจังหวัดตรังอย่างต่อเนื่อง

03/09/2025

ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุม CMGF ระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด ครั้งที่ 22 ณ จังหวัดตรัง ผลักดันความร่วมมือ IMT-GT สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
วันที่ 3 กันยายน 2568 ประเทศไทยในฐานะสมาชิกความร่วมมือแผนงาน IMT-GT (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle (IMT-GT)) ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด ครั้งที่ 22 (The Chief Ministers and Governors Forum 22ND ) ณ โรงแรมเรือรัษฎา จังหวัดตรัง โดยมี นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ทำหน้าที่หัวหน้าคณะฝ่ายไทย นำคณะผู้แทนจาก 14 จังหวัดภาคใต้เข้าร่วมการประชุมร่วมกับประเทศสมาชิกอินโดนีเซียและมาเลเซีย เพื่อหารือและขับเคลื่อนความร่วมมือในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ IMT-GT
โดยในที่ประชุมมีการรายงานใน 2 ส่วนหลัก คือ การรายงานความคืบหน้าแผนงานโครงการที่มีศักยภาพของประเทศไทยที่ต้องการขับเคลื่อนต่อภายใต้แผนงาน IMT-GT และสามารถเชื่อมโยงกับประเทศสมาชิก IMT-GT จำนวน 25 โครงการ โดยเป็นโครงการที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาพื้นที่ เช่น ด้านโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว และเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร สำหรับจังหวัดตรังมีโครงการที่สำคัญ คือ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานตรัง ที่คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากประเทศสมาชิกในการเปิดเส้นทางบิน หรือ Direct Flight ระหว่างประเทศร่วมกัน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง การรายงานโครงการใหม่ ที่ผ่านมติเห็นชอบจากเวทีการระดมความเห็นจาก 14 จังหวัดภาคใต้ในฐานะประเทศสมาชิก และประชุมมีมติเห็นชอบและสรุปร่วมกันว่ามีโครงการเสนอใหม่ จำนวน 19 โครงการ ซึ่งโครงการเหล่านี้ก่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาและขับเคลื่อนหลากหลายมิติ อาทิ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการค้าการลงทุน ฯลฯ สำหรับจังหวัดตรังมีโครงการที่สำคัญ จำนวน 3 โครงการ คือ 1) โครงการมาริน่าชุมชนกันตัง จังหวัดตรัง ที่ช่วยส่งเสริมและพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมขนส่ง 2) โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณเมืองเก่าตรัง ที่จะช่วยส่งเสริมและโปรโมทการท่องเที่ยว และ 3) โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ อนุรักษ์ ฟื้นฟู พะยูน และสัตว์ทะเลหายาก ที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและสถานที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก แผนงาน IMT-GT
และท้ายสุด คือ ข้อเสนอขอความร่วมมือกับประเทศสมาชิก แผนงาน IMT-GT ได้แก่ ประเด็นทำแผนพัฒนายุทธศาสตร์ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจ ทั้ง 6 แนวระเบียง โดยอาจจะนำร่องศึกษาแนวระเบียงเศรษฐกิจที่ 1 ก่อน การจัดทำเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงทางด้าน วัฒนธรรมชุมชนในพื้นที่ 3 ประเทศ การเสนอให้พิจารณาการจัดสรรงบประมาณเฉพาะพื้นที่ (Targeted Budget Allocation) สำหรับโครงการที่มีความสำคัญในระดับภูมิภาค โดยเน้นโครงการที่เชื่อมโยงและสร้างประโยชน์ร่วมกันระหว่าง 3 ประเทศสมาชิกของ IMT-GT และจังหวัดตรังมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ปัจจุบันสนามบินตรังได้ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่เสร็จแล้ว แต่ยังขาดเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ จึงเสนอให้ส่งเสริมการเปิด Direct Flight จากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือตลาดระดับภูมิภาค เช่น จีน สิงคโปร์ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค

03/09/2025

ผู้ประกอบการบ้านไร่หยงสตาร์วัย 21 ปีผุดไอเดียพานักท่องเที่ยวนั่งเรือกระด้งจำนวน 20 ลำ เพื่อล่องออกปากอ่าวทะเลตรัง ชมฝูงนกเหยี่ยวแดงคอขาวกว่า 200 ตัวอย่างใกล้ชิด กลายเป็นอันซีนแห่งใหม่หนึ่งเดียวในจ.ตรัง ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก

ที่บริเวณท่าเรือบ้านหยงสตาร์ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง บรรยากาศการนั่งเรือกระด้งชมฝูงนกเหยี่ยวแดงคอขาวเป็นไปอย่างคึกคัก เมื่อมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกภาคของประเทศ เดินทางไปเที่ยวชมฝูงนกเหยี่ยวแดงฯ วันละไม่ต่ำกว่า คน ซึ่งเจ้าของไอเดียคือนายเพชรแท้ เหลือแดง(น้องเพชร) อายุ 21 ปีผู้ประกอบการบ้านไร่หยงสตาร์ ได้นำเรือกระด้งจำนวน 20 ลำ มาบริการพานักท่องเที่ยว ล่องไปตามคลองหยงสตาร์ ก่อนออกสู่ปากอ่าวทะเลตรัง ระยะทางไป-กลับประมาณ 2 กิโลเมตร โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ซึ่งสองข้างทางจะมีฝูงนกเหยี่ยวแดงบินว่อนเต็มท้องฟ้า และจะลงมาโฉบใกล้ ๆ เรือเป็นระยะ เพื่อขออาหาร ทำให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพกับนกเหยี่ยวแดงอย่างใกล้ชิด เป็นอันซีนแห่งใหม่ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในจ.ตรัง ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากนกเหยี่ยวแดงมีความคุ้นเคยกับมนุษย์มาก และจะบินมาเป็นฝูงใหญ่ครั้งละไม่ต่ำ 200-300 ตัว ซึ่งหาชมได้ยากมาก และภายใน 1 เดือนจะล่องเรือกระด้งชมเหยี่ยวแดงได้เพียง 7 วันคือในช่วงระหว่าง 7 ค่ำ-13 ค่ำ เพราะน้ำทะเลจะนิ่ง ไม่ไหลเชี่ยว จึงเหมาะกับการล่องเรือกระด้งมากกว่าช่วงอื่น
ซึ่งบริเวณป่าโกงกางที่เรือแล่นผ่าน เป็นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของนกเหยี่ยวแดง มีบ้านเรือนผู้คนอาศัยอยู่น้อยมาก อีกทั้งยังไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้นกรู้สึกปลอดภัย และเพิ่มจำนวนประชากรนกมากขึ้นทุกปี กลายเป็นแหล่งสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชน ที่ออกมารับจ้างขับรถ ขับเรือ พายเรือ และขายของฝากของที่ระลึก ทำให้หมู่บ้านหยงสตาร์ที่เคยเงียบเหงา เพราะไม่ใช่เส้นทางผ่าน กลับมาคึกคักอีกครั้ง
สำหรับอัตราค่าบริการเรือกระด้งคนละ 200 บาท เรือ 1 ลำนั่งได้ 2 คน ส่วนความสนุกอยู่ที่การช่วยกันโยกเรือไปข้างหน้า เพื่อให้เรือเด้งหน้าเด้งหลัง จะได้ฟินในการชมเหยี่ยวมากขึ้น ซึ่งต้องมีการจองคิวมาก่อนล่วงหน้า 1 สัปดาห์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการดูสภาพลมฟ้าอากาศ หรือกระแสลม เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากจะมีเรือกระด้งของบ้านไร่หยงสตาร์แล้ว ยังมีเรือนำเที่ยวของชาวบ้านที่บรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 30-40 คนอีก 1 ลำ
ส่วนใครสนใจติดต่อได้ทางเฟสบุก “บ้านไร่หยงสตาร์” และที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-9385909

3 สมาคมภาคการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง จับมือ ร่วมประชุมหารือ เรื่อง การจัดการท่องเที่ยวทางทะเลในช่วงมรสุม     นายสมศักดิ์ เ...
01/09/2025

3 สมาคมภาคการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง จับมือ ร่วมประชุมหารือ เรื่อง การจัดการท่องเที่ยวทางทะเลในช่วงมรสุม
นายสมศักดิ์ เสือบุญทอง นายกสมาคมการท่องเที่ยวและโรงแรมจังหวัดตรัง , ดร.ณัฐวัตร ตันศิริเสถียร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง , นายศุภชัย ชูเชิดรัตน์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวหาดปากเมง ร่วมประชุมหารือ เรื่อง การจัดการท่องเที่ยวทางทะเลในช่วงมรสุมระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดตรังและผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะลันตา จ.กระบี่ โดยมีการเสนอ กติการ่วมกัน ดังนี้
1.) สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปเที่ยวในถ้ำมรกตต้องสวมเสื้อชูชีพทุกครั้ง 2.) เรือทุกลำที่จะเข้าท่องเที่ยวในถ้ำมรกต ขอให้รับฟังการแจ้งเตือนข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา 3.) ขอให้มีเจ้าหน้าที่นำนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวภายในถ้ำมรกตทุกครั้งและขอให้มีไฟฉายติดไปด้วย 4.) ขอให้เรือทุกลำมีอุปกรณ์ความปลอดภัยไว้บนเรือเผื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินจะได้สามารถช่วยนักท่องเที่ยวได้ทันที 5.) ในช่วงมรสุม ขอให้เรือทุกลำ ลดจำนวนคนลง 20 % 6.) มีการสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวทางทะเล 7.) มีการอบรมเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ 8.) ขอให้มีเบอร์ติดต่อ กรณีฉุกเฉิน และ 9.) ขอให้มีการแจ้งชื่อเรือในไลน์กลุ่มใหญ่ท่องเที่ยวก่อนออกเรือ เพื่อจะสามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันถ่วงทีหากมีนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุทางน้ำ
สำหรับข้อสรุปจากการประชุมหารือครั้งนี้ ทุกฝ่ายยอมรับในกติกาที่เสนอในที่ประชุม โดยขอให้มีการเปิดการท่องเที่ยวในช่วงโลซีซั่นถ้ำมรกต และปิด 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนถึง 30 กันยายน ในส่วนของเกาะกระดานปิดวันที่ 1 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน, เกาะแหวน , เกาะเชือก ปิดวันที่ 1 มิถุนายน ถึง 30 กันยายนเหมือนเดิม ทั้งนี้ทางสมาคมฯจะนำข้อสรุปร่วมกันแจ้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปเพื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลยังสามารถมีรายได้ช่วงโลซีซั่น ต่อไป

31/08/2025

เกษตรกรชาวตำบลปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หันมาทำแปลงปลูกมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ดีจำนวน 120 ต้น บนเนื้อที่ 5 ไร่ เผยเคล็ดไม่ลับใส่เกลือให้บ่อย จะทำให้มะพร้าวลูกใหญ่ ให้น้ำที่หอม หวาน เย็นชื่นใจ ทำลูกค้าติดใจสร้างรายได้วันละ 500-600 บาททุกวัน

ที่สวนมะพร้าวน้ำหอมรายใหญ่ในหมู่ที่ 1 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นสวนของนายนิรุตต์ สุดฉิม อายุ 47 ปี ได้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมไว้จำนวน 120 ต้นบนเนื้อที่ 5 ไร่ โดยใช้เวลาปลูกประมาณ 3-4 ปี จึงเริ่มเก็บมะพร้าวขายหน้าสวนในราคาลูกละ 10-15 บาท เคล็ดไม่ลับที่เกษตรกรบอกต่อได้คือ ต้องหมั่นโรยเกลือเม็ดหรือเกลือสมุทรรอบโคนต้นมะพร้าวทุก 1-2 เดือน ครั้งละประมาณ 1 กิโลกรัมต่อวัน จะทำให้มะพร้าวลูกใหญ่ ทลายดก น้ำหวาน หอม อร่อย
จนใคร ๆ กินแล้วต้องติดใจแวะซื้อทุกวัน พร้อมมีบริการตัดสด ชิมสดในสวน ลูกค้าเลือกตัดได้ โดยมีให้ชิมฟรีก่อนซื้อ และลดราคาเหลือลูกละ 10 บาทหากซื้อตั้งแต่ 10 ลูกขึ้นไป ทำให้แต่ละวันมีลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่ใช้เส้นทางสายคลองคุ้ย-น้ำผุด ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด แวะชิมและซื้ออย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 500-600 บาทต่อวัน
ซึ่งเกษตรกรเน้นขายตรงจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค เพราะต้องการให้ลูกค้าทั่วไปได้กินมะพร้าวน้ำหอมคุณภาพที่ปลอดภัยในราคาถูก และเพื่อลดการเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง ที่มาซื้อถึงสวนในราคาลูกละ 5-7 บาทแต่ไปขายในราคาลูกละ 20-30 บาท และในแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ ๆ ขายราคาสูงถึงลูกละ 80 บาทก็มี
ซึ่งสวนมะพร้าวน้ำหอมของนายนิรุตต์ฯ เปิดขายหน้าสวนมาเป็นปีที่ 2 แล้ว สามารถตัดมะพร้าวขายหน้าสวนได้ทุกวัน โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่ซื้อไปบริโภค ส่วนแม่ค้าพ่อค้าในชุมชนซื้อไปทำขนมหวานต่าง ๆ เช่น ทำวุ้นมะพร้าว ทำเค้กมะพร้าวอ่อน พุดดิ้งมะพร้าว ไอศกรีมมะพร้าว แปะก้วยน้ำมะพร้าวอ่อน ฯลฯ โดยมองแนวโน้มการตลาดดีขึ้นจากผลตอบรับของชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่ จนทำให้มีมะพร้าวแทบไม่พอขายเลยทีเดียว
นอกจากนี้ น้ำมะพร้าวยังได้ชื่อว่าเป็น น้ำมหัศจรรย์ เป็นเกลือแร่ที่มาจากธรรมชาติ มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส ลดริ้วรอย ทำให้กระดูกแข็งแรง ช่วยควบคุมน้ำหนัก ปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด และในน้ำมะพร้าวยังมีเอสโตรเจนสูง ช่วยในการปรับฮอร์โมนของหญิงวัยหมดประจำเดือนให้สมดุล แก้กระหายน้ำ ทดแทนการสูญเสียน้ำหลังการออกกำลังกาย ลดความอ่อนเพลีย อ่อนล้าได้เป็นอย่างดี และยังมีวิตามิน แร่ธาตุอื่น ๆ อีกหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ซึ่งวิธีการปลูกไม่ยุ่งยาก ดูแลง่าย ทนทานต่อโรคและแมลง เก็บขายได้ตลอดทั้งปี ใช้ประโยชน์ได้ทั้งลูกมะพร้าว ทางมะพร้าวและต้นมะพร้าว อายุยืนนานสิบปี ให้ร่มเงา และยังปลูกร่วมกับพืชชนิดอื่น เช่น สะตอ ทุเรียน กล้วย หมาก เงาะ และลองกองได้
ส่วนเกษตรกรคนไหนสนใจ สามารถโทรศัพท์สอบถามนายนิรุตต์ฯ ได้ที่หมายเลข 089-4379444

จังหวัดตรัง  จัดกิจกรรม “Andaman International Trail Running @ Trang 2025”ภายใต้โครงการแข่งขันอันดามัน อินเตอร์เนชั่นแนล...
31/08/2025

จังหวัดตรัง จัดกิจกรรม “Andaman International Trail Running @ Trang 2025”ภายใต้โครงการแข่งขันอันดามัน อินเตอร์เนชั่นแนล เทรล รันนิ่ง “Andaman International Trail Running”
วันนี้(31 สิงหาคม 2568 ) ณ บริเวณแหล่งท่องเที่ยววังผาเมฆ ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดกิจกรรม “Andaman International Trail Running @ Trang 2025”ภายใต้โครงการแข่งขันอันดามัน อินเตอร์เนชั่นแนล เทรล รันนิ่ง “Andaman International Trail Running” โดยมี นางสาวฉันทนา ศิวกุล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง กล่าวรายงาน
จังหวัดตรัง โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง ร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวและกีฬา อำเภอวังวิเศษ และองค์การบริหารส่วนตำบลวังมะปราง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม “Andaman International Trail Running @ Trang” ขึ้น ระหว่างวันที่ 30 – 31 สิงหาคม 2568 ณ บริเวณแหล่งท่องเที่ยววังผาเมฆ ตำบลวังมะปราง อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง เป็นสนามที่ 5 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬาให้มีมาตรฐานในระดับสากล ส่งเสริมภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดอันดามัน และกระจายรายได้ไปสู่ประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดอันดามัน จากการประชาสัมพันธ์รับสมัครนักกีฬาเข้าร่วมกิจกรรม “Andaman International Trail Running @ Trang” มีนักกีฬาสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรม จำนวนทั้งสิ้น 844 ท่าน โดยมีนักวิ่งภายในพื้นที่ จำนวน 257 ราย และนอกพื้นที่ จำนวน 587 ราย ประกอบด้วยระยะทาง 5 กิโลเมตร จำนวน 336 ราย ระยะทาง 10 กิโลเมตร จำนวน 308 ราย และระยะทาง 21 กิโลเมตร จำนวน 200 ราย จากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จะทำให้นักท่องเที่ยวทั้งในและนอกพื้นที่ได้มารู้จักและสัมผัสความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยววังผาเมฆ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเพิ่มรายได้จากท่องเที่ยวให้กับพื้นที่มากขึ้นต่อไป

ทั้งนี้ ไฮไลม์ของงานลงทะเบียน นักวิ่งทุกคนจะได้รับของที่ระลึกเป็นข้าวเบายอดม่วง และพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน สินค้า GI ของ จ.ตรัง พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ขอบคุณกลุ่มจังหวัดฝั่งอันดามัน ที่ได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดกิจกรรมฯ ในครั้งนี้ และขอบคุณคณะกรรมการจัดงานทุกฝ่าย อำเภอวังวิเศษ และองค์การบริหารส่วนตำบลวังมะปราง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่จัดกิจกรรมทุกท่าน ที่ร่วมกันสนับสนุนการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นอย่างดี

ตรัง- พมจ.ตรังขับเคลื่อนเชิงรุกทุกกลุ่มหยุดการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง ร่วมกับ สถาน...
26/08/2025

ตรัง- พมจ.ตรังขับเคลื่อนเชิงรุกทุกกลุ่มหยุดการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบ

พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง ร่วมกับ สถานีวิทยุ อ.ส.ม.ท.ตรัง ขับเคลื่อนเชิงรุกให้ความรู้ ความเข้าใจ และการป้องกัน เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชน และประชาสัมพันธ์ในกลุ่มสื่อต่าง ๆ เสริมทัพองค์รวมให้ประชาชนได้รับทราบทุกกลุ่มเป้าหมาย ร่วมใจ หยุดการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบ แม้ว่าจังหวัดตรังจะมีสถิติน้อยมาก หรือ เรียกว่าไม่มีเลย แต่ไม่นิ่งนอนใจ เร่งขยายเครือข่ายทุกกลุ่มให้ตระหนักรู้และป้องกัน รูปแบบการค้ามนุษย์มีอยู่จริงในสังคมไทย บังคับการใช้แรงงาน การค้าประเวณี การค้าอวัยวะ บังคับเป็นขอทาน การผลิตเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร การค้ามนุษย์ออนไลน์ กระบวนการจัดหาซื้อขาย จำหน่วย พามาส่ง กักขัง วิธีการข่มขู่ ใช้กำลัง ลักพาตัว หลอกลวง ใช้อำนาจโดยมิชอบ
นายศิร ศรีเมฆชัยกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง กล่าวว่า จากสถิติปี 67 ที่ผ่านมาตรังตรังมีเคสที่น้อยมาก มีการเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์เป็นคดีความ 3 เคส 1 คดี ในปี 68 มี 1 เคส 1 คดี ซึ่งบางเคส เป็นการกระทำที่หลายคนมองว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย เรามองว่าค้ามนุษย์เป็นเรื่องแรงงาน แต่ที่จริงแล้วการค้ามนุษย์มันมีหลากหลายมิติ มิติที่สำคัญซึ่งกระทบต่อเด็กในปัจจุบัน คือ เรื่องของการนำคลิปวีดีโอการถ่ายและไปขายในกลุ่มพิเศษ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเคสที่เกิดในพื้นที่จังหวัดตรัง เป็นเด็กน้อยที่เข้าห้องน้ำและโดนแอบถ่ายและไปส่งขายในกลุ่มไลน์ กลุ่มพิเศษ เคสที่สอง เป็นเคสที่คนในครอบครัวถ่ายภาพคนในครอบครัวแล้วไปส่งขายในกลุ่มไลน์พิเศษ เคสนี้เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อเกิดคดีแล้วทางผู้เสียหายไม่ขอดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเพราะเป็นคนในครอบครัว นี่เป็นความเข้าใจผิด เพราะฉะนั้นสถานการณ์ที่ทุกคนไม่รู้ว่ากฎหมายค้ามนุษย์นั้นเป็นอย่างไร คิดแต่เพียงว่าเป็นเรื่องของการค้าแรงงาน หรือ การกระทำต่อแรงงาน ซึ่งเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานแล้วทำการค้ามนุษย์ไม่จ่ายเงิน และทำความโหดร้าย แต่การค้ามนุษย์มีการทำในเชิงเทคโนโลยีมากขึ้น ระบบดิจิตอลเข้าถึงได้ง่าย คนที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายคือเด็ก ๆ และเยาวชน ต้องประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเยาวชนเหล่านี้ได้เข้าถึง
ภาพรวมปัจจัยที่เกิดขึ้นคือ 1. กระแสโซเชียล 2. วัตถุนิยม เช่น อยากมีโทรศัพท์ที่แพง รุ่นใหม่ กระเป๋าแบรนด์เนม ชุดสวย ๆ เป็นกลุ่มเยาวชนที่มีความเสี่ยงสูงสุด เพราะบ้านเราเรื่องของคนพิการ มีการลักลอบนำคนพิการมาขอทาน หรือ มีการตัดอวัยวะ หรือทำร้าย ให้มาเป็นขอทาน แล้วตนรับเงินไปถือว่าเป็นการค้ามนุษย์เช่นกัน แต่จังหวัดตรังไม่มี จังหวัดตรังมีขอทานน้อยมาก ซึ่งถือว่าไม่มีด้วยซ้ำ มีบ้างกลุ่มคนเร่ร่อนแต่ไม่เข้าข่ายกลุ่มคนขอทาน อาจจะเป็นปัจจัยปัญหาครอบครัว ครอบครัวแตกแยก ก็มีศูนย์คุ้มครองและเสริมพลังคุณภาพชีวิตได้มาร่วมดูแลอยู่ แต่สิ่งที่น่าห่วงคือตอนนี้ เด็ก ๆ พยายามให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ เด็กเชื่อถือใครให้มาพูดคุยเรื่องนี้มากขึ้น เป็นเรื่องการประชาสัมพันธ์ รับรู้และเข้าถึงว่าการค้ามนุษย์อยู่ใกล้ตัวน้อง ๆ
จังหวัดตรังมองว่าเป็นจังหวัดที่ดี มีผู้บังคับบัญชา คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานศูนย์การป้องกันปราบปรามของจังหวัด มีเลขานุการคือพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.)พร้อมด้วยคณะกรรมการ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ศูนย์อำนวยการ และศูนย์บริการป้องกันทางทะเล และอีกหลายหน่วยงานที่ทำงานเป็นฝ่ายป้องกัน ปราบปราบ และคุ้มครอง เรื่องของการค้ามนุษย์ทุกหน่วย ทำงานในทุกด้าน ทั้งจับกุม ส่งเสริม ป้องกัน ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถานีวิทยุ อ.ส.ม.ท.ตรัง ที่ช่วยขับเคลื่อนในเรื่องนี้ เป็นการเสริมทัพองค์รวมให้ประชาชนได้รับทราบทุกกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้มีโครงการป้องกันและส่งเสริมการับรู้การค้ามนุษย์ของสภาเด็กและเยาวชน หน่วยงานที่รับผิดชอบ คือบ้านพักเด็กและครอบครัว โดยเป็นโครงการที่เด็ก ๆ คิดเอง และเยาวชนจังหวัดคิดขึ้นเอง โดยการของบประมาณผ่านบ้านพักเด็กและครอบครัว ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลกับกับสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดมาขับเคลื่อนให้เด็กมีความรู้รอบด้าน เพื่อไปขยายต่อ ทั้งในภาค การศึกษานอกโรงเรียน และภาคการเรียนปกติ ทุกระดับ ทั้งนี้มองว่าการจับกุมเป็นเพียงปลายเหตุ การป้องกันเป็นเรื่องสำคัญ
ทั้งนี้มองว่าในอนาคตโครงการดังกล่าวมีผลสำเร็จเหตุไม่เกิดเลย เราก็จะขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อไป โดยขยายเครือข่ายของเด็ก เจาะลึกถึงโรงเรียน พูดคุยหน้าเสาธงให้ความรู้ในพื้นที่ที่มองว่าพื้นที่นั้น ๆ อาจจะมีความเสี่ยง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเด็ก ๆ
พบเบาะแสหรือต้องการความช่วยเหลือแจ้งได้ที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง โทร.075-218366 หรือ สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

ตรัง-อบรมศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเยาวชน “วาดศิลป์ ถิ่นวัฒนธรรม      เปิดโครงการอบรมศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเยาวชน “วาดศิลป์ ถิ...
23/08/2025

ตรัง-อบรมศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเยาวชน “วาดศิลป์ ถิ่นวัฒนธรรม
เปิดโครงการอบรมศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเยาวชน “วาดศิลป์ ถิ่นวัฒนธรรม Culture ofArts” เรียนรู้ และสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น
วันที่ 23 ส.ค. 2568 ที่หอประชุมโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดกะพังสุรินทร์) ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดโครงการอบรมศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเยาวชน “วาดศิลป์ ถิ่นวัฒนธรรม Culture of Arts” จังหวัดตรัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี นางธมลวรรณ รักษ์สังข์ วัฒนธรรมจังหวัดตรัง ส่วนราชการ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปะ เด็ก และเยาวชน ร่วมโครงการ
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตรังได้จัดโครงการอบรมศิลปะสร้างสรรค์ สำหรับเยาวชน “วาดศิลป์ ถิ่นวัฒนธรรม Culture of Arts” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ขึ้น เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนได้เรียนรู้ และสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่นของเราโครงการนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญ คือเพื่อเปิดโอกาสให้เด็ก และเยาวชนได้แสดงออกทางความคิด และจินตนาการผ่านงานศิลป์ เพื่อสนับสนุนศิลปินท้องถิ่นในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมให้กว้างไกล และเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาวัฒนธรรมสร้างสรรค์และเศรษฐกิจสร้างสรรค์โดยใช้ศิลปะ และเยาวชน เป็นพลังสำคัญ
ทั้งนี้ เพื่อให้เด็ก ๆ และเยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้ศิลปะในรูปแบบที่สนุก และสร้างสรรค์ ส่งเสริมให้เยาวชนของเราได้เรียนรู้ศิลปะที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมจารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่นอันเป็นรากฐานทางจิตใจ และยังเป็นพลังสร้างสรรค์ที่จะต่อยอดต่อไป
ซึ่งภายในกิจกรรมมีการบรรยายสอนเทคนิคการใช้สีน้ำเพื่อแต่งแต้มจินตนาการภาพที่เด็ก ๆ และเยาวชนต้องการให้เป็น ด้วยเทคนิคที่ดูง่ายและไม่ซับซ้อน แต่ออกมาสวยงามมาก พร้อมการสอนใช้อุปกรณ์การแต่งแต้มให้เหมาะสมกับชิ้นงาน เด็ก ๆ และเยาวชน มีความตื่นตัวพร้อมเรียนรู้และสนุกไปกับการเรียน โดยมีคณะครู วิทยากร สอนแบบตัวต่อตัว สำหรับคนที่ยังไม่มีพื้นฐาน ซึ่งมีผู้ปกครองนำลูกหลานเข้ามาเรียนรู้เพิ่มทักษะ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
ขณะที่ นายรักษ์ บุญเจริญ นายกเทศมนตรีนครตรัง ได้เดินทางมาเยี่ยมชม ให้กำลังใจกับเด็ก ๆ และเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมพร้อมชมภาพงานศิลปะจากศิลปินผู้ทรงคุณวุุฒิที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมจารีตประเพณีของจังหวัดตรังออกมาเป็นรูปภาพด้วยสีน้ำได้อย่างงดงาม

20/08/2025

เกษตรกรผู้ปลูกลำไยในจ.ตรัง เร่งเก็บลำไยพันธุ์เพชรเวียงพิงค์เนื้อที่กว่า 20 ไร่ ออกขายเป็นสัปดาห์แรกราคากิโลกรัมละ 90 บาท ทำขายดีสวนกระแสราคาลำไยภาคเหนือตกต่ำ เพราะเนื้อใส ลูกใหญ่เท่าเหรียญ 10 บาท ลูกค้าเข้าไปช้อป ชิมได้ ตัดเองได้ถึงสวน คาดสร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาทในปีนี้

ที่สวนลำไยมารวย ริมถนนสายท่าพญา-หาดเลา หมู่ที่ 3 ต.บางด้วน
อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นายยงศักดิ์ เก้าเอี้ยน (โกหย้ง) อายุ 68 ปี ได้เปิดสวนลำไยพันธุ์เพชรเวียงพิงค์เนื้อที่กว่า 25 ไร่เป็นสัปดาห์แรก เพื่อให้นักท่องเที่ยวและคณะศึกษาดูงานต่าง ๆ ได้เข้าไปชม ชิม ช้อป ลำไยสดจากสวน ซึ่งกำลังให้ผลผลิตกว่า 20 ตัน ราคาขายปลีกกิโลกรัมละ 90 บาท ขายส่งกิโลกรัมละ 70 บาท สวนกระแสราคาลำไยภาคเหนือตกต่ำ และขายราคานี้มา 4-5 ปีแล้ว ผลตอบรับดีเกินคาด เพราะเป็นสวนลำไยแห่งแรกและแห่งเดียวในจ.ตรัง

ทำให้ยังไม่มีคู่แข่ง และให้รสชาติหวานหอม ลูกใหญ่ขนาดเท่าเหรียญ 10 บาท เนื้อเยอะ เนื้อใส เมล็ดลีบ และปลอดภัยจากการใช้สารเคมี เพราะใช้กาวดักแมลงวันทองและแมลงวี่ พร้อมขึงตาข่ายดักค้างคาวรอบสวน โดยได้รับเครื่องหมาย GAP จากกรมวิชาการเกษตรเมื่อปี 2557 ทำให้เกิดความมั่นใจและจองคิวซื้อกันตั้งแต่ลำไยยังไม่สุก

ซึ่งในแต่ละวันจะมีลำไยวางขายหน้าสวนไม่ต่ำกว่า 150-200 กิโลกรัม มีทั้งลูกค้าที่มาตัดเองในสวน และสั่งซื้อทางออนไลน์จากทั่วประเทศ หรือซื้อผ่านพ่อค้าแม่ค้าที่รับไปขายต่อ คาดปีนี้จะมีลำไย GAP เมืองตรังออกสู่ตลาด ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม-ปลายเดือนตุลาคมไม่ต่ำกว่า 20 ตัน สร้างรายได้ให้เจ้าของสวนไม่ต่ำกว่า 15,000-17,000 บาทต่อวันหรือเกือบ 2 ล้านบาทต่อปี

โดยในปี 2551 โกหย้งและครอบครัว ประสบปัญหาราคายางพาราตกต่ำ จึงตัดสินใจตัดโค่นสวนยางพาราจำนวน 2 แปลงคือที่หมู่ที่ 3 ต.บางด้วนเนื้อที่ 15 ไร่ และที่หมู่ที่ 1 ต.ปะเหลียน อีก 10 ไร่ เพื่อหันมาปลูกลำไยพันธุ์เพชรเวียงพิงค์ประมาณ 700 ต้น ซึ่งตอนแรกเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องต่างไม่เห็นด้วย เพราะเชื่อว่าลำไยปลูกได้เฉพาะในภาคเหนือ แต่จากการที่เกษตรกรเจ้าของสวน มีเพื่อนทำสวนลำไยอยู่ที่จังหวัดยะลา ซึ่งได้ไปศึกษาเรียนรู้จนเกิดความมั่นใจว่า ที่จังหวัดตรัง ก็สามารถปลูกลำไยคุณภาพได้ จึงตัดสินใจปลูกลำไยทดแทนปัญหาราคายางพารา จนประสบความสำเร็จ และได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นเมื่อปี 2557

ซึ่งลำไยพันธุ์เพชรเวียงพิงค์ ใช้เวลาปลูก 4 ปีจึงเริ่มเก็บขายได้ ทำนักท่องเที่ยวและลูกค้ารายเก่า รายใหม่แวะเลือกซื้อถึงสวนกันอย่างคึกคัก ขณะที่เจ้าของสวนยืนยันจะทำสวนลำไยต่อไป เพราะไร้คู่แข่งทางการค้าและให้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ หวาน หอมไม่เหมือนใคร เป็นที่ถูกใจของลูกค้าที่ได้กินแล้ว ต้องกลับมาซื้อซ้ำและไม่เกี่ยงราคา แม้จะแพงกว่าลำไยทั่วไปถึง 3 เท่าตัว

โดยในวันนี้ นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายกองค์การบริหารส่วนจ.ตรังและคณะ ได้เข้าชิมลำไยและตัดสดจากสวน พร้อมอุดหนุนไปกว่า 10 กิโล เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับทีมงาน หลังได้ชิมรสชาติแล้วติดใจ
ส่วนใครสนใจติดตามได้ทางเพจ “สวนลำไยมารวย” อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-2988366 และหมายเลข 088-8194360

19/08/2025

จับแล้ว! 3 วัยรุ่นเมืองตรังมือลั่นไก ยิงใส่คู่อริกลางดึก พร้อมพวกอีก 2 คน ยึดอาวุธปืนลูกซอง – ออโตเมติก โคลท์ .45 หลังยกพวกนับสิบ ไปร่วมวงเพื่อนนัดชกต่อยแย่งแฟนจนลุกลาม ก่อนมีเสียงปืนดังสนั่น คมกระสุนพลาดเจาะสะโพก นักเรียนสาว ม.6 วัย 18 ปี ที่ซ้อนท้ายไปด้วยกับแฟนหนุ่ม ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นศาลอนุญาตออกหมายขัง พร้อมคัดค้านประกันตัวทุกราย

จากกรณี น.ส.จุฑามาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี อยู่ ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.6 นั่งซ้อนท้าย รถจยย.กับแฟนหนุ่มไปหาเพื่อน ที่มีการนัดชกต่อยกัน จนกระทั่งถูกลูกหลง โดยกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่สะโพกได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว เหตุเกิดริมถนนทางเข้าสวนสาธารณะ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 95 หรือ เขาแป๊ะช้อย อ.เมืองตรัง จ.ตรัง เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 18 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า วันนี้ 19 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยว่า พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.เมธี ภิญโญประการ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองตรัง สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง นำโดย พ.ต.ท.สนธยา ด้วงเพ็ชร สว.สส.สภ.เมืองตรัง และกำลังชุดสืบสวน

ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายธีภพ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี อยู่ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ซึ่งใช้อาวุธปืนลูกซองยาว นายเจษฎาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี อยู่ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ใช้อาวุธปืนออโตเมติก โคลท์ .45 ไม่มีทะเบียน และ นายกรวิชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี อยู่ ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง (ใช้อาวุธปืนลูกซองพกสั้นไม่มีทะเบียน)

หลังเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง น.ส.จุฑามาศ ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับเข้าตรวจยึดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และเครื่องกระสุนปืน โดยได้รับการประสานและอำนวยความสะดวกจาก นายวิรัตน์ รักนาย ส.อบจ.ตรัง

ขณะเดียวกันยังได้ร่วมกันจับกุมตัว นายภาณุวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี และ นายปัญญาวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นผู้นำอาวุธปืนลูกซองและอาวุธปืนออโตเมติกโคลท์ .45 ไปเก็บรักษา

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสุกฤษฎิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ชาว ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ได้มีปัญหาในเรื่องแย่งแฟนกันกับ นายรุจรวีธร (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี อยู่ ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง จนกระทั่ง วันที่ 17 ส.ค.68 เวลาประมาณ 01.00 น. ทั้งสองฝ่ายได้นัดหมายไปชกต่อยกัน ที่บริเวณสวนสมเด็กพระศรีนครินทร์ 95 แต่ภายหลังจากชกต่อยกันเสร็จ ยังคงติดใจบาดหมางกันอยู่

ถัดมาในวันที่ 18 ส.ค.68 เวลาประมาณ 23.30 น. นายสุกฤษฎิ์ และ นายรุจรวีธร ได้นัดหมายชกต่อยกันอีกครั้งที่เดิม เมื่อถึงเวลานัดหมาย ทั้งสองฝ่ายได้นำพรรคพวกไปด้วย รวมประมาณ 30-40 คน รถจยย. ประมาณ 18 คัน โดยมี น.ส.จุฑามาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี (ผู้บาดเจ็บ) ได้เดินทางซ้อนท้ายรถ จยย. ไปด้วยพร้อมกับแฟนหนุ่ม แต่ในขณะที่จะมีการเข้าชกต่อยกัน เกิดเสียงขึ้นปืนดังขึ้น จำนวน 5 นัด ทั้งสองฝ่ายจึงแตกกระเจิง จนสิ้นเสียงอาวุธปืนพบว่า น.ส.จุฑามาศ (สงวนนามสกุล) ได้ถูกคมกระสุนเจาะเข้าบริเวณสะโพกได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาภายหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองตรัง ได้ทำการสืบสวนจนพบว่า ผู้ก่อเหตุที่เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิง คือนายธีภพ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี นายเจษฎาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี และ นายกรวิชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี จึงได้เชิญตัวมาทำการซักถาม จากการซักถามรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุยิงจริง โดยนายธีภพ ได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยาว ยี่ห้อเรมิงตัน นายเจษฎาพร หรือโน่ ใช้อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อโคลท์ ขนาด .45 และนายกรวิชญ์ (สงวนนามสกุล) ใช้อาวุธปืนลูกซองพกสั้น

ภายหลังเกิดเหตุ นายธีภพ นายเจษฎาพร และ นายกรวิชญ์ ยิงแล้ว ได้ร่วมกันกับเพื่อนอีก 2 คน คือ นายภาณุวัฒน์ และ นายปัญญาวุฒิ นำอาวุธปืนไปซุกซ่อนไว้ที่ริมถนน ม.1 ต.นาท่ามใต้ อ.เมืองตรัง และต่อมาได้ร่วมกันเอาอาวุธปืนลูกซองยาวจากริมถนน ไปเก็บซุกซ่อนไว้ที่บ้านใน ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมืองตรัง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำผู้ก่อเหตุไปทำการตรวจยึดอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน กระเป๋าสะพาย ผ้าขาว และซองกระสุนปืน ไว้เป็นของกลางเพื่อประกอบคดี

ทั้งนี้ภายหลังจากได้จับกุมตัว พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนแล้วนั้น ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา ฐานความผิด ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน

พร้อมทั้งขอออกหมายขังต่อศาลจังหวัดตรัง ในเบื้องต้นศาลอนุญาตตามคำร้อง และคัดค้านการประกันตัวทุกราย ก่อนนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

19/08/2025

พบงูทับสมิงคลาเป็นงูที่ไม่ค่อยพบเจอในพื้นที่ จ.ตรัง ตัวใหญ่เลื้อยเข้าไปซุกอยู่ในบ้าน กู้ภัยเผยพบงูทับสมิงคลาตัวแรกในจ.ตรัง เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงอันดับ 1 ของประเทศ หวั่นยังมีอีกหลายตัว
วันนี้(18 ส.ค) นายสุพัฒน์ เอียดชะตา อายุ 21 ปี ฉายา “เบ็นซ์ อสรพิษ” เป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย มูลนิธิสว่างภักดีตรังจุดอำเภอย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งจากนางภิญโญ พลบูรณ์ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ที่ 4 ต.ละมอ อ.นาโยง จ.ตรังว่า พบงูตัวใหญ่ เลื้อยเข้ามาซุกอยู่ใต้ตู้เสื้อผ้า ก่อนที่ตนจะรวบรวมความกล้าอยู่นาน แต่ด้วยความที่เคยเป็นภรรยาของทหารเก่า และพบเห็นงูมาหลายชนิดตามแนวชายแดน จึงรู้ว่าเป็นงูทับสมิงคลาที่มีพิษ ทำให้ยิ่งตกใจหนักเข้าไปอีก

ส่วนงูก็ตกใจคุณยาย จึงเลื้อยออกจากบ้านและหนีเข้าป่า คุณยายจึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ให้มาช่วยกันจับไปปล่อยที่อื่น ซึ่งขณะที่น้องเบ็นซ์ฯ เดินทางมาถึง ต้องใช้เวลาค้นหาอยู่นานเกือบ 30 นาทีจึงพบตัวและจับเอาไว้ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นงูทับสมิงคลาหรืองูทับทางขาว เพศเมีย ขนาดความยาว 1 เมตร ตัวโตเต็มวัย และพบเป็นตัวแรกในจ.ตรังเท่าที่เคยจับงูมานับพันตัว ขณะที่ชาวบ้านผวายังมีออกลูกหลานอยู่อีกหลายตัวหรือไม่ พร้อมช่วยกันเฝ้าระวังขณะออกกรีดยางพารา

ด้านนางภิญโญ พลบูรณ์ อายุ 74 ปีเจ้าของบ้านเล่าว่า ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่หน้าบ้าน เห็นงูเลื้อยเข้าบ้าน ลูกสาวก็บอกว่ามีงูมาน่าจะเป็นงูปล้องทอง แต่เมื่อตนเข้าไปดูก็พบว่าน่าจะเป็นงูทับสมิงคลาเพราะเคยเห็นแต่ไม่ใช่พื้นที่บ้านเรา เห็นในสมัยที่แฟนตั้งฐานอยู่จ.ปราจีนบุรี และได้บอกลูกหลานอยู่เสมอให้ระวังถ้าเจองูแปลก ๆ ซึ่งงูทับสมิงคลาจะอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ด้วย แต่ในพื้นที่บ้านของตนไม่เคยพบเห็น เพิ่งเห็นครั้งนี้เป็นครั้งแรก
ขณะที่นายสุพัฒน์ เอียดชะตา เจ้าของหน้าที่กู้ภัยฯ ฉายาเบ็นซ์ อสรพิษฯ กล่าวว่า ตั้งแต่เป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยฯ มาเป็นเวลา 3 ปี จับงูมาแล้วนับพันตัว และเจองูทับสมิงคลาเป็นตัวแรก ในจังหวัดตรัง ความยาวประมาณ 1 เมตร น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม และฝากเตือนชาวบ้านที่ยังสงสัยว่ายังมีงูทับสมิงคลาอยู่ในพื้นที่ ก็สามารถที่จะโทรแจ้งได้ที่ เบ็นซ์ อรพิษ ได้ 24 ชั่วโมง ซึ่งเตือนว่างูนี้เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงอันดับ 1 ของประเทศ ชาวบ้านไม่ควรเข้าใกล้หรือจับเองโดยที่ไม่มีความชำนาญ ซึ่งท่านใดที่เจองู หรือว่าพบเจองูในที่ต่าง ๆ สามารถโทรแจ้ง ได้ที่เบ็นซ์ อรพิษ เบอร์ 095-081-2289

ที่อยู่

Trang
92000

เบอร์โทรศัพท์

+66864437932

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Trang Varietyผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Trang Variety:

แชร์