ตรัง 360 องศา

  • Home
  • ตรัง 360 องศา

ตรัง 360 องศา ข่าวสารสาระ

ผู้ประกอบการรถบัสสองชั้น​ กลุ่มผู้ประกอบการภาคบริการ​ จ.ตรังและต่างภูมิภาค รวมตัวแสดงพลัง​ นำรถบัสกว่าร้อยคัน​ประท้วงคำส...
04/06/2025

ผู้ประกอบการรถบัสสองชั้น​ กลุ่มผู้ประกอบการภาคบริการ​ จ.ตรังและต่างภูมิภาค รวมตัวแสดงพลัง​ นำรถบัสกว่าร้อยคัน​ประท้วงคำสั่งห้ามผ่าน "เขาพับผ้า" กระทบหนักภาคใต้

วันที่ 4 มิถุนายน 2568 สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทยร่วมกับผู้ประกอบการภาคบริการ​ ได้รวมตัวจัดกิจกรรมแสดงพลังด้วยการนำรถบัสสองชั้นกว่า100​คัน​ และรถตุ๊กๆหัวกบตร​ัง เข้าร่วมชุมนุมบริเวณเส้นทาง "เขาพับผ้า​-อันดามันเก็ตเวย์" ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง กับอำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อคัดค้านคำสั่งของกรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถโดยสารสองชั้นใช้เส้นทางดังกล่าว เริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มิถุนายน 2568

เส้นทางเขาพับผ้าถือเป็นหนึ่งใน 7 เส้นทางทั่วประเทศที่ถูกประกาศห้ามใช้โดยสารสองชั้น เนื่องจากภาครัฐหวั่นเกิดอุบัติเหตุบนถนนที่มีลักษณะลาดชัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยืนยันว่า เส้นทางนี้ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุจากรถบัสสองชั้นมาก่อน โดยปัจจัยสำคัญที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ คือ ความพร้อมของผู้ขับขี่ ระบบเบรกที่ดี การควบคุมความเร็ว และอุปกรณ์ความปลอดภัยภายในรถอย่างครบถ้วน

คำสั่งห้ามผ่านเส้นทางเขาพับผ้า ทำให้ผู้ประกอบการต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นที่เพิ่มระยะทางถึงกว่า 100 กิโลเมตร เช่น ต้องผ่านอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช แยกกะปาง เข้าสู่จังหวัดกระบี่ก่อนถึง​ภูเก็ต หรือจากสตูล​ ต้องอ้อมผ่านท่าแพ ละงู ทุ่งหว้า ปะเหลียน กระบี่ ก่อนไปภูเก็ต ซึ่งทำให้ต้นทุนค่าน้ำมันและระยะเวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ผลกระทบไม่ได้ตกอยู่เฉพาะผู้ประกอบการรถโดยสารเท่านั้น่ แต่ยังลามไปถึงภาคธุรกิจในพื้นที่ เช่น ร้านอาหาร ร้านของฝาก​ เค้กเมืองตรัง​ สินค้า GI หมูย่างเมืองตรัง พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด ห้างร้านต่าง ๆ ในจังหวัดตรังและพัทลุง รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ใช้เส้นทางนี้เพื่อเดินทางต่อไปยังฝั่งทะเลอันดามันและจังหวัดต่าง ๆ ในภาคใต้

สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทยชี้ว่า นโยบายของภาครัฐครั้งนี้ออกมาโดยไม่ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งต่อภาคขนส่ง ท่องเที่ยว และเศรษฐกิจชุมชน จึงเรียกร้องให้ภาครัฐทบทวนประกาศดังกล่าว และเสนอให้มีมาตรการเสริม เช่น การเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสภาพรถและคุณภาพผู้ขับขี่ แทนการห้ามใช้เส้นทางทั้งหมด

การรวมตัวครั้งนี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ที่สะท้อนเสียงของผู้ได้รับ​ ผลกระทบจากนโยบาย ที่หวังให้ภาครัฐเปิดใจรับฟังและร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างความปลอดภัยและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคอย่างยั่งยืน

*สามารถนำภาพข่าวไปเผยแพร่ได้ค่ะ*

ตรัง เปิดกิจกรรม "เด็กไทย หัวใจไร้ควัน"เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2568  วันนี้ (31 พ.ค. 68) ที่โรงเรียนสภาราชิ...
31/05/2025

ตรัง เปิดกิจกรรม "เด็กไทย หัวใจไร้ควัน"
เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2568

วันนี้ (31 พ.ค. 68) ที่โรงเรียนสภาราชินี จังหวัดตรัง นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ประธานเปิดกิจกรรม "เด็กไทย หัวใจไร้ควัน" เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2568 โดยมี ประธานศูนย์อำนวยการประสานงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภาคเยาวชน จังหวัดตรัง ผู้บริหารสถานศึกษา ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่าย และนักเรียน ร่วมกิจกรรม

ศูนย์อำนวยการประสานงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภาคเยาวชน จังหวัดตรัง อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 กำหนดจัดกิจกรรม ภายใต้มหกรรมพลังเด็กและเยาวชนตรัง ต้านภัย ไร้ยาเสพติด กิจกรรม "เด็กไทย หัวใจไร้ควัน" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับเยาวชนและประชาชนทั่วไปถึงพิษภัยและผลกกระทบจากการใช้บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ทั้งในด้านสุขภาพ ชีวิต เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อส่งเสริมให้เกิดค่านิยมที่ถูกต้อง โดยเน้นการอยู่ห่างไกล บุหรี่บุหรี่ไฟฟ้า การมีวินัยในตนเอง และการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และเพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนในสังคม โรงเรียน ชุมชน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และครอบครัว มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาอย่างเป็นอย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกได้กำหนดประเด็นสื่อสาร ภายใต้คำขวัญ "กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า : นิโคตินเสพติด จน ตาย" ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในการเปิดโปงและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ กลยุทธ์ทางการตลาดที่แยบยลและบ่อนทำลายสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของอุตสาหกรรมยาสูบและ
ผลิตภัณฑ์นิโคติน อุตสาหกรรมดังกล่าวได้ปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ดูทันสมัย น่าสนใจและเข้าถึงง่าย โดยการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกให้คล้ายขนมหรือของเล่น ใช้กลิ่นและรสชาติหลากหลายเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคหน้าใหม่ รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดีย,และบุคคลมีชื่อเสียงหรืออินฟลูเอนเซอร์ในการโฆษณาโดยแฝง เพื่อสร้างความเชื่อผิดๆว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ "ปลอดภัยกว่า" หรือ "สามารถใช้ทดแทนบุหรี่ทั่วได้" ความเข้าใจผิดเหล่านี้ ส่งผลให้เยาวชนจำนวนมากเริ่มต้นทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ตั้งแต่อายุยังน้อย และกลายเป็นผู้เสพติดในระยะยาว โดยไม่รู้ตัวว่านิโคตินคือสารเสพติดที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ่มีผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมอง การเรียนรู้ และสุขภาพโดยรวมพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบเหล่านี้ จึงไม่เพียงแต่สร้างปัญหาสุขภาพในระดับ
บุคคล แต่ยังกลายเป็นภาระทางสาธารณสุขในระยะยาว ทั้งในด้านเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต
และระบบบริการสุขภาพของประเทศ

#ศูนย์ข่าวปลอดควันตรัง
#มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
#สสส

มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ACTION ON SMOKING AND HEALTH FOUNDATIONศูนย์ข่าว มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่เมื่อ...
19/05/2025

มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ACTION ON SMOKING AND HEALTH FOUNDATION

ศูนย์ข่าว มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568
เครือข่ายควบคุมยาสูบภาคใต้รวมพลัง “คนใต้ไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า”
สร้างกระแสวันงดสูบบุหรี่โลก ชู “นิโคติน เสพติด จน ตาย”

(17 พฤษภาคม 2568)
เครือข่ายควบคุมยาสูบภาคใต้รวมพลัง จัดกิจกรรมรณรงค์สร้างกระแส
“วันงดสูบบุหรี่โลก 2568 : คนภาคใต้ไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” เพื่อให้เกิดการสื่อสารสร้างกระแสในระดับพื้นที่ให้กว้างขวาง ให้มีความรู้ ตระหนักถึงโทษและพิษภัยการเสพติดนิโคตินของบุหรี่ไฟฟ้า นำโดย สมาคมสื่อชุมชนภาคใต้นครศรีธรรมราช
ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่, เครือข่ายยุวทัศน์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต
สังคมและสิ่งแวดล้อม และภาคีเครือข่ายจังหวัดนครศรีธรรมราช สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
นางวจิราพร อมาตยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประธานในการเปิดงานกล่าวว่า การ
ระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนในจังหวัดภาคใต้ โดยร่วมกันรณรงค์สร้างกระแสป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้ากับกลุ่ม
เด็กและเยาวชนถือเป็นวาระแห่งชาติ เพราะปัญหาการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อสุขภาพของ
ประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการ
เร่งปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนของชาติ จากพิษภัยของการเสพติดบุหรี่
ไฟฟ้า
ทั้งนี้ปัญหาการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในภาคใต้ยังคงเป็นเรื่องที่น่าห่วงใย จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
ล่าสุด พ.ศ.2567 พบว่า ภาคใต้มีอัตราการสูบบุหรี่สูงที่สุดในประเทศ อยู่ที่ร้อยละ 22.1 โดยเฉพาะในจังหวัดกระบี่ มีอัตรา
การสูบบุหรี่สูงที่สุดคือ ร้อยละ 27.1 รองลงมา คือจังหวัดนครศรีธรรมราช ร้อยละ 25.59, ระนอง ร้อยละ 25.53,พัทลุง
ร้อยละ 24.06, ปัตตานี ร้อยละ 23.93 และตรัง ร้อยละ 23.49 ตามลำดับ ซึ่งมีอัตราการสูบบุหรี่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ
นอกจากนี้ การสำรวจในนักเรียนมัธยมศึกษาภาคใต้ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ร้อยละ
14.5 เคยใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยนักเรียนชายมีอัตราการใช้สูงกว่านักเรียนหญิงอย่างมีนัยส าคัญ สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อน
ถึงความจำเป็นในการเร่งรณรงค์และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับพิษภัยของการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า การจัด
กิจกรรมในวันนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและชื่นชมเป็นอย่างยิ่งที่ภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบภาคใต้ และอีกหลายหน่วยงาน
ทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม ร่วมกันสร้างกระแสรณรงค์ให้เกิดการรับรู้และปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงพิษ
ภัยอันตรายของการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า และถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และแรง
บันดาลใจให้กับทุกภาคส่วน ร่วมรณรงค์อย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง รวมถึงส่งเสริมให้เกิดสังคมปลอดบุหรี่ในภาคใต้ของเรา
อย่างยั่งยืน นางวจิราพร กล่าว
ขณะที่ นายพิทยา จินาวัฒน์ คณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 ส านักงานกองทุนสนับสนุนการสร้าง
เสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า บทบาทของ สสส. ซึ่งมีหน้าที่ริเริ่ม ผลักดัน จังหวัด สนับสนุน และร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ
ในการขับเคลื่อน กระบวนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อให้บรรลุผลในการลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
กระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและความเชื่อ และการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม ให้เอื้อต่อคุณภาพชีวิต ช่วยลด
ภาระทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งปัญหาการคุกคามของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นสงครามที่ยากจะเอาชนะได้
ต้องเกิดจากการรวมพลังกันทุกภาคส่วนที่ร่วมใจรวมพลังกันต่อสู้เหมือนงานในวันนี้ ซึ่งการทำสงครามกับบุหรี่ สมรภูมิ
เปลี่ยนไปหมดแล้ว เนื่องจากการ disrupt ของเทคโนโลยี สิ่งที่ท าให้เปลี่ยนคือ การมาของบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะความน่า
เป็นห่วงในกลุ่มเป้าหมายใหม่ คือ เพศหญิง กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้น จะเห็นว่าตอนนี้ผู้หญิงไทยสูบบุหรี่มวนร้อยละ 1.3 แต่
เยาวชนที่เป็นผู้หญิง พบว่าสูบบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ถึงร้อยละ 15 และหากบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย จะเป็นการเพิ่มอัตราการสูบ
บุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนหญิงสูงเพิ่มไปถึง 30-40% เลยที่เดียว ดังนั้น ถ้ามีความร่วมมือกันในทุกฝ่าย ทุกภาคีเครือข่าย
นอกจากนั้น ยังต้องอาศัยความร่วมมือการสื่อสารกับอินฟลูเอนเซอร์ที่จะช่วยสื่อสารกับสังคมได้รับรู้ เราต้องใช้ทุกช่องทาง
และทุกกระบวนในการสื่อสาร เพื่อปกป้องลูกหลานไทยให้รอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า นายพิทยา กล่าว
ด้านนายอานนท์ มีศรี นายกสมาคมสื่อชุมชนภาคใต้นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า กิจกรรมสร้างกระแส
“วันงดสูบบุหรี่โลก 2568: คนภาคใต้ไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” ในครั้งนี้ องค์การอนามัยโลกก าหนดประเด็นการรณรงค์ว่า
“Unmasking the Appeal: Exposing Industry Tactics on To***co and Ni****ne Products” ประเทศไทยโดยกระทรวง
สาธารณสุข จึงใช้ภาษาไทยในการสื่อสารรณรงค์สร้างกระแสว่า “กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า: นิโคติน เสพติด
จน ตาย” เพื่อให้ประชาชนตระหนักรู้และร่วมกันเปิดโปงกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมยาสูบที่มุ่งเป้าท าการตลาดเพื่อดึงดูด
ผู้บริโภคกลุ่มเด็กและเยาวชนให้เสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ในโอกาสนี้ เพื่อให้เกิดการสื่อสารสร้างกระแสในระดับพื้นที่ให้
กว้างขวางมากยิ่งขึ้น และเพื่อเชิญชวนชาวใต้ทุกภาคส่วน ร่วมกันสื่อสารและแสดงเจตจ านงในการร่วมกันปกป้องและ
คุ้มครองสุขภาพของคนใต้ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนชาวใต้ ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงเพื่อ
สื่อสารให้ภาคีเครือข่ายด้านการควบคุมยาสูบ ได้มีความรู้ ความเข้าใจต่ออันตรายของบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และกลยุทธ์ของ
บริษัทบุหรี่
โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้ ได้รับความร่วมมือจาก หลายภาคส่วน ได้แก่ ส านักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง
นครศรีธรรมราช, แผนกเวชกรรมสังคม คลินิกฟ้าใส โรงพยาบาลพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช, สมาคมสื่อชุมชน
ภาคใต้นครศรีธรรมราช, เครือข่ายยุวทัศน์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สังคมและสิ่งแวดล้อม, เครือข่ายองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นปลอดบุหรี่ โดย องค์การบริหารส่วนต าบลน ้าผุด จ.ตรัง, เครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ โดย จุดจัดการเพื่อ
โรงเรียนปลอดบุหรี่จังหวัดปัตตานี, เครือข่ายเยาวชน Gen Z Gen Strong เลือกไม่สูบภาคใต้, เครือข่ายศูนย์พัฒนาเด็ก
เล็กฯ Gen Alpha โดย โรงเรียนอนุบาลและศูนย์พัฒนาเด็ก อบต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา, เครือข่ายองค์กรงดเหล้า
ภาคใต้ตอนบน เครือข่ายนักสื่อสารรุ่นใหม่ และ ศูนย์สร้างสรรค์สื่อเพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัว ได้ร่วมกันออกบูธนิทรรศการ ให้ความรู้ทางด้านวิชาการ, แจกสื่อประชาสัมพันธ์, เล่นเกม แจกของที่ระลึก/รางวัล, บริการตรวจสุขภาพ และให้
คำปรึกษาการเลิกบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า โดยกิจกรรมทั้งหมดจัดขึ้น ณ ลานวัฒนธรรมสวนศรีธรรมาโศกราช อ.เมือง
จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างเวลา 16.30-20.00 น.

#วันงดสูบบุหรี่โลก
#มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
#นิโคตินเสพติดจนตาย

#ศูนย์ข่าวปลอดควัน

สวัสดีครีเอชั่น​-รายงาน

07/05/2025

ฝนตกต่อเนื่อง ☔️🌧
โปรดระวังน้ำท่วมฉับพลัน และวาตภัย
หากต้องการความช่วยเหลือ
โทร 199 หรือ 075-218777
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ⏰

#เทศบาลพร้อมดูแลคุณทุกสถานการณ์

18/04/2025
อบต.นาพละ จัดโครงการทำบุญรับขวัญข้าวใหม่ตำบลนาพละ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อให้ชาวนานำข้าวใหม่ที่เก็บเกี่ยวแล้วไป ถ...
21/02/2025

อบต.นาพละ จัดโครงการทำบุญรับขวัญข้าวใหม่ตำบลนาพละ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อให้ชาวนานำข้าวใหม่ที่เก็บเกี่ยวแล้วไป ถวายบูชาแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

วันนี้ (20 ก.พ. 68) ที่วัดหัวถนน ตำบลนาพละ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง พันจ่าโท อนันต์ บุญสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป้นประธานเปิดโครงการทำบุญรับขวัญข้าวใหม่ตำบลนาพละ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมี นายสำเริง นิลละออ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาพละ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องประชาชน เข้าร่วมงาน

องค์การบริหารส่วนตำบลนาพละ ได้เล็งเห็นความสำคัญการรับขวัญข้าวจากทุ่งนามาสู่ยุ้งฉาง เพื่อให้ชาวนานำข้าวใหม่ที่เก็บเกี่ยวแล้วไปถวายบูชาแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถวายการบูชาแด่พระพุทธสิหิงค์ หลวงพ่อท่านจังโหลน หลวงพ่อแก่บัวเพชร อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ฝั่งขวาของลุ่มน้ำคลองนางน้อยตรัง ตามความเชื่อในการช่วยคุ้มครองแปลงนาและพืชผลจากภัยธรรมชาติ และศัตรูพืช ช่วยให้ข้าวเจริญเติบโตและได้ผลผลิตมาก ให้การทำนาประสบผลสำเร็จ เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับชาวนา เปิดโอกาสให้กับชาวนาได้มารวมตัว ร่วมกันประกอบพิธีกรรมและสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เป็นการอนุรักษ์ประเพณี สืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของไทย และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืน ส่งเสริมและอนุรักษ์ข้าวพันธุ์พื้นเมืองให้ทุกคนได้เห็นคุณค่าประเพณีท้องถิ่น วัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับวิถีชีวิตและผลผลิตของชาวนาไทย โดยสรุปงานทำบุญรับขวัญข้าวใหม่ เป็นประเพณีที่สืบทอดเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ส่งเสริมวัฒนธรรมอันดี ความเสียสละ การมีส่วนร่วมและความสามัคคีในหมู่ชน เป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเป็นส่วนรวม และมีสัดส่วนของกลุ่มคนที่มีส่วนร่วมในการสืบทอดประเพณีในพื้นที่ในระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นโครงการที่มีทั้งหลักการทางศาสนาและวัฒนธรรม และเหตุผลที่สำคัญต่อการอนุรักษ์ประเพณี ส่งเสริมความสามัคคีและการท่องเที่ยว
และในโอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ะมอบเกียรติบัตรพร้อมของรางวัล ให้กับผู้ชนะที่แข่งขัน 5 รายการ ได้แก่ การแข่งขันนวดข้าวเลียง ตำข้าวด้วยครกมือ และฝัดข้าว การแข่งขันรับประทานข้าวต้มเปียก การแข่งขันหาบข้าวเลียงกับแสก การประกวดชาวนาสูงวัยสุขภาพดี อายุ 70 ปีขึ้นไป และการประกวดต้นกล้าชาวนา อายุไม่เกิน 18 ปี

17/02/2025

Address


Telephone

0809472824

Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when ตรัง 360 องศา posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share