Wut - The Story Better

  • Home
  • Wut - The Story Better

Wut - The Story Better ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ

09/07/2025

ติดลบก็เรื่องธรรมดา…แต่มืออาชีพต้องเรียนรู้จากมัน”

เทรดแพ้ ไม่ได้แปลว่าเราแย่
แต่แปลว่า…เราแค่ยังไม่เข้าใจบางอย่างพอ

ภาพนี้…ไม่ใช่เพื่อบอกว่าใครพลาด
แต่เพื่อย้ำว่า “ทุกคนล้มได้”
และ “ทุกพอร์ตมีวันที่แดง”

“คนเราสามารถเทรดติดลบได้เสมอ…แต่ต้องไม่ลบ ‘สติ’ ไปกับมัน”

วิธีจัดการอารมณ์ใต้โพสต์ค่ะ

13/06/2025
13/06/2025

5 ขั้นตอนของการอ่านเทรนด์ให้แม่นแบบไม่หลงทิศทาง
—————————————

การอ่านเทรนด์ไม่ใช่เรื่องของ “การเดา” แต่คือการเข้าใจ “โครงสร้างของราคา” อย่างเป็นระบบ

💡 ใครอยากเทรดแม่นขึ้น ลองทำตามนี้ได้เลย!
1. 🔍 ดู Timeframe ใหญ่ก่อนเสมอ
อย่าเพิ่งโฟกัสแต่กราฟเล็ก ดู TF ใหญ่ก่อน (เช่น D1 หรือ H4) จะช่วยให้เห็นทิศทางหลักว่า “ขึ้น-ลง-ข้าง”
2. 📏 วาดแนวโน้มด้วย High – Low

• เทรนด์ขาขึ้น = Higher High + Higher Low
• เทรนด์ขาลง = Lower High + Lower Low
เริ่มเห็นสัญญาณเปลี่ยนเทรนด์ได้จากแค่จุดเล็ก ๆ

3. 📐 ลากเส้น Trendline
ใช้เส้นเชื่อม High หรือ Low ที่ต่อกันอย่างน้อย 2–3 จุด

4. 🏃‍♂️ สังเกตจังหวะ พักตัว vs วิ่งต่อ
เทรนด์ที่ดีจะมีจังหวะ “วิ่ง–พัก–วิ่ง–พัก”

• ถ้าวิ่งแล้วไม่พักเลย = อาจหมดแรง
• ถ้าพักนานไป = อาจไม่ใช่เทรนด์แล้ว

5. 📈 ใช้ EMA/MA ช่วยกรองทิศทาง
ใช้ EMA 20, 50, 200 ดูแนวโน้มระยะสั้น–กลาง–ยาว

• EMA เรียงตัวสวย = เทรนด์แข็งแรง
• EMA ขยี้กันมั่ว = ตลาดไม่มีเทรนด์

กราฟเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ แต่จิตใจเราต้องไม่เปลี่ยนตาม
ถ้าโพสต์นี้เป็นประโยชน์ฝากทุกคนพิมพ์ว่าเป็นประโยชน์
 ขอหนึ่งกำลังใจกดไลท์กดแชร์ให้โค้ชด้วยนะคะ

#โค้ชหมูแดงเทรดสั้นพันจุด
#ราคาทองคํา
#เทรดทอง

13/06/2025

สัจธรรม อันเจ็บปวด คือ 90% ของคนที่เทรด จะเงินต้นขาดทุน หมด หาย ภายใน 1 ปี

พี่ยังจำได้มั้ย ตอนที่เริ่มเทรดครั้งแรก?

คิดว่าเดือนเดียว จะเป็นเศรษฐี แล้วตอนนี้ล่ะ?
เวลาพอร์ตแดง ตาแหกนอนไม่หลับ
หลับๆ ตื่นๆ มาเช็คหน้าจอ และที่แย่ที่สุด...
"ยิ่งเทรดยิ่งจน"

ไม่ใช่เพราะโง่ หรือไม่เก่ง แต่เพราะกำลังเล่นเกมที่ผิด
พี่หยุดโกหกตัวเองเถอะว่า "ไม้หน้าจะเอาคืน"
หรือ "ขาดทุนเพราะตลาดมันห่วย"

ถ้ายังเป็นแบบนี้ พี่อาจกำลังเทรดแบบหาเช้ากินค่ำอยู่
ที่สำคัญ พี่อาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่ากำลังวิ่งวนอยู่ในวัฏจักรเดิมๆ

งั้นวันนี้เรามาเช็คกันแบบไม่อ้อมค้อม กับ 10 สัญญาณที่บอกว่า #พี่ยังติดอยู่ในวงจรกับดักหาเช้ากินค่ำ กับดักที่ไม่มีทางพาพี่ไปความสำเร็จและความสบายที่ปลายทางได้

1. กลัวพลาดโอกาส เลยเข้าแทบทุกไม้ที่เห็นสัญญาณ Confirm แค่นิดเดียว
กดเข้าเทรดเร็วเกิน เน้นไว ไม่เน้นชัวร์ สุดท้าย เข้าผิดจังหวะ โดนลากไปผิดทาง

2. เปิดดูหน้าจอเทรดทุก 10-20 นาที
ถ้าพี่เช็คกราฟบ่อยกว่าเช็ค Facebook นั่นแหละสัญญาณอันตราย!! เพราะการเทรดที่มีคุณภาพ จะไม่ต้องการความสนใจตลอดเวลา แผนเทรดที่เราตั้งใจวาง และคาดการณ์อนาคตกราฟไว้แล้ว เราแค่ทำตามสิ่งที่เราวางไว้ก็พอ

3. เทรดแบบวันต่อวัน หวังกำไรใช้จ่ายทันที
คิดว่ากดเทรดตอนเช้า กลางวันปิดกำไร แล้วเย็นจะเอาไปกินชาบูมื้อใหญ่
แบบนี้เป็นแนวคิดของคนที่ต้องการเงินรีบด่วน ความจริงคือ ตลาดไม่ได้มีหน้าที่ให้กำไรพี่ทุกวัน

4. ทุกครั้งที่เสีย บอกตัวเองว่า “เดี๋ยวเอาคืนไม้หน้า”
แค่เริ่มต้นกดไม้ต่อไป ด้วยความคิดนี้ ไม้นั้นก็เรียกว่าเจ๊ง หรือขาดทุนแล้ว

5. กังวลใจทุกครั้งที่ ติดลบ แค่ 5-10%
ถ้านอนไม่หลับเพราะดูพอร์ตแดงๆ หรือรู้สึกว่าใจหาย เมื่อเงินในพอร์ตลดลงนิดหน่อย แสดงว่าพี่ยังมองการเทรดเป็นเรื่องเร่งด่วนเกินไป เพราะความผันผวนระยะสั้นเป็นเรื่องที่เราต้องทำความเข้าใจมันให้ได้

6. เปลี่ยนเทคนิคเทรด ทุกสัปดาห์
วันนี้เทรดด้วย SMC วันพรุ่งนี้เปลี่ยนเป็น Elliott Wave พอแพ้อีกก็หันไปลอง ICT อีก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้ เหมือนคนหิวข้าวที่วิ่งหาร้านอาหารใหม่ทุกวัน เหนื่อย ไม่รู้จริงสักที

7. เอาเงินก้อนสำคัญมาเทรด
ถ้าพี่เอาเงินค่าข้าว ค่าเช่าบ้าน หรือเงินกู้มาเทรด แปลว่าพี่กำลังเล่นการพนัน ไม่ใช่การลงทุนสร้างเงิน เพราะเงินที่ใช้เทรดต้องเป็นเงินที่หายไปแล้วไม่กระทบวิถีชีวิตเท่านั้น ถ้าเอาเงินที่เสียไม่ได้ มาใช้ ก็เหมือนเป็นหนี้ ต้องหาเงินมาใช้คืนอีก

8. ใช้ Lot สูงๆ หวังผลตอบแทนเร็วๆ
ออก Lot เยอะ เพื่อให้เงิน 1,000 บาท กลายเป็น 10,000 บาทในวันเดียว นี่คือการเทรดแบบหาเช้ากินค่ำ + พนัน ที่แท้ทรู

9. หาข้อแก้ตัวทุกครั้งที่ขาดทุน
โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง "ตลาดมันโกง ข่าวมันแย่ เจ้าใหญ่มันกดไว้" แต่ไม่เคยมองว่าอาจจะเป็นเพราะแผนหรือจิตวิทยาของตัวเองที่มีปัญหา

10. คิดว่าต้องเทรดบ่อยๆ ถึงจะรวยเร็ว
คิดว่าการเทรดคือหนทางเดียวสู่ความรวย
ไม่มีรายได้จากที่อื่น ไม่ลงทุนในตัวเอง/เรียนรู้ทักษะอื่น
กะจะเอาชีวิตเดิมพันกับการเทรดอย่างเดียว
ไม่คิดจะหา สร้างแหล่งรายได้หลายช่องทาง
ถ้างั้นวันไหนหยุดเทรด = ไม่มีรายได้ ?
แล้วต่างจากทำงานประจำตรงไหน ?

อ่านจบแล้ว พี่ๆ มีกันกี่ข้อบ้างครับ คอมเมนต์มาคุยกัน
ใครมีอาการตรงกับที่ผมบอก เกิน 2 ข้อ

แปลว่า
พี่อาจไม่ได้เทรดเพื่อ “ความมั่งคั่ง”
แต่กำลังเทรดเพื่อ "ความอยู่รอดชั่วคราว" เท่านั้น!

📌เดี๋ยวผมจะมาบอก วิธีแก้ปัญหาเหล่านี้
และเปลี่ยนพี่จากเทรดแบบหาเช้ากินค่ำ
เป็น "เทรดให้รวยแบบยั่งยืน"

📌 ใน Live Special "Wealth Express Trader เส้นทางด่วนพิเศษสู่ความมั่งคั่งที่ยั่งยืน"

⏰วันอาทิตย์นี้ เวลา 20.00 น. FREE!! หน้าเพจ
ใครจะมั่งคั่งไปกับผม และจะไม่พลาดดู Live นี้
พิมพ์ "เอาด้วย"

ผมจะสอน “แนวคิดและทักษะของเทรดเดอร์สาย Wealth”
ที่เทรดแล้วชีวิตเปลี่ยนได้จริง
และทำได้แม้พี่จะเริ่มจากศูนย์!

มาร่วมเปลี่ยนวิธีคิด และออกจากวังวนนี้ไปด้วยกันครับ

#สอนเทรด #สอนเทรดฟรี #ต้องWarunyuu #เทรดเดอร์ #เทรดทอง

10/06/2025
08/06/2025

อยากเทรดให้ได้กำไรหลักแสน มันต้องใช้ระบบเทรดแบบไหน !?

เอาจริงๆ มันก็ได้หมดเลยครับ มันขึ้นอยู่กับว่าตลาดมันเป็นตลาดแบบไหน มันมีช่องโหว่อะไรให้เราเจาะ โดยช่องโหว่นี้เราจะเรียกว่า “Anomaly”

ซึ่ง Anomaly ถ้าจะให้พูดภาษาบ้านๆ มันก็คือจุดอ่อน ช่องโหว่ จุดเปราะบางของตลาด ซึ่งเราสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนั้นในการสร้างผลประโยชน์ให้กับตัวเราได้

เรื่องนี้อาจจะต้องศึกษาสมมุติฐานของตลาดที่ไม่มีประสิทธิภาพ (Inefficiency Market Hypothesis) เพิ่มเติมครับ เราจะได้เข้าใจว่าการเคลื่อนไหวของราคามันไม่ได้เป็นเหตุเป็นผลขนาดนั้น

เพราะมันมีเรื่องความหลงผิด อคติ (Bias) การกระทำสุดโต่ง ปัจจัยจากการสุ่ม รวมไปถึงพฤติกรรมตามแห่ของมวลชนด้วย

ระบบทุกระบบสามารถใช้ได้ ไม่อย่างนั้นเราก็คงมีหนังสือสอนเทรด สอนลงทุนแค่แนวทางเดียว จริงไหมครับ !?

ทุกวันนี้เวลาเราไปร้านหนังสือเราก็จะเห็นแนวคิดของระบบและกลยุทธ์มากมายเลยครับ

=====

ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเชิงคุณค่า (VI) ตัวอย่างแนวทาง เช่น Charlie Munger, Warren Buffett, Benjamin Graham

ลองคิดดูว่าถ้าเราเอาระบบประเภทนี้ไปใช้ในตลาดที่มันไม่มีมูลค่าที่เเท้จริง ไม่มีการ Under Reaction ไม่มีธรรมาภิบาลในการประกอบกิจการที่ดี เราก็จะได้ของแพงมาเต็มกระบุง แล้วกลยุทธ์มันก็จะพัง เพราะเราไม่เคยได้ของในราคาต่ำกว่ามูลค่าเลย

=====

หรือถ้าหากคุณอยากจะฝึกในแนวทาง แบบเติบโต (Growth) มุ่งเน้นไปที่บริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโต

ตัวอย่างเเนวคิดเช่น Philip Fisher, Peter Lynch, William J. O’niel, T. Rowe Price Jr.

ถ้าเราดันเอาระบบประเภท Growth มาใช้ในตลาดที่ไม่มีการเติบโต ไม่มีผลการดำเนินกิจการที่ดี มันก็จะไม่มีตัวผลักดันราคาให้ไปต่อ สุดท้ายมันก็พังอีก

=====

เราเอาระบบเทรดประเภทเทรดกลับตัว (Reversal) เอาระบบ Divergence, RSI Overbought - Oversold อะไรก็ว่าไป

เเล้วเราเอาไปใช้ในตลาดที่มีโมเมนตัมแรงๆ เทรนด์จ๋าๆ มันก็ไม่รอดอีก เพราะมันจะไม่กลับตัวให้คุณ กลายเป็นคุณเทรดเเบบสวนเทรนด์จนหน้าแหก

=====

เอาระบบประเภทเทรดตามเทรนด์ (Trend Following) หรือโมเมนตัม (Momentum)

ตัวอย่างเเนวคิดเช่น Ed Seykota, Paul Tudor Jones, Richard Donchian, Richard Dennis, David Ryan, Mark Minervini

โดยคาดหวังว่าราคาน่าจะมีโมเมนตัมในการผลักดันราคาต่อไปเรื่อยๆ เเล้วเราดันไปใช้ในตลาดที่มีสภาวะของการพักตัวแกว่งเเคบๆ มันก็เจอการซื้อแพงขายถูกวนไปจนพอร์ตพัง

=====

จะเอาระบบประเภท Arbitrage ไปใช้ในตลาดที่ไม่มีการ Mispricing มันก็ไม่มีช่องว่างในการทำกำไรระหว่างสินค้าทั้งสองอย่างให้คุณ

คุณอาจจะไม่ทราบว่าแม้แต่ Warren Buffett ก็เคยใช้กลยุทธ์ Merger Arbitrage ผ่าน Berkshire Hathaway ในการลงทุนใน Activision Blizzard หลัง Microsoft ประกาศซื้อกิจการ

โดยซื้อหุ้นของบริษัทที่ถูกประกาศควบรวมหรือซื้อกิจการในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่เสนอซื้อ และรอทำกำไรเมื่อดีลจบ (รายละเอียดอ่านต่อได้ในคอมเม้นต์ครับ)

=====

เอาระบบประเภทความผันผวน (Volatility) อย่าง Mean Reversion, Grid, Rebalance มาจับเคสเเบบสุดโต่ง

ถ้าตลาดนั้นไม่มีความผันผวนให้คุณ มันแกว่งแบบเบาๆ แคบๆ คาดการณ์ได้ คุณก็จะไม่มีกำไร เพราะตลาดไม่มีความผันผวนให้คุณเล่นเลย

=====

อย่างที่ผมบอก ระบบมันมีเป็นร้อยเป็นพันแบบ มันขึ้นอยู่กับว่าตลาดมันมีช่องโหว่อะไร และระบบของคุณมีการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากช่องโหว่แบบไหน ถ้าตลาดมีจุดอ่อนอย่างไรก็ออกแบบระบบให้มันสอดคล้องกับตลาดนั้นๆ ครับ

ย้อนกลับมาเรื่องเดิมคือ สุดท้ายแล้วถ้าหากคุณมีความเข้าใจในเรื่องของระบบ ในเรื่องของตลาด และมีทักษะมีองค์ความรู้ที่มากเพียงพอ คุณก็สามารถออกแบบระบบในการที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอครับ

คนส่วนใหญ่ที่ตกม้าตาย นั่นก็เพราะว่า เขาไม่เคยตั้งคำถามเลยว่า #ระบบของตัวเค้าเองมันใช้ตรรกะแบบไหนในการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ มันตอบสนองในเชิงปัจจัยตลาดแบบไหน มีข้อดีอย่างไร มีข้อด้อยตรงไหน สภาวะแบบไหนที่มันใช้ไม่ได้

ซึ่งเรื่องเนี่ยมีความสำคัญมากกว่าการไปนั่งเรียนเทคนิคคัลเป็นร้อยเป็นพันแบบเลยครับ

สุดท้ายแล้วถ้าเกิดคุณติดกระดุมเม็ดแรกถูกต้อง สามารถทำระบบให้มีแต้มต่อได้ มีการบริหารเงินทุนอย่างเหมาะสม มีการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม

ขนาดเงินทุนที่ใช้สมเหตุสมผล เก็บเกี่ยวระยะของ RR ได้ตามสมควร มีอัตราชนะที่ไม่ต่ำเกินไป การจะสร้างเงินเดือนหลักแสนหลักล้านจากตลาดมันก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ 🥰

Knowledge + Skill + Experience = Return

07/06/2025

📌 เทคนิคเลือกหุ้น “ให้โดนใจ” ไม่ใช่แค่ให้ได้กำไร

การเลือกหุ้นไม่ใช่แค่ดูว่ากำไรเยอะ หรือราคากำลังขึ้น
แต่มันคือ “การจับคู่ระหว่างลักษณะธุรกิจ กับสไตล์ของเรา”

เพราะ “หุ้นดี” อาจไม่เหมาะกับ “คนไม่พร้อม”
และ “คนพร้อม” ก็ไม่ควรไปเสียเวลากับหุ้นที่นิ่งเกินไป
.

🎯 แล้วหุ้นแบบไหน เหมาะกับเรา?

1. หุ้นเติบโต (Growth Stock)

เหมาะกับคนที่รับความเสี่ยงได้สูง
ชอบกำไรเร่ง ๆ เร็ว ๆ มีเป้าแบบระยะสั้น–กลาง

✅ ธุรกิจขยายตัวเร็ว
✅ เงินรายได้โตแรง
✅ มักอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี / แพลตฟอร์ม / AI / สุขภาพ
.

2. หุ้นฟื้นตัว (Recovery Stock)

เหมาะกับนักลงทุนที่ชอบคิดต่างและรู้จังหวะ

✅ เคยแย่ แต่เริ่มกลับมา
✅ มี Story หรือโครงการใหม่
✅ ต้องรู้จังหวะซื้อและขาย ไม่ใช่ถือยาวเฉย ๆ
.

3. หุ้นวัฏจักร (Cyclical Stock)

เหมาะกับคนที่เข้าใจภาพเศรษฐกิจระดับมหภาค

✅ ราคาผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ
✅ กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน ปูนซีเมนต์
✅ ต้องรู้ว่าจังหวะ “Peak–Trough” อยู่ตรงไหน
.

4. หุ้นบลูชิพ (Blue Chip Stock)

เหมาะกับคนที่ต้องการความมั่นคง ลงทุนระยะยาว

✅ เป็นหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50
✅ พื้นฐานแน่น รายได้กระจาย
✅ ไม่หวือหวา แต่ไม่ล้มง่าย
.

5. หุ้นราคาไม่แพง (Undervalued Stock)

เหมาะกับคนที่เน้นความคุ้มค่าในราคาต่ำ

✅ ราคาต่ำกว่า 10 บาท
✅ ธุรกิจขนาดเล็ก–กลาง
✅ ถ้ารากฐานดี อาจได้ “มัลติเบ็กเกอร์” (หุ้นโต 10x)
.

6. หุ้นปันผล (Dividend Stock)

เหมาะกับคนที่ต้องการกระแสเงินสด

✅ ธุรกิจมั่นคง เติบโตช้า
✅ ปันผลสม่ำเสมอ
✅ เหมาะกับผู้เกษียณ นักลงทุนระยะยาว



🧠 ข้อคิดจากพอร์ทระเบิด

อย่าหาหุ้น “ที่คนอื่นว่าดี”
แต่ให้หาหุ้น “ที่เหมาะกับเรา และพอร์ตเราต้องการ”

เพราะบางคนมีเงินสดเยอะ ก็เหมาะกับหุ้นโตแรง
แต่ถ้าใครกำลังเริ่มต้น ไม่มีเวลาตาม ก็อาจเหมาะกับหุ้นปันผลแทน
.

✅ สรุป: เทคนิคเลือกหุ้นให้โดนใจ = เข้าใจตัวเองก่อน

📌 ถ้าคุณคือสายเทรดเร็ว → ไปทางหุ้นเติบโต
📌 ถ้าคุณชอบหาจังหวะเข้าออก → หุ้นฟื้นตัว / หุ้นวัฏจักร
📌 ถ้าคุณอยากเน้นความมั่นคง + สร้างพอร์ตยั่งยืน → บลูชิพ + ปันผล

#พอร์ทระเบิด
#หุ้นแบบไหนเหมาะกับเรา
#เทคนิคเลือกหุ้น

26/05/2025

Address


Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Wut - The Story Better posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to Wut - The Story Better:

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share