DARKA สาระโลก
“เรื่องเล่าและวิถีชีวิต”
ติดต่องานได้ที่ line : sathit2477

02/10/2024

60 ปี รถไฟหัวกระสุนชิงกันเซ็ง ประเทศญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ?

รถไฟหัวกระสุน "ชิงกันเซ็ง" หรือ Tokaido Shinkansen ได้กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 1 ตุลาคม 1964 หรือวันนี้เมื่อ 60 ปีก่อน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว รถไฟชิงกันเซ็งสายโทไกโดได้เปลี่ยนแปลงวิถีการเดินทางในญี่ปุ่นอย่างมาก และยังสร้างแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ

เมื่อเวลาผ่านไป 60 ปี จากระยะทาง 515.4 กิโลเมตร เส้นทางรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่นขยายขึ้นเป็น 2,764.6 กิโลเมตร ครอบคลุมเมืองใหญ่ ๆ ส่วนใหญ่บนเกาะฮอนชู และคิวชู และฮาโกดาเตะที่เกาะฮอกไกโด การเปลี่ยนแปลงในระบบชิงกันเซ็งและผลกระทบต่อญี่ปุ่นนั้นกว้างขวางและลึกซึ้ง มาดูกันว่าการเดินทางและวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นได้เปลี่ยนไปอย่างไรบ้างในช่วง 6 ทศวรรษที่ผ่านมา

🔵 เทคโนโลยีและความเร็ว

เมื่อรถไฟชิงกันเซ็งเริ่มเปิดให้บริการ ความเร็วที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถือเป็นความเร็วสูงสุดที่ทำได้ในตอนนั้น ซึ่งเป็นการปฏิวัติวงการขนส่งของโลก และด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันรถไฟชิงกันเซ็งสายโทไกโดสามารถวิ่งด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นถึง 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความสามารถในการพัฒนารถไฟให้เร็วขึ้นโดยไม่ลดทอนความปลอดภัย เป็นหนึ่งในความสำเร็จที่โดดเด่นของชิงกันเซ็ง ความแม่นยำด้านเวลาในการเดินทางถือเป็นสิ่งที่ผู้โดยสารวางใจได้เสมอ ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นเลิศด้านการจัดการระบบการขนส่งของญี่ปุ่น

ปัจจุบันญี่ปุ่นอยู่ในช่วงการทดสอบรถไฟพลังแม่เหล็กไฟฟ้า L0 Series Maglev ในช่วงปี 2021 รถไฟทั้งขบวนลอยตัวเหนือรางแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทรงพลังราวกับวิ่งอยู่บนอากาศ แม้จะอยู่ในขั้นตอนการวิจัยพัฒนาแต่มันก็ทำความเร็วเป็นสถิติโลกเอาไว้ที่ 602 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีแผนการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2027

นอกจากการพัฒนารถไฟพลังแม่เหล็กไฟฟ้า ญี่ปุ่นยังมีแผนพัฒนารถไฟแบบไร้คนขับ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นกำลังเป็นประเทศผู้สูงอายุ และเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานเพิ่มมากขึ้น บริษัทรถไฟอย่างเช่น JR East จึงได้ประกาศว่ารถไฟหัวกระสุนไร้คนขับอาจจะเริ่มนำมาใช้งานในช่วงปี 2030

🔵 ผลกระทบทางเศรษฐกิจ

การเปิดตัวของชิงกันเซ็งไม่เพียงแค่เปลี่ยนแปลงการเดินทางในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างกว้างขวาง เครือข่ายรถไฟชิงกันเซ็งช่วยลดเวลาการเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ เช่น โตเกียว, นาโกยา และโอซาก้า

ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา เครือข่ายชิงกันเซ็งได้ขยายตัวครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ การพัฒนาเหล่านี้ช่วยส่งเสริมให้เกิดการกระจายความเจริญไปยังพื้นที่ที่เคยห่างไกลและเข้าถึงได้ยาก ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาค

ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นจำนวนมากกว่า 250,000 คน เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงในทุก ๆ วัน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบชีวิตและการทำธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็ช่วยกระจายความเจริญไปยังเมืองต่าง ๆ ของญี่ปุ่น

🔵 ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ระบบชิงกันเซ็งได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเดินทางระยะไกล โดยแทนที่การเดินทางด้วยรถยนต์และเครื่องบินในหลายกรณี การใช้รถไฟเป็นระบบขนส่งที่ปล่อยคาร์บอนต่ำกว่ายานพาหนะเหล่านี้ ทำให้ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การให้บริการด้วยไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานหลักทำให้ชิงกันเซ็งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ตลอดช่วง 60 ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้พัฒนาระบบการผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งทำให้ระบบชิงกันเซ็งสามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีการออกแบบตัวรถที่ลดแรงต้านลม และปรับปรุงการจัดการพลังงาน เพื่อให้ระบบการขนส่งนี้ยังคงเป็นหนึ่งในระบบที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยที่สุด

และเนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะภูมิศาสตร์เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยภูเขา รูปแบบการเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงบนระบบรางผ่านอุโมงค์จำนวนมาก ส่งผลให้ลดปริมาณการสร้างถนนหรือสิ่งก่อสร้างที่ต้องใช้การเกลี่ยเส้นทางบนภูเขาไปตลอดเส้นทาง ซึ่งอาจต้องตัดต้นไม้จำนวนมาก

🔵 ความปลอดภัยและการจัดการภัยพิบัติ

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ชิงกันเซ็งมีชื่อเสียง คือ การรักษาความปลอดภัยระดับสูง ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา มีสถิติอุบัติเหตุที่น้อยมาก และไม่มีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากการเดินทางด้วยชิงกันเซ็ง นี่เป็นผลจากการออกแบบเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงหลัง ญี่ปุ่นเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหวและพายุไต้ฝุ่น การปรับปรุงเทคโนโลยีชิงกันเซ็งในการตรวจจับและรับมือกับภัยพิบัติเหล่านี้ได้ถูกนำมาใช้ ระบบการตรวจจับแผ่นดินไหวที่สามารถหยุดรถไฟทันทีที่มีการตรวจจับความเคลื่อนไหวผิดปกติ เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ช่วยลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ

“ความปลอดภัย คือ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเรา ดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญกับการศึกษาและการฝึกอบรมพนักงานของเราเป็นอย่างยิ่ง” ไดสุเกะ คุมะจิมะ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของ JR Central เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Taipei Times

🔵 การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการเดินทาง

ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา วิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก การเดินทางด้วยรถไฟชิงกันเซ็งกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากจะเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและรวดเร็วแล้ว ชิงกันเซ็งยังเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความเป็นระบบและความมีระเบียบของสังคมญี่ปุ่น

อย่างที่ทราบกันดีว่าชาวญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องการตรงต่อเวลา และสำหรับชิงกันเซ็งการตรงต่อเวลาเป็นสิ่งสำคัญ โดยกล่าวกันว่าเมื่อชิงกันเซ็งถึงสถานีโตเกียว ทีมงานทำความสะอาดจะมีเวลาเพียง 7 นาที อย่างพอดิบพอดี ในการทำความสะอาดภายในรถไฟ และเตรียมพร้อมสำหรับผู้โดยสารกลุ่มต่อไป กรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยความล่าช้าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ไม่เกินหนึ่งนาที

การเดินทางด้วยชิงกันเซ็งยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างภูมิภาคและเปิดโอกาสให้ผู้คนเข้าถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลายได้ง่ายขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การเชื่อมต่อระหว่างสนามบินกับสถานีชิงกันเซ็งได้ทำให้การเดินทางจากต่างประเทศมายังเมืองต่างๆ ในญี่ปุ่นง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังญี่ปุ่นเพื่อเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่าง ๆ

เมื่อมองย้อนกลับไปถึง 60 ปีแห่งความสำเร็จของรถไฟหัวกระสุนโทไกโดชิงกันเซ็ง สิ่งที่เห็นได้ชัดคือความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี ความปลอดภัย และความยั่งยืน

ระบบชิงกันเซ็งไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงการเดินทางในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของประเทศ ในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า ชิงกันเซ็งยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความสามารถในการปรับตัวต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ที่มาของข้อมูล Wikipedia, Channel News Asia, Japan Today, Taipei Times

#รถไฟความเร็วสูง

02/10/2024

มนุษย์ยุคน้ำแข็งในทวีปอเมริกาเหนือล่าช้างแมมมอธจนเกือบสูญพันธุ์ หนึ่งในอาวุธที่ใช้คือหอกที่สร้างจากหิน เรียกว่า ปลายแหลมโคลวิส หรือ Clovis Point ความเข้าใจก่อนหน้าคิดว่าหอกถูกใช้โดยการขว้างใส่เหยื่อ แต่งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

เปิดเผยว่าวิธีการที่เป็นไปได้มากที่สุดในการใช้หอกล่าแมมมอธคือการตั้งค้ำหอกไว้กับพื้น เพื่อรอให้ช้างแมมมอธที่พลาดท่าหลงทางวิ่งพุ่งเข้าใส่หอกด้วยความเร็ว

ปลายแหลมโคลวิส เป็นสิ่งประดิษฐ์ดึกดำบรรพ์ที่พบบ่อยที่สุดจากแหล่งโบราณคดีในทวีปอเมริกาเหนือ มีอายุประมาณ 13,000 ปี

โดยมีลักษณะเป็นหินที่ถูกทำให้ขอบมีความคม ปลายแหลม สร้างจากหินหลายชนิด เช่น หินเชิร์ต หินฟลินต์ หินแจสเปอร์ มีขนาดตั้งแต่เล็กเท่าหัวแม่มือ จนขนาดเทียบเท่ากับสมาร์ตโฟน

การค้นพบบางแหล่งพบว่าปลายแหลมโคลวิสบางอันฝัง อยู่ในโครงกระดูกแมมมอธด้วย แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการใช้หอกยังคงเป็นเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์ถกเถียงกัน บางทฤษฎีกล่าวว่าใช้หอกเพื่อล้อมและแทงแมมมอธ ในขณะที่บางทฤษฎีบอกว่าหอกเหล่านี้ถูกใช้ล่าสัตว์ที่บาดเจ็บเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ระบุว่า หินที่จะนำมาใช้เป็นปลายแหลมโคลวิสนี้มีจำนวนจำกัด มนุษย์ยุคน้ำแข็งจึงต้องใช้อย่างระมัดระวัง

ดังนั้นการขว้างใส่แมมมอธ จึงเป็นเรื่องที่อาจเป็นไปได้ยาก และในการทดลองยังพบอีกว่า การขว้างหอกปลายแหลมใส่แมมมอธที่มีน้ำหนักตัวกว่า 9 ตัน อาจให้ความรู้สึกไม่ต่างจากเข็มทิ่ม ซึ่งไม่เพียงพอที่จะล้มแมมมอธลงได้

งานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร PLoS One ฉบับวันที่ 21 สิงหาคม 2024 จึงแสดงให้เห็นว่านักล่าอย่างมนุษย์ยุคน้ำแข็ง น่าจะยันหอกไว้กับพื้นและเอียงปลายหอกโคลวิสขึ้นไปด้านบนเพื่อแทงแมมมอธที่กำลังพุ่งเข้ามา

โดยจุน ซุนเซรี (Jun Sunseri) หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า พลังงานประเภทที่สร้างขึ้นได้ด้วยแขนมนุษย์ เทียบไม่ได้กับพลังงานประเภทที่สัตว์พุ่งเข้ามา และมีความแตกต่างของระดับพลังค่อนข้างมาก

โดยนักวิจัยกล่าวว่าแรงจากการวางหอกลักษะนี้ จะทำให้หอกแทงเข้าไปในร่างกายของเหยื่อลึกขึ้น ส่งผลให้เกิดความเสียหายมากกว่าที่สัตว์ยุคก่อนประวัติที่แข็งแกร่งที่จะทำได้

นักวิจัยได้ใช้การศึกษาจากประวัติศาสตร์สงครามในอดีตที่มีการอาวุธหอกปลายแปลมวางในมุมองศาเฉียงกับพื้นดิน เพื่อหยุดการวิ่งเข้าใส่ของม้าศึกฝ่ายตรงข้าม ซึ่งวิธีการนี้มีใช้ในหลายกองทัพในอดีต ร่วมกับการทำการศึกษาทดลองโดยใช้เครื่องมือตรวจสอบในยุคปัจจุบัน

นักวิจัยได้สร้างแท่นทดสอบเพื่อประเมินว่าระบบหอก จะส่งผลกระทบต่อแรงของสัตว์ที่เข้ามาใกล้อย่างไร ผลลัพธ์พบว่าปลายของหอกที่ตั้งค้ำยันไว้กับพื้นรอให้สัตว์พุ่งเข้ามา จะส่งผลเหมือนกับที่กระสุนหัวรู (Hollow-Point Bullets) ในยุคปัจจุบัน เจาะทะลวงเข้าไปสร้างบาดแผลให้กับแมมมอธ ควายป่า หรือเสือเขี้ยวดาบ

สก็อตต์ ไบแรม (Scott Byram) หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า การออกแบบอาวุธของชนพื้นเมืองอเมริกันโบราณนี้เป็นนวัตกรรมที่น่าทึ่งเกี่ยวกับกลยุทธ์การล่าสัตว์ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเฉลียวฉลาดของชาวพื้นเมืองยุคแรก ๆ ที่สามารถอยู่ร่วมกับสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น แมสโทดอนและแมมมอธในภูมิประเทศที่หนาวเหน็บได้

ที่มาข้อมูล Independent, Discovermagazine, PLOS
ที่มารูปภาพ PLOS

#แมมมอธ #ยุคน้ำแข็ง #การล่า #นวัตกรรม #โบราณ #อเมริกาเหนือ

เพจโดนแบนการสร้างรายได้ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบอาจจะไม่ได้ลงคลิปช่วงนี้🙏
15/08/2024

เพจโดนแบน
การสร้างรายได้
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบ
อาจจะไม่ได้ลงคลิปช่วงนี้🙏

05/08/2024

ปรากฏการณ์ “เรือลอยได้” กลางทะเล
🛳
☁️☁️☁️
เรือสำราญขนาดใหญ่ เหมือนลอยอยู่กลางอากาศ ปรากฏการณ์หาดูได้ยากที่เรียกว่า ภาพหลอกตา (Optical illusion)

ในภาพบน เป็นภาพเรือสำราญขนาดใหญ่ลำหนึ่ง “กำลังลอยอยู่กลางอากาศ” บริเวณ Lyme Bay ระหว่างมณฑลเดวอน กับมณฑลดอร์เซ็ต สหราชอาณาจักร ซึ่งชัดเจนว่า มันมีต้นตอจากภาพหลอกตา

แม้ดูเหมือนเรือกำลังลอยอยู่กลางอากาศ แต่ความจริงแล้วมันยังคงอยู่ในน้ำ โดยที่เห็นว่ามันลอยค้างอยู่นั้น สืบเนื่องจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า superior mirage (ภาพลวงตาที่เกิดขึ้นเหนือวัตถุจริง )

mirage เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหของแสงในชั้นบรรยากาศต่างๆ เนื่องจากความหนาแน่นของชั้นอากาศต่างๆ ไม่เท่ากัน ทำให้ภาพที่ปรากฏออกมาอยู่เหนือกว่าตำแหน่งที่แท้จริง ซึ่งในกรณีทำให้เรือสำราญ P&O ดูเหมือนกำลังลอยอยู่

แม้ปรากฏการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้บนบก แต่ส่วนใหญ่แล้วมักพบเห็นในทะเลมากกว่า เนื่องจากน้ำทะเลช่วยให้เกิดการก่อตัวของชั้นอากาศเย็น

🎉 ฉันเพิ่งผ่านระดับ 3 และตื่นเต้นมากที่จะเติบโตต่อไปในฐานะครีเอเตอร์บน Facebook!
01/08/2024

🎉 ฉันเพิ่งผ่านระดับ 3 และตื่นเต้นมากที่จะเติบโตต่อไปในฐานะครีเอเตอร์บน Facebook!

01/08/2024

เรื่องราวสุดแปลก!! ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่บนโลก ?

ขอบคุณที่เป็นผู้มีส่วนร่วมสูงสุดจนติดอันดับในรายชื่อผู้มีส่วนร่วมประจำสัปดาห์ของฉัน! 🎉วัฒนา แสงแดง, นัฐนันท์ ศักดา, ชานน...
30/07/2024

ขอบคุณที่เป็นผู้มีส่วนร่วมสูงสุดจนติดอันดับในรายชื่อผู้มีส่วนร่วมประจำสัปดาห์ของฉัน! 🎉

วัฒนา แสงแดง, นัฐนันท์ ศักดา, ชานนท์ ปรากฏรัตน์, Teeraphat Fadin Dewiloh, ธีรภพ ฯ.

ชีวิต แค่นี้ก็สุขแล้ว
25/07/2024

ชีวิต แค่นี้ก็สุขแล้ว

ขอบคุณที่เป็นผู้มีส่วนร่วมสูงสุดจนติดอันดับในรายชื่อผู้มีส่วนร่วมประจำสัปดาห์ของฉัน! 🎉วัฒนา แสงแดง, ชานนท์ ปรากฏรัตน์, A...
23/07/2024

ขอบคุณที่เป็นผู้มีส่วนร่วมสูงสุดจนติดอันดับในรายชื่อผู้มีส่วนร่วมประจำสัปดาห์ของฉัน! 🎉

วัฒนา แสงแดง, ชานนท์ ปรากฏรัตน์, Aub Chumsan, Knomtarn S-Girlfriend, ดาด้า แสงทอง

22/07/2024

สวัสดีเช้าวันจันทร์ที่แสนสดใส
ปราศจากปัญหาในทุกๆด้าน
ขอบคุณ 1.5 หมื่นคนติดตามทุกท่าน🙏🙏

เผาปลา กลางท่งกับบรรยากาศฝนตก
20/07/2024

เผาปลา กลางท่งกับบรรยากาศฝนตก

ฉันเพิ่งมียอดผู้ติดตามถึง 1.5 หมื่น คน! ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนฉันมาโดยตลอด ฉันคงมาถึงจุดนี้ไม่ได้หากไม่มีพวกคุณทุกคน 🙏🤗🎉
19/07/2024

ฉันเพิ่งมียอดผู้ติดตามถึง 1.5 หมื่น คน! ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนฉันมาโดยตลอด ฉันคงมาถึงจุดนี้ไม่ได้หากไม่มีพวกคุณทุกคน 🙏🤗🎉

บรรยากาศแบบนี้ละ สุดๆแล้ว กินข้าวท่ง
19/07/2024

บรรยากาศแบบนี้ละ สุดๆแล้ว กินข้าวท่ง

06/07/2024

กลับมาเยี่ยม สํานักเรียนที่เคยบวชเรียน

12/06/2024

ตำาบักหุ่ง!! แกล้มผักบุ้ง

05/06/2024
02/06/2024

ที่อยู่

Ubon Ratchathani
34340

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ DARKAผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์