Glass Coating : การเคลือบแก้ว
หลายท่านที่ซื้อรถยนต์ใหม่ หรืออยากทำให้รถยนต์คันเก่าของคุณกลับมามีสีสดใสเงาฉ่ำเหมือนใหม่ ทุกวันนี้เป็นเรื่อง่ายมากในการดูแลรักษาสีรถยนต์ของคุณให้เงาฉ่ำไปนานๆ เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยิน เคลือบแก้ว
เคลือบแก้ว (Glass Coating) คือ การเคลือบชั้นผิวของสีรถเปรียบเสมือนกระจกใสที่มีคุณสมบัติแข็งและสามารถเพิ่มความหนาของพื้นผิวสีตัวถังรถยนต์บนชั้นClear Lacquer จะมีระดับความหนาของชั้นเคลือบที่แตกต่างกัน มีตั้งแต่ระดับ 1-9 H โดยสารที่ใช้ในการทำเคลือบแก้วมักมีส่วนผสมของสาร Silica หรือ Polysilazane โดยเคลือบแก้วในท้องตลาดนั้นมีหลายระดับ หลายราคา หลายคุณภาพ สารที่ใช้ผสมที่แตกต่างกัน การบริการ ดังนั้นจึงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับเคลือบแก้ว ไม่ว่าจะเป็น ประโยชน์ที่ได้รับจากการเคลือบแก้ว เคลือบแก้ว ต่างจากการเคลือบสีธรรมดาอย่างไร ปัจจัยที่ใช้ในการตัดสินใจเลือกใช้ บริการร้าน เคลือบแก้ว
ประโยชน์ของ เคลือบแก้ว (Glass Coating)
คงความเงางามของสีรถด้วยชั้นเคลือบแก้ว ที่เปรียบเสมือนกระจกทำให้เกิดความเงางามของสีรถ
เคลือบแก้ว ช่วยทำหน้าที่เหมือนเกราะป้องกันแดด ซึ่งอาจมีผลให้สีของตัวถังรถยนต์ซีดหมอง ส่งผลให้สีรถจะคงทนและคงสภาพอยู่กับเราได้นานขึ้น
ป้องกันการเกิดรอยขนแมว รอยขีดข่วน ได้มากกว่าปกติ บางคนเข้าใจผิดว่าไปเคลือบมาแล้ว รถต้องไม่เป็นรอยเวลาโดนเฉี่ยว โดนสะเก็ดหิน หรือกิ่งไม้เกี่ยว มีโอกาสเป็นรอยได้ครับ แต่ยากกว่าปกติมากหน่อยเท่านั้นเองครับ ทางผู้ให้บริการถึงต้องมีเซอร์วิส 2 เดือน 6 เดือน แล้วแต่ให้เข้าไปเช็คสภาพทีนึงไงครับ
ช่วยลดการเกิดรอยด่างบนสีตัวถังรถยนต์ที่อาจเกิดจากคราบมูลนก ยางไม้ หรือ ยางมะตอย ทำให้สีตัวถังรถยนต์ยังคงความใสและเงางามอยู่อย่างต่อเนื่อง
คุณสมบัติลื่นต่อน้ำทำให้คราบสกปรกต่าง ๆ ที่เกาะติดอยู่บนตัวถังถูกชำระด้วยน้ำฝนอย่างง่ายดาย และสามารถรักษาคุณสมบัตินี้ได้ยาวนาน
เคลือบแก้ว ต่างจากการเคลือบสีธรรมดาอย่างไร
ถ้าจะพูดง่ายๆ คือ การเคลือบสีผิวรถระยะสั้นกับระยะยาว การเคลือบสีปกติเปรีบยเสมือนการเคลือบสีระยะสั้น และการเคลือบแก้วเปรียบเสมือนการเคลือบสีระยะยาว โดยการเคลือบสีทั้ง 2 แบบนั้น จะช่วยดูแลสีรถ และทำให้รถดูเงางานเหมือนกันแต่สิ่งที่แตกต่างคือ เคลือบแก้ว ( glass coating ) จะได้เรื่องความทนทานของชั้นผิวที่เคลือบมากกว่า มีคุณสมบัติการลื่นต่อน้ำยาวนานกว่า ส่งผลให้การเกิดคราบ รอยขนแมว รอยขีดข่วน มีโอกาสเกิดน้อยกว่า และอีกส่วนจะเป็นเรื่องความเงางานที่สูงกว่าเนื่องจากชั้น silica ที่เปรียบเสมือนชั้นกระจกทำให้สีดูเงาสดใสคงทนมากกว่า แต่ขอเสียของเคลือบแก้ว คงเป็นเรื่องราคาที่สูง ถ้าหากท่านต้องการแค่จะชะลอการเสื่อมของสีรถ ไม่ว่าจะเป็นเคลือบสีธรรมดา หรือเคลือบแก้วต่างก็ช่วยท่านได้