จุฑาพงศ์ ผู้สื่อข่าว

15/03/2024

https://www.facebook.com/share/v/BMKRERYMXtGKNb2H/?mibextid=w8EBqM

14/03/2024

https://www.facebook.com/share/p/eRFGGavV6wbvPU7B/?mibextid=Nif5oz

12/02/2024

เพจนี้ระงับใช้...เเล้วครับ

10/02/2024

มั่งมีศรีสุข เที่ยวให้สนุก...นะครับ

09/02/2024

08/02/2024

https://www.facebook.com/share/p/WoXxy6RwVx56XfpM/?mibextid=o3JX1P

#งดเผาลดฝุ่นคืนอากาศดีให้ลูกหลาน🙏🔥

ด้วยความห่วงใยจาก นางสาวพิศทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี ขอความร่วมมือ งดการเผาขยะมูลฝอย กิ่งไม้ และวัชพืชต่าง ๆ และการเผาในที่รกร้าง ซึ่งจะส่งผลกระทบสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ

☎️ พบเหตุเพลิงไหม้ เหตุสาธารณภัย แจ้ง 199 หรือโทร 045-245500
พร้อมระงับเหตุ ตลอด 24 ชม. งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครอุบลราชธานี

#เทศบาลนครอุบลราชธานี
#นายกพิศทยาไชยสงคราม

08/02/2024

08/02/2024

ขออนุญาต ประชาสัมพันธ์ เสื้อใส่ในเทศกาลตรุษจีนและงานฉลองสมโภช ศาลเจ้าพุทธก๋งอุบลราชธานี
ราคา ตัวละ200บาท สามารถซื้อไเ้ที่ ต.อะไหล่อุบล สาขาแจ้งสนิท
(ตรงข้ามสนง.ชลประทานที่7)

07/02/2024

https://fb.watch/q3iCDWoU4W/?mibextid=Nif5oz

05/02/2024

เมื่อเช้า ร้านที่เคยเดินผ่านตอนเป็น นร.ทุกเช้า...เนสกาแฟ ดั้งเดิมโบราณ

04/02/2024

ผู้เสียหายแห่ให้ข้อมูล "กัน จอมพลัง" เอาผิด "แก๊งทะลุถุง” ป่วนเมือง จี้พ่อแม่ผิดด้วยปล่อยลูกกวนเมือง - ไทยเสรีนิวส์

ผู้เสียหายแห่ให้ข้อมูล “กัน จอมพลัง” เอาผิด “แก๊งทะลุถุง” ป่วนเมือง จี้พ่อแม่ผิดด้วยปล่อยลูกกวนเมือง 4 กุม...

03/02/2024

สมัยก่อน เราทำข่าวยังใช้กล้องถ่ายรูป กว่าจะออกเป็นข่าวต้องทำหลายขั้นตอน
แต่บัดเดี๋ยวนี้ทุกอย่างดูง่ายดายรวดเร็ว ดุจกามนิตหนุ่ม ไว้มาดูด้วย โทรศัพท์มือถือ...
ยอมรับว่ามันเจ๋งจริงๆๆ...ไวทันโลกตัดต่อสวย...
ขอบใจที่ยังมีชีวิต ได้ใช้ได้เห็นได้ทำ...

03/02/2024

https://fb.watch/pZqNVEpIoD/?mibextid=Nif5oz

01/02/2024

https://fb.watch/pXIJPBHMLv/?mibextid=Nif5oz

01/02/2024

ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลางให้ยกฟ้อง
กรณีอนุญาตให้ผู้ประกอบการดำเนินการขุดเจาะ สำรวจ และผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ท้องทะเลอ่าวไทย

วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๗ ศาลปกครองกลางได้อ่านผลแห่งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีหมายเลขดำที่ อ.๖๖๔/๒๕๕๘ คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๐๕๔/๒๕๖๖ ระหว่างสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ ๑ กับพวกรวม ๓๐๙ คน (ผู้ฟ้องคดี) กับ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ที่ ๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ ๒ คณะรัฐมนตรี ที่ ๓ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่ ๔ เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ ๕ (ผู้ถูกฟ้องคดี)

คดีนี้ ผู้ฟ้องคดีทั้งสามร้อยเก้าคนฟ้องว่า คณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ และที่ ๕ ได้เห็นชอบโครงการขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยโดยที่ยังไม่ได้ปฏิบัติหรือดำเนินการให้ครบถ้วน ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมโดยไม่ได้ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นและไม่ผ่านความเห็นชอบหรือมีส่วนร่วมของชาวบ้านที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียก่อน และไม่ได้ให้องค์การอิสระซึ่งประกอบด้วยผู้แทนองค์การเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่จัดการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติหรือด้านสุขภาพให้ความเห็นประกอบ ทำให้สิ่งแวดล้อมในพื้นที่โดยรอบเกาะต่างๆ และบริเวณชุมชนเกิดมลพิษ ขอให้มีคำพิพากษา (๑) ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ มีคำสั่งหรือแนะนำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประกาศให้พื้นที่เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า และพื้นที่ใกล้เคียงในรัศมี ๑๒๐ ไมล์ทะเล เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม (๒) ให้ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ ๑ และที่ ๒ เพิกถอนประทานบัตรหรือร่วมกันเพิกถอนใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการขุดเจาะ สำรวจและผลิตปิโตรเลียมตามอำนาจหน้าที่ รวมทั้งระงับการดำเนินกิจกรรมใดๆ สำหรับโครงการขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย (๓) ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ และที่ ๕ ร่วมกันเพิกถอน EIA ของโครงการหรือกิจกรรมที่ได้รับความเห็นชอบจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๕ (๔) ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งห้าร่วมกันหรือใช้อำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานออกประกาศ หรือกำหนดให้โครงการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทุกประเภทที่มีลักษณะเดียวกันหรือใกล้เคียงกับโครงการพิพาท เป็นโครงการที่เข้าข่ายต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ระหว่างการพิจารณา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มีประกาศกระทรวงกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมตามคำขอในข้อ (๑) ต่อมาศาลปกครองกลางพิพากษายกฟ้อง ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด

ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า โครงการหรือกิจกรรมที่จะกระทำได้ต่อเมื่อได้มีการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชน และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียก่อน ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ นั้น จะต้องเป็นโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ และโดยที่รัฐธรรมนูญดังกล่าวมิได้ให้คำจำกัดความว่า โครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ไว้ แต่เมื่อพิจารณาจากคำจำกัดความตามพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ แล้ว เห็นว่า กิจการปิโตรเลียม หมายถึง การสำรวจ ผลิต เก็บรักษา ขนส่ง ขาย หรือจำหน่ายปิโตรเลียม โดยการสำรวจมีหมายความรวมถึงการเจาะปิโตรเลียม เป็นการดำเนินการค้นหาแหล่งสะสมน้ำมันดิบ หรือก๊าซธรรมชาติ ส่วนการผลิตปิโตรเลียมมีความหมายเพียงการดำเนินการเพื่อนำน้ำมันดิบ หรือก๊าซธรรมชาติขึ้นจากแหล่งสะสมดังกล่าว รวมตลอดถึงทำให้ปิโตรเลียมอยู่ในสภาพที่จะขายหรือจำหน่ายได้เท่านั้น โดยยังไม่มีการนำปิโตรเลียมเข้ากระบวนการกลั่นเพื่อนำไปประกอบอุตสาหกรรมเคมีปิโตรเลียมหรือประกอบอุตสาหกรรมโรงแยกก๊าซ โดยลักษณะของกิจการปิโตรเลียมจึงเป็นคนละขั้นตอนกับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี การดำเนินโครงการสัมปทานสำรวจ ขุดเจาะและผลิตปิโตรเลียมที่พิพาทจึงไม่ถือเป็นโครงการหรือกิจการ ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง แห่งรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ซึ่งสอดคล้องกับที่ต่อมาได้มีประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภท ขนาด และวิธีปฏิบัติสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนจะต้องทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๓ ลงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ ที่กำหนดให้เฉพาะแต่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต้น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นกลาง ที่ผลิตสารเคมี หรือใช้วัตถุดิบที่เป็นสารเคมีซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งเป็นโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ (EHIA) โดยไม่ได้รวมถึงการดำเนินโครงการหรือกิจการในขั้นตอนสำรวจ เจาะ และผลิตปิโตรเลียมแต่อย่างใด โครงการสำรวจขุดเจาะและผลิตปิโตรเลียมที่พิพาทคดีนี้จึงไม่อาจเทียบเคียงหรือถือเป็นอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่จะต้องจัดทำ EHIA และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย รวมทั้งให้องค์การอิสระให้ความเห็นประกอบตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ แต่เป็นโครงการหรือกิจการ ที่จะต้องจัดทำ EIA เท่านั้น ซึ่งโครงการพิพาทได้มีการจัดทำ EIA และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ตามมาตรา ๔๙ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ แล้ว

ส่วนที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ว่า การขุดเจาะปิโตรเลียมเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดมลพิษรั่วไหล นั้น เห็นว่า โดยสภาพโครงการหรือกิจการขุดเจาะนำทรัพยากรธรรมชาติใต้ดินขึ้นมาใช้ประโยชน์ ย่อมมีโอกาสก่อให้เกิดมลพิษรั่วไหลปะปนมากับชั้นดิน ชั้นหิน รวมทั้งทรัพยากรธรรมชาติที่นำขึ้นมาใช้ประโยชน์นั้นเอง ดังนั้น การพิจารณาว่าโครงการหรือกิจการใดเป็นโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพหรือไม่ จึงจำต้องพิจารณาจากกระบวนการหรือวิธีการตามมาตรฐานทั่วไปที่ใช้ในการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งเมื่อพิจารณาจากคำชี้แจงและพยานหลักฐานในสำนวนคดีแล้ว มาตรฐานและกระบวนการโดยทั่วไปของโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในบริเวณอ่าวไทยพิพาทไม่มีขั้นตอนที่จะปล่อยให้ปิโตรเลียมมีการสัมผัสหรือแพร่กระจายสู่ท้องทะเล แต่จะเป็นการดูด สูบ หรือส่งปิโตรเลียมจากแหล่งสะสมทางท่อส่งไปยังแท่นผลิตเพื่อทำการแยกน้ำและสารเจือปนออกจากปิโตรเลียม ซึ่งน้ำและโคลนที่เหลือจากการผลิตที่มีโลหะหนักเจือปนตามฟ้องจะถูกอัดกลับลงหลุม กรณีจึงยังไม่พอฟังว่าโครงการหรือกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมพิพาทอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ ที่ต้องจัดทำ EHIA และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียก่อน ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ โดยความเห็นชอบของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ให้สัมปทานโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในบริเวณอ่าวไทยพิพาทจึงชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนประเด็นว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ และที่ ๕ ละเลยต่อหน้าที่ในการพิจารณาเพิกถอน EIA โครงการพิพาท นั้น เห็นว่า อำนาจในการพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบ EIA เป็นอำนาจของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) มิได้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ และที่ ๕ และหากคณะกรรมการผู้ชำนาญ (คชก.) พิจารณามีมติเป็นอย่างใดแล้ว ก็ไม่มีกฎหมายให้อำนาจผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ หรือที่ ๕ สั่งเพิกถอนมติของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) อีกทั้ง เมื่อได้วินิจฉัยไว้ในประเด็นก่อนแล้วว่า โครงการพิพาทไม่เป็นโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพที่จะต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียก่อน ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ แล้ว และไม่ปรากฏเหตุความไม่ชอบด้วยกฎหมายในการจัดทำ EIA โครงการพิพาทประการอื่นอันจะเป็นเหตุให้ต้องเพิกถอนมติให้ความเห็นชอบอีก ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ และที่ ๕ จึงไม่มีกรณีที่จะถือเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ

ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง

*********************

01/02/2024

ผมแอบเชียร์รองอันดับ1
แต่มิสแกรนด์...เฉือนแต้มไปนิดเดียว..สมควรได้เพราะ เก่งสวย...สรุป สวยๆมากๆๆทุกคนปีนี้ดูดี้ดีนะ เจ้านาย