อุบลราชธานี อะไหล่ ปลีก ส่ง

อุบลราชธานี อะไหล่ ปลีก ส่ง For work Line. ติดต่อ ID koym2m โทร 0969038102

Koym2m ig koyalices 📚📈🎩 #วางแผนการเงิน #ไม่มีการชักชวนการลงทุนค่ะเป็นแค่แนวทาง #สื่อบทความ #วิเคราะห์การลงทุนด้วยตัวเองน๊า copy คอนเท้น ปรับ 30,000 ไม่ขายคลอส

หุ้นดอย family
01/09/2025

หุ้นดอย family

Didi Taihuttu คือผู้ประกอบการ นักเดินทาง และนักพูดชาวดัตช์วัย 47 ปี ผู้เคยมีชีวิตที่มั่นคงตามแบบแผนสังคมทั่วไป แต่แล้วในปี 2017 เขาได้ตัดสินใจครั้งสำคัญที่พลิกผันชีวิตของเขาไปตลอดกาล ด้วยการขายทรัพย์สินทุกอย่างที่เคยมีเพื่อเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ที่เรียบง่ายและไร้ขีดจำกัดไปพร้อมกับครอบครัว ซึ่งต่อมาได้เป็นที่รู้จักในนาม "Bitcoin Family"
จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของ Taihuttu เกิดขึ้นเมื่อเขาตัดสินใจขายบ้านของตัวเองในราคาประมาณ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และนำเงินทั้งหมดไปซื้อ Bitcoin (BTC) จำนวน 100 เหรียญในขณะนั้น ซึ่งเป็นการลงทุนที่เสี่ยงอย่างมากในยุคที่ตลาดคริปโตยังผันผวนสูง อย่างไรก็ตาม การลงทุนของเขาก็ประสบความสำเร็จเกินคาด เมื่อราคาของสกุลเงินดิจิทัลพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้การลงทุนของเขาเติบโตอย่างมหาศาล ณ ปัจจุบัน (1 กันยายน 2025) หากเขายังคงถือครอง Bitcoin จำนวน 100 เหรียญ มูลค่าการลงทุนของเขาจะอยู่ที่ประมาณ 6.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 230 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากเงินตั้งต้น
นอกจากนี้ เขายังได้คิดค้นวิธีการเก็บรักษาที่น่าสนใจเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ด้วยการซ่อน "Cold Wallets" หรือกระเป๋าเงินแบบออฟไลน์ที่ใช้เก็บ Bitcoin ไว้ในสี่ทวีปทั่วโลก
Didi Taihuttu เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของการยอมรับความเสี่ยงและความเชื่อมั่นในระยะยาว เขาได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความกล้าหาญและการมองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองข้ามสามารถนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของเงินทอง แต่เป็นเรื่องของอิสรภาพทางการเงินและการเปลี่ยนวิถีชีวิตไปสู่สิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าวัตถุ แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ Taihuttu ก็ยังคงแนะนำให้ผู้คนศึกษาเรื่องบล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซีอย่างรอบด้าน แต่ไม่จำเป็นต้องตัดสินใจขายทุกอย่างเพื่อลงทุนแบบที่เขาทำเสมอไป ซึ่งข้อคิดนี้ได้กลายเป็นบทเรียนสำคัญที่เตือนใจว่าการลงทุนทุกรูปแบบต้องอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจและความรอบคอบเสมอ
#ลองลงทุน #อิสรภาพทางการเงิน

แร่หายาก
01/09/2025

แร่หายาก

#วัสดุธาตุหายาก” (Rare Earth Elements: REEs)
#หุ้นธาตุหายาก

#เปิดโลกความรู้

RARE EARTH MATERIALS: #ผู้ชนะของปีนี้

( #หุ้นพวกนี้ราคาพุ่งขึ้นแรงมาก #ปีนี้ขึ้นเกิน 100% กันหมดแล้ว)

• $MP | MP Materials
👉 บริษัทเหมืองในอเมริกา เป็นเจ้าหลักในการผลิต “แม่เหล็กและออกไซด์จากแร่หายาก” เอาไปใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และกังหันลม

• $UAMY | United States Antimony
👉 ทำเหมืองแร่ แอนติโมนี (ใช้ในแบตเตอรี่, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, วัสดุกันไฟ) และยังมีพวกซีโอไลต์ด้วย

• $UUUU | Energy Fuels
👉 เดิมทีเป็นบริษัทผลิตยูเรเนียม แต่ตอนนี้กำลังสร้างธุรกิจ “โรงงานแปรรูป Rare Earth” ในอเมริกา

• $IDR | Idaho Strategic Resources
👉 บริษัทเล็กๆ ที่ทำเหมืองทองอยู่แล้ว และกำลังขยายไปหาแหล่งแร่หายากเพิ่ม

#ลูกค้าหลัก

🔹 1. Materials (MP)
• ลูกค้าหลัก:
• จีน (ผ่าน Shenghe Resources) → MP ขายแร่หายากจำนวนมากไปยังจีน (ประวัติเดิม ~90% รายได้ส่งไปจีน)
• Apple → สัญญา 500 ล้านเหรียญ ผลิตแม่เหล็ก NdFeB ใช้ใน iPhone และอุปกรณ์ Apple
• General Motors (GM) → ข้อตกลงผลิตแม่เหล็กสำหรับมอเตอร์ EV
• กองทัพสหรัฐฯ (Pentagon) → ซื้อแร่หายากเพื่อใช้ในอาวุธและระบบป้องกัน



🔹 2. States Antimony (UAMY)
• ลูกค้าหลัก:
• ภาคอุตสาหกรรมเคมีและโลหะผสม → ใช้ แอนติโมนี ทำวัสดุกันไฟ, โลหะผสมแบตเตอรี่, ยาง, พลาสติก
• กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DoD) → มีการพึ่งพาแอนติโมนีในอาวุธและกระสุน (UAMY เคยรับเงินสนับสนุนให้เพิ่มกำลังผลิตในสหรัฐ)
• อุตสาหกรรมพลังงาน → ใช้แอนติโมนีในแบตเตอรี่ชนิดเก่าและวัสดุพิเศษ



🔹 3. Fuels (UUUU)
• ลูกค้าหลัก:
• โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ → เป็นผู้ผลิตยูเรเนียมรายใหญ่ในสหรัฐ (ยูเรเนียมขายไปที่ผู้ผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ เช่น ConverDyn, Cameco)
• อุตสาหกรรม Rare Earth Processing → เริ่มสร้างโรงงานใน US และทำ MOU กับ POSCO International (เกาหลี) เพื่อทำแม่เหล็กหายาก
• รัฐบาลสหรัฐฯ → กระทรวงพลังงาน (DOE) สนับสนุนโครงการรีไซเคิล/ผลิต Rare Earth ในประเทศ



🔹 4. Strategic Resources (IDR)
• ลูกค้าหลัก:
• ตลาดทองคำ → ผู้ซื้อหลักคือ refineries และ bullion banks (ผู้ค้าทองรายใหญ่)
• โครงการสำรวจ Rare Earth → ยังไม่มีลูกค้าชัดเจน เพราะอยู่ในขั้น “สำรวจ/พัฒนา”



📌 #สรุป

→ หุ้นกลุ่ม “ #แร่หายาก” ปีนี้แรงมาก เพราะเกี่ยวข้องกับ รถ EV, กังหันลม, แบตเตอรี่, เทคโนโลยีใหม่ๆ เลยเป็นที่ต้องการสูง 🚀

• MP Materials → ลูกค้าหลัก: จีน, Apple, GM, Pentagon

• UAMY → ลูกค้าหลัก: อุตสาหกรรมเคมี, DoD

• UUUU → ลูกค้าหลัก: โรงไฟฟ้านิวเคลียร์, POSCO, รัฐบาลสหรัฐฯ

• IDR → ลูกค้าหลัก: ตลาดทองคำ (ยังไม่ขาย Rare Earth จริงจัง)

#หุ้นอเมริกา #หุ้นน่าสนใจ. #น่าสนใจมากๆค่ะ cr

🔹 Goldman Sachs ($GS)  #ระบุว่า จีนยัง ล้าหลังเทคโนโลยีการพิมพ์หิน (Lithography) กว่า 20 ปี เมื่อเทียบกับตะวันตก🔹  #ปัจจ...
01/09/2025

🔹 Goldman Sachs ($GS) #ระบุว่า จีนยัง ล้าหลังเทคโนโลยีการพิมพ์หิน (Lithography) กว่า 20 ปี เมื่อเทียบกับตะวันตก

🔹 #ปัจจัยหลักเพราะ ASML ($ASML) จากเนเธอร์แลนด์เป็น ผู้ผูกขาดเทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography)
• เครื่องจักรนี้คือหัวใจสำคัญในการผลิต ชิปขั้นสูงระดับ 3nm–2nm
• จีนยังไม่สามารถผลิตเองได้ และถูกสกัดไม่ให้ซื้อ

🔹 #ส่งผลให้บริษัทระดับโลกอย่าง TSMC ($TSM) และ Nvidia ($NVDA)
• ต้องจ่ายเงินซื้อเครื่องจาก ASML ทุกครั้งที่ผลิตชิป AI รุ่นใหม่
• ทำให้ ASML กลายเป็น “ด่านเก็บเงินของโลกชิป AI”

👉 #พูดง่าย ๆ: ใครอยากสร้างชิป AI ล้ำ ๆ = ต้องจ่ายผ่าน ASML ก่อนเสมอ

#ตอนนี้ ASML ($ASML) ยัง “ไร้คู่แข่งจริง ๆ” ในตลาด EUV ค่ะ 🚀

📌 #รายละเอียด:
• EUV Lithography → มีเพียง ASML จากเนเธอร์แลนด์ ที่ทำได้ในเชิงพาณิชย์

• Canon / Nikon (ญี่ปุ่น) → เคยแข่งในตลาด DUV (เก่า) แต่เลิกพัฒนา EUV มานานแล้ว

• จีน (SMEE + Huawei + สถาบันวิจัย) → กำลังพัฒนา EUV เอง (ใช้เทคโนโลยี LDP plasma) คาดว่าทดลองได้ราว 2025–2026 #แต่คุณภาพ/ความเสถียรยังตามหลังมาก

• #สหรัฐ / เกาหลีใต้ → #ยังไม่มีบริษัทใดที่ผลิต EUV ได้เอง มีเพียง Intel, Samsung, TSMC ที่ “ซื้อ” #เครื่องจาก ASML

👉 #ดังนั้นปัจจุบัน ASML คือ “ #ผู้ผูกขาดเบอร์เดียว” ของโลก
• ถ้าคู่แข่งจะขึ้นมาได้จริง #คงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5–10 ปี (หรือมากกว่า)

✅ #สรุป
• ปัจจุบัน ASML ยังคงเป็นผู้ผลิตเครื่อง EUV รายเดียวที่สามารถผลิตได้ในระดับการค้า
• จีน กำลังพัฒนาเครื่อง EUV ของตนเอง โดยมี SMEE เป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนา คาดว่าจะสามารถผลิตได้ในปี 2026
• Canon, Nikon, และ Huawei กำลังพัฒนาเทคโนโลยี EUV แต่ยังไม่สามารถผลิตได้ในระดับการค้า

01/09/2025

6 #วิธีคิดชัดเจนและรอบคอบ #ที่มือใหม่ควรยึดไว้ก่อนเริ่มลงทุน:



✅ 1. รู้เป้าหมายของตัวเอง
• คุณลงทุนเพื่ออะไร? เช่น เกษียณ, เงินเก็บ, สร้างรายได้เสริม
👉 เป้าหมายจะกำหนด “ระยะเวลา” และ “ความเสี่ยง” ที่คุณรับได้



✅ 2. เข้าใจความเสี่ยงของตัวเอง
• ทนได้แค่ไหนถ้าขาดทุน?
👉 ถ้าแค่เห็นกราฟแดงแล้วนอนไม่หลับ อาจเริ่มจากกองทุนหรือลงทุนแบบปันผล



✅ 3. รู้จักสิ่งที่ลงทุน
• เข้าใจกิจการ ผลประกอบการ อนาคต และความเสี่ยง
👉 อย่าลงเพราะคนอื่นบอกดี ต้องรู้ว่า “ทำไมคุณถึงเชื่อว่ามันดี”



✅ 4. เริ่มน้อยก่อน
• อย่าทุ่มหมดหน้าตักในครั้งแรก
👉 เรียนรู้ตลาด ฝึกวิเคราะห์ ค่อย ๆ เพิ่มสัดส่วนเมื่อมั่นใจ



✅ 5. มีแผนรับมือตอนตลาดแย่
• จะขาย จะถือ จะซื้อเพิ่ม — ต้องมีแผนก่อนที่มันจะเกิด
👉 การไม่มีแผน = การเตรียมตัวขาดทุน



✅ 6. ลงทุนด้วยเงินเย็นเท่านั้น
• เงินที่ไม่จำเป็นต้องใช้ใน 3-5 ปี
👉 ถ้าต้องถอนตอนหุ้นตก จะเสียหายทั้งเงินและใจ



💬 #สรุปสั้น:
“รู้เป้า รู้ตัว รู้ของ เริ่มน้อย มีแผน ใช้เงินเย็น” = มือใหม่ลงทุนอย่างมั่นใจและรอบคอบ

#ถามตัวเองว่าลงทุนวันนี้เพราะอะไร
#หุ้นต่างประเทศ #ก้อยสุภาวิณี

 #พอร์ตการลงทุนในหุ้นของ Harvard Management Company ณ ไตรมาส 2 ปี 2025  #โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) จำนวน 1.4 พ...
01/09/2025

#พอร์ตการลงทุนในหุ้นของ Harvard Management Company ณ ไตรมาส 2 ปี 2025 #โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) จำนวน 1.4 พันล้านดอลลาร์ #การจัดสรรพอร์ตการลงทุนประกอบด้วย:

- $MSFT: 21.59%
- $AMZN: 16.36%
- $BKNG: 12.70%
- $IBIT: 8.12%
- $META: 8.39%
- $GOOGL: 7.93%
- $NVDA: 7.27%
- $GLD: 7.07%
- SPDR: 10%
- Light & Wonder: 4.17%
- $LNW: 4.17%
- อื่น ๆ: 6.40%

Harvard Management Company (HMC) #คือบริษัทจัดการลงทุนของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) #ก่อตั้งขึ้นในปี 1974 ทำหน้าที่บริหาร Harvard Endowment Fund #ซึ่งเป็นกองทุนทรัพย์สินถาวรของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

📌 #รายละเอียดสำคัญ
• ทรัพย์สินที่บริหาร: กองทุนขนาดใหญ่มาก ระดับ หลักแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ใหญ่ที่สุดในโลกของสถาบันการศึกษา)
• วัตถุประสงค์: ลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว ใช้สนับสนุนการเรียนการสอน งานวิจัย ทุนการศึกษา และค่าใช้จ่ายของมหาวิทยาลัย
• ลักษณะการลงทุน: กระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ Private Equity กองทุนเฮดจ์ฟันด์ และโครงสร้างพื้นฐาน
• #ความพิเศษ:
• เคยเป็นที่รู้จักในฐานะผู้จัดการกองทุนที่ “ใหญ่และทรงอิทธิพล” ที่สุดในวงการการเงินการลงทุน
• #มักถูกจับตาเพราะแนวทางการลงทุนของ HMC อาจส่งผลต่อกระแสการลงทุนโลก
• เปลี่ยนกลยุทธ์หลายครั้ง เช่น จากการลงทุนตรง (Direct investing) มาสู่การจ้างผู้จัดการกองทุนภายนอก (Outsourced model)

#พูดง่าย ๆ คือ HMC = แขนการเงินของ Harvard ที่ทำหน้าที่ให้เงินกองทุนงอกเงยต่อเนื่องเพื่อเลี้ยงดูมหาวิทยาลัยในระยะยาว

ที่มา: Management Company Q2 2025 13F

01/09/2025

UPDATE: หลักฐานใหม่จากงานวิจัยของสแตนฟอร์ดชี้ AI กำลังทำลายอนาคตการจ้างงานของคนรุ่นใหม่ในสหรัฐฯ
งานวิจัยชิ้นใหม่จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) ได้นำเสนอ ‘หลักฐาน’ ซึ่งบ่งชี้ว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโอกาสในการทำงานของคนหนุ่มสาวในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในสายงานที่ทักษะพื้นฐานสามารถถูกทดแทนได้ง่ายด้วยเครื่องมือ Generative AI อย่าง ChatGPT
งานวิจัยซึ่งนำโดย อีริก บรินยอล์ฟสัน (Erik Brynjolfsson) นักเศรษฐศาสตร์จากสแตนฟอร์ด ได้วิเคราะห์ข้อมูลเงินเดือนที่ไม่เปิดเผยตัวตนของพนักงานหลายล้านคนจากบริษัทหลายหมื่นแห่ง โดยใช้ข้อมูลจากบริษัท ADP ซึ่งเป็นผู้ให้บริการประมวลผลเงินเดือน ซึ่งทำให้ได้ภาพที่ละเอียดและแม่นยำกว่าการสำรวจทั่วไป และช่วยแยกผลกระทบของ AI ออกจากปัจจัยอื่นๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ งานวิจัยดังกล่าวยังไม่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ (peer review)
ข้อค้นพบที่สำคัญที่สุดคือ นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2022 เป็นต้นมา การจ้างงานโดยรวมในอาชีพที่เสี่ยงต่อ AI ลดลง 13% โดยการจ้างงานในสายอาชีพที่ AI สามารถทำงานแทนได้โดยตรง เช่น นักพัฒนาซอฟต์แวร์, พนักงานต้อนรับ, นักแปล และเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า ได้ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด และที่น่ากังวลคือการชะลอตัวนี้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงที่สุดในกลุ่มแรงงานอายุน้อย
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือในสายงานนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยพบว่าจำนวนการจ้างงานของกลุ่มคนอายุ 22-25 ปี ในเดือนกรกฎาคมล่าสุดนั้น ลดลงเกือบ 20% เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดในช่วงปลายปี 2022 ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับนักศึกษาจำนวนมากที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์
ในทางตรงกันข้าม การจ้างงานในกลุ่มนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีอายุมากกว่ากลับไม่ได้รับผลกระทบในลักษณะเดียวกัน โดยกลุ่มอายุ 26-30 ปีมีจำนวนการจ้างงานที่ค่อนข้างคงที่ ขณะที่กลุ่มที่มีอายุมากกว่านั้นยังคงมีการเติบโตของการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผลกระทบจาก AI นั้นเกิดขึ้นอย่างไม่เท่าเทียมกันในแต่ละช่วงวัย
นักวิจัยสันนิษฐานว่า สาเหตุที่แรงงานที่มีประสบการณ์สูงกว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่า เป็นเพราะพวกเขามี ‘ทักษะ’ ที่ AI ยังไม่สามารถทดแทนได้ง่าย โดยเฉพาะทักษะด้านสังคม (Soft Skills) ที่สั่งสมมาจากการทำงานเป็นเวลาหลายปี เช่น ความสามารถในการทำงานร่วมกับทีมที่ไม่ใช่สายเทคนิค หรือความเข้าใจในความต้องการเชิงธุรกิจขององค์กร
ปรากฏการณ์นี้นำไปสู่คำถามที่ย้อนแย้งและน่ากังวลสำหรับตลาดแรงงานในอนาคต นั่นคือหากตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นซึ่งเป็นบันไดขั้นแรกในการเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์เหล่านี้ กำลังจะถูก AI เข้ามาทำงานแทนที่ทั้งหมด แล้วคนรุ่นใหม่จะพัฒนาทักษะที่จำเป็นเพื่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในอนาคตได้อย่างไร
บรินยอล์ฟสัน ให้ความเห็นว่า “ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องมีกระบวนการฝึกฝนบุคลากรอย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจนมากขึ้น แทนที่จะหวังให้พวกเขาเรียนรู้และค้นพบสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยตนเองเหมือนในอดีต” ซึ่งบ่งชี้ถึงความจำเป็นในการปฏิรูปรูปแบบการเรียนรู้และการฝึกงานในยุค AI
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยชิ้นนี้ไม่ได้มีเพียงแต่ข่าวร้ายเพียงด้านเดียว แต่ยังได้ค้นพบอีกด้านหนึ่งของเหรียญที่น่าสนใจ นั่นคือในสายงานที่ AI ทำหน้าที่เป็น ‘ผู้ช่วย’ หรือ ‘ส่วนเสริม’ (Augment) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์ แทนที่จะเป็นการเข้ามาทดแทนโดยตรง
ในสายงานเหล่านี้ เช่น การที่ AI ช่วยบุคลากรทางการแพทย์วินิจฉัยโรคได้เร็วและแม่นยำขึ้น กลับพบว่าการจ้างงานในกลุ่มคนรุ่นใหม่มีการเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยเสียอีก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอีกหนึ่งเส้นทางที่เป็นไปได้ของ AI ในตลาดแรงงาน
บรินยอล์ฟสัน สรุปว่า AI นั้นมีสองเส้นทางที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เส้นทางแรกคือการทำงานอัตโนมัติ (Automation) ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแต่ไม่ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ และมักจะนำไปสู่การลดการจ้างงาน ส่วนอีกเส้นทางคือการเสริมศักยภาพ (Augmentation) ซึ่งช่วยขยายขีดความสามารถของมนุษย์ และนำไปสู่การจ้างงานที่เพิ่มขึ้น
"ผมดีใจที่ได้เห็นในข้อมูลว่าแนวทางการเสริมศักยภาพนี้สามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนและนำไปสู่การจ้างงานที่มากขึ้นได้จริง" บรินยอล์ฟสัน กล่าว ซึ่งชี้ให้เห็นถึงโอกาสใหม่ที่เป็นไปได้สำหรับคนรุ่นใหม่ในยุค AI
ภาพ: Maskot / Getty Images
อ้างอิง:
https://www.wsj.com/economy/jobs/ai-entry-level-job-impact-5c687c84
https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-08-26/ai-makes-it-harder-for-entry-level-coders-to-find-jobs-study-says

01/09/2025

อาจจะเหงาๆหน่อยตลาดหุ้นปิดต่อกัน3วัน บางคนบ่นบอกเหมือน3เดือน 😆 #มีคนบ่นค่ะ🤣

มือใหม่ อ่านก่อนลงทุน ค่ะ อย่าซื้อตามใคร อย่าซื้อตามกูรู   เรียนรู้งบการเงินด้วยตัวเอง เพราะความเสี่ยงของคนเราแตกต่างกัน...
01/09/2025

มือใหม่ อ่านก่อนลงทุน ค่ะ อย่าซื้อตามใคร อย่าซื้อตามกูรู เรียนรู้งบการเงินด้วยตัวเอง เพราะความเสี่ยงของคนเราแตกต่างกัน การเรียนรู้ด้วยตัวเองจึงสำคัญที่สุด สังเกตุว่าการขอหุ้นใครเขาไม่ค่อยบอกเพราะถ้าบอกไป อนาคต หุ้นร่วง ลงแรง คนบอกโดนด่าแน่นอน ! ฉะนั้นอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่เรา100%

“อย่าพึ่งลงทุนถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้” #มือใหม่ต้องอ่าน


การซื้อหุ้น #เหมือนกับการทำธุรกิจ เพราะเมื่อคุณซื้อหุ้นของบริษัทหนึ่ง เท่ากับคุณ #เป็นเจ้าของร่วม ในบริษัทนั้น #ไม่ว่าจะน้อยหรือมาก และสิ่งที่ควรรู้คือ 👇

• หุ้น = การเป็นเจ้าของธุรกิจ → ไม่ใช่แค่กระดาษหรือกราฟราคา
• เวลาซื้อหุ้น เท่ากับคุณกำลัง ลงทุนในธุรกิจ ที่มีสินค้า บริการ ลูกค้า รายได้ กำไร และความเสี่ยงจริง ๆ
• นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจะคิดเหมือนเป็น เจ้าของกิจการ ไม่ใช่แค่ซื้อมา-ขายไป

#มุมที่เหมือนทำธุรกิจ

1. ต้องเข้าใจงบการเงิน → เหมือนเจ้าของร้านต้องรู้กำไร/ขาดทุน
2. ต้องศึกษาคู่แข่ง → ดูว่าธุรกิจเราจะอยู่รอดและเติบโตได้ไหม
3. ต้องมีกลยุทธ์ → บริษัทจะโตได้ยังไง เราจะเลือกลงทุนต่อหรือถอนทุน
4. ต้องคิดระยะยาว → ธุรกิจจริงไม่ได้รวยข้ามคืน หุ้นก็เช่นกัน
5. ต้องรับผิดชอบความเสี่ยง → ถ้าธุรกิจพลาด เจ้าของคือคนที่เจ็บ

#สิ่งที่ต้องรู้ก่อนลงทุนหุ้น
(ลงทุนในสิ่งสิ่งที่เรารู้ เท่านั้น) /ระยะยาว /ระยะสั้น ต้องรู้ว่าเป้าตัวเองคือแบบไหน

1. เป้าหมาย – ความเสี่ยง – ระยะเวลา (พื้นฐานส่วนตัวก่อนลงทุน)

2. งบการเงิน (Financials)
• รายได้ กำไร หนี้สิน กระแสเงินสด
• เทียบย้อนหลังอย่างน้อย 3–5 ปี

3. กลยุทธ์ของบริษัท (Strategy)
• บริษัทแข่งขันด้วยอะไร (ราคา เทคโนโลยี แบรนด์)
• มีจุดแข็ง/จุดอ่อนตรงไหน

4. คู่แข่งในอุตสาหกรรม (Competition)
• คู่แข่งรายใหญ่คือใคร
• บริษัทได้เปรียบหรือเสียเปรียบตรงไหน

5. แผนในอดีต – ปัจจุบัน – อนาคต (Track record & Vision)
• อดีต: เคยทำสำเร็จจริงไหม? มีประวัติการเติบโตอย่างไร
• ปัจจุบัน: บริษัทกำลังอยู่ในช่วงไหน (เติบโต, อิ่มตัว, ฟื้นฟู)
• อนาคต: มีโครงการ/นวัตกรรม/ตลาดใหม่รองรับการเติบโตหรือไม่

6. สภาพคล่อง – ภาษี – ค่าธรรมเนียม (สิ่งที่นักลงทุนมักมองข้าม)

7. วินัยการลงทุนและจิตวิทยา – อย่าให้ความกลัว/ความโลภครอบงำ

#อย่าลงทุนตามกระแสคนอื่น
1. การลงทุนไม่ใช่แฟชั่น
• หุ้นที่ทุกคนพูดถึง หรือกระแสโซเชียลอาจไม่เหมาะกับเป้าหมายของคุณ
• การตามคนอื่นโดยไม่เข้าใจธุรกิจ = เหมือนเล่นการพนัน

2. รู้จักตัวเองก่อนลงทุน (หาความรู้)
• เข้าใจเป้าหมายการลงทุน, ระดับความเสี่ยง, ระยะเวลา
• ลงทุนต้องสอดคล้องกับ เงินสำรองและชีวิตจริงของคุณ



#วินัยการลงทุน + DCA (Dollar-Cost Averaging)

1. วินัยคือกุญแจสำคัญ
• ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ไม่หวั่นไหวกับตลาดขึ้นลง
• ไม่ขายหุ้นเพราะข่าวลือหรือความกลัวชั่วคราว

2. DCA คือการลงทุนแบบแบ่งเป็นงวด
• ลงทุนเป็นประจำ เช่น ทุกเดือน หรือทุกไตรมาส
• ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
• เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่อยากจับจังหวะตลาด

3. ผลระยะยาว
• การลงทุนสม่ำเสมอ + เข้าใจธุรกิจ = โอกาสสร้างผลตอบแทนสูงแบบปลอดภัย
• ลดความเครียดและตัดอารมณ์ออกจากการตัดสินใจ

#การซื้อหุ้น = #การร่วมทำธุรกิจกับบริษัทนั้น ถ้าไม่เข้าใจธุรกิจ ก็ไม่ต่างจากลงทุนแบบเสี่ยงดวงค่ะ

#บทความการลงทุน #หุ้นอเมริกา #ก้อยสุภาวิณี

🚀 ด่วน! จีนเปิดตัว  #ชิปอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 6G สากลตัวแรกของโลก ที่สามารถเร่งประสิทธิภาพได้ถึง 5,000 เท่า เมื่อเทียบ...
01/09/2025

🚀 ด่วน! จีนเปิดตัว #ชิปอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 6G สากลตัวแรกของโลก ที่สามารถเร่งประสิทธิภาพได้ถึง 5,000 เท่า เมื่อเทียบกับความเร็วอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชนบทของสหรัฐฯ

📰 #รายละเอียดข่าว
• จีนเปิดตัว ชิป 6G สากล (universal 6G chip) สามารถทำงานบนทุกคลื่นความถี่ รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วโลก โดยอ้างความสามารถสูงสุดถึง 5,000 เท่า เมื่อเทียบกับความเร็วอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชนบทของสหรัฐฯ 
• ชิปนี้เป็นผลผลิตจากการวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ของจีนที่มุ่งแข่งขันเพื่อควบคุมมาตรฐานเทคโนโลยีในระดับโลก ซึ่งทางจีนตั้งเป้าจะกำหนดทิศทางของเทคโนโลยี 6G ได้ก่อนประเทศอื่น  
• แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของจีนที่ต้องการสร้างความอิสระทางเทคโนโลยี และลดการพึ่งพาชิ้นส่วนจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ หรือญี่ปุ่น  



🌐 #พื้นที่เทคโนโลยี 6G ของจีน – #ภาพรวมยุทธศาสตร์
• แม้จะยังไม่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์จริงจนถึงประมาณปี 2030 แต่จีนได้เริ่มต้นพัฒนาการทดสอบระบบจริง (field test network) แล้ว ทั้งบนพื้นดินและผ่านดาวเทียม  
• ตัวอย่างเช่น Purple Mountain Laboratories ได้เปิดตัวเครือข่ายทดสอบ 6G ที่รวมเทคโนโลยีการสื่อสารและ AI เข้าด้วยกัน พร้อมทดลองใช้โดรนในการทดสอบประสิทธิภาพ 
• ระบบ cloud-native 6G ที่ร่วมพัฒนาโดย China Mobile และ ZGC Institute สามารถรองรับผู้ใช้ได้ระดับหลายกิกะบิตต่อวินาที พร้อมยืนยันเทคโนโลยีใหม่กว่า 10 รายการผ่านเครือข่ายที่มีหน่วยทดสอบ 10 sites 
• ตั้งแต่ปี 2020 จีนเริ่มทดลองเทคโนโลยี 6G ในอวกาศด้วยการยิงดาวเทียมในภารกิจทดสอบคลื่น terahertz ที่ถือเป็นพื้นฐานของ 6G  



📌 💡 #ข้อสังเกตเสริม
• แม้เปิดตัวชิป 6G แล้ว ความคาดหวังคือจะมีการใช้ในเชิงพาณิชย์จริงภายในปี 2030, โดยการพัฒนาแบบ field-test และโครงข่ายร่วมกับผู้ให้บริการต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนเตรียมพร้อม  
• #อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจดิจิทัลใหม่หมายถึงการใช้งานที่รองรับ AI, IoT, เมืองอัจฉริยะ และภาคการแพทย์ทางไกลอย่างมีเสถียรภาพและ latency ต่ำมาก (เป้าหมาย ~0.1 ms) #นั่นคือเป้าหมายปี 2030 ทั่วโลก   

✅ #สรุป

#จีนเพิ่งเปิดตัว ชิป 6G สากลตัวแรก ซึ่งมีจุดเด่นคือรองรับทุกคลื่นความถี่ ความเร็วสูงสุดถึง 5,000 เท่าของสัญญาณอินเทอร์เน็ตในชนบทของสหรัฐฯ โดยเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชิงมาตรฐานโลก และพัฒนาระบบ 6G ให้เกิดจริงภายในปี 2030

.

ที่อยู่

อ. เมืองอุบล
Ubon Ratchathani
34000

เบอร์โทรศัพท์

+66969038102

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ อุบลราชธานี อะไหล่ ปลีก ส่งผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง อุบลราชธานี อะไหล่ ปลีก ส่ง:

แชร์