New Content-นิวคอนเทนต์

  • Home
  • New Content-นิวคอนเทนต์

New Content-นิวคอนเทนต์ NEW CONTENT : สื่อกลางที่นำเสนอเนื้อหาอย่างเป็นกลาง

13/07/2025

เปิดก่อนได้ปูด วินาที นทท.ไทยซัดหน้าทหารเขมรก่อนวิ่งไปตั้งหลักปราสาทตาเมือนธม

#กัมพูชา #ปราสาทตาเมือนธม

นายกฯอิ๊งค์ เข้าสภาฯ โต้ “อนุทิน” ใส่สีตีไข่ ปม “สีจิ้นผิง” ท้วง คาสิโน ทำนักท่องเที่ยวจีน ลด90% ถาม ออกไปไม่นาน มท.1 ลื...
09/07/2025

นายกฯอิ๊งค์ เข้าสภาฯ โต้ “อนุทิน” ใส่สีตีไข่ ปม “สีจิ้นผิง” ท้วง คาสิโน ทำนักท่องเที่ยวจีน ลด90% ถาม ออกไปไม่นาน มท.1 ลืมซะแล้ว เป็นเพราะเรื่องความปลอดภัย แจงไม่ปิดประตูฟังความเห็นผู้นำจีน เผย ภูมิใจไทย-มหาดไทย ติดปัญหาหลายเรื่อง ลั่น แค่จะตัดไฟต้องสั่งแล้วสั่งอีก
นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยออกมาโพสต์ว่าจีนมีการกดดันรัฐบาลไทยให้ยุติเรื่องคาสิโนว่าตอนนั้นได้ไปประชุมช่วงที่เดินทางเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ ซึ่งนายสีจิ้นผิง ประธานาธิปดีจีนได้มีคำแนะนำให้กับประเทศต่าง ๆ และได้พูดกับตนในเรื่องของคาสิโน และเราได้อธิบายให้ฟังว่า ไทยเน้นเรื่องของการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่เรื่องคาสิโน ซึ่งคาสิโนจะมีอยู่แค่10 เปอร์เซ็น และเราเห็นว่าสิงคโปร์รวมถึงมาเก๊าของจีนทำแล้วประสบความสำเร็จและทุกประเทศที่อยู่ใกล้กัน ถ้ามีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เหมือนกัน ก็ต้องเป็นคู่แข่งกันอยู่แล้ว แต่เวลาที่ถูกนำมาเล่าเรื่องอีกรูปแบบหนึ่งเรื่องนี้ก็ถูกใส่สีตีไข่กันไป จริงๆเป็นเพียงคำแนะนำและเราได้ถามทางจีนด้วยซ้ำว่า นายสีจิ้นผิงมีคำแนะนำอย่างไร เรื่องเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวของประเทศจีนเราก็พร้อมรับฟังอยู่แล้ว

เมื่อถามว่านายอนุทินได้พูดชัดเจนว่านายสีจิ้นผิงได้เตือนภัยถึง3ครั้ง ถ้าหากไทยยังไม่ยอมถอย จะมีการปรับมาตรการ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาน้อยลงถึง90เปอร์เซ็น นางสาวแพรทองธาร ยิ้ม ก่อนจะร้องว่า "อ้าว" ท่านอดีต มท.1ออกไปได้ไม่นานลืมซะแล้ว ว่าเหตุผลที่นักท่องเที่ยวจีนเขาไม่มาเมืองไทยเพราะเรื่องความปลอดภัยหรือเปล่า เป็นเรื่องของความปลอดภัยที่เขาไม่เข้ามาและจริงๆแล้วตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงในช่วงโลวซีซั่นประมาณ30เปอร์เซ็น ซึ่งตอนนี้เรามีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเติมจากทางยุโรป ที่เข้ามาเติมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งยอมรับว่านักท่องเที่ยวจีนลดลงจริง เนื่องจากมาตรการให้ท่องเที่ยวภายในประทศของเขาด้วย และที่จริงมันมีปัญหาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องคอลเซ็นเตอร์ เรื่องการตัดน้ำตัดไฟที่จะพอสั่งให้ตัดก็ตักยาก สั่งแล้วต้องสั่งอีก อันนี้ไม่ทราบว่าได้จดหรือเปล่า แต่ความจริงไม่ใช่แบบนั้น

เมื่อถามว่าจริงหรือไม่ที่นายสีจิ้นผิงบอกว่า หากไทยยังไม่ยกเลิกนโยบายนี้จะมีการปรับเรื่องนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาให้ประเทศไทย นางสาวแพรทองธารกล่าวว่า นายสีจิ้นผิงพูดบอกก่อนที่เราจะอธิบายว่าท่านไม่ได้สนับสนุนเรื่องคาสิโน และบอกว่าถ้าประเทศไหนมีคาสิโนก็จะดูว่าคนจีนที่ไปจะเป็นอย่างไร ไม่ได้บอกว่าจะมีการปรับมาตรการ ถ้าจะเข้าประเทศๆไหนที่มีคาสิโนก็จะบอกว่าต้องทำตัวอย่างไร ซึ่งเราจึงได้ถามว่าจีนมีข้อกำหนดอย่างไร เราต้องทำอะไรหรือไม่ ซึ่งเราไม่ได้ปิดประตูเรารับคำแนะนำอยู่แล้ว เวลาเราไปทั่วโลก เขามีนโยบายอะไรเรื่องการท่องเที่ยวที่เป็นประโยชน์ เราก็คุยกันว่ามีอะไรที่เราจะเอื้อเฟื้อกันได้ มีอะไรที่จะปรับกันได้ เราขอคุยล่วงหน้าก่อน และเราได้อธิบายต่อว่า เราจะทำเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เหมือนที่สิงคโปรและมาเก๊าทำ ที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจำนวนมาก นี่คือขั้นตอนของการพูด แต่พอเอามาเขียนทั้งหมดมันก็ดูใส่สีกันเข้าไป ซึ่งที่จริงแล้วมันไม่ใช่เพราะเรื่องของการคุยกับต่างประเทศก็มีการบันทึกไว้อยู่

เมื่อถามว่าจะถอนกฎหมายหรือแค่ชะลอออกไปก่อนแล้วค่อยนำเข้ามาใหม่ นางสาวแพรทองธาร กล่าวว่าก็ตามมติของทางสภาว่าอย่างไรก็อย่างนั้น บางเรื่องขออนุญาติที่จะไม่ตอบ เพราะว่าไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จากที่วันนี้ได้พูดถึงเรื่องของประเทศจีนเพราะตนเป็นคนที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่เอง

เมื่อถามว่าได้ตั้งของสังเกตหรือไม่ว่าทำไมนายอนุทินถึงได้ออกมาพูดในเรื่องนี้ นางสาวแพรทองธารกล่าวว่า ก็ให้พี่น้องประชาชนสังเกตได้เลย เพราะเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ก่อนหน้านี้ที่เคยคุยกันก็ทราบอยู่แล้วว่ามีเรื่องติดขัดกับพรรคภูมิใจไทย และเคยได้คุยกันไม่อยากให้เป็นกฎหมายพิเศษ กฎหมายที่ทำขึ้นใหม่ อยากให้เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ไม่มีคาสิโน ซึ่งและใครจะมาลงเงินในการทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตอนนั้นกระทรวงมหาดไทยอาจจะมีติดขัดอะไรหรือไม่ เพราะสามารถออกกฎหมายเป็นพ.ร.บ.การพนันได้ แยกออกไป

ส่วนเหตุผลที่นายกรัฐมนตรี เข้ามารัฐสภาวันนี้เพื่อมาคุมเสียงรัฐบาลที่ปริ่มน้ำใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ตนเป็น รัฐมนตรีคุมเสียง สส. ไม่ได้

ภาพ : มู่หลง
ข่าว : ปันอิน

#แพทองธารชินวัตร #การเมือง #กาสิโน #อนุทิน

กรมการแพทย์แผนไทยฯ โชว์ 2 นวัตกรรมสมุนไพร ช่วยบำบัดอาการติดบุหรี่ – ยาบ้า หลังคว้ารางวัลระดับโลก                        ...
04/07/2025

กรมการแพทย์แผนไทยฯ โชว์ 2 นวัตกรรมสมุนไพร ช่วยบำบัดอาการติดบุหรี่ – ยาบ้า หลังคว้ารางวัลระดับโลก

ในงาน “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เผย 2 นวัตกรรมสมุนไพร ช่วยบำบัดอาการติดบุหรี่ – ยาบ้าที่คว้ารางวัลระดับโลก พร้อมโชว์นวัตกรรมทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โซนนวัตกรรม ภายในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22

ดร.ภก.ปรีชา หนูทิม ผู้อำนวยการกองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร เปิดเผยว่า ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 22 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้นำนวัตกรรมทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รวมถึงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรยกระดับภูมิปัญญาไทยมาจัดแสดงในโซนนวัตกรรม ประกอบด้วย นวัตกรรมยาเม็ดแตกตัวเร็ว ในช่องปากจากกระท่อมบำบัดผู้ติดบุหรี่ นวัตกรรมยาอดยาบ้าจากกระท่อม ชนิดเม็ดฟู่ และนวัตกรรมชุดยาดมนวตราตามธาตุเจ้าเรือน ภายในโซนดังกล่าวนำภูมิปัญญาไทยมาต่อยอดโดยการผสมผสานและพิสูจน์ด้วยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ พร้อมพัฒนานวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีทางเภสัชกรรม ตอบโจทย์ความต้องการในทุกกลุ่มโรค ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของ ผู้ป่วย แต่เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมสมุนไพร ลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ เพิ่มทางเลือกให้กับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมกิจกรรมจากเครือข่าย 14 หน่วยงาน

ด้าน ภญ.ธีราธร สังหร่าย เภสัชกรชำนาญการ กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร กล่าวว่า สำหรับยาเม็ดแตกตัวเร็วในช่องปากจากกระท่อมเลิกบุหรี่ ได้รับรางวัล platinum award จาก Thailand Research Expo 2025 award และได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดในมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 โดยยานี้สามารถบำบัดผู้เสพติดบุหรี่ ปัญหาการเสพติดบุหรี่มีผลกระทบต่อสุขภาพผู้สูบ คนในครอบครัว และสังคม โดยค้นจากตำรับยาแผนไทยที่มีการใช้มากกว่าหนึ่งร้อยปี คือ ตำรับยาเหลืองกระท่อม จากเดิมเคยใช้กับผู้ที่ติดฝิ่นและได้ผลดี เป็นตำรับยาโบราณ จึงนำมาพัฒนาด้วยเทคโนโลยีการสกัดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอยู่ในรูปแบบยาเม็ดสามารถแตกตัวเร็วในช่องปาก โดยไม่ต้องดื่มน้ำ ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ราคาถูก ลดจำนวนมวนบุหรี่ในการสูบได้อย่างมีนัยสำคัญภายในสัปดาห์แรกของการใช้ยา ภายในสี่สัปดาห์สามารถลดจำนวนผู้สูบได้ถึง ร้อยละ 83 ผลการศึกษาในระดับโมเลกุล พบว่า ตำรับยาดังกล่าวออกฤทธิ์ต่อตัวรับ kappa opioid receptor และ nicotinic acetylcholine receptor มีความสัมพันธ์ในการลดอาการถอนบุหรี่ ปลอดภัยต่อเซลล์ประสาทของมนุษย์

นอกจากนี้ นวัตกรรมยาอดยาบ้าจากกระท่อม ชนิดเม็ดฟู่ ยังได้รับรางวัลเหรียญทองในเวทีระดับนานาชาติ The 18th International Invention and Innovation Show: INTARG 2025 ณ เมืองคาโตไวซ์ สาธารณรัฐโปแลนด์ พร้อมรางวัล special prize on stage จาก Poland Chamber of Patent Lawyer Award เพื่อให้บริการบำบัดผู้ติดยาเสพติดในระบบบริการสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผู้เข้ารับบริการไม่น้อยกว่า 2,800 ราย และสามารถลดอาการถอนยาเสพติดในผู้ป่วยได้ภายใน 30 วัน เกือบร้อยละ 90 ส่วนนวัตกรรมชุดยาดมนวตราตามธาตุเจ้าเรือน ตอบโจทย์สังคมปัจจุบันที่มีความนิยมการใช้ยาดมสมุนไพรอย่างมาก โดยนำดอกไม้ไทย 9 ชนิดผสมกับศาสตร์ธาตุเจ้าเรือน สร้างสรรค์ยาดม สูตรเฉพาะตนในทุกกลุ่มธาตุ เพิ่มความสมดุลของธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ พลาดไม่ได้กับแตงโมปลาแห้งเมนูคลายร้อนสมัยกรุงศรีอยุธยาพัฒนาในรูปแบบเครื่องดื่มม็อคเทลไร้แอลกอฮอล์ ผสมผสานความเป็นวิทยาศาสตร์ด้วยเอนแคปซูเลชันแตงโม อุดมด้วยไลโคปีน วิตามินที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งสามารถร่วมปรุงได้ในโซนดังกล่าว

ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจ ร่วมงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22 “ภูมิปัญญาไทย ซอฟท์เพาเวอร์ไทย สร้างเศรษฐกิจไทย” 2 – 6 กรกฎาคม 2568 ฮอลล์ 11 – 12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เข้าร่วมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2591 7007 หนึ่งปีมีครั้งเดียว มาเรียนรู้ ทดลอง ใช้ และชิมสมุนไพรไทยไปด้วยกัน

"แพทองธาร" มอบบัตรประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าที่ได้รับสัญชาติไทย ด้านตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ขอบคุณรัฐบาลและกระทรวงมหาด...
29/06/2025

"แพทองธาร" มอบบัตรประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าที่ได้รับสัญชาติไทย ด้านตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ขอบคุณรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยเร่งแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลตามกฎหมายพร้อมย้ำ "ร่วมพัฒนาชาติบ้านเมืองในฐานะคนไทย"
วันนี้ (28 มิ.ย. 68) เวลา 13.20 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบปะกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ณโรงเรียนแม่จันวิทยาคม อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ เจ้าพนักงานปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 67 เพราะการไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนทำให้ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก เข้าถึงสวัสดิการรัฐไม่ได้ รัฐบาลจึงมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการย่นระยะเวลาการพิจารณากลุ่มเป้าหมายเหลือเพียง 5 วัน จากอดีตต้องรอกันนานมาก ๆ และในวันนี้ พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติก็สามารถเข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้อย่างทั่วถึง เดินทางไปไหนมาไหนก็รู้สึกปลอดภัย ต่อไปนี้ทุกคนจะเป็นคนไทยอย่างเสมอภาค สมศักดิ์ศรี สามารถใช้ชีวิตได้อย่างภาคภูมิ
นายชรินทร์ ทองสุข กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 67 กำหนดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ลดขั้นตอน และระยะเวลาการดำเนินงาน โดยกำหนดให้มีการอนุมัติสัญชาติไทยจากเดิม 180 วัน คงเหลือ 5 วัน และอนุมัติสถานะคนต่างต้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย จากเดิม 270 วัน คงเหลือ 5 วัน ซึ่งจังหวัดเชียงราย ปรากฏบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยทั้ง 18 อำเภอ 137,376 คน ได้รับอนุมัติสัญชาติไทยแล้ว 10,058 คน ได้รับสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว 667 คน คงเหลือบุคคลที่ต้องดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 67 จำนวน 95,391 คน แยกเป็น การขอลงรายการสัญชาติไทย 19,613 คน และขอสถานะต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย 75,778 คน
ด้าน น.ส.ฝน เว้ยเจอ ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์เผ่าอาข่า กล่าวว่า ขอกราบขอบพระคุณท่านนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทยเป็นอย่างสูงที่มีมติคณะรัฐมนตรีเร่งรัดและลดขั้นตอนการขอมีสัญชาติไทยและขอสถานะคนต่างด้าวโดยใช้เวลาเพียง 5 วัน เพราะที่ผ่านมาต้องใช้คำว่ารอนานมาก กว่าจะได้รับอนุญาต เพราะขั้นตอนมีมากมายเหลือเกิน วันนี้พี่น้องกลุ่มชาติติพันธ์จะได้ร่วมจิตร่วมใจในการพัฒนาชาติบ้านเมืองในฐานะคนไทย เพื่อเป็นการขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย
#แพทองธารชินวัตร #เชียงราย #มหาดไทย #ธีรรัตน์ #อิ่ม #สตรี #การเมือง

"แพทองธาร" พร้อมด้วย "ธีรรัตน์-อรรษิษฐ์-ไชยวัฒน์-ภาสกร" ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่จังหวัดเชียงราย พร้อมย้ำกร...
28/06/2025

"แพทองธาร" พร้อมด้วย "ธีรรัตน์-อรรษิษฐ์-ไชยวัฒน์-ภาสกร" ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่จังหวัดเชียงราย พร้อมย้ำกระทรวงมหาดไทยร่วมกับจังหวัดเชียงราย ช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชน และทำให้พี่น้องประชาชนกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขโดยเร็วที่สุด
วันนี้ (28 มิ.ย. 68) เวลา 11.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย ณ บริเวณบ้านสบเปา และวัดสันติคีรี
อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพรหมินทร์ เลิศสุริยเดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมี นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ร่วมลงพื้นที่
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักตลอดช่วงวันที่ 26-27 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งหลายพื้นที่ เช่น บ้านสบเปา ก็ได้รับแจ้งจากพี่น้องประชาชนว่าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ปีที่แล้วก็ไม่ได้ท่วม แต่ปีนี้ฝนก็มาเยอะจริง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องของธรรมชาติจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลขอเน้นย้ำว่า เราไม่ละเลยพี่น้องประชาชน และดูแลให้ทุกท่านเร่งกลับมาอยู่ในสภาพปกติโดยเร็วที่สุด โดยกระทรวงมหาดไทยและจังหวัดเชียงราย ดำเนินการให้การช่วยเหลือและเยียวยาอย่างรวดเร็ว และมอบถุงยังชีพขึ้นให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย พร้อมให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบภัย ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
"ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เราต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ดิฉันได้มาที่นี่ก็ได้กำลังใจจากพี่น้องประชาชนเช่นกัน ตั้งแต่ที่สนามบินแล้วก็รู้สึกอบอุ่นใจมาก ๆ ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน" น.ส.แพทองธาร กล่าว
นายชรินทร์ ทองสุข กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทั้งนี้ จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนของประชาชน สถานที่ราชการ วัด และพื้นที่การเกษตร ในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย รวมทั้งสิ้น 5 อำเภอ 10 ตำบล 32 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎร ได้รับผลกระทบ 4,405 ครัวเรือน ถนน 3 จุด สถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 2 แห่ง พื้นที่เกษตร (นาข้าว) 500 ไร่ ด้านการให้ความช่วยเหลือจังหวัดเชียงรายได้บูรณาการหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน ทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการเข้าไปอพยพผู้ประสบอุทกภัยโดยการเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไปยังพื้นที่ปลอดภัย เช่น ศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้ประสบภัย ส่วนการช่วยเหลือด้านการเกษตรอยู่ระหว่างการสำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
#แพทองธาร #ธีรรัตน์ #มหาดไทย #อิ่ม #เชียงราย

"ธีรรัตน์" ปิดการฝึกบริหารจัดการภัยสึนามิ (C-MEX 25) ชื่นชมทุกภาคส่วนร่วมฝึกซ้อมด้วยความมุ่งมั่น พร้อมย้ำ 4 มาตรการ "พัฒ...
27/06/2025

"ธีรรัตน์" ปิดการฝึกบริหารจัดการภัยสึนามิ (C-MEX 25) ชื่นชมทุกภาคส่วนร่วมฝึกซ้อมด้วยความมุ่งมั่น พร้อมย้ำ 4 มาตรการ "พัฒนาต่อยอด ทดสอบความพร้อม ให้ความสำคัญการฝึก และทำอย่างต่อเนื่อง" เพื่อประชาชนมีความปลอดภัยสูงสุด

วันนี้ (27 มิ.ย. 68) เวลา 14.00 น. น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานตรวจเยี่ยมกำลังพลและภาคีเครือข่าย เเละปิดการฝึกการบริหารวิฤตการณ์ระดับชาติด้านสาธารณภัย ประจำปี พ.ศ. 2568 (Crisis Management Exercise: C-MEX 25) จากภัยสึนามิ ในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน ณ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 36 จังหวัดภูเก็ต ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยมีการถ่ายทอดการฝึกซ้อมจากอีก 5 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันมายัง จ.ภูเก็ต โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ท.อนุสรณ์ โออุไร แม่ทัพน้อยที่ 4 นายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้แทน จ.กระบี่ พังงา ระนอง ตรัง และ จ.สตูล ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลต่างประเทศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย ร่วมฝึกซ้อมในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน จำนวนกว่า 1,000 คน
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการฝึกซ้อมร่วมกัน 6 จังหวัด 6 จุดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยที่เคยเกิดสึนามิเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งรัฐบาล ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่งเสริมให้ทุกคน ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะชุมชนและประชาชนตระหนักถึงภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและมีความรุนแรงขึ้น ซึ่งการรวมพลังในวันนี้ที่หลาย ๆ หน่วยงานเข้ามาร่วมกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้เกิดการสร้างการรับรู้กับพี่น้องประชาชน และสร้างความมั่นใจกับประชาชนว่าทางภาครัฐมีความพร้อม เป็นไปอย่างมีเอกภาพและเป็นไปตามมาตรฐานสากล
ในบทเรียนหลายครั้งที่ผ่านมา เมื่อเกิดภัยเราได้ถอดบทเรียนและนำมาปรับปรุงแผนเผชิญเหตุเพื่อให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุดที่เราสามารถป้องกันได้ ทั้งเรื่องบุคลากร อุปกรณ์ต่าง ๆ เราพร้อมเต็มที่ และเรายินดีให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันไม่ว่าในพื้นที่ไหน จะเป็นความรับผิดชอบหน่วยงานใด ทุกหน่วยงานสามารถช่วยกันเติมเต็มให้ภารกิจประสบความสำเร็จได้ จึงเป็นการที่ทำให้ทุกหน่วยได้มีส่วนร่วมกันและทุกคนได้มีความกระตือรือร้นอย่างจริงจังมาก จึงฝากให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเป็นประจำ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อหากเกิดสถานการณ์จริงจะสามารถปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย ไม่เกิดการโกลาหลหรือชุลมุนขึ้น
น.ส.ธีรรัตน์ ได้เน้นย้ำ 4 ข้อสั่งการเพื่อให้การป้องกันสาธารณภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ 1. นำบทเรียนจากการฝึกในครั้งนี้ไปสู่การพัฒนา ต่อยอด ที่สอดคล้องตามกฎหมาย แผนว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในทุกระดับ ทั้งระดับชาติ จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2. ให้มีการทดสอบความพร้อมของหอเตือนภัย เครื่องมือ อุปกรณ์ ระบบสื่อสาร เครื่องจักรกลสาธารณภัย ยุทโธปกรณ์ และกำลังพล ที่อยู่ในความรับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความพร้อมในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล 3. ให้จังหวัดให้ความสำคัญกับการฝึกแบบบูรณาการร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบการจัดการสาธารณภัย เพื่อร่วมสร้างความเข้มแข็ง และสังคมแห่งความปลอดภัยอย่างยั่งยืน และ 4. ให้หน่วยงานภาคีเครือข่าย ภาครัฐบาล ภาคเอกชน มูลนิธิ อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย จิตอาสาร่วมเตรียมความพร้อมเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกันเพื่อพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศ และเกิดเครื่อข่ายด้านการป้องกันและบรรเทาสาธาธารณภัยครอบคลุมทุกพื้นที่
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณและชื่นชมทุกภาคส่วนที่มุ่งมั่นจนทำให้การฝึกภาคปฏิบัติครั้งนี้สำเร็จลุล่วง และในส่วนความรู้วิชาการก็ได้มีการให้ความรู้ในเรื่องข่าวสารที่เป็นประโยชน์ในแต่ละพื้นที่เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปกระจายต่อให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง โดย มท. ร่วมกับทุกภาคส่วนทำงานอย่างใกล้ชิดและมีบุคลากรที่ทำให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพมากและเมื่อเกิดเหตุการณ์สิ่งเราก็พร้อมที่จะรับมือ ทั้งยังได้มีการเชิญตัวแทนสถานทูตและสถานกงสุลได้มาร่วมชมการสาธิตของเราด้วย ทำให้เขาได้รับทราบว่าเรามีการเตรียมความพร้อมอย่างไรเพื่อที่จะเมื่อมีการสอบถามจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทางสถานทูตก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลได้เลยว่า ไทยเรามีการเตรียมความพร้อมด้วยการฝึกซ้อมอยู่เสมอเป็นประจำต่อเนื่อง สามารถสร้างความมั่นใจให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาเยือนประเทศไทยด้วย

ด้านนายภาสกร กล่าวว่า การฝึกในครั้งนี้ครอบคลุมตั้งแต่การแจ้งเตือนภัย การอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย การกู้ภัย การแพทย์และสาธารณสุข การจัดการศูนย์พักพิง และการกู้ภัยทางน้ำและอากาศยาน ระหว่างวันที่ 24-27 มิ.ย. 68 โดยมีภาครัฐภาคเอกชนมูลนิธิองค์กรสาธารณกุศลภาคประชาชนและจิตอาสา 180 หน่วยงาน และผู้ร่วมฝึก 1,000 คน มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อทดสอบแผนเผชิญเหตุของ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน รวมทั้งยังเป็นการทดสอบความเชื่อมโยงของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ทุกระดับ ทั้งในระดับนโยบาย ระดับอำนวยการ และระดับปฏิบัติ เพื่อพัฒนาศักยภาพหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้มีความพร้อมในการบริหารจัดการสาธารณภัยอย่างมีประสิทธิภาพ เจ้าหน้าที่และประชาชนมีความรู้ในการปฏิบัติตน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิ ที่เคยเกิดเหตุการณ์เมื่อปี 2547 ทำให้มีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ประเทศไทยกว่า 5,400 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บ และสูญหายจำนวนมาก รวมถึงทรัพย์สินของประชาชนเสียหายคิดเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท
การฝึกการบริหารวิฤตการณ์ระดับชาติด้านสาธารณภัยในครั้งนี้ ได้จำลองสถานการณ์การตรวจพบระดับน้ำมีการเปลี่ยนแปลงที่หุ่นตรวจคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย และทะเลอันดามัน แล้วได้รับการยืนยันว่าเกิดสึนามิที่มีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยคาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการท้องถิ่นทั้ง 6 จังหวัดจึงได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยทันที เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเหตุสึนามิที่เกิดขึ้น และเป็นศูนย์กลางระดมสรรพกำลังในการช่วยเหลือประชาชน โดยร่วมมือกับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยซึ่งได้รับอนุมัติจากอธิบดีให้กดสัญญาณเตือนไปยัง 6 จังหวัดเพื่ออพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยโดยด่วน
สำหรับพื้นที่ฝึกซ้อมใน 6 จังหวัด ได้แก่ 1. ระนอง บริเวณบ้านบางเบน และบ้านอ่าวเคย ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 1 จุด 2. พังงา บริเวณบ้านน้ำเค็ม บ้านบางสักเหนือ และบ้านบางสักใต้ ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 4 จุด 3. กระบี่ บริเวณหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 1 จุด 4. ตรัง บริเวณหาดทรายทอง ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 1 จุด 5. สตูล บริเวณ ต.ตันหยงโป อ.เมืองสตูล เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 2 จุด และ 6.ภูเก็ต บริเวณหาดกมลา อ.กะทู้ เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 1 จุด โดยการฝึกซ้อมจะมีการส่งสัญญาณเตือนภัยจากหอเตือนภัยสึนามิของแต่ละพื้นที่เสมือนจริง แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ เสียงแบบ M2 “เกิดแผ่นดินไหวในทะเล อาจเกิดคลื่นสึนามิ ขอให้ออกจากชายหาด ไปยังที่สูงโดยด่วน” และเสียงแบบ M3 “ขณะนี้เกิดคลื่นสึนามิ ขอให้ออกจากชายหาด ไปยังพื้นที่สูงโดยด่วน”
จากนั้น เป็นการสาธิตการกู้ภัยทางบก และการจัดการศูนย์พักพิง ด้วยการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัย และหลังเกิดสถานการณ์ ได้มีการค้นหาผู้ประสบภัยบริเวณซากอาคาร ซากรถยนต์ และพื้นที่โดยรอบ พร้อมทั้งแยกระดับของผู้บาดเจ็บเพื่อลำเลียงไปยังสถานพยาบาล นอกจากนี้ ได้รับชมสาธิตการค้นหาผู้ประสบภัย สถานีกู้ภัยทางน้ำและอากาศยาน โดยได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากฐานทัพเรือภาคที่ 3 และกรม ปภ. และเรือจากกรม ปภ. สำนัก ปภ.กทม. กรมเจ้าท่า และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ด้วยการลำเลียงผู้ประสบภัยที่ลอยคออยู่ในทะเลกลับเข้าสู่ฝั่ง
#มหาดไทย #ธีรรัตน์

"ธีรรัตน์" พบปะให้กำลังใจสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีและเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ OTOP บ้านกมลา หนุนเสริมการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก...
27/06/2025

"ธีรรัตน์" พบปะให้กำลังใจสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีและเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ OTOP บ้านกมลา หนุนเสริมการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากควบคู่บทบาทสตรี เพื่อความยั่งยืน

วันนี้ (27 มิ.ย. 68) เวลา 18.00 น. นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจและเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ OTOP กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านกมลา และสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยมีนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายธรรมรงค์ ช่วยอักษร ปลัดอำเภอ รักษาราชการแทนนายอำเภอกะทู้ น.ส.เรวดี ชูทอง พัฒนาการอำเภอกะทู้ นายสันทัด คุ้มมิตร รองนายก อบต.กมลา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิกกลุ่มฯ ร่วมให้การต้อนรับ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลกมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้เห็นความเข้มแข็งที่สำคัญของตำบลกมลา คือ ได้มีผู้นำสตรีที่เป็นผู้ที่รวมจิตรวมใจรวมทีมให้พี่น้องสตรีได้มีอาชีพ มีรายได้ เป็นที่พึ่งพาของสมาชิกในครอบครัวได้ ซึ่งเป็นความมุ่งหมายของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อยากให้พี่น้องสตรีไทยของเราดูแลซึ่งกันและกัน ได้สร้างอาชีพสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งตั้งแต่ฐานราก มีผลิตภัณฑ์ที่สวยงามมาก
"วันนี้พี่ ๆ ทุกคนได้นำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างหลากหลาย สะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชนที่ได้รับการต่อยอดพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ อาทิ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากส้มควาย ผ้าลายสายแร่ ผ้าปาเต๊ะ ผ้าปัก กระเป๋าสาน มุกอันดามัน ซึ่งเป็นที่น่าดีใจ และต้องขอขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตที่ได้ให้การสนับสนุนในทุกมิติ ทั้งการพัฒนาสินค้า OTOP ที่ได้รับการรับรองเป็นสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจงตามสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของจังหวัด นั่นคือ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากส้มควาย เป็นการพัฒนาต่อเนื่องทำให้สินค้าได้รับการยอมรับและมีมาตรฐานทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ รวมถึงการส่งเสริมสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งเป็นพลังของสตรีที่สามารถช่วยเหลือกันได้และสร้างความเข้มแข็ง ตั้งแต่ระดับชุมชนจนถึงระดับจังหวัด" น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ท่านพัฒนาการอำเภอ ได้ส่งเสริมการพัฒนาในด้าน packaging รวมถึงการนำเสนอผลงานด้วยช่องทางการตลาดของกรมการพัฒนาชุมชน ทั้งเว็บไซต์ OTOPtoday.com รวมถึงแคตตาล็อก OTOP เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงการจำหน่ายสินค้า แล้วในโอกาสนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกท่านที่มีโอกาสเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต ได้มาเยี่ยมชมเลือกซื้อสินค้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่บ้านกมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งสามารถเดินทางมาได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ในทุกวัน

#มหาดไทย #อิ่ม #สตรี #เพื่อไทย

19/06/2025

✨🌿 มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22 กลับมาแล้ว!
Thailand Herbal Expo 2025 🌿✨
💚 ภูมิปัญญาไทย ซอฟต์พาวเวอร์ไทย สร้างเศรษฐกิจไทย
📍 2–6 กรกฎาคม 2568 |
เวลา 10.00 -20.00 น.
ฮอลล์ 11–12 อิมแพค เมืองทองธานี
เตรียมพบกับกิจกรรมสุดพิเศษ!
✅ ตรวจสุขภาพด้วยแพทย์แผนไทย ฟรี
✅ สัมผัสนวัตกรรมสมุนไพรไทย ในโซน INNOVATION พร้อมให้คำปรึกษา นวัตกรรม วิจัยพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ฟรี
✅ พบกับโซน PRODUCT ภายใต้แนวคิด “ THINK Wellness Think Thai Herb” ยกระดับผู้ประกอบการสมุนไพรสู่ GMP ยกระดับอุตสาหกรรมสมุนไพร สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการที่มีสถานที่ที่ ผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพร ภายใต้มาตรฐานสากล การส่งเสริมความร่วมมือนโยบายระดับประเทศ คณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ 5 กระทรวง นำแสดงชุดของขวัญจากประเทศไทยที่ได้รับการยกระดับจากผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย
✅ เสวนาวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญ กว่า 10 หัวข้อ
✅ ชมศูนย์เวลเนสต้นแบบทั่วประเทศ นิทรรศการมีชีวิต "วิถีไทยเวลเนส 4 ภาค นำเสนอ "ศูนย์เวลเนสอัตลักษณ์ไทย" TWD อาทิ สาธิตการนวดด้วยหินและหอยจากท้องทะเลอันดามัน
✅ชิมช้อปอาหารเพื่อสุขภาพจากเชฟดัง
✅ ชมและช้อปผลิตภัณฑ์สมุนไพรทั่วไทย

ฟรี! หนังสือบันทึกของแผ่นดิน 15 แกงส้ม ทั่วทิศถิ่นไทย ใส่ใจสุขภาพ วันละ 200 เล่ม และแจกต้นพันธุ์สมุนไพร วันละ 1 ชนิด ชนิดละ 300 ต้น ได้แก่ ขมิ้นชัน/เถาคัน ผักหนาม ทูน/ออดิบ แคแดง และ ดาหลาแดง เป็นต้น
📣 มาใช้ชีวิตให้สุขภาพดี ด้วยสมุนไพรไทยกันเถอะ!
📲 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/natherbexpo/?locale=th_TH

#มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ22
#กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
#กระทรวงสาธารณสุข

มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ

"ภูมิใจไทย" ประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลภายในแถลงการณ์ ระบุว่า กรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรั...
18/06/2025

"ภูมิใจไทย" ประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล
ภายในแถลงการณ์ ระบุว่า กรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา กัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิบไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทย และกองทัพไทย ตามที่ประชาชนได้รับทราบแล้วนั้น
พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่ากรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ได้ประชุมพิจารณาถึงกรณีที่เกิดขึ้นและมีมตีให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี จึงมีผลวันที่ 19 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
พรรคภูมิใจไทย ขอเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบต่อการทำให้ประเทศไทย ต้องเสียเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีศรีของชาติ ประชาชน และกองทัพ
พรรคภูมิใจไทย พร้อมจะร่วมมือกับประชาชนชาวไทย สนับสนุนกองทัพ และ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจ เพื่อธำรงรักษาอธิบไตย ดินแดน และ ประโยชน์ของประเทศไทย ทุกวิถีทาง อย่างสุดกำลัง
#ภูมิใจไทย #แพทองธารชินวัตร

14/06/2025

“มทภ.2” บรรยายพิเศษนักเรียน
จปร. ปีที่5 ลั่น แผ่นดินกู อยู่ตรงนี้มานานแล้ว ถ้าจะเอา ก็ต้องดวลกัน เผยบอกรัฐบาลไปแล้ว ไม่ขึ้นศาลโลก

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค2 กล่าวในช่วงหนึ่งการบรรยายพิเศษให้นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ ชั้นปีที่5 เรื่อง 3 ปราสาทและช่องบก ฃจะไม่มีวันขึ้นศาลโลก
เพราะ การจะขึ้นศาลโลก ต้องเห็นพ้องด้วยกันทั้งสองฝ่าย ศาลโลกจึงจะรับไว้พิจารณา แต่ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับศาลโลก ก็ไม่รับพิจารณาซึ่งรัฐบาลไทย จะใช้วิธีนี้

"ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่า จะต้องขึ้นศาลโลก พี่บอกรัฐบาลไปแล้วว่าไม่ต้องขึ้นศาลโลกไม่เกี่ยว แผ่นดินกู อยู่ตรงนี้มานานแล้ว ถ้าจะเอา ก็ดวลกัน ก็จบ ไม่เห็นจะยากอะไร ชี้แจง ถ้าคำพูดนี้ไปถึง ฮุนเซน ก็สวนมาอีก" พล.ท.บุญสิน กล่าว

#กัมพูชา #แม่ทัพภาค2 #นายกรัฐมนตรี #เขมรสุรินทร์ #ทหารชายแดน #ช่องบก #ฮุนเซน

ด่วน! พล.อ. สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 19 เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ส...
10/06/2025

ด่วน! พล.อ. สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 19 เสียชีวิตแล้ว

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุจินดา คราประยูร เสียชีวิต อย่างสงบ ด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 01.57 น. ที่ รพ. พระมงกุฎฯ ด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี 10 เดือน 4 วัน กำหนดการพิธีศพ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป

สำหรับ พล.อ. สุจินดา คราประยูร (เกิด 6 สิงหาคม พ.ศ. 2476) เป็นนายทหาร และ นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุด หนึ่งในคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ซึ่งก่อรัฐประหารใน พ.ศ. 2534

#สุจินดา #นายกรัฐมนตรี

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when New Content-นิวคอนเทนต์ posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to New Content-นิวคอนเทนต์:

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share