Andamanfocus อันดามันโฟกัส (2025)

14/07/2025

ยามอัสดงที่เมืองพังงาบ้านเรา

14/07/2025

ภาคเอกชนภูเก็ตมอบดอกไม้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 8 สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พล.ต.ต.เลิศชาย จำปาทอง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 และ พ.ต.อ.วีระพงศ์ รักขิโต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพังงา พร้อมหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่เข้าจับกุมผู้ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดกระบี่ พังงา และภูเก็ต เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ในโอกาสนี้ คณะผู้แทนภาคเอกชนจังหวัดภูเก็ต นำโดย
• คุณธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และที่ปรึกษามูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน
• คุณนัฐพงศ์ วิสุทธิผล รองประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต
• คุณศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้
• คุณจุฬารัตน์ จันทกูล นายกสมาคมโรงแรมหาดป่าตอง
• คุณกฤช เทพบำรุง นายกสมาคมมัคคุเทศก์อันดามัน
• คุณศุภฤกษ์ ธีระรังสิกุล ผู้จัดการ บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด
ได้ร่วมมอบดอกไม้เพื่อแสดงความขอบคุณ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่
ภาคเอกชนกล่าวชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อันเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ

14/07/2025

ผกก.สภ.เมืองกระบี่ ระดมกวาดล้างกลุ่มแด็กแว้นสร้างความเดือดร้อนกลางดึก ยึดรถจักรยานยนต์ 12 คัน
วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สุทธิภัค คมสาคร ผกก.สภ.เมืองกระบี่ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ฉัตรชัย ชูหนู รอง ผกก.ป. และ พ.ต.ท.พชร ชุมแก้ว สวป. สภ.เมืองกระบี่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ร้อยเวรป้องกันปราบปราม สายตรวจพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งฝ่ายจราจร ฝ่ายสืบสวน อาสาสมัครตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ออกปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มวัยรุ่นที่รวมตัวก่อความเดือดร้อนรำคาญบนท้องถนนในพื้นที่เมืองกระบี่
ผลการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 12 คัน เพื่อตรวจสอบ โดยผู้ขับขี่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14–18 ปี หลายคันไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน หรือดัดแปลงสภาพรถ ไม่ตรงตามมาตรฐานกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ได้เชิญบิดามารดาหรือผู้ปกครองของเยาวชนทั้งหมดมาทำทัณฑ์บนไว้ต่อเจ้าพนักงาน เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำ พร้อมทั้งจะดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดของรถจักรยานยนต์ที่ยึดมา หากพบว่ามีการกระทำความผิดอื่นเพิ่มเติม จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเข้มงวดของตำรวจภูธรภาค 8 และ สภ.เมืองกระบี่ ในการป้องกันและลดปัญหาการแข่งรถบนถนนสาธารณะ การรวมกลุ่มก่อความเดือดร้อน รวมถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น เพื่อความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่.

14/07/2025

กระบี่ - ตำรวจเมืองกระบี่ตั้งจุดสกัดจับกุมผู้ต้องหายาเสพติด 3 ราย ยึดยาบ้ารวม 12 เม็ด
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สุทธิภัค คมสาคร ผกก.สภ.เมืองกระบี่ และ พ.ต.ท.ฉัตรชัย ชูหนู รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกระบี่ โดยมี พ.ต.ท.พชร ชุมแก้ว สวป.สภ.เมืองกระบี่ ร่วมกับ ร.ต.ต.มีเกียรติ นิลวงษ์ รอง สว.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจรถยนต์ 222 สายตรวจรถจักรยานยนต์ 122 พร้อมอาสาสมัครตำรวจ ร่วมปฏิบัติการตั้งจุดตรวจสกัดตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบริเวณถนนอุตรกิจ ขาเข้า ตรงข้ามร้าน DIY ตลาดเก่า ตำบลกระบี่ใหญ่ อำเภอเมืองกระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงและจุดล่อแหลมที่มักมีการลักลอบกระทำผิดกฎหมาย
ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย พร้อมของกลางยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) รวม 12 เม็ด ได้แก่นายวัชระ อายุ 39 ปี ชาวอำเภอเมืองกระบี่ ถูกจับพร้อมของกลางยาบ้า 5 เม็ด โดยถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย และขับรถขณะมีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 อยู่ในร่างกาย นางสาวรจนา อายุ 34 ปี ชาวอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ นายกิตติพง อายุ 30 ปี ชาวอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ทั้งสองถูกจับพร้อมของกลางยาบ้า 7 เม็ด โดยถูกแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นายกิตติพง ยังถูกแจ้งข้อหา เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย และขับรถขณะมีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 อยู่ในร่างกาย
เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเน้นย้ำมาตรการตั้งจุดตรวจในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน.

14/07/2025

คบจ.พังงา ดึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวและวิสาหกิจชุมชน ฝึกทักษะการใช้ AI สร้างสื่อประชาสัมพันธ์ในโซเชียล บุกตลาดด้วยสื่อสมัยใหม่ เข้าถึงแหล่งทุน พัฒนาท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน
วันที่ 14 ก.ค.68 นายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวเปิดโครงการ "คบจ.พังงา ขับเคลื่อนการใช้ AI เพื่อเสริมพลังการท่องเที่ยวชุมชน" ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อเสริมสร้างทักษะความรู้สมัยใหม่ด้านเทคโนโลยี AI ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวและวิสาหกิจชุมชนได้นำไปสร้างสรรค์ ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ณ อาคารศูนย์ประชุม โครงการชุมชนบ้านน้ำใส อำเภอท้ายเหมือง
นายไพรัตน์ กล่าวว่า จังหวัดพังงามีทั้งศักยภาพและทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์โดดเด่นและแตกต่างจากที่อื่น มีทิวเขาสลับซับซ้อนรูปร่างแปลกตา มีอากาศอันบริสุทธิ์ มีชายทะเลยาวกว่า 240 กิโลเมตร มีแหล่งท่องเที่ยวทางบกและทางทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวชุมชนตามสถานที่ต่างๆมากมาย สิ่งเหล่านี้ธรรมชาติได้มอบให้จังหวัดพังงาเป็นทุนอยู่แล้ว แต่เราจะทำยังไงให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักและเข้ามาเยี่ยมชม ทุกคนมีสมาร์ทโฟนซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้สร้างสรรค์งานต่างๆเป็นของตนเองบางเครื่องก็มีราคาแพง แต่เรายังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสมาร์ทโฟนเหล่านี้ให้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์เท่าที่ควร ขอให้ผู้เข้าร่วมฝึกอบรมนำความรู้ที่ได้จากวันนี้ นำสมาร์ทโฟนของท่านไปสร้างสื่อให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง สร้างโฆษณาประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในชุมชนของตนเอง เพื่อให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในโลกสื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
นายอภิชาณ แก่นเพ็ชร คลังจังหวัดพังงา กล่าวว่า คณะผู้บริหารการคลังจังหวัดพังงา หรือ คบจ.พังงา ได้จัดโครงการขึ้น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจพื้นฐานการใช้เทคโนโลยี AI ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ โดยมุ่งหวังให้กลุ่มผู้ประกอบการฯ ได้มีทักษะพื้นฐานและเรียนรู้การนำ AI มาใช้ให้เหมาะสมกับการท่องเที่ยวชุมชน สามารถสร้างสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าของตนเองได้ให้เข้ากับยุคสมัย เพิ่มขีดความสามารถในการวางแผนการตลาดการท่องเที่ยวชุมชน บนพื้นฐานของทรัพยากรในท้องถิ่น เพิ่มช่องทางสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 50 คน จากกลุ่มวิสาหกิจท่องเที่ยวชุมชนเขาหลัก-น้ำใส กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนเขาไข่นุ้ย กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนล่องแพบ้านเกาะนอก และกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านท่าดินแดง มีการฝึกปฏิบัติการรวบรวมข้อมูลสำหรับทำการตลาดท่องเที่ยวชุมชนโดยใช้ AI ในพื้นที่ และการฝึกอบรมโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ พร้อมมีการออกบูธให้คำปรึกษาทางการเงินสินเชื่อ และให้คำปรึกษาการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบโดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง

14/07/2025

ผู้ว่าพังงา ลงพื้นที่พบปะชาวประมงบ้านทับละมุ รับฟังปัญหาสะท้อนความต้องการเพื่อแก้ไขตรงจุด
วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ที่ท่าเรือประมงบ้านทับละมุ ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง นายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนชาวประมง เพื่อพบปะ พูดคุย สร้างความใกล้ชิดระหว่างราชการกับประชาชน รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะในการประกอบอาชีพ รวมถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีนส.เฉลิมศรี แพใหญ่ นายกเทศมนตรีตำบลลำแก่น นายเลิศศักดิ์ ปนกลิ่น นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา เข้าร่วม
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ผู้ว่าฯ แสดงออกถึงความห่วงใย พร้อมเปิดใจรับฟังอย่างใกล้ชิด ไม่เป็นทางการ เพื่อให้ประชาชนรู้สึกว่าสามารถเข้าถึงและสื่อสารกับผู้บริหารจังหวัดได้โดยตรง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการลดช่องว่างระหว่างภาครัฐกับประชาชน และใช้ข้อมูลที่ได้มาจากพื้นที่จริง เป็นแนวทางกำหนดนโยบายหรือแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกับบริบทของท้องถิ่น
ผู้ว่าฯ ย้ำว่า “ราชการไม่ควรอยู่ห่างจากประชาชน การได้ลงพื้นที่พูดคุย รับฟังปัญหาด้วยตนเอง เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและยั่งยืน” พร้อมให้คำมั่นว่าจะเร่งผลักดันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยบรรเทาปัญหา และสนับสนุนให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ท่าเรือประมงทับละมุ ถือเป็นจุดสำคัญทางเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของชุมชนชาวประมงในจังหวัดพังงา ซึ่งเป็นทั้งท่าเรือหลบมรสุมของเรือประมง และศูนย์กลางของการทำประมงพื้นบ้าน การลงพื้นที่ในครั้งนี้จึงนอกจากจะเป็นการพบปะประชาชนแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของผู้ว่าฯ ต่ออาชีพประมงและเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัด

13/07/2025

ผู้ว่าภูเก็ตลงพื้นที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ย้ำยกระดับความปลอดภัย ดูแลการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจด่านตรวจท่าฉัตรไชย อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้โอวาทและมอบกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกองร้อยอาสารักษาดินแดนถลางที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่

ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้เน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีวินัย รอบคอบ และยึดหลักมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนายที่เสียสละปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนทางบกของจังหวัด ซึ่งเป็นหนึ่งในด่านสำคัญในการคัดกรองและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ สถานการณ์ทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ

13/07/2025

พังงา- ฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา บุกจับกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาเสพติดในบ้านเช่าพื้นที่ตำบลลำแก่น
วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ นายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายบัญชา ธนูอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ ปลัดจังหวัดพังงา นายศุภสิทธิ์ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอท้ายเหมือง และนายศุภฤกษ์ เกตุสุรินทร์ ป้องกันจังหวัดพังงา ได้มอบหมายให้นายอัจฉริยะ เพียรทอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา นำสมาชิก อส. สังกัด ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองท้ายเหมือง น.ส.อุมากร แพใหญ่ กำนัน ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ออกดำเนินการปราบปรามและแก้ปัญหายาเสพติดตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง และ ผวจ.พังงา
โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีบ้านเช่า 2 หลัง ในพื้นที่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา มีกลุ่มวัยรุ่นทั้งชายและหญิงเข้าและออกบ้านทั้ง 2 หลังเพื่อมั่วสุมเสพยาเสพติดและอาจจะมีการจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ ต.ลำแก่น และตำบลข้างเคียง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงาจึงเข้าตรวจสอบบ้านเช่าเลขที่ 23/113 ม.5 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พบกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมด7 ราย แบ่งเป็นชาย 5 ราย หญิง 2 ราย หลังจากทำการตรวจปัสสาวะของบุคคลภายในพบว่ามีผลบวก 6 ราย จากนั้น ได้ทำการจับกุมตัว น.ส.จรัสศรี หรือเจน อายุ 24 ปี ชาว อ.กะปง จ.พังงา พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 58 เม็ด พร้อมด้วยอุปกรณ์การเสพยาจำนวนหนึ่ง โดยแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต
จากนั้นเข้าตรวจสอบบ้านเช่าเลขที่ 72/54 ม.5 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พบกลุ่มชายและหญิงจำนวน 4 ราย แบ่งเป็นชาย 3 ราย และหญิง 1 ราย จากการตรวจปัสสาวะของ จนท. พบว่า ชายและหญิงทั้ง4 ราย มีผลปัสสาวะเป็นบวก และได้ทำการจับกุมตัว น.ส.อารยา หรือทราย อายุ 34 ปี ชาว อ.กันตัง จ.ตรัง พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 12 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง จึงข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต
ซึ่งผู้ถูกจับกุมทั้งสองรายได้รับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งให้ พนักงานสอบสวน สภ.ท้ายเหมือง ดำเนินการกฎหมาย ส่วนกลุ่มชายและหญิงอีก 8 ราย ที่พบว่าเสพสารเสพติด ได้นำตัวมาทำประวัติและนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดตามระบบ บสต. ต่อไป

13/07/2025

พังงา- ฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา บุกจับกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาเสพติดในบ้านเช่าพื้นที่ตำบลลำแก่น
วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ นายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายบัญชา ธนูอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ ปลัดจังหวัดพังงา นายศุภสิทธิ์ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอท้ายเหมือง และนายศุภฤกษ์ เกตุสุรินทร์ ป้องกันจังหวัดพังงา ได้มอบหมายให้นายอัจฉริยะ เพียรทอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา นำสมาชิก อส. สังกัด ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองท้ายเหมือง น.ส.อุมากร แพใหญ่ กำนัน ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ออกดำเนินการปราบปรามและแก้ปัญหายาเสพติดตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง และ ผวจ.พังงา
โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีบ้านเช่า 2 หลัง ในพื้นที่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา มีกลุ่มวัยรุ่นทั้งชายและหญิงเข้าและออกบ้านทั้ง 2 หลังเพื่อมั่วสุมเสพยาเสพติดและอาจจะมีการจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ ต.ลำแก่น และตำบลข้างเคียง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงาจึงเข้าตรวจสอบบ้านเช่าเลขที่ 23/113 ม.5 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พบกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมด7 ราย แบ่งเป็นชาย 5 ราย หญิง 2 ราย หลังจากทำการตรวจปัสสาวะของบุคคลภายในพบว่ามีผลบวก 6 ราย จากนั้น ได้ทำการจับกุมตัว น.ส.จรัสศรี หรือเจน อายุ 24 ปี ชาว อ.กะปง จ.พังงา พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 58 เม็ด พร้อมด้วยอุปกรณ์การเสพยาจำนวนหนึ่ง โดยแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต
จากนั้นเข้าตรวจสอบบ้านเช่าเลขที่ 72/54 ม.5 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พบกลุ่มชายและหญิงจำนวน 4 ราย แบ่งเป็นชาย 3 ราย และหญิง 1 ราย จากการตรวจปัสสาวะของ จนท. พบว่า ชายและหญิงทั้ง4 ราย มีผลปัสสาวะเป็นบวก และได้ทำการจับกุมตัว น.ส.อารยา หรือทราย อายุ 34 ปี ชาว อ.กันตัง จ.ตรัง พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 12 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง จึงข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต
ซึ่งผู้ถูกจับกุมทั้งสองรายได้รับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งให้ พนักงานสอบสวน สภ.ท้ายเหมือง ดำเนินการกฎหมาย ส่วนกลุ่มชายและหญิงอีก 8 ราย ที่พบว่าเสพสารเสพติด ได้นำตัวมาทำประวัติและนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดตามระบบ บสต. ต่อไป

12/07/2025

“อ่าวเขาควาย เกาะกำตก” Unseen New Chapters อ่าวโค้งแสนสวยแห่งทะเลระนอง

12/07/2025

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เดินหน้าเก็บกู้ขยะและอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอย่างต่อเนื่อง สนองแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
นายวราวุธ แสงทอง รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ดำเนินกิจกรรมเก็บขยะ เศษเชือก และเครื่องมือประมง บริเวณจุดดำน้ำลึกหาดเล็ก (Honeymoon Bay) รวมถึงทำความสะอาดชายหาดบริเวณเกาะเมี่ยง เกาะสิมิลัน และเกาะตาชัย พร้อมทั้งคัดแยกและนำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์สูงสุด เพื่อลดปริมาณขยะตกค้างในพื้นที่

การดำเนินงานดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์และฟื้นฟูแนวปะการัง การเก็บกู้ซากอวนที่พันติดปะการังเทียม รวมถึงการดูแลและช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่อุทยานฯ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

กิจกรรมเหล่านี้เป็นไปตามแนวพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสอดคล้องกับภารกิจหลักของมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลของไทย โดยเฉพาะแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล เพื่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน มุ่งมั่นที่จะดูแลรักษาความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเล เพื่อเป็นมรดกทางธรรมชาติที่งดงามและยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป

12/07/2025

ผู้ว่าฯ กระบี่ แถลงจับยาบ้า 130,000 เม็ด ลักลอบขนผ่านบริษัทเอกชน รวบผู้ต้องหา 1 ราย

วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.30 น. ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 ตำบลกระบี่ใหญ่ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ณรงค์ อ่อนทอง ผบ.ร้อย ตชด.426, นายศิริวัฒนา ชาติภิรมย์ ผู้อำนวยการส่วนบังคับใช้กฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 8, ผู้แทนนายอำเภอเมืองกระบี่ และผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกระบี่ (กอ.รมน.) ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ

โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาคือนายชิติพัทธ์ หรือนายต๊ะ อายุ 23 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 130,000 เม็ด รถจักรยานยนต์ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง บริเวณหน้าร้านขายของชำ หมู่ที่ 4 ตำบลคลองประสงค์ อำเภอเมืองกระบี่ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบส่งยาเสพติดผ่านบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จึงเข้าตรวจสอบและพบพัสดุต้องสงสัยจำนวน 4 กล่อง ภายในพบยาบ้ารวม 130,000 เม็ด โดยมีข้อมูลว่าพัสดุถูกส่งมาจากจังหวัดนครปฐม

เจ้าหน้าที่จึงวางแผนติดตามและนำพัสดุไปวางตามคำแนะนำของผู้รับที่ร้านขายของชำในหมู่ 4 ตำบลคลองประสงค์ ก่อนเฝ้าติดตามนายต๊ะ ซึ่งทำงานเป็นพนักงานเติมน้ำมันในปั๊มแห่งหนึ่งในตัวเมืองกระบี่ เมื่อผู้ต้องหามารับพัสดุและขนขึ้นรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมของกลาง

จากการสอบสวน นายต๊ะรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากญาติชื่อ “นายโด้” ให้มารับพัสดุโดยได้รับค่าจ้าง 10,000 บาท และจะนำยาบ้าไปส่งให้ผู้ว่าจ้างต่อ แต่ถูกจับกุมเสียก่อน ทั้งนี้ นายโด้เคยต้องโทษในคดียาเสพติดมาแล้ว 4 ครั้งและเพิ่งพ้นโทษ เจ้าหน้าที่จึงอยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการ และดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์

ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่กล่าวว่า การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นนโยบายสำคัญที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมกันขับเคลื่อน ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และสำนักงาน ป.ป.ส. โดยที่ผ่านมาได้จับกุมของกลางจำนวนมากในทุกระดับ พร้อมเน้นย้ำให้บริษัทขนส่งเอกชนเก็บบันทึกข้อมูลผู้ส่ง-ผู้รับไว้อย่างน้อย 180 วัน และหากพบพัสดุต้องสงสัยต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

นายอังกูร ยังเตือนประชาชนว่า หากพบว่ามีผู้ให้ยืมชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือบัญชีธนาคารแก่ผู้ค้ายาเสพติด จะเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายด้วย และย้ำว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐและประชาชนคือกุญแจสำคัญในการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้แพร่ระบาดในพื้นที่. ขอขอบคุณ ภาพ/ข่าว จากสำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่

Andamanfocus อันดามันโฟกัส

14/07/2025

14/07/2025

14/07/2025

14/07/2025

14/07/2025

14/07/2025

13/07/2025

13/07/2025

13/07/2025

12/07/2025

12/07/2025

12/07/2025

Address

Telephone

Website

Alerts

Contact The Business

Shortcuts

Share