ศาลเจ้าแม่กอเหนี่ยวฉื่อเซี่ยงตึ๊งยะลา YALA LIFE

ศาลเจ้าแม่กอเหนี่ยวฉื่อเซี่ยงตึ๊งยะลา YALA LIFE ประเพณีวัฒนธรรมประวัติศาสตร์วิถีชีวิตชุมชนเมืองยะลา

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ข่าวเซี่ยงตึ๊งยะลา #ศาลา1 ออกศพวันจันทร์ที่ 10/11/2568Cr.line สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ศาลเจ้าแม่กอเหนี...
08/11/2025

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ข่าวเซี่ยงตึ๊งยะลา
#ศาลา1 ออกศพวันจันทร์ที่ 10/11/2568
Cr.line สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ศาลเจ้าแม่กอเหนี่ยวยะลา

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ข่าวเซี่ยงตึ๊งยะลา #ศาลา4 ออกศพวันอาทิตย์ที่ 2/11/2568Cr.line สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ศาลเจ้าแม่กอเหนี...
01/11/2025

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ข่าวเซี่ยงตึ๊งยะลา
#ศาลา4 ออกศพวันอาทิตย์ที่ 2/11/2568
Cr.line สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ศาลเจ้าแม่กอเหนี่ยวยะลา

28/10/2025

เหตุระเบิดที่ยะลา!! หน้าพลับพลาที่ประทับในพระปรมาภิไธย ภปร สนามโรงพิธีช้างเผือกยะลา วันที่ 22 กันยายน 2520
ขณะที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ พระอิสริยยศในขณะนั้น เสด็จเยี่ยมพสกนิกรชาวยะลา
เมื่อเกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งติดกัน ในหลวงรัชกาลที่ 9 และทุกพระองค์ ทรงประทับบนพลับพลา ไม่ไปไหน ด้วยความเป็นห่วงชาวบ้าน แม้ราชองครักษ์จะทูลเชิญเสด็จกลับ ชาวบ้านบางส่วนตกใจวิ่งหนีจะกลับบ้าน นึกได้วิ่งกลับมาเข้าเฝ้าพระองค์ ล้อมรอบป้องกันภัยพระองค์ท่าน ยอมตายเพื่อท่าน เป็นความรักของชาวยะลาที่มีต่อพระองค์ท่าน ที่ประทับใจ สถิตอยู่ในใจ ในหลวงรัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระพันปีหลวง ตลอดเวลา
เหตุการณ์ครั้งนั้น เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ทรงร่วมร้องเพลง เราสู้ ศึกบางระจัน ร่วมกับ กลุ่มลูกเสือชาวบ้านที่มาเข้าเฝ้า เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ
หลังเหตุการณ์สงบ ควบคุมสถานการณ์ได้ ทุกพระองค์ทรงปฏิบัติภารกิจ ที่พลับพลาที่ประทับในพระปรมาภิไธย ภปร สนามโรงพิธีช้างเผือกยะลา ต่อจนแล้วเสร็จ
และ เสด็จเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 47 คน ที่โรงพยาบาลยะลา
#พลับพลาที่ประทับในพระปรมาภิไธย ภปร สนามโรงพิธีช้างเผือกยะลา สร้างขึ้นปี 2511 ด้วยงบประมาณแผ่นดินจังหวัดยะลา บนที่ดินราชพัสดุ นิติบุคคล เอกชน ไม่มีสิทธิ์ครอบครอง เพื่อการพระราชพิธีสมโภชขึ้นระวางช้างเผือกเชือกที่3 ในรัชกาลที่ 9 วันที่ 9-11 มีนาคม 2511 การพระราชพิธีครั้งนี้ จัดยิ่งใหญ่มาก โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ทรงประทับอยู่เมืองยะลา เพื่อการพระราชพิธีครั้งนี้ 3 วัน 9-11 มีนาคม 2511

#พลับพลาที่ประทับในพระปรมาภิไธย ภปร สนามโรงพิธีช้างเผือกยะลา เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองยะลา เหตุการณ์สำคัญมากมายเกิดขึ้นที่ อยู่ในความทรงจำของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึง ในหลวงรัชกาลที่9 สมเด็จพระพันปีหลวง กรมสมเด็จพระเทพฯ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระศรีสวางควัฒนฯ

#เหตุระเบิด 2 ครั้งต่อหน้าพระพักตร์ในหลวงรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระพันปีหลวง ขณะทรงเยี่ยมพสกนิกรชาวยะลา ณ.พลับพลาที่ประทับในพระปรมาภิไธย ภปร สนามโรงพิธีช้างเผือกยะลา แห่งนี้ วันที่ 22 กันยายน 2522
เหตุการณ์ครั้งนั้น สถิตอยู่ในใจทั้ง 2 พระองค์ท่านตลอดเวลา โดยเฉพาะ ความรักของประชาชนชาวยะลา ที่มีต่อพระองค์ท่าน ยอมตายแทนได้
เหตุการณ์ครั้งนั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 47 คน ตอนนั้น ป้าเรียนอยู่ ป6 โรงเรียนนิบงชนูปถัมภ์ จำได้ว่า มีคุณครูโรงเรียนนิบง ที่เป็นลูกเสือชาวบ้าน ได้รับบาดเจ็บหลายทาน ที่เห็นกับตา หลังจากท่านอาการดีขึ้น กลับมาสอน ใบหน้า แขน เต็มไปด้วยรอยแผลสะเก็ดระเบิด วันที่เกิดเหตุการณ์ ด้วยบ้านเป็นร้านค้าในตลาด จำได้ว่า วันนั้น ผู้คนในตลาดมีสีหน้าหวาดกลัว เคร่งเครียด ไปกับเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้น

#เหตุระเบิดเกิดขึ้นวันที่ 22 กันยาย 2520 เดือนธันวาคม 2520 พระเศวตสุรคชาธาร ล้ม(เสียชีวิต) ทั้งที่อายุเพียง 9 ปี
พระราชครูวามเทพมุนี ประธานพราหมณ์หลวง ซึ่งได้ลงมาประกอบพิธีขึ้นระวางสมโภช พระเศวตสุรคชาธาร ที่สนามโรงพิธีช้างเผือกยะลา ได้ให้สัมภาษณ์นิตยสารชื่อดัง พระเศวตสุรคชาธาร สละชีวิตตัวเอง เพื่อปกป้อง ในหลวงรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระพันปีหลวง กรมสมเด็จพระเทพฯ ด้วยความจงรักภักดี เพราะ พระเศวตสุรคชาธาร เป็นที่ทรงโปรดของในหลวงรัชกาลที่ 9 และทุกพระองค์ และ พลับพลาที่ประทับในพระปรมาภิไธย ภปร สนามโรงพิธีช้างเผือกยะลาแห่งนี้ คือ บ้านเกิดของ พระเศวตสุรคชาธาร

#วันที่ 17 กันยายน 2524 ในหลวงรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระพันปีหลวง และทุกพระองค์ ทรงเสด็จเยี่ยมพสกนิกรชาวยะลา ณ พลับพลาที่ประทับในพระปรมาภิไธย ภปร สนามโรงพิธีช้างเผือกยะลา แห่งนี้

#วันที่ 28 เมษายน 2528 ในหลวงรัชกาลที่ 10 ขณะนั้นทรงดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ทรงเสด็จแทนพระองค์เปิด พระบรมราชนุสาวรีย์ สมเด็จพระปิยะมหาราช และ ทรงเยี่ยมพสกนิกรชาวยะลา ณ พลับพลาที่ประทับในพระปรมาภิไธย ภปร สนามโรงพิธีช้างเผือกยะลา แห่งนี้
#เหตุระเบิด #พลับพลาที่ประทับในพระปรมาภิไธย #สนามโรงพิธีช้างเผือก
#สนามโรงพิธีช้างเผือกยะลา #พระเศวตสุรคชาธาร #ช้างเผือก
#สมเด็จพระพันปีหลวง #สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ #พระราชินี
#พระบรมราชชนนีพันปีหลวง #พระราชินีนาถ

 #มือดีขโมยป้ายประวัติ "ช้างเผือกคู่พระบารมี" จากสนามโรงพิธีฯ ยะลา ยะลา- พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี ผกก.สภ.เมืองยะลา สั่งชุด...
26/10/2025

#มือดีขโมยป้ายประวัติ "ช้างเผือกคู่พระบารมี" จากสนามโรงพิธีฯ ยะลา

ยะลา- พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี ผกก.สภ.เมืองยะลา สั่งชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายลักทรัพย์แผ่นป้ายโลหะจารึกประวัติ "พระเศวตสุรคชาธาร" ช้างเผือกคู่พระบารมี รัชกาลที่ ๙ ที่ฐานรูปปั้นภายในสนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลนครยะลา หลังพบร่องรอยตัดหมุดยึดหายไปถึง 2 แผ่น เผยเป็นแผ่นที่ทางเทศบาลฯ เพิ่งนำมาติดใหม่ ด้านนายกเล็กยะลาเตรียมทำแผ่นใหม่ติดตั้งแทน

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568 สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา (สภ.เมืองยะลา) ได้รับแจ้งจากประชาชนและทราบเรื่องจากที่เพจยะลาทูเดย์เผยแพร่ภาพความเสียหายว่ามีเหตุลักทรัพย์เกิดขึ้นที่บริเวณสนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลนครยะลา ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา
พันตำรวจเอกฉัตรชัย ศักดิ์ดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและประสานงานกับเจ้าหน้าที่เทศบาลนครยะลาในฐานะผู้เสียหายทันที

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าทรัพย์สินของทางราชการที่สูญหายไปคือ แผ่นป้ายประวัติรูปปั้นช้างเผือกที่ทำจากโลหะ จำนวน 2 แผ่น โดยคนร้ายได้ทำการตัดหมุดยึดแผ่นป้ายออกจากบริเวณด้านหน้าและด้านหลังฐานรูปปั้นช้างเผือกไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา จึงได้เร่งดำเนินการเพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีการประสานให้เจ้าหน้าที่เทศบาลนครยะลาเข้าให้ปากคำและประเมินมูลค่าความเสียหายเพื่อใช้ในการดำเนินคดี พร้อมทั้งเก็บรวบรวมภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในบริเวณโดยรอบเพื่อติดตามเส้นทางของผู้กระทำผิด และออกสืบสวนหาแหล่งรับซื้อของเก่าที่อาจเป็นช่องทางในการนำทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมไปจำหน่าย

ทั้งนี้ ข้อมูลจากเทศบาลนครยะลาแจ้งว่า แผ่นโลหะที่ถูกขโมยไปนั้นเป็นแผ่นที่ฝ่ายช่างเพิ่งนำมาติดใหม่ก่อนหน้านี้ ซึ่ง #นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา ได้รับทราบเรื่องแล้ว และ #เตรียมดำเนินการจัดทำแผ่นใหม่เพื่อนำไปติดตั้งแทนที่เดิม

สำหรับ #รูปปั้นช้างเผือกดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อรำลึกถึง พระเศวตสุรคชาธาร ช้างเผือกคู่พระบารมีเชือกที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ซึ่งเคยเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของจังหวัดยะลา ในการพระราชพิธีสมโภชขึ้นระวาง ณ จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2511 โดย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในพระราชพิธีดังกล่าว
นอกจากนี้ พระเศวตสุรคชาธาร (ฉายาว่า "คุณพระเศวตฯ เล็ก" หรือ "คุณพระ") ยังเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็น พระสหาย ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ด้วย ซึ่งแสดงถึงความใกล้ชิดกับพระบรมราชวงศ์อย่างยิ่ง

การลักทรัพย์ทรัพย์สินทางราชการที่เป็นป้ายประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญทางจิตใจและคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่งของจังหวัดในครั้งนี้ จึงเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

 #ป้ายประวัติรูปปั้นช้างเผือก โรงพิธีช้างเผือก ยะลา  #ถูกลักทรัพย์ – ตำรวจเร่งล่าตัวผู้กระทำผิดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 256...
26/10/2025

#ป้ายประวัติรูปปั้นช้างเผือก โรงพิธีช้างเผือก ยะลา #ถูกลักทรัพย์ – ตำรวจเร่งล่าตัวผู้กระทำผิด
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา (สภ.เมืองยะลา) ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบการลักทรัพย์ป้ายประวัติรูปปั้นช้างเผือก ภายในบริเวณสนามโรงพิธีช้างเผือก เทศบาลนครยะลา ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งภาพความเสียหายได้ถูกเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์
พันตำรวจเอกฉัตรชัย ศักดิ์ดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุในทันที โดยได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่เทศบาลนครยะลาในฐานะผู้เสียหายเพื่อยืนยันข้อเท็จจริง
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบร่องรอยการถูกลักทรัพย์ทรัพย์สินของทางราชการ โดยทรัพย์สินที่สูญหายเป็นแผ่นป้ายประวัติรูปปั้นช้างเผือกที่ทำจากโลหะ จำนวน 2 แผ่น พบร่องรอยการตัดหมุดยึดแผ่นป้ายออกจากบริเวณด้านหน้าและด้านหลังฐานรูปปั้นช้างเผือก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยได้ประสานงานให้เจ้าหน้าที่เทศบาลนครยะลา เข้าให้ปากคำและประเมินมูลค่าความเสียหายเพื่อใช้ในการดำเนินคดี พร้อม ร่วมตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและเก็บรวบรวมภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในบริเวณโดยรอบ เพื่อติดตามเส้นทางของผู้กระทำผิด ออกสืบสวนหาแหล่งรับซื้อของเก่าที่อาจเป็นช่องทางในการนำทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมไปจำหน่าย
นอกจากนี้ พ.ต.อ. ฉัตรชัย ศักดิ์ดี ได้สั่งการเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความถี่ในการจัดสายตรวจลาดตระเวนในพื้นที่เสี่ยง และประสานงานกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานที่สำคัญต่าง ๆ เพื่อช่วยเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ รวมถึงได้ประชาสัมพันธ์ไปยังร้านรับซื้อของเก่าทุกแห่ง ในพื้นที่ ให้ความร่วมมือในการไม่รับซื้อทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าได้มาจากการลักทรัพย์ และกำชับให้จัดทำบัญชีผู้มาขายอย่างเคร่งครัดตามกฎหมาย

ขอรบกวนแอดมิน ช่วยตามหา แผ่นป้ายทองเหลืองขนาดใหญ่ ทั้ง 2 แผ่น ที่ อนุสาวรีย์พระเศวตสุรคชาธาร หายหมด ทั้ง 2 แผ่น หน้าหลัง
26/10/2025

ขอรบกวนแอดมิน ช่วยตามหา แผ่นป้ายทองเหลืองขนาดใหญ่ ทั้ง 2 แผ่น ที่ อนุสาวรีย์พระเศวตสุรคชาธาร หายหมด ทั้ง 2 แผ่น หน้าหลัง

สำนักพระราชวัง เผยแพร่ประกาศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคตตามที่คณะแพทย์ผู้ถวา...
24/10/2025

สำนักพระราชวัง เผยแพร่ประกาศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต

ตามที่คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี้พันปีหลวง ได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ เพื่อติดตามพระอาการทางระบบต่าง ๆ ความทราบทั่วกันแล้วนั้น ในช่วงที่ประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรหลายครั้ง และคณะแพทย์ตรวจพบความผิดปรกติทางระบบต่าง ๆ ทำให้คณะแพทย์ต้องถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง

ตั้งแต่วันที่ ๑๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต แม้ว่าคณะแพทย์จะถวายการรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่พระอาการทรุดหนักลงตามลำดับ ถึงวันศุกร์ ที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เวลา ๒๑ นาฬิกา ๒๑ นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ ๙๓

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สำนักพระราชวัง จัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาท ในราชสำนักไว้ทุกข์ถวาย มีกำหนด ๑ ปี ตั้งแต่วันสวรรคตเป็นต้นไป

สำนักพระราชวัง
๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สถิตในดวงใจตราบนิรัน...
24/10/2025

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สถิตในดวงใจตราบนิรันด์
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบรมราชินีนาถใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นพระธิดาองค์ใหญ่ของพลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า “สิริกิติ์” ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้เป็นศรี แห่งกิติยากร” ทรงพระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๗๕ ที่บ้านพลเอก เจ้าพระยาวงศานุประพัทธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์) ผู้เป็นบิดาของหม่อมหลวงบัว ณ บ้านเลขที่ ๑๘๐๘ ถนนพระรามหก ตำบลวังใหม่ อำเภอปทุมวัน จังหวัดพระนคร

ขณะนั้นเป็นระยะที่ประเทศเพิ่งเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตย ก่อนหน้านั้นพระบิดาของพระองค์ทรงดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก มียศเป็นพันเอก หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร

หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ ๒๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๕ หม่อมเจ้านักขัตรมงคลทรงออกจากราชการทหาร โดยรัฐบาลแต่งตั้งให้ไปรับราชการในตำแหน่งเลขานุการเอก ประจำสถานทูตสยาม ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอมริกา ส่วนหม่อมหลวงบัวซึ่งมีครรภ์แก่คงพำนักอยู่ในประเทศไทย จนให้กำเนิดหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์แล้วจึงเดินทางไปสมทบ มอบหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ให้อยู่ในความดูแลของเจ้าพระยาวงศานุประพัทธ์ และท้าววนิดาพิจาริณี ผู้เป็นบิดาและมารดาของหม่อมหลวงบัว

หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ต้องอยู่ห่างไกลบิดามารดาตั้งแต่อายุยังน้อย บางคราวต้องระหกระเหินไปต่างจังหวัดตามเหตุการณ์ผันผวนทางการเมือง เช่น ในพุทธศักราช ๒๔๗๖ หม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร พระมารดาของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล ได้ทรงรับนัดดาตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวไปสงขลาด้วย

ปลายพุทธศักราช ๒๔๗๗ หม่อมเจ้านักขัตรมงคลทรงลาออกจากราชการกลับประเทศไทยพร้อมครอบครัว อันมีหม่อมหลวงบัว หม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์ บุตรคนโต และหม่อมราชวงศ์ บุษบา บุตรีคนเล็กผู้เกิดที่สหรัฐอเมริกา แล้วมารับหม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ บุตรคนรอง กับ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์จาก หม่อมเจ้าอัปษรสมาน กลับมาอยู่รวมกันที่ตำหนักซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนกรุงเกษม ปากคลองผดุงกรุงเกษม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เริ่มเรียนชั้นอนุบาลที่โรงเรียนราชินี ปากคลองตลาด ในพุทธศักราช ๒๔๗๙ แต่เมื่อสงครามมหาเอเชียบูรพาลุกลามมาถึงประเทศไทย จังหวัดพระนครถูกโจมตีทางอากาศบ่อยครั้งทำให้การเดินทางไม่สะดวกและไม่ปลอดภัย ในพุทธศักราช ๒๔๘๓ จึงย้ายไปเรียนชั้นประถมและมัธยมที่โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ถนนสามเสน เพราะอยู่ใกล้บ้านในระยะที่พอจะเดินไปโรงเรียนเองได้ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เริ่มเรียนเปียโนที่โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ และในเวลาต่อมาได้ตั้งใจที่จะเป็นนักเปียโนผู้มีชื่อเสียง

หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้เผชิญสภาพของสงครามโลกมาเช่นเดียวกับคนไทยทั้งหลาย หม่อมเจ้านักขัตรมงคลผู้ทรงเป็นทหารเป็นผู้ปลูกฝังให้บุตรและบุตรีรู้จักความมีวินัย ความอดทน ความกล้าหาญ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และความเสียสละ โดยอาศัยสถานการณ์สงครามเป็นตัวอย่าง และสงครามโลกก็ทำให้คนไทยทั้งปวงต้องหันหน้าเข้าช่วยเหลือกันในยามทุกข์ยาก สิ่งเหล่านี้จึงหล่อหลอมหม่อมราชวงศสิริกิติ์ให้มีความเมตตาต่อผู้อื่นและรักความมีระเบียบแบบแผนมาตั้งแต่เยาว์วัย

หลังจากสงครามสงบแล้ว นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น คือนายควง อภัยวงศ์ ได้แต่งตั้งให้หม่อมเจ้านักขัตรมงคลเป็นอัครราชทูตประจำประเทศอังกฤษ หม่อมเจ้านักขัตรมงคลจึงทรงพาครอบครัวทั้งหมดไปด้วยในกลางพุทธศักราช ๒๔๘๙ ขณะนั้นหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เรียนจบชั้นมัธยมปีที่ ๓ ของโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์แล้ว

ระหว่างที่อยู่ในประเทศอังกฤษ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เรียนเปียโน ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสกับครูพิเศษ แต่อยู่ที่อังกฤษได้ไม่นาน พุทธศักราช ๒๔๙๐ หม่อมเจ้านักขัตรมงคลก็ทรงย้ายไปเป็นอัครราชทูตประจำประเทศฝรั่งเศสและเดนมาร์ก ก่อนจะกลับมาเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศอังกฤษอีกครั้งหนึ่ง ระหว่างนี้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ยังคงตั้งใจเรียนเปียโนอย่างขะมักเขม้นเพื่อเตรียมสอบเข้าวิทยาลัยการดนตรีที่มีชื่อเสียงของกรุงปารีส

พุทธศักราช ๒๔๙๑ ขณะที่หม่อมเจ้านักขัตรมงคลและครอบครัวอยู่ในปารีส ได้รับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งโปรดเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโรงงานทำรถยนต์ในกรุงปารีสอยู่เสมอ จนเป็นที่คุ้นเคยและต้องพระราชอัธยาศัย ฉะนั้นเมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประสบอุปัทวเหตุทางรถยนต์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต้องประทับรักษาพระองค์ในสถานพยาบาล จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หม่อมหลวงบัวพาบุตรี ทั้งสองคือหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์และหม่อมราชวงศ์บุษบาเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทเยี่ยมพระอาการเป็นประจำ จนพระอาการประชวรทุเลาลงและเสด็จกลับพระตำหนักได้

สมเด็จพระราชชนนีได้รับสั่งขอให้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์อยู่ศึกษาต่อที่เมืองโลซานน์ในโรงเรียนประจำชื่อโรงเรียน Riante Rive ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงในการสอนวิชาพิเศษแก่กุลสตรี คือ ภาษา ศิลปะ ดนตรี ประวัติวรรณคดี และประวัติศาสตร์

ต่อมาอีก ๑ ปี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หม่อมเจ้านักขัตรมงคลและครอบครัวมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วสมเด็จพระราชชนนีรับสั่งขอหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ต่อหม่อมเจ้านักขัตรมงคลและทรงประกอบพิธีหมั้นเป็นการภายใน ในวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๙๒ ทรงใช้พระธำมรงค์ที่สมเด็จพระราชบิดาทรงหมั้นสมเด็จพระราชชนนีเป็นพระธำมรงค์หมั้น แล้วโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ศึกษาต่อไปจนถึงกำหนดตามเสด็จกลับมาถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ในเดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓

วันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ มีพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ณ วังสระปทุม สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงเป็นประธานพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์และ เทพมนตร์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ได้ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย และในวันนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงสถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์

วันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ เป็นวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเฉลิมพระบรมนามาภิไธยว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” และทรงเฉลิมพระยศ สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี

วันที่ ๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ ทั้งสองพระองค์เสด็จกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพราะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กราบบังคมทูลแนะนำให้ทรงพักรักษาพระองค์อีกระยะหนึ่ง

พุทธศักราช 2494 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี มีพระประสูติกาลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาฯ ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเจริญพระชันษาได้ ๗ เดือน ทั้งสามพระองค์จึงเสด็จนิวัติประเทศไทย ประทับ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณฯ ซึ่งปัจจุบันคือ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศร ราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดาฯ ซึ่งปัจจุบันเฉลิมพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดาฯ ปัจจุบันเฉลิมพระอิสริยยศ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิริธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ซึ่งปัจจุบันเฉลิมพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้ประสูติต่อมาตามลำดับ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน รวมพระราชโอรสและพระราชธิดา ๔ พระองค์

ปลายพุทธศักราช ๒๔๙๘ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ผู้ทรงดำรงตำแหน่งสภานายิกาสภากาชาดไทยเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงแต่งตั้งสมเด็จพระบรมราชินีให้ทรงดำรงตำแหน่งสภานายิกาแทน เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๙๙ และในปีเดียวกันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทรงพระผนวชตามโบราณราชประเพณี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งสมเด็จพระบรมราชินีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

ภายหลังเมื่อทรงลาผนวชแล้ว ได้ทรงสถาปนาพระราชอิสริยยศสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อันมีความหมายว่าทรงเป็นที่พึ่งของประชาชน นับเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถพระองค์ที่สองของไทยต่อจากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ซึ่งทรงปฏิบัติราชการแทนพระองค์เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเยือนยุโรป

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจน้อยใหญ่ทั้งในฐานะที่ทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชินีของไทย และในฐานะคู่พระราชหฤทัยแห่ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กล่าวคือทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจทั้งหลายไปได้เป็นอันมาก ทั้งยังมีพระราชดำริเริ่มใหม่เพื่อช่วยเหลือประชาชนและพัฒนาประเทศอย่างอเนกอนันต์ ซึ่งโครงการพระราชดำริเหล่านั้นได้ยังประโยชน์มหาศาลแก่ประชาชนสืบมาจนทุกวันนี้

ร่ำไห้ทั้งแผ่นดิน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงสวรรคต
24/10/2025

ร่ำไห้ทั้งแผ่นดิน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงสวรรคต

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงสวรรคต

ที่อยู่

ศาลเจ้าแม่กอเหนี่ยวฉื่อเซี่ยงตึ๊งยะลา YALA LIFE ถนนพุทธภูมิวิถี
Yala
95000

เวลาทำการ

จันทร์ 06:00 - 18:00
อังคาร 06:00 - 18:00
พุธ 06:00 - 18:00
พฤหัสบดี 06:00 - 18:00
ศุกร์ 06:00 - 18:00
เสาร์ 06:00 - 18:00
อาทิตย์ 06:00 - 18:00

เบอร์โทรศัพท์

+6673212769

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ศาลเจ้าแม่กอเหนี่ยวฉื่อเซี่ยงตึ๊งยะลา YALA LIFEผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์