ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน

29/09/2025

27/09/2025

โอม ปภส. นำทีมงานกลุ่มฯชุดปฏิบัติการพิเศษ ปภส. ตามเก็บงานค้างเก่า ต่างด้าวขายดอกไม้ ตลาดแสมดำ

วันที่ 27 ก.ย. 2568 นายทรงชัย เนียมหอม หรือ โอม ปภส. ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน พร้อมทีมงานกลุ่มฯชุดปฏิบัติการพิเศษ ปภส. ลงพื้นที่ตลาดแสมดำติดตามเคชที่ได้รับร้องเรียนว่า พบคนต่างด้าวขายดอกไม้อยู่ภายในตลาดมาเป็นเวลานานโดยไม่มีนายจ้างหรือคนไทยอยู่ควบคุมงาน ขอให้ช่วยประสานงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

เวลา 19.00 น. นายทรงชัยพร้อมทีมงานเดินทางเข้าจุดที่ได้รับร้องเรียนแยกย้ายกันแฝงตัวเป็นลูกค้าปะปนกับผู้คน และได้เข้าสังเกตุการณ์เป้าหมายว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ต่อมาได้รับการยืนยันจากทีมงานแล้วว่าเป็นคนต่างด้าวจริง ขายของโดยไม่มีคนไทยอยู่ด้วย นายทรงชัยจึงได้ประสานไปยัง 191 ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.แสมดำ เข้าตรวจสอบใบอนุญาตการทำงาน

เวลา 19.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม สน.แสมดำ เดินทางมาถึง นายทรงชัยแสดงตัวและชี้ให้เข้าตรวจสอบ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบเอกสารของคนต่างด้าวแต่ไม่ปรากฎเอกสารประจำตัวขายของหน้าร้าน นายทรงชัยจึงกล่าวโทษให้เจ้าหน้าที่จับกุมฐานเป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่จะทำได้ ขอให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม

เมื่อเจ้าหน้าที่นำตัวมาถึง สน.แสมดำ และทำการตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดพบเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองอย่างถูกต้องแต่ไม่มีใบอนุญาตขายของหน้าร้าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตหรือเป็นทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่จะทำได้ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

คดีอาญาที่ 648/68 เลขของกลางที่ 141/68 สน.แสมดำ ลงวันที่ 27 ก.ย. 2568

นายทรงชัยเผย “ขอบคุณชุดสายตรวจ สน.แสมดำ ชุดจับกุมทุกท่าน ขอบคุณพนักงานสอบสวนเวรประจำวันเจ้าของคดี ขอบคุณประสบการณ์ดี ๆ ทุกครั้งที่ขอความร่วมมือและได้รับความร่วมมืออย่างดีทุกครั้ง”

#โอมปภส #ทรงชัยเนียมหอม
#สถานีตำรวจนครบาลแสมดำ

27 กันยายน 2568

#ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน

27/09/2025

#ข่าวประชาสัมพันธ์

คณะกรรมการสถานศึกษา ศิษย์เก่า ผู้บริหาร คณะครูบุคคลากร ผู้ปกครองและนักเรียน โรงเรียนวัดเจริญราษฎร์ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีความยินดีขอเรียนเชิญท่านร่วมเป็นเกียรติในงานเลี้ยงน้ำชา “จิบน้ำชา พาน้ำใจ ให้น้อง จ.ร.” มีบุปเฟ่ต์ “ขนมจีน”

เพื่อระดมทุน สร้างห้องน้ำอนุบาล ต่อเติมห้องเรียนวิทยาศาสตร์ และจัดซื้อคอมพิวเตอร์

วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00 - 17.00 น.

สามารถลดหย่อนภาษีได้ทันที 2 เท่า ผ่าน e-Donation เพียงสแกน QR Code

ขอขอบพระคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

27/09/2025

หลับเถิดปวงประชาทหารกล้าจะคุ้มภัย

26/09/2025

#ข่าวประชาสัมพันธ์

ตามที่มีข่าวว่า กระทรวงแรงงาน หรือรัฐบาลไทย ออกนโยบายรับแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชารายใหม่ภายใต้ระบบระบบบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (Memorandum Of Understanding : MOU)

เพจประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบันติดตามปัญหาด้านแรงงานต่างด้าวมาอย่างต่อเนื่องและไม่พบว่ามีเหตุตามที่ประชาชนวิตกกังวลแต่ประการใด มีเพียงแนวทางหาที่มาของแรงงานชดเชยแต่อยู่ในขั้นตอนหารือหรือวางแนวทางก่อนประกาศใช้เท่านั้น จึงยืนยันได้ว่าปัจจุบัน

กระทรวงแรงงาน ไม่ได้ประกาศรับแรงงานกัมพูชาใหม่ ในปัจจุบัน แต่มีมาตรการผ่อนผันให้แรงงานกัมพูชาที่มีใบอนุญาตทำงานและกำลังจะหมดอายุ (ภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568) สามารถ ขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานได้ โดยต้องยื่นคำขอภายในกำหนดเวลา และมีการผ่อนผันให้แรงงานกัมพูชาที่ใบอนุญาตหมดอายุ หรือมีสถานะไม่ถูกต้อง สามารถอยู่ทำงานต่อได้ชั่วคราวในประเทศไทยเป็นเวลา 1 ปี เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานและการอพยพกลับประเทศ

ทั้งนี้การพำนักอยู่ภายใต้การผ่อนผันจะต้องไม่กระทำการใดอันขัดต่อกรอบข้อกฎหมายเช่น ลักลอบทำงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำตามประกาศของรัฐมนตรี

26 กันยายน 2568
#ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน

26/09/2025

DE รับไม้ต่อกรณี โอม ปภส. ร้องให้ปิดสื่อโซเชียล สุนัย จุลพงศธร เหตุบังอาจกระทำการให้สถาบันต้องเสื่อมค่าลง

จากกรณีเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2568 นายทรงชัย เนียมหอม หรือ โอม ปภส. ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน ได้ยื่นหนังสือถึงนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้พิจารณาดำเนินการปิดกั้นการเข้าถึงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกช่องทางการเผยแพร่ของนายสุนัย จุลพงศธร ฐานเผยแพร่ข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อให้กระทบต่อพระเกียรติยศของพระมหากษัตริย์ หรือทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ต้องเสื่อมค่าลง และหากผลการตรวจสอบเพิ่มเติมขัดต่อกฎหมายข้ออื่นขอให้ดำเนินการจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

วันที่ 26 ก.ย. 2568 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยนายจักรพงษ์ ชาวงษ์ ผอ.กองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ปฏิบัติราชการแทน ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีหนังสือแจ้งผลการดำเนินถึงนายทรงชัย เนียมหอม ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน จะรับไว้ตรวจสอบและดำเนินการปิดหรือปิดกั้นการเผยแพร่ตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

26 กันยายน 2568
#ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน

25/09/2025

ไอ้ #ฮุนเซ็น หากมึงไม่หยุดคุกคามประเทศไทย
ทีม ปภส. จะเอาเจ้าหน้าที่ไล่จับ #แรงงานเขมรในไทย พวกอยู่แบบเถื่อนให้เกลี้ยง

25/09/2025

โอม ปภส. พร้อมทีมงานกลุ่มฯชุดปฏิบัติการพิเศษ ปภส. ลงพื้นที่ซอยเทียนทะเล 19 ชี้จับ พม่า ขายข้าวแกง

วันที่ 25 ก.ย. 2568 เวลา 19.30 น. นายทรงชัย เนียมหอม หรือ โอม ปภส. ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน นำทีมงานกลุ่มฯชุดปฏิบัติการพิเศษ ปภส. ลงพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้งว่ามีคนต่างด้าวลักลอบเปิดร้านขายอาหาร (ร้านข้าวแกง) ริมถนนภายในซอยเทียนทะเล 19 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางเข้าเก็บหลักฐาน

เวลา 19.46 น. เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนและยืนยันแล้วว่ามีการก่อเหตุจริงนายทรงชัยจึงประสานงานไปยัง 191 ขอให้ประสายสายตรวจ สน.เทียนทะเล มาพบ ณ จุดหมาย เมื่อเจ้าหน้าตำรวจเวร 20 พร้อมกำลังสายตรวจชุดป้องกันและปราบปรามเข้ามาถึงจุดนัดหมาย นายทรงชัยจึงนำไปยังจุดเกิดเหตุและชี้ให้เข้าตรวจสอบ ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คนต่างด้าว (สงวนนาม) เพศหญิง สัญชาติเมียนมา ไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ ไม่มีเอกสารการขออนุญาตทำงานขายของหน้าร้าน ไม่ปรากฎว่ามีนายจ้างคนไทยมาแสดงตัว นายทรงชัยจึงได้กล่าวโทษกับตำรวจชุดจับกุมให้จับฐานเป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่จะทำได้ขอให้นำตัวไปดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ชุกจับกุมจึงนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.เทียนทะเล เพื่อทำบันทึกจับกุมก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

นายทรงชัยเผย “ขอบคุณหัวหน้าชุดสายตรวจ 20 รอง สวป.สน.เทียนทะเล สำหรับการรับแจ้งเหตุและนำกำลังเข้าจับกุมต่างด้าวที่ทำผิดกฎหมายอย่างรวดเร็ว ผมยืนยันว่าทีมงาน ปภส. ไม่ใช่ศัตรูของตำรวจแต่อย่างใด พวกเราทำหน้าที่พลเมืองตามรัฐธรรมนูญพิทักษ์ไว้ซึ่งผลประโยชน์ของชาติและอาชีพที่สงวนไว้ให้ปวงชนชาวไทยได้ทำมาหากิน เท่านี้จริง ๆ ที่เราต้องการ”

#โอมปภส #ทรงชัยเนียมหอม
#สถานีตำรวจนครบาลเทียนทะเล

25 กันยายน 2568

#ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน

25/09/2025

แม่โทรมาให้สมัครเน็ตเพื่อไปลงทะเบียนใช้คนละครึ่ง
รัฐให้ 150 แม่ออก 150 / เดือน
แต่แอดมินต้องสมัครเน็ตให้แม่เพื่อใช้สิทธินี้ค่าเน็ตเดือนละ 350 บาท

25/09/2025

“กรมพระศรีสวางควัฒน์ฯ”
ทรงเปิด“กองทุนหทัยทิพย์”ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ พร้อม พระราชทานเงิน 1 ล้านบาท สมทบทุน เอาไว้
หวังช่วย ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา
ให้ปลอดภัย
สนับสนุน “สร้างรั้ว-บังเกอร์”

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังศูนย์ประชุม สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงเปิดโครงการ "กองทุนหทัยทิพย์" ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ ซึ่งตั้งขึ้นจากพระดำริฯ โดยทรงเป็นประธานกรรมการบริหารกองทุนฯ พร้อมกับพระราชทานเงิน 1 ล้านบาท สมทบ "กองทุนหทัยทิพย์" เพื่อเป็นทุนตั้งต้นในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน

ในการนี้ มีพระดำรัสถึงพระปณิธานในการจัดตั้ง โครงการ "กองทุนหทัยทิพย์" ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์

โครงการ "กองทุนหทัยทิพย์" ตั้งขึ้นเพื่อให้การสนับสนุนภาครัฐ เอกชน และประชาชนในการป้องกันและแก้ปัญหาอันเกิดจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ความขัดแย้ง ภัยพิบัติ หรือเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดภยันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งสนับสนุนภาครัฐและเอกชนในการดำเนินการให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยแก่ประชาชน ให้การช่วยเหลือและแก้ไขเหตุการณ์อื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นและก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่สังคม ทั้งยังสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ ในสถานการณ์ปัจจุบันมีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งถึงความปลอดภัยในกำลังพลแนวหน้าและประชาชนที่อยู่บริเวณชายแดน จึงเห็นควรสนับสนุนการสร้างรั้วและบังเกอร์เป็นอันดับต้น

โอกาสนี้ พระราชทานเงินเป็นทุนตั้งต้นของ "กองทุนหทัยทิพย์" แก่คุณหญิงจรัสศรี ทีปิรัช รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายบริหารและผู้อำนวยการสำนักองค์ประธาน

จากนั้น พระราชทานพระวโรกาสให้ รองศาสตราจารย์ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายบริหารและอาคารสถานที่ นำคณะบุคคลเฝ้าถวายเงินเพื่อสมทบทุน "กองทุนหทัยทิพย์"

ผูู้มีจิตกุศลร่วมบริจาคสมทบฯ ได้ที่สำนักงาน "กองทุนหทัยทิพย์" ชั้น 1 อาคารวิจัยเคมี สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-5538618-19 หรือ บัญชี ธนาคารกรุงเทพ สาขาหลักสี่พลาซ่า ชื่อบัญชี "เงินกองทุนหทัยทิพย์" เลขบัญชี 229-4-29977-7

24/09/2025

โอม ปภส. ข้องใจสายตรวจ สน.เทียนทะเล แจ้งตรวจสอบต่างด้าวมาถึงกลับเพิกเฉย เดือดเข้าแจ้ง 157 และอื่นๆ

วันที่ 23 ก.ย. 2568 นายทรงชัย เนียมหอม หรือ โอม ปภส. เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามสายตรวจรถยนต์เวร 20 ปฏิบัติหน้าที่ตามเวลาที่เกิดเหตุคือ วันอังคารที่ 23 ก.ย. 2568 เวลา 20.40 น. โดยประมาณ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบที่เดินทางเข้าจุดเกิดเหตุอีก 3 นาย รวมแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามในเครื่องแบบ สน.เทียนทะเล จำนวน 4 นาย

เอาผิดฐาน 1. ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานของรัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติ กระทบต่อสภาพจิตใจของราษฎร์ตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา, ฐาน 2. ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานของรัฐตั้งใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าตนมีอำนาจบังคับใช้กฎหมายเรียกตรวจสอบเอกสารคนต่างด้าวที่ราษฎร์มีหลักฐานอันควรเชื่อว่าได้ก่อเหตุผิดต่อกฎหมายข้อหนึ่งข้อใดที่ตราขึ้นและมีผลบังคับใช้แล้ว ตามมาตรา 57 ของ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522, ฐาน 3. ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานของรัฐตั้งใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าตนมำอำนาจตรวจสอบจับกุมคนต่างด้าวที่เข้าเมืองมาเพื่อเป็นกรรมกร หรือทำงานที่รัฐมนตรีมีประกาศกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ หรืองานที่ห้ามคนต่างด้าวทำตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวตามมาตรา 12 (3) ของ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522, ฐาน 4. ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานของรัฐตั้งใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าคนต่างด้าวนั้นกระทำการละเมิดต่อมาตรา 12 (3) ของ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และมาตรา 8 ของ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 63 ของ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522, จนกว่าจะถึงที่สุดโดยขอให้พนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลจริยธรรมข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2564 โดยไม่กระทำการใดที่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบวิชาชีพเป็นข้าราชการตำรวจด้วยกัน

สืบเนื่องเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2568 นายทรงชัยและพวกพบเห็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมายืนขายของหน้าร้านจำนวน 2 คน บริเวณหน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง ถัดจากปากซอยวงแหวนแสงประทีบ 3 ภายในซอยเทียนทะเล 26 แยก 5 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร โดยไม่มีคนไทยอยู่ควบคุมการทำงาน ต่อมานายทรงชัยได้โทรแจ้งที่ 191 ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.เทียนทะเล เข้าตรวจสอบการทำงาน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขายของหน้าร้าน

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงจุดนัดหมายนายทรงชัยได้นำชี้เข้าตรวจสอบหากมีการกระทำความผิดขอให้จับกุมตัวมาดำเนินคดี แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นายเข้าถึงจุดรับแจ้งเหตุกลับไม่ตรวจสอบเอกสารของคนต่างด้าว ไม่ตรวจสอบเอกสารผู้อ้างตนว่าเป็นนายจ้าง ซ้ำออกตัวแทนว่าเคยมาตรวจแล้วเอกสารถูกต้องทั้งที่นายทรงชัยย้ำแล้วว่า เอกสารขออนุญาตขายของหน้าร้านของคนต่างด้าวมีหรือไม่ กลับถูกนายตำรวจหัวหน้าชุด (ยังไม่ทราบชื่อ) ตำแหน่ง รอง สวป.สน.เทียนทะเล เวร 20 ตามเวลาที่เกิดเหตุหมิ่นประมาทว่า นายทรงชัยเข้ามาระรานผู้อื่น นายทรงชัยจึงเข้าพบพนักงานสอบสวนแจ้งความเอาผิดนายตำรวจทั้ง 4 นายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

นายทรงชัยเผย “อาสามาเป็นตำรวจหรือสมัครใจเข้ามาเป็นตำรวจแล้วต้องอย่าลืมคำปฏิญาณตน ลืมได้แต่อย่าลืมจนของเข้าตัว เรื่องภัยความมั่นคงที่ก่อเหตุโดยคนต่างด้าวกลับนิ่งนอนใจ ผมคนไทยกลับถูกลดทอนคุณค่าการทำหน้าที่พลเมืองตามรัฐธรรมนูญสะงั้น คลิปนี้เอาลงให้ประชาชนทั้งประเทศเห็น หากรู้สึกว่าได้รับความเสียหายก็แจ้งความเอาผิดผม ส่วนผมไม่จบแค่ชั้นโรงพัก ป้ายต่อไปคือสำนักงานเจรตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

#โอมปภส #ทรงชัยเนียมหอม
#สถานีตำรวจนครบาลเทียนทะเล

24 กันยายน 2568

#ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน

22/09/2025

ทีมงาน ปภส. หวนคืนท้องที่ สภ.บางบัวทอง ได้รับแจ้งว่าต่างด้าวลักลอบทำงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำเด็ดขาด

วันจันทร์ที่ 22 ก.ย. 2568 เวลา 18.00 น. โดยประมาณ นายทรงชัย เนียมหอม หรือ โอม ปภส. ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ทรงเกียรติ จรรยาศรี รอง สว.(สอบสวน)สภ.บางบัวทอง แจ้งเหตุลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานและร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ โดยประสานงานล่วงหน้าไปยัง พ.ต.อ.พฤต จำรูญศาสตร์ ผกก.สภ.บางบัวทอง และ พ.ต.ท.ชนาธิป พานทอง รอง ผกก.ป.สภ.บางบัวทอง ได้รับทราบแล้ว

เวลา 19.00 น. โดยประมาณ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.พฤต จำรูญศาสตร์ ผกก.สภ.บางบัวทอง พ.ต.ท.ชนาธิป พานทอง รอง ผกก.ป.สภ.บางบัวทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวร 20 สภ.บางบัวทอง พร้อมพวก เข้าถึงจุดนัดหมายบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ 7/11 สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงคลองไผ่ ตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี นายทรงชัยและทีมงานกลุ่มฯชุดปฏิบัติการพิเศษ ปภส. ได้ชี้ให้ตำรวจเข้าจับกุมและกล่าวโทษเอาผิดผู้ก่อเหตุฐานเป็นคนต่างด้าวลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งงานนั้นเป็นประกาศกระทรวง เรื่อง งานที่คนต่างด้าวห้ามทำ บัญชีหนึ่ง งานที่ห้ามคนต่างด้าวทำเด็ดขาด (23) งานเร่ขายสินค้า ผิดตามมาตรา 8 ของ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พร้อมกล่าวโทษให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้ ป.วิ.อาญา มาตรา 85 ยึดของกลางมาประกอบคดีเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาเพื่อทำบันทึกจับกุม

เมื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาถึง สภ.บางบัวทอง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สรุปผลการตรวจสอบพบว่า ผู้ก่อเหตุรายที่ 1. นาย ไต เดาวัน เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม เร่ขายผลไม้โดยใช้จักรยานยนต์พ่วงข้างก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุรายที่ 2. นาย เหวียน หวัง ลาม เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม เร่ขายลูกชิ้นทอดโดยใช้จักรยานยนต์พ่วงข้างก่อเหตุ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งสิทธิและนำตัวพร้อมของกลางที่ทำการยึดมาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

นายทรงชัยเผย “วันนี้ประทับใจและขอขอบคุณ พ.ต.อ.พฤต จำรูญศาสตร์ ผกก.สภ.บางบัวทอง พ.ต.ท.ชนาธิป พานทอง รอง ผกก.ป.สภ.บางบัวทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวร 20 สภ.บางบัวทอง พร้อมพวก ทุกท่านไม่นิ่งนอนใจเมื่อได้รับแจ้งเหตุ ประสบการณ์ในวันนี้ขอชาวบางบัวทองมั่นใจว่า ตำรวจยังเป็นที่พึ่งของพวกท่านได้เสมอครับ”

#โอมปภส #ทรงชัยเนียมหอม
#สถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง

23 กันยายน 2568

#ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน