TRR Group Radio วิทยุชุมชน คนทำอ้อย (2025)

25/10/2025

น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิรันดร์

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะข้าพระพุทธเจ้า
คณะผู้บริหาร และพนักงาน กลุ่มไทยร่วมกำลาภ

23/10/2025

๒๓ ตุลาคม น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
ที่ทรงวางรากฐานให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองทัดเทียมนานาประเทศ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร และพนักงาน TRK GROUP

21/10/2025

๒๑ ตุลาคม
วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิรันดร์
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร และพนักงาน TRK GROUP

13/10/2025

๑๓ ตุลาคม "วันนวมินทรมหาราช"
น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร และพนักงาน TRK GROUP

08/10/2025

ทรงพระเจริญ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ
๘ ตุลาคม พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร และพนักงาน TRK GROUP

26/09/2025

5 วิธีเก็บข้าวสารยังไงให้ไร้มอด?

เคยไหม? ซื้อข้าวสารมาใหม่ๆ ก็ต้องมาปวดหัวกับปัญหา มอด ตัวเล็กๆ ที่ไชอยู่ในถุงข้าว หรือไม่ก็เจอปัญหา เชื้อรา ที่ทำให้ข้าวสารมีกลิ่นเหม็นและไม่น่ารับประทาน วันนี้เรามีวิธี เก็บข้าวสารยังไงให้ไร้มอด? 5 วิธีง่ายๆ กินได้นาน ไม่ต้องทิ้ง มาฝาก
1. เก็บในภาชนะที่มิดชิด
- ภาชนะปิดสนิท: เลือกใช้ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เช่น โหลแก้ว, ถังพลาสติกที่มีฝาปิดแน่น หรือกล่องสุญญากาศ เพื่อป้องกันไม่ให้มอดและแมลงอื่นๆ เล็ดลอดเข้าไปได้
- หลีกเลี่ยงถุงพลาสติก: แม้จะสะดวก แต่ถุงพลาสติกมักไม่สามารถป้องกันมอดได้ดีเท่าภาชนะแข็ง
2. เก็บในที่แห้งและเย็น
- หลีกเลี่ยงความชื้น: ความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเชื้อรา ควรเก็บข้าวสารในที่แห้งและอากาศถ่ายเทสะดวก
- อุณหภูมิเหมาะสม: หลีกเลี่ยงการเก็บในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ใกล้เตาไฟ หรือบริเวณที่โดนแสงแดดโดยตรง
3. ใช้สมุนไพรไล่มอด
- ใบมะกรูด, ใบสะเดา, พริกแห้ง: นำใบมะกรูด ใบสะเดา หรือพริกแห้งใส่ลงในถุงผ้าเล็กๆ หรือใส่ในภาชนะเก็บข้าวสาร จะช่วยไล่มอดได้
- กระเทียม: นำกระเทียมแกะเปลือกใส่ลงในข้าวสาร หรือวางไว้ในภาชนะเก็บ ก็สามารถช่วยป้องกันมอดได้เช่นกัน
4. แช่แข็ง
- วิธีเร่งด่วน: หากพบว่ามีมอดในข้าวสารจำนวนไม่มาก สามารถนำข้าวสารใส่ถุงซิปล็อค หรือภาชนะที่ปิดสนิท แล้วนำไปแช่แข็งประมาณ 2-3 วัน ความเย็นจะทำให้มอดตาย
- ข้อควรระวัง: เมื่อนำข้าวสารออกจากช่องแช่แข็ง ควรปล่อยให้ละลายน้ำแข็งจนหมดก่อนนำมาหุง
5. หมั่นทำความสะอาด
- ทำความสะอาดภาชนะ: ก่อนนำข้าวสารใหม่มาเติม ควรทำความสะอาดภาชนะที่ใช้เก็บข้าวสารให้เรียบร้อย เพื่อกำจัดเศษข้าวสารเก่าและอาจมีไข่มอดตกค้าง
- สังเกต: หมั่นสังเกตข้าวสารอยู่เสมอ หากพบร่องรอยของมอดหรือเชื้อรา ควรรีบนำข้าวสารออกมาทำความสะอาดหรือกำจัดทิ้ง

ที่มา : https://shorturl.asia/nVQJ0

#กลุ่มไทยรุ่งเรือง #คลื่นดีสำหรับคนทำอ้อย

24/09/2025

๒๔ กันยายน น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย
ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร และพนักงาน TRR GROUP

23/09/2025

แนวทางการดูแลสุขภาพ "4 ลด 4 เลิก" สำหรับ Gen Y และทุกเจนที่ต้องการดูแลหัวใจให้แข็งแรง

4 ลด : ลดปัจจัยเสี่ยงสะสม
1. ลดอาหารไขมันสูงและหวานจัด เมนูโปรดของ Gen Y อย่างชานมไข่มุกหรือหมูกระทะ เพิ่มปริมาณไขมันและน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงควรจำกัดความถี่ เช่น จากเดิมที่กินทุกสัปดาห์ให้เหลือเดือนละครั้ง และพยายามกินเมนูต้มหรือนึ่งแทนของทอดเพื่อลดความเสี่ยง
2. ลดโซเดียม อาหารสำเร็จรูปคือทางลัดสุดสะดวกของคนรุ่นใหม่ แต่ก็มักซ่อนโซเดียมในปริมาณสูง ดังนั้นควรอ่านฉลากก่อนซื้อ เลือกเมนูที่ปรุงน้อย และหลีกเลี่ยงการใส่เครื่องปรุงเพิ่ม ก็จะช่วยลดภาระการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างมาก
3. ลดน้ำหนักและรอบเอว ภาวะอ้วนลงพุงเป็นปัจจัยเสี่ยงโดยตรงต่อเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง การปรับพฤติกรรมให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวมากขึ้น เช่น เดินวันละ 8,000–10,000 ก้าว ขึ้นบันไดแทนลิฟต์ จะช่วยเผาผลาญพลังงานและลดรอบเอวได้
4. ลดความเครียดเรื้อรัง ความเครียดจากงานและการกังวลกับภาระต่าง ๆ ในชีวิต ทำให้หัวใจทำงานหนัก เสี่ยงความดันโลหิตสูง และทำให้คุณภาพการนอนลดลง ทุกคนควรหาเวลาส่วนตัวให้ตนเองอย่างน้อยวันละ 15–30 นาทีเพื่อทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ หรือจดบันทึก จะช่วยให้หัวใจได้พักฟื้น

4 เลิก : เลิกพฤติกรรมทำร้ายหัวใจ
1. เลิกสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีสารที่ทำลายหลอดเลือดและหัวใจ และเพิ่มโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองในวัยทำงาน การเลิกสูบไม่เพียงช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น แต่ยังทำให้ปอดฟื้นตัวและเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย
2. เลิกนอนดึก–นอนน้อย การนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืนทำให้ร่างกายไม่มีเวลาซ่อมแซมตัวเอง ซึ่งทำให้ระบบฮอร์โมนแปรปรวน และเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจวาย โดยการตั้งเวลาเตือนปิดหน้าจอ 30 นาทีก่อนเข้านอน และจัดกิจวัตรก่อนนอนที่สม่ำเสมอ จะช่วยให้หลับดีขึ้นและตื่นมาสดชื่น
3. เลิกใช้ชีวิตแบบไม่ออกกำลังกาย การนั่งติดโต๊ะทำงานทั้งวันหรือใช้เวลาว่างไปกับหน้าจอโดยไม่ขยับตัว ทำให้การไหลเวียนเลือดลดลงและหัวใจไม่แข็งแรง การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องหนักหรือใช้เวลานาน เพียงเลือกกิจกรรมที่สนุกและเหมาะกับตนเอง เช่น เต้นตามคลิป ปั่นจักรยาน หรือเดินเล่นหลังเลิกงาน เพียงทำให้ได้รวม 150 นาทีต่อสัปดาห์ก็เพียงพอในการเสริมความแข็งแรงของหัวใจ
4. เลิกละเลยการตรวจสุขภาพประจำปี ความเสี่ยงต่อโรคร้ายของ Gen Y คือการคิดว่าตัวเองยังแข็งแรงและไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพ แต่โรคหัวใจใน Gen Y มักไม่มีสัญญาณเตือนชัดเจน การตรวจคัดกรองไขมัน ความดัน และสุขภาพหัวใจปีละครั้ง จะช่วยให้เจอความผิดปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ และรับการรักษาทันท่วงที

ที่มา : https://shorturl.asia/lrYTd

#กลุ่มไทยรุ่งเรือง #คลื่นดีสำหรับคนทำอ้อย

19/09/2025

แพทย์เตือน Gen Y วัยเดอะแบก เสี่ยงป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้น

คนส่วนใหญ่มักคิดว่าโรคหัวใจและหลอดเลือดเกิดขึ้นกับผู้สูงวัยเท่านั้น แต่ข้อมูลที่น่าเชื่อถือหลายแห่งกลับพบว่ามีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้อายุต่ำกว่า 70 ปีมากขึ้น และยังพบว่า 1 ใน 5 ของผู้ป่วยหัวใจวายมีอายุต่ำกว่า 40 ปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่ากังวลในปัจจุบัน
พฤติกรรมเสี่ยง ตัวการโรคหัวใจใน Gen Y
ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนว่าคนวัยทำงานตอนต้นกำลังเผชิญปัญหาหัวใจเร็วกว่าที่เคย แม้อยู่ในวัยทำงานที่ร่างกายยังแข็งแรง แต่ด้วยภาระงาน ความเครียดจากการหาเงินเลี้ยงครอบครัวและการดูแลผู้สูงอายุในบ้าน ก็เป็นปัจจัยทำให้หัวใจทำงานหนัก เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหลอดเลือดแข็งตัวได้ง่ายขึ้น รวมทั้งยังมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การนั่งทำงานต่อเนื่องวันละหลายชั่วโมงโดยแทบไม่ขยับตัว การรับประทานอาหารที่มีเกลือ น้ำตาล ไขมันทรานส์ และคอเลสเตอรอลสูง ไปจนถึงอาหารสำเร็จรูป มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนลงพุง

ถ้าหากมีพฤติกรรมอันตรายร่วมด้วยอย่างการสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และการใช้สารเสพติดบางชนิด ก็ยิ่งเร่งให้หัวใจและหลอดเลือดเสื่อม และเพิ่มโอกาสเกิดหัวใจวายได้แม้ในคนอายุน้อย และยิ่งถ้ามีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูง ที่น่ากังวลคือ อาการในคนอายุน้อยมักไม่ชัดเจน เช่น แน่นหน้าอก หายใจติดขัด อ่อนเพลีย หรือเวียนศีรษะ ซึ่งมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการทั่วไปจากความเครียด ทำให้พลาดโอกาสรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตกะทันหัน

โรคหัวใจที่พบบ่อยและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตสูงในคนวัยทำงาน โดยเฉพาะช่วงอายุ 30–40 ปี ได้แก่
1. โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary Artery Disease – CAD)
2. โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia)
3. โรคหัวใจล้มเหลว (Heart Failure)
4. โรคกล้ามเนื้อหัวใจ หรือภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

ที่มา : https://shorturl.asia/lrYTd

#กลุ่มไทยรุ่งเรือง #คลื่นดีสำหรับคนทำอ้อย

16/09/2025

ปวดหัวหลังตื่นนอน สัญญาณอันตราย!!

อาการปวดหัวตุบ ๆ หรือรู้สึกหนักหัวเหมือนนอนไม่อิ่มหลังตื่นนอนทุกเช้า เรียกว่า "Early morning headache" ซึ่งบ่งบอกถึง "ความผิดปกติในการนอนหลับ"

ทำไมตื่นนอนแล้วปวดหัว?

อาการปวดหัวตอนเช้าเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งโรคประจำตัว พฤติกรรมการนอน สุขนิสัย สภาพแวดล้อม ไปจนถึงสุขภาพกายและใจ
- นอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA): เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สมองทำงานหนักและขาดออกซิเจนตอนกลางคืน ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจส่งผลต่อสมองและหัวใจได้
- การนอนกัดฟัน: การขบหรือกัดฟันโดยไม่รู้ตัวขณะหลับ ทำให้กล้ามเนื้อตึงและปวดหัวได้ มักมีอาการปวดกรามร่วมด้วย
- โรคปวดหัวที่เป็นอยู่แล้ว (เช่น ไมเกรน): อาการไมเกรนมักกำเริบตอนเช้าและรุนแรงกว่าปวดหัวทั่วไป การนอนหลับไม่ดีหรือนอนมากเกินไปก็เป็นตัวกระตุ้นไมเกรนได้
- โรคนอนไม่หลับเรื้อรัง (Chronic Insomnia): หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตื่นมาแล้วปวดหัวตอนเช้า

สาเหตุอื่นๆ ที่ส่งเสริมให้ปวดหัวหลังตื่นนอน
- คาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์: การดื่มมากเกินไป หรือดื่มช่วงบ่ายแก่ๆ เย็น หรือก่อนนอน อาจกระตุ้นให้ปวดหัวได้
- การตั้งครรภ์: คุณแม่มักรู้สึกเหนื่อย งีบผิดเวลา เครียด หรือขาดน้ำ/น้ำตาล ทำให้ปวดหัวบ่อย
- การใช้ยาบางชนิด: ยาบางประเภทหากใช้เกินขนาด หรือใช้เป็นประจำโดยไม่จำเป็น อาจรบกวนการนอนและกระตุ้นให้ปวดหัว

ที่มา : https://shorturl.asia/Q5eMk

#กลุ่มไทยรุ่งเรือง #คลื่นดีสำหรับคนทำอ้อย

12/09/2025

4 แหล่งโปรตีนคุณภาพเพื่อผู้สูงอายุ ฟื้นฟูกระดูกและกล้ามเนื้อ

โปรตีน ถือเป็นสารอาหารหลักที่มีความสำคัญต่อผู้สูงอายุ เนื่องจากโปรตีนเป็นสารอาหารที่ช่วยให้เรื่องของการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยส่งผลให้กล้ามเนื้อกระชับเพิ่มความแข็งแรงให้กระดูก และช่วยให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นการที่ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารประเภทโปรตีนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีพลังมากขึ้นทำให้รู้สึก สดชื่นกระปรี้กระเปร่า และทำให้การทำงานของกลไกต่าง ๆ ของร่างกายทำงานอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากเอนไซม์ต่าง ๆ ในร่างกายล้วนประกอบด้วยโปรตีน

นอกจากนี้ โปรตีนยังช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ป้องกันภาวะกล้ามเนื้อลีบ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ผู้สูงอายุที่ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายมักจะอ้วนได้ง่ายกว่าผู้สูงอายุที่รับประทานโปรตีนอย่างเพียงพอ เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้สูงอายุคงที่ ทำให้ไม่รู้สึกหิวง่าย ช่วยให้ผู้สูงอายุควบคุมการกินและควบคุมน้ำหนักได้

แหล่งโปรตีนผู้สูงอายุ
- เนื้อปลา เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีมากเหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากเนื้อนุ่มและย่อยง่าย แต่ควรเลือกนำส่วนกระดูกและก้างออกทั้งหมดก่อนนำมารับประทาน
- ไข่ อีกหนึ่งอาหารที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากมีคุณค่าทางอาหารสูง ซึ่งในไข่หนึ่งใบประกอบไปด้วยไข่แดง ซึ่งมีธาตุเหล็กในปริมาณสูงสามารถรับประทานได้ 1 ฟองต่อวัน ในกรณีที่ผู้สูงอายุที่มีปัญหาไขมันในเลือดสูง ความดันสูง โรคเบาหวาน หรือผู้ที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด สามารถบริโภคไข่ไก่ได้ 3 ฟอง/สัปดาห์
- นม / น้ำเต้าหู้ เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง อีกทั้งยังมีแคลเซียมในปริมาณมาก ผู้สูงอายุควรดื่มวันละ 1 แก้ว แต่ในผู้สูงอายุที่มีไขมันในเลือดสูงหรือน้ำหนักตัวมาก แนะนำให้ดื่มเป็นนมพร่องมันเนยหรือนมถั่วเหลืองน้ำตาลน้อย
- ธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้ง เป็นอาหารที่มีสารอาหารโปรตีนสูงเช่นกัน อีกทั้งยังมี วิตามินต่าง ๆ ใยอาหาร รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย ผู้ดูแลสามารถเตรียมประเภทถั่ว แทนอาหารพวกเนื้อสัตว์ได้ในบางมื้อ เพื่อลดความจำเจของอาหาร การที่ผู้สูงอายุรับประทานอาหารชนิดเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ไม่หลากหลาย จะทำให้เบื่ออาหารได้ง่ายขึ้น และได้สารอาหารไม่ครบถ้วน

ที่มา : https://shorturl.asia/heOvD

#กลุ่มไทยรุ่งเรือง #คลื่นดีสำหรับคนทำอ้อย

12/09/2025

เพลินเพลง กับ TRR Group
พบกับ Dj. หนุ่มเศก
ทุกวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 10.00 - 12.00 น. และ 14:00 - 17:00 น.
สามารถรับชมได้ที่
สถานีวิทยุชุมชนคนทำอ้อย FM105.00MHz
Facebook TRR Group Radio วิทยุชุมชนคนทำอ้อย -
https://www.facebook.com/trrgroupradio

Youtube TRR Group Radio วิทยุชุมชนคนทำอ้อย -
https://www.youtube.com/channel/UCn HYPERLINK
ติดตามข้อมูลข่าวสารของสถานีวิทยุชุมชนคนทำอ้อยได้ที่
Facebook TRR Group Radio วิทยุชุมชนคนทำอ้อย -
https://www.facebook.com/trrgroupradio

Line - https://lin.ee/v
Youtube TRR Group Radio วิทยุชุมชนคนทำอ้อย -
https://www.youtube.com/channel/UCn
Instagram TRR Group Radio -
https://www.instagram.com/trrgroupradio/

Monday	08:00 - 19:00
Tuesday	08:00 - 19:00
Wednesday	08:00 - 19:00
Thursday	08:00 - 19:00
Friday	08:00 - 19:00
Saturday	08:00 - 19:00

TRR Group Radio วิทยุชุมชน คนทำอ้อย

25/10/2025

23/10/2025

21/10/2025

13/10/2025

08/10/2025

26/09/2025

24/09/2025

23/09/2025

19/09/2025

16/09/2025

12/09/2025

12/09/2025

Address

Opening Hours

Website

Alerts

Contact The Business

Shortcuts

Share